แท่งเทียน hammer เขียว และ แดง คืออะไร หมายความว่าอย่างไร

แท่งเทียน Hammer

แท่งเทียน hammer คืออะไร แท่งเทียน hammer เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะคล้ายค้อน หนึ่งในรูปแบบแท่งเทียนที่นักเทรดใช้บ่อยในการวิเคราะห์ทางเทคนิค เพื่อคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของทิศทางราคาในตลาดการเงิน ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น ฟอเร็กซ์ หรือคริปโตเคอร์เรนซี แท่งเทียน hammer มีลักษณะเฉพาะที่สำคัญและมีความหมายที่แตกต่างกันระหว่างแท่งสีเขียวและแดง ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับแท่งเทียน hammer อย่างละเอียด โดยมีส่วนประกอบหลัก 3 ส่วน: ตัวเทียน (Real body): เป็นส่วนที่แสดงช่วงราคาระหว่างราคาเปิดและราคาปิด มีขนาดสั้น เงา (Shadow) ด้านบน: มีขนาดสั้นมากหรือไม่มีเลย เงาด้านล่าง: มีขนาดยาวอย่างน้อย 2-3 เท่าของตัวเทียน ลักษณะสำคัญของ hammer คือเงาด้านล่างที่ยาว ซึ่งแสดงถึงการที่ราคาลงไปต่ำมากในช่วงการซื้อขาย แต่ในที่สุดก็ปิดใกล้กับจุดสูงสุดของวัน นี่เป็นสัญญาณว่าผู้ซื้อได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาด ความแตกต่างระหว่าง hammer เขียวและแดง แท่งเทียน hammer สามารถเป็นได้ทั้งสีเขียวและแดง โดยมีความหมายที่แตกต่างกันเล็กน้อย: Hammer เขียว (Bullish Hammer) ตัวเทียนสีเขียว ราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด แสดงถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่งมากกว่า hammer แดง [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

bearish engulfing คือ อะไร มีวิธีการใช้งานอย่างไร

1.Bearish Engulfing คืออะไร

Bearish Engulfing คืออะไร Bearish Engulfing คือ รูปแบบแท่งเทียนที่ประกอบด้วยแท่งเทียนสองแท่งติดต่อกัน หนึ่งในรูปแบบแท่งเทียนที่สำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการระบุจุดกลับตัวของตลาดจากขาขึ้นเป็นขาลง รูปแบบนี้ให้สัญญาณที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มราคา ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกเกี่ยวกับ Bearish Engulfing ความหมาย วิธีการระบุ และวิธีการนำไปใช้ในกลยุทธ์การเทรด โดยมีลักษณะสำคัญดังนี้: แท่งแรกเป็นแท่งเทียนขาขึ้น (สีเขียวหรือขาว) มีขนาดค่อนข้างเล็ก แท่งที่สองเป็นแท่งเทียนขาลง (สีแดงหรือดำ) มีขนาดใหญ่กว่าแท่งแรก แท่งที่สองเปิดสูงกว่าจุดปิดของแท่งแรก และปิดต่ำกว่าจุดเปิดของแท่งแรก ทำให้ “ครอบคลุม” หรือ “กลืน” แท่งแรกทั้งหมด รูปแบบนี้มักเกิดขึ้นที่จุดสูงสุดของแนวโน้มขาขึ้น และบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงของแรงซื้อเป็นแรงขายอย่างฉับพลัน ความสำคัญของ Bearish Engulfing Bearish Engulfing มีความสำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเนื่องจาก: สัญญาณการกลับตัว: บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงจากแนวโน้มขาขึ้นเป็นขาลง แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของแรงในตลาด: สะท้อนให้เห็นว่าผู้ขายได้เข้ามามีอำนาจเหนือผู้ซื้อ ความชัดเจนของสัญญาณ: รูปแบบที่เห็นได้ชัดเจนบนกราฟ ทำให้ง่ายต่อการระบุ ประสิทธิภาพในการคาดการณ์: มีความแม่นยำสูงในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นหลังจากการเคลื่อนไหวขาขึ้นที่ยาวนาน วิธีระบุ Bearish Engulfing การระบุ Bearish Engulfing [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Bullish Engulfing คือ คืออะไร มีวิธีใช้อย่างไร

1.Bullish Engulfing คืออะไร

Bullish Engulfing คืออะไร Bullish Engulfing คือ รูปแบบแท่งเทียนที่ประกอบด้วยแท่งเทียนสองแท่งติดต่อกัน หนึ่งในรูปแบบแท่งเทียนที่สำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการระบุจุดกลับตัวของตลาดจากขาลงเป็นขาขึ้น รูปแบบนี้ให้สัญญาณที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มราคา ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกเกี่ยวกับ Bullish Engulfing ความหมาย วิธีการระบุ และวิธีการนำไปใช้ในกลยุทธ์การเทรด โดยมีลักษณะสำคัญดังนี้: แท่งแรกเป็นแท่งเทียนขาลง (สีแดงหรือดำ) มีขนาดค่อนข้างเล็ก แท่งที่สองเป็นแท่งเทียนขาขึ้น (สีเขียวหรือขาว) มีขนาดใหญ่กว่าแท่งแรก แท่งที่สองเปิดต่ำกว่าจุดปิดของแท่งแรก และปิดสูงกว่าจุดเปิดของแท่งแรก ทำให้ “ครอบคลุม” หรือ “กลืน” แท่งแรกทั้งหมด รูปแบบนี้มักเกิดขึ้นที่จุดต่ำสุดของแนวโน้มขาลง และบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงของแรงขายเป็นแรงซื้ออย่างฉับพลัน ความสำคัญของ Bullish Engulfing Bullish Engulfing มีความสำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเนื่องจาก: สัญญาณการกลับตัว: บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงจากแนวโน้มขาลงเป็นขาขึ้น แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของแรงในตลาด: สะท้อนให้เห็นว่าผู้ซื้อได้เข้ามามีอำนาจเหนือผู้ขาย ความชัดเจนของสัญญาณ: รูปแบบที่เห็นได้ชัดเจนบนกราฟ ทำให้ง่ายต่อการระบุ ประสิทธิภาพในการคาดการณ์: มีความแม่นยำสูงในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นหลังจากการเคลื่อนไหวขาลงที่ยาวนาน วิธีระบุ Bullish Engulfing การระบุ Bullish Engulfing [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

จิตวิทยาแท่งเทียน คืออะไร บอกอะไรเราได้บ้างวิธีวิเคราะห์

จิตวิทยาแท่งเทียน

จิตวิทยาแท่งเทียน คืออะไร จิตวิทยาแท่งเทียน คือ การตีความและวิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียนบนกราฟราคา เพื่อทำความเข้าใจสภาวะทางอารมณ์และจิตวิทยาของผู้เล่นในตลาด แท่งเทียนแต่ละแท่งไม่เพียงแต่แสดงข้อมูลราคาเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในช่วงเวลานั้นๆ ด้วย จิตวิทยาแท่งเทียนเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ตลาดการเงิน โดยช่วยให้นักลงทุนและเทรดเดอร์เข้าใจพฤติกรรมของตลาดและอารมณ์ของผู้เล่นในตลาดได้ดียิ่งขึ้น บทความนี้จะอธิบายถึงความหมายของจิตวิทยาแท่งเทียน สิ่งที่มันสามารถบอกเราได้ และวิธีการวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพ แท่งเทียนประกอบด้วยส่วนสำคัญ 4 ส่วน: ราคาเปิด (Open) ราคาปิด (Close) ราคาสูงสุด (High) ราคาต่ำสุด (Low) ความสัมพันธ์ระหว่างส่วนประกอบเหล่านี้สามารถบอกเราได้ว่าใครมีอำนาจควบคุมตลาดในขณะนั้น – ผู้ซื้อหรือผู้ขาย 2. จิตวิทยาแท่งเทียนบอกอะไรเราได้บ้าง จิตวิทยาแท่งเทียนสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าเกี่ยวกับสภาวะตลาดและพฤติกรรมของนักลงทุน ต่อไปนี้คือสิ่งที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากการวิเคราะห์แท่งเทียน: 2.1 แนวโน้มของตลาด รูปแบบของแท่งเทียนสามารถบ่งชี้แนวโน้มของตลาดได้ เช่น: แท่งเทียนสีเขียว (หรือขาว) ที่มีขนาดใหญ่และไส้เทียนสั้น แสดงถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่งและแนวโน้มขาขึ้น แท่งเทียนสีแดง (หรือดำ) ที่มีขนาดใหญ่และไส้เทียนสั้น บ่งชี้ถึงแรงขายที่รุนแรงและแนวโน้มขาลง 2.2 จุดกลับตัวของตลาด รูปแบบแท่งเทียนบางอย่างสามารถบ่งชี้ถึงการกลับตัวของตลาดได้ เช่น: รูปแบบ “Hammer” ในแนวโน้มขาลง อาจบ่งชี้ถึงการกลับตัวขึ้น รูปแบบ “Shooting Star” [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

ประเภทของกราฟ Forex มีอะไรบ้าง วิธีการอ่านกราฟราคา

การอ่านกราฟราคา คืออะไร

ประเภทของกราฟ Forex กราฟเป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ตลาด Forex ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของราคาและแนวโน้มของตลาดได้อย่างชัดเจน ในบทความนี้ เราจะอธิบายรายละเอียดของกราฟ Forex ที่นิยมใช้กัน 3 ประเภทหลัก ได้แก่ กราฟเส้น กราฟแท่ง และกราฟแท่งเทียน 1. กราฟเส้น (Line Chart) กราฟเส้นเป็นประเภทของกราฟที่ง่ายที่สุดในการอ่านและทำความเข้าใจ โดยแสดงการเคลื่อนไหวของราคาด้วยเส้นเพียงเส้นเดียว ลักษณะของกราฟเส้น กราฟเส้นแสดงราคาปิด (closing price) ของแต่ละช่วงเวลาเท่านั้น จุดแต่ละจุดบนกราฟแทนราคาปิดของช่วงเวลานั้นๆ จุดเหล่านี้ถูกเชื่อมต่อกันด้วยเส้นตรง สร้างเป็นเส้นกราฟต่อเนื่อง วิธีการอ่านกราฟเส้น แกนแนวนอน (แกน X) แสดงเวลา เรียงจากซ้ายไปขวา แกนแนวตั้ง (แกน Y) แสดงราคา โดยราคาสูงขึ้นจากล่างขึ้นบน เส้นที่ลากขึ้นแสดงถึงราคาที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่เส้นที่ลากลงแสดงถึงราคาที่ลดลง ความชันของเส้นบ่งบอกถึงความเร็วในการเปลี่ยนแปลงของราคา เส้นที่ชันมากแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงราคาอย่างรวดเร็ว การวิเคราะห์แนวโน้มด้วยกราฟเส้น แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend): เส้นกราฟมีลักษณะเป็นขั้นบันไดขึ้น โดยมีจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่สูงขึ้นเรื่อยๆ แนวโน้มขาลง (Downtrend): เส้นกราฟมีลักษณะเป็นขั้นบันไดลง โดยมีจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่ต่ำลงเรื่อยๆ แนวโน้มแนวราบ (Sideways): [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

กราฟแท่งเทียน (Candlestick) คืออะไร ทำความรู้จักกับกราฟแท่งเทียน

1.กราฟท่งเทียนคือ

กราฟแท่งเทียน คือ กราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) คือ ชนิดหนึ่งของกราฟที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคภายในตลาดการเงินและตลาดหุ้น เพื่อแสดงราคาเปิด, ราคาปิด, ราคาสูงสุด, และราคาต่ำสุดของระยะเวลาที่กำหนด ส่วนประกอบหลักๆของแท่งเทียนมี 2 ส่วน ส่วนที่ 1 ตัวแท่ง (Body) ตัวแท่ง (Body): ซึ่งแสดงราคาเปิดและปิด ถ้าราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด แท่งเทียนจะเป็นสีเขียว (หรือสีอื่นๆที่ถูกกำหนดไว้) และถ้าราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด แท่งเทียนจะเป็นสีแดง ตัวแท่ง (Body) ของกราฟแท่งเทียนเป็นส่วนหลักที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงราคาในช่วงเวลาที่ต้องการวิเคราะห์มันสามารถเข้าใจได้ง่ายและให้ข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับกระแสตลาดในช่วงเวลานั้น ๆ ได้ แท่งเทียนขาว หรือ เขียว: หากตัวแท่ง (Body) เป็นสีขาวหรือเขียว มันแสดงว่า ราคาปิดสูงกว่าราคาเปิดในช่วงเวลานั้น ตัวแท่งเริ่มที่ราคาเปิดและสิ้นสุดที่ราคาปิด หมายความว่าในช่วงเวลานั้น ๆ ราคาได้เพิ่มขึ้น แท่งเทียนดำ หรือ แดง: หากตัวแท่ง (Body) เป็นสีดำหรือแดง มันแสดงว่า ราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิดในช่วงเวลานั้น. ตัวแท่งเริ่มที่ราคาเปิดและสิ้นสุดที่ราคาปิด แสดงว่าในช่วงเวลานั้น ๆ ราคาได้ลดลง [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Big Black Candle คืออะไร วิธีใช้วิเคราะห์

7 Big Black Candle

ในโลกของการวิเคราะห์ทางเทคนิคในตลาดการเงิน “Big Black Candle” หรือ “แท่งเทียนดำขนาดใหญ่” เป็นหนึ่งในรูปแบบแท่งเทียนที่นักลงทุนและนักเทรดให้ความสำคัญ เนื่องจากมันสามารถบ่งบอกถึงแนวโน้มของตลาดได้อย่างมีนัยสำคัญ Big Black Candle คืออะไร? Big Black Candle เป็นแท่งเทียนที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้: มีขนาดตัวเทียนที่ยาวผิดปกติ มีช่วงราคาระหว่างจุดสูงสุดและต่ำสุดกว้าง ราคาเปิดอยู่ใกล้จุดสูงสุดของวัน ราคาปิดอยู่ใกล้จุดต่ำสุดของวัน แท่งเทียนนี้มักถูกมองว่าเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงแนวโน้มขาลง (bearish pattern) ในตลาด วิธีใช้ Big Black Candle ในการวิเคราะห์ สังเกตบริบท: Big Black Candle มีความสำคัญมากขึ้นเมื่อเกิดขึ้นหลังจากช่วงขาขึ้น หรือเมื่อราคาอยู่ใกล้แนวต้านสำคัญ ดูปริมาณการซื้อขาย: หากเกิด Big Black Candle พร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่สูงผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มที่รุนแรง พิจารณาแท่งเทียนที่ตามมา: หากแท่งเทียนถัดไปยืนยันทิศทางขาลง (เช่น เป็นแท่งดำอีกแท่ง) อาจเป็นการยืนยันแนวโน้มขาลงที่กำลังจะเกิดขึ้น ใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น: เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) หรือดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) เพื่อยืนยันสัญญาณ [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

แท่งเทียนกลับตัว รูปแบบกลับตัวของกราฟ มีอะไรบ้าง

1 Engulfing candlestick

แท่งเทียนกลับตัว เป็นรูปแบบการกลับตัวของกราฟแท่งเทียน ที่ได้รับความนิยมในตลาด Forex ตลาดหุ้น และการวิเคราะห์ตลาดเกิดใหม่อย่างตลาด crypto นั่นก็เพราะว่า ไม่ว่าตลาดใด ๆ ก็มีกราฟแท่งเทียนใช้ สาเหตุที่กราฟแท่งเทียนใช้ได้ผลก็เพราะว่า กราฟแท่งเทียนนั้นเป็นกราฟที่สร้างมาจากราคา ไม่ได้มีความซับซ้อนเหมือนกับ indicator อีกทีหนึ่ง การตีความกราฟแท่งเทียน จึงตรงไปตรงมากกว่าการใช้งาน indicator ที่สร้างมาจากราคา ทำให้การเคลื่อนไหวของ indicator ช้ากว่าราคาเสมอ อย่างไรก็ตาม การตีความกราฟแท่งเทียน ต้องอาศัยความชำนาญในการวิเคราะห์ แม้ว่าจะรู้ว่ามีรูปแบบอย่างไรก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำกำไรออกจากตลาดไปได้ง่าย ๆ ในบทความนี้จึงเป็นการรวบรวมรูปแบบแท่งเทียนกลับตัว ที่สำคัญในตลาดเพื่อให้ความรู้และฝึกความชำนาญ โดยรวบรวมจากเว็บไซต์ในต่างประเทศที่ใช้การวิเคราะห์แท่งเทียนกลับตัว แท่งเทียนกลับตัว คืออะไร แท่งเทียนกลับตัว กล่าวถึง รูปแบบของกราฟแท่งเทียน ที่บ่งบอกสัญญาณว่า ทิศทางของราคาจะมีการเปลี่ยนทิศทาง จากการเคลื่อนไหวก่อนหน้า เช่น การเคลื่อนไหวก่อนหน้าเป็นเทรนขาขึ้น เมื่อเกิดกราฟแท่งเทียนกลับตัว ทำให้กราฟเปลี่ยนเป็นขาลง โดยรูปแบบของกราฟแท่งเทียน เพียงไม่กี่แท่งจะเป็นตัวกำหนด ทั้งนี้เพราะว่า ลักษณะของกราฟนั้นได้สะท้อนอารมณ์ของคนในตลาดขึ้นเรียบร้อย รูปแบบของกราฟแท่งเทียนกลับตัว กราฟแท่งเทียนกลับตัวมีทั้งหมด 12 รูปแบบดังต่อไปนี้ Engulfing candlestick Pin bar [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Three White Soldiers คืออะไร วิธีใช้วิเคราะห์

41 Three white soldiers

Three White Soldiers คืออะไร? Three White Soldiers เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้: ประกอบด้วยแท่งเทียนสามแท่งติดต่อกัน ทั้งสามแท่งเป็นแท่งเทียนสีขาว (bullish) ขนาดใหญ่ แต่ละแท่งเปิดภายในตัวแท่งของแท่งก่อนหน้า และปิดสูงกว่าจุดสูงสุดของแท่งก่อนหน้า ราคาปิดของแต่ละแท่งอยู่ใกล้กับจุดสูงสุดของแท่งนั้น Three White Soldiers มักเกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาลงหรือในช่วงที่ตลาดอยู่ในจุดต่ำสุด และถูกมองว่าเป็นสัญญาณของการกลับตัวของแนวโน้มขาลงเป็นขาขึ้น (bullish reversal pattern) ที่มีความน่าเชื่อถือสูง วิธีใช้ Three White Soldiers ในการวิเคราะห์ พิจารณาบริบท: Three White Soldiers มีความสำคัญมากขึ้นเมื่อเกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาลงที่ยาวนานหรือที่จุดต่ำสุดของตลาด ตรวจสอบลักษณะของแท่งเทียน: ทั้งสามแท่งควรเป็นแท่งสีขาวขนาดใหญ่ แต่ละแท่งควรเปิดภายในตัวแท่งของแท่งก่อนหน้าและปิดสูงกว่า ราคาปิดควรอยู่ใกล้กับจุดสูงสุดของแต่ละแท่ง วิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย: ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นในแต่ละแท่งอาจเป็นสัญญาณยืนยันที่แข็งแกร่ง สังเกตแท่งเทียนที่ตามมา: แท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลัง Three White Soldiers มีความสำคัญในการยืนยันการกลับตัว ใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น: เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) หรือดัชนีกำลังสัมพัทธ์ (RSI) เพื่อยืนยันสัญญาณ ข้อควรระวังในการใช้ [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Morning Doji Star คืออะไร วิธีใช้วิเคราะห์

37 Morning Doji Star

Morning Doji Star คืออะไร? Morning Doji Star เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้: เกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาลง (downtrend) ประกอบด้วยแท่งเทียนสามแท่ง แท่งแรกเป็นแท่งเทียนสีดำ (bearish) ขนาดใหญ่ แท่งที่สองเป็น Doji (แท่งเทียนที่ราคาเปิดและปิดใกล้เคียงกันมาก) ที่มี gap ลงจากแท่งแรก แท่งที่สามเป็นแท่งเทียนสีขาว (bullish) ที่ปิดสูงเข้าไปในตัวแท่งเทียนของแท่งแรก Morning Doji Star ถูกมองว่าเป็นสัญญาณของการกลับตัวของแนวโน้มขาลงเป็นขาขึ้น (bullish reversal pattern) ที่มีความน่าเชื่อถือสูง โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นที่จุดต่ำสุดของแนวโน้มขาลง วิธีใช้ Morning Doji Star ในการวิเคราะห์ พิจารณาบริบท: Morning Doji Star ต้องเกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาลงที่ชัดเจน และมีความสำคัญมากขึ้นเมื่อเกิดขึ้นใกล้กับระดับแนวรับหรือจุดต่ำสุดของแนวโน้ม ตรวจสอบลักษณะของแท่งเทียน: แท่งแรกต้องเป็นแท่งสีดำขนาดใหญ่ แท่งที่สองต้องเป็น Doji ที่มี gap ลงจากแท่งแรก แท่งที่สามต้องเป็นแท่งสีขาวที่ปิดสูงเข้าไปในตัวแท่งเทียนของแท่งแรก วิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย: ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นในแท่งที่สามอาจเป็นสัญญาณยืนยันที่แข็งแกร่ง สังเกตแท่งเทียนที่ตามมา: แท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลัง [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]