ผู้เล่นหลักในตลาด Forex ตลาด Forex หรือตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันสูงถึง 6.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2022 [1] ตลาดนี้ประกอบด้วยผู้เล่นหลักหลายกลุ่ม แต่ละกลุ่มมีบทบาทและอิทธิพลต่อตลาดที่แตกต่างกัน ในบทความนี้ เราจะพูดถึงผู้เล่นหลักในตลาด Forex ซึ่งประกอบด้วย ธนาคารกลาง ธนาคารพาณิชย์ Hedge Funds และกองทุนต่างๆ รวมถึงนักลงทุนรายย่อย ธนาคารกลาง (Central Banks) ธนาคารกลางเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีอิทธิพลมากที่สุดในตลาด Forex บทบาทหลักของธนาคารกลางคือการกำหนดและดำเนินนโยบายการเงินของประเทศ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่ออัตราแลกเปลี่ยน บทบาทและอิทธิพลของธนาคารกลาง การกำหนดอัตราดอกเบี้ย: ธนาคารกลางมีอำนาจในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งส่งผลต่อค่าเงินของประเทศนั้นๆ โดยตรง เมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น มักจะดึงดูดเงินทุนจากต่างประเทศ ทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น [2] การแทรกแซงตลาด: ธนาคารกลางสามารถซื้อหรือขายสกุลเงินของตนเองในปริมาณมากเพื่อควบคุมค่าเงิน เรียกว่าการแทรกแซงตลาด (Market Intervention) การประกาศนโยบายและมุมมองทางเศรษฐกิจ: แถลงการณ์และการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจของธนาคารกลางมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและทิศทางของค่าเงิน การบริหารเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ: ธนาคารกลางมีหน้าที่บริหารเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ซึ่งการซื้อขายสกุลเงินต่างๆ เพื่อปรับสมดุลของเงินทุนสำรองก็ส่งผลต่อตลาด Forex ตัวอย่างธนาคารกลางที่มีอิทธิพลในตลาด Forex Federal Reserve [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
Forex หรือ Foreign Exchange Market เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีปริมาณการซื้อขายมากกว่า 6.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน[1] ตลาดนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักลงทุนและนักเก็งกำไรทั่วโลก ด้วยเหตุผลหลายประการ ลองมาดูเหตุผลสำคัญกันอย่างละเอียด: โอกาสในการทำกำไร Forex เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้หลายวิธี: การเก็งกำไรจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน นักเทรดสามารถซื้อสกุลเงินที่คาดว่าจะแข็งค่าขึ้น และขายสกุลเงินที่คาดว่าจะอ่อนค่าลง[2] ตัวอย่างเช่น: หากนักเทรดคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะแข็งแกร่งขึ้น พวกเขาอาจซื้อดอลลาร์สหรัฐเทียบกับยูโร (Long EUR/USD) ในทางกลับกัน หากมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปจะลดอัตราดอกเบี้ย นักเทรดอาจขายยูโรเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (Short EUR/USD) การเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนแม้เพียงเล็กน้อยก็สามารถสร้างกำไรได้มาก โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับ Leverage การใช้ประโยชน์จากความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ย นักลงทุนสามารถทำกำไรจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสองสกุลเงิน ผ่านกลยุทธ์ที่เรียกว่า Carry Trade[4] วิธีนี้ทำได้โดย: กู้ยืมเงินในสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ นำเงินที่กู้ยืมมาไปลงทุนในสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า ทำกำไรจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย ตัวอย่างเช่น ในอดีตนักลงทุนมักกู้ยืมเงินเยนญี่ปุ่น (อัตราดอกเบี้ยต่ำ) เพื่อนำไปลงทุนในดอลลาร์ออสเตรเลีย (อัตราดอกเบี้ยสูงกว่า) การใช้ Leverage Forex อนุญาตให้ใช้ Leverage สูง ซึ่งหมายความว่านักเทรดสามารถควบคุมเงินทุนจำนวนมากด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียงเล็กน้อย ทำให้มีโอกาสทำกำไรได้มากขึ้น[3] ตัวอย่างเช่น: [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
เทรด forex ผิดกฎหมายไหม การที่บุคคลทั่วไปในประเทศไทยเทรด Forex กับโบรกเกอร์ต่างประเทศไม่ได้ผิดกฎหมาย ตามกฎหมายประเทศไทย แต่ในเมืองไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับ และเทรดเดอร์หรือนักลงทุนที่เข้า ตลาด forex ต้องรับความเสี่ยงทั้งหมดด้วยตัวเอง โดยไม่มีกฎหมายประเทศไทยดูแล ทั้งเสี่ยงที่เกิดจากการขาดทุน และความเสี่ยงที่เกิดจากการฉ้อโกงบางโบรกเกอร์ต่างประเทศ หายังยืนยันที่จะเทรดควรต้องเลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือเท่านั้น มีใบอนุญาตที่สามารถตรวจสอบได้เท่านั้น ซึ่งควรตรวจสอบกฎหมายท้องถิ่น และเป็นคนรับผิดชอบในการปฏิบัติตามกฎระเบียบของประเทศที่อาศัยอยู่ร่วมด้วย ในการเทรด Forex กับโบรกเกอร์ต่างประเทศสามารถทำได้โดยการเปิดบัญชีเทรดกับโบรกเกอร์ที่มีการรับลูกค้าจากประเทศไทย และมีสิทธิ์ในการทำธุรกรรมทางการเงินในแต่ละประเทศนั้น การเทรด Forex กับโบรกเกอร์ต่างประเทศ อยู่นอกเหนือความคุ้มครองจากหน่วยงานรัฐในประเทศไทย อาจมีความเสี่ยงสูงขึ้น เพราะกรณีที่ลงทุนเทรดกับโบรกเกอร์ต่างประเทศ แล้วเกิดความเสียหายในทุกรณี ทั้งโดนฉ้อโกง ปิดโบรกเกอร์หนีไป หอบเงินหายไป ดังในข่าว ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาหรือความเสียหายจากการเทรด การยื่นข้อเรียกร้องหรือดำเนินกระบวนการทางกฎหมายอาจเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและเป็นที่ยากลำบาก และไม่สามารถทำได้ในประเทศไทย นักลงทุนจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายนั้นเอง หากจะฟ้องร้องบริษัทเหล่านั้น ก็อาจต้องไปเดินเรื่องเองกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในต่างประเทศที่โบรกเกอร์นั้นๆ ตั้งอยู่ ข้อมูลกฎหมายเกี่ยวกับการลงทุน forex อ้างอิง fpo.go.th สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ข้อมูลจากเว็บไซต์สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง, fpo.go.th “กรณีที่ปัจจุบันมีเว็บไซต์จากต่างประเทศชักชวนให้ประชาชนลงทุนในการซื้อ-ขายเงินตราต่างประเทศ ในลักษณะเก็งกำไรค่าเงินนั้น จากการศึกษาของ สศค. และธนาคารแห่งประเทศไทยเข้าใจว่า การลงทุนเพื่อ [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]