เส้น Moving Average (MA) คืออะไร “Moving Average (MA)” หรือ “ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่” คือ เครื่องมือในการวิเคราะห์เชิงเทคนิคที่นิยมในตลาดการเงิน โดยเฉพาะในตลาดหุ้นและตลาดฟอเร็กซ์ เพื่อช่วยแสดงแนวโน้มของราคาในช่วงเวลาที่ผ่านมา ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ถูกคำนวณโดยการนำราคาปิด (หรือราคาอื่น ๆ ที่เลือก) ของหลายวันในช่วงเวลาที่ผ่านมามาหารด้วยจำนวนวันที่เลือก ประเภทของ Moving Average ได้แก่ Simple Moving Average (SMA): คำนวณจากการหาค่าเฉลี่ยอย่างง่ายของราคาในช่วงเวลาที่กำหนด Exponential Moving Average (EMA): คำนวณโดยให้น้ำหนักแก่ราคาล่าสุดมากกว่าราคาในวันก่อนหน้า ทำให้ EMA สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงราคาได้เร็วกว่า SMA Weighted Moving Average (WMA): คำนวณโดยให้น้ำหนักต่าง ๆ กับราคาตามวันที่เกิดเหตุ MA มีประโยชน์หลายประการ โดยเฉพาะในการช่วยนักลงทุนระบุแนวโน้มของตลาด ถ้าราคาปัจจุบันของสินค้าอยู่เหนือ MA แสดงว่าสินค้านั้นมีแนวโน้มขาขึ้น แต่ถ้าอยู่ใต้ MA แสดงว่ามีแนวโน้มขาลง MA ยังสามารถใช้เป็นสัญญาณซื้อขาย [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
Moving Average คืออะไร? Moving Average คือ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ หรือ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ การคำนวณราคาเฉลี่ยของสินทรัพย์ในช่วงเวลาที่กำหนด เป็นเครื่องมือเทคนิคที่ใช้วิเคราะห์แนวโน้ม หรือทิศทางของตลาด เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดตลาดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุดในทุกอุตสาหกรรม โดยส่วนใหญ่แล้ว นักวิเคราะห์ใช้ Moving Average เพื่อตรวจสอบระดับแนวรับและแนวต้านโดยการประเมินการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ในช่วงเวลาหนึ่ง เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เป็นตัวบ่งชี้ราคาที่สะท้อนถึงการเคลื่อนไหวของราคาก่อนหน้าของหลักทรัพย์ ต่อมานักวิเคราะห์หรือนักลงทุนจะใช้ข้อมูลนี้คาดการณ์ทิศทางในอนาคตของราคาสินทรัพย์ การใช้ MA จะช่วยให้เราเห็นแนวโน้มของราคาหรือข้อมูลที่เรากำลังวิเคราะห์ โดยที่ไม่ต้องพยายามดูข้อมูลแต่ละวัน แต่อย่างไรก็ตาม การใช้ MA ต้องคำนึงถึงการเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการวิเคราะห์ และการตัดสินใจการลงทุนด้วยด้วย โดยมีขนาดของช่วงเวลานั้น ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์ และลักษณะของข้อมูลที่ใช้วิเคราะห์ เพื่อให้เข้าใจง่าย โดยปกติแล้ว เราอาจจะใช้ MA ในการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งราคาของ Forex หรือแม้แต่ราคาของหุ้น เช่น ตัวอย่าง หากเราต้องการวิเคราะห์ราคาหุ้นในช่วง 10 วันที่ผ่านมา โดย MA 10-day จะหมายถึง ค่าเฉลี่ยของราคาหุ้นในช่วง 10 วันที่ผ่านมา โดยคำนวณจากราคาหุ้นในแต่ละวัน และหาค่าเฉลี่ย นับจำนวนวันตามจำนวนวันที่เรากำหนด (ในที่นี้คือ [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]