Falling Window คืออะไร วิธีใช้วิเคราะห์

36 Falling Window

Falling Window คืออะไร? Falling Window หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Downside Gap” เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้: เกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาลง (downtrend) ประกอบด้วยแท่งเทียนสองแท่งติดกัน ระหว่างสองแท่งเทียนมีช่องว่าง (gap) โดยราคาสูงสุดของแท่งที่สองต่ำกว่าราคาต่ำสุดของแท่งแรก Falling Window ถูกมองว่าเป็นสัญญาณของการดำเนินต่อของแนวโน้มขาลง (bearish continuation pattern) ซึ่งบ่งชี้ว่าแรงขายยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง วิธีใช้ Falling Window ในการวิเคราะห์ พิจารณาบริบท: Falling Window ต้องเกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาลงที่ชัดเจน และมีความสำคัญมากขึ้นเมื่อเกิดขึ้นหลังจากการพักตัวของราคาระยะสั้น ตรวจสอบขนาดของ gap: ยิ่ง gap มีขนาดใหญ่ ยิ่งแสดงถึงแรงขายที่รุนแรงมากขึ้น วิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย: ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นในแท่งที่สองอาจเป็นสัญญาณยืนยันที่แข็งแกร่งของการดำเนินต่อของแนวโน้มขาลง สังเกตแท่งเทียนที่ตามมา: แท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลัง Falling Window มีความสำคัญในการยืนยันแนวโน้มขาลง ใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น: เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) หรือดัชนีกำลังสัมพัทธ์ (RSI) เพื่อยืนยันสัญญาณ ข้อควรระวังในการใช้ Falling Window [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Downside Gap Three Methods คืออะไร รูปแบบกราฟแท่งแท่งเทียน

Downside Gap Three Methods 1

Downside Gap Three Methods คืออะไร Downside Gap Three Methods เป็นรูปแบบแท่งเทียน (candlestick pattern) ที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคของตลาดการเงิน รูปแบบนี้ปรากฏในแนวโน้มขาลง (downtrend) และถือเป็นสัญญาณที่ยืนยันว่าแนวโน้มลงนั้นจะยังคงดำเนินต่อไป (Chen, 2023) แม้ว่าจะเป็นรูปแบบที่พบได้ไม่บ่อยนัก แต่ก็มีความสำคัญสำหรับนักลงทุนและนักวิเคราะห์ทางเทคนิค ลักษณะของ Downside Gap Three Methods รูปแบบ Downside Gap Three Methods ประกอบด้วยแท่งเทียนสามแท่ง ดังนี้: แท่งเทียนแรก: เป็นแท่งเทียนสีดำ (หรือแดง) ยาว ปรากฏในขณะที่ตลาดอยู่ในแนวโน้มขาลง แท่งเทียนที่สอง: เป็นแท่งเทียนสีดำ (หรือแดง) อีกแท่ง ที่มีช่องว่าง (gap) ห่างลงมาจากแท่งเทียนแรก แท่งเทียนที่สาม: เป็นแท่งเทียนสีขาว (หรือเขียว) ที่เปิดภายในร่างกายของแท่งเทียนที่สอง และปิดภายในร่างกายของแท่งเทียนแรก ทำให้ “เติม” ช่องว่างระหว่างสองแท่งแรก (Bulkowski, 2021) ความสำคัญของ [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]