ประเภทของกราฟ Forex มีอะไรบ้าง วิธีการอ่านกราฟราคา

การอ่านกราฟราคา คืออะไร

ประเภทของกราฟ Forex กราฟเป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ตลาด Forex ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของราคาและแนวโน้มของตลาดได้อย่างชัดเจน ในบทความนี้ เราจะอธิบายรายละเอียดของกราฟ Forex ที่นิยมใช้กัน 3 ประเภทหลัก ได้แก่ กราฟเส้น กราฟแท่ง และกราฟแท่งเทียน 1. กราฟเส้น (Line Chart) กราฟเส้นเป็นประเภทของกราฟที่ง่ายที่สุดในการอ่านและทำความเข้าใจ โดยแสดงการเคลื่อนไหวของราคาด้วยเส้นเพียงเส้นเดียว ลักษณะของกราฟเส้น กราฟเส้นแสดงราคาปิด (closing price) ของแต่ละช่วงเวลาเท่านั้น จุดแต่ละจุดบนกราฟแทนราคาปิดของช่วงเวลานั้นๆ จุดเหล่านี้ถูกเชื่อมต่อกันด้วยเส้นตรง สร้างเป็นเส้นกราฟต่อเนื่อง วิธีการอ่านกราฟเส้น แกนแนวนอน (แกน X) แสดงเวลา เรียงจากซ้ายไปขวา แกนแนวตั้ง (แกน Y) แสดงราคา โดยราคาสูงขึ้นจากล่างขึ้นบน เส้นที่ลากขึ้นแสดงถึงราคาที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่เส้นที่ลากลงแสดงถึงราคาที่ลดลง ความชันของเส้นบ่งบอกถึงความเร็วในการเปลี่ยนแปลงของราคา เส้นที่ชันมากแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงราคาอย่างรวดเร็ว การวิเคราะห์แนวโน้มด้วยกราฟเส้น แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend): เส้นกราฟมีลักษณะเป็นขั้นบันไดขึ้น โดยมีจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่สูงขึ้นเรื่อยๆ แนวโน้มขาลง (Downtrend): เส้นกราฟมีลักษณะเป็นขั้นบันไดลง โดยมีจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่ต่ำลงเรื่อยๆ แนวโน้มแนวราบ (Sideways): [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

กราฟแท่งเทียน (Candlestick) คืออะไร ทำความรู้จักกับกราฟแท่งเทียน

1.กราฟท่งเทียนคือ

กราฟแท่งเทียน คือ กราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) คือ ชนิดหนึ่งของกราฟที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคภายในตลาดการเงินและตลาดหุ้น เพื่อแสดงราคาเปิด, ราคาปิด, ราคาสูงสุด, และราคาต่ำสุดของระยะเวลาที่กำหนด ส่วนประกอบหลักๆของแท่งเทียนมี 2 ส่วน ส่วนที่ 1 ตัวแท่ง (Body) ตัวแท่ง (Body): ซึ่งแสดงราคาเปิดและปิด ถ้าราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด แท่งเทียนจะเป็นสีเขียว (หรือสีอื่นๆที่ถูกกำหนดไว้) และถ้าราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด แท่งเทียนจะเป็นสีแดง ตัวแท่ง (Body) ของกราฟแท่งเทียนเป็นส่วนหลักที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงราคาในช่วงเวลาที่ต้องการวิเคราะห์มันสามารถเข้าใจได้ง่ายและให้ข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับกระแสตลาดในช่วงเวลานั้น ๆ ได้ แท่งเทียนขาว หรือ เขียว: หากตัวแท่ง (Body) เป็นสีขาวหรือเขียว มันแสดงว่า ราคาปิดสูงกว่าราคาเปิดในช่วงเวลานั้น ตัวแท่งเริ่มที่ราคาเปิดและสิ้นสุดที่ราคาปิด หมายความว่าในช่วงเวลานั้น ๆ ราคาได้เพิ่มขึ้น แท่งเทียนดำ หรือ แดง: หากตัวแท่ง (Body) เป็นสีดำหรือแดง มันแสดงว่า ราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิดในช่วงเวลานั้น. ตัวแท่งเริ่มที่ราคาเปิดและสิ้นสุดที่ราคาปิด แสดงว่าในช่วงเวลานั้น ๆ ราคาได้ลดลง [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

กราฟแท่งเทียน 80 รูปแบบ คืออะไร คำอธิบายอย่างละเอียด

กราฟแท่งเทียน 80 รูปแบบ

กราฟแท่งเทียน คืออะไร กราฟแท่งเทียน (Candlestick chart) เป็นวิธีหนึ่งในการแสดงข้อมูลการซื้อขายหุ้น หรือสินทรัพย์ทางการเงินอื่น ๆ ที่มีการเคลื่อนไหวในช่วงเวลาที่กำหนด กราฟแท่งเทียนใช้รูปแบบของแท่งเทียนที่มีลักษณะเป็นตารางเรียงกันในแนวตั้ง โดยแต่ละแท่งจะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับราคาเปิดตลาด (Open), ราคาปิดตลาด (Close), ราคาสูงสุดในช่วงเวลา (High), และราคาต่ำสุดในช่วงเวลา (Low) ของหุ้นหรือสินทรัพย์ที่กำลังวิ่งราคาในช่วงนั้น ๆ กราฟแท่งเทียนประกอบด้วยส่วนของตัวแท่ง (body) และส่วนของเส้นระดับราคาสูงสุดและต่ำสุด (wicks) โดยส่วนของตัวแท่งจะมีความหนาหรือบางขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่างราคาเปิดตลาดและราคาปิดตลาด ถ้าราคาปิดตลาดสูงกว่าราคาเปิดตลาด จะมีส่วนตัวแท่งแสดงขึ้นด้านบน ในทางกลับกัน ถ้าราคาปิดตลาดต่ำกว่าราคาเปิดตลาด จะมีส่วนตัวแท่งแสดงลงด้านล่าง หากแท่งต้นมีสีเขียว แสดงถึงราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด ในขณะที่แท่งต้นสีแดงแสดงถึงราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด การวิเคราะห์รูปแบบและการเคลื่อนไหวของแท่งเทียนช่วยให้นักลงทุนสามารถตรวจสอบแนวโน้มราคา และดำเนินการตัดสินใจซื้อขายในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลักษณะของกราฟแท่งเทียน แผนภูมิแท่งเทียน (Candlestick Chart) มีลักษณะแท่งเทียนที่แสดงข้อมูลราคาของคู่สกุลเงินในรูปแบบต่าง ๆ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์และสังเกตแนวโน้มของราคาในตลาด โดยการแสดงข้อมูลราคาของสินทรัพย์ในรูปแบบของแท่งเทียนที่สามารถแสดงความเปลี่ยนแปลงของราคาในระยะเวลาที่กำหนดได้อย่างชัดเจน ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้ แท่งเทียนขาขึ้น (Bullish Candlestick) แท่งเทียนขาขึ้นเป็นแท่งเทียนที่แสดงถึงแนวโน้มขาขึ้นของราคาในตลาด ลักษณะของแท่งเทียนขาขึ้นมีลักษณะ ใส้เทียนล่าง (Lower Shadow) [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Breakaway (Bearish, Bullish) คืออะไร วิธีการใช้งาน ลักษณะที่สำคัญ

1 Breakaway (Bearish, Bullish) คืออะไร

Breakaway คืออะไร “Breakaway” เป็นรูปแบบของแท่งเทียน (candlestick) ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคของกราฟหุ้นหรือตลาดทั่วไป การเกิดขึ้นของ Breakaway pattern มักบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มตลาด (Trend Reversal) ในระยะยาว   รูปแบบ Breakaway candlestick pattern Breakaway candlestick pattern ประกอบด้วย 5 แท่งเทียน โดยมีลักษณะดังนี้ แท่งแท่งเทียนที่ 1 แท่งแท่งเทียนแรก เป็นแท่งเทียนของแนวโน้มปัจจุบัน ถ้าเป็นแนวโน้มขาขึ้น แท่งเทียนนี้จะเป็นแท่งเทียนขาขึ้น แต่ถ้าเป็นแนวโน้มขาลง แท่งเทียนนี้จะเป็นแท่งเทียนขาลง แท่งแท่งเทียนที่ 2 แท่งแท่งเทียนที่ 2 จะเป็นแท่งเทียนที่มีช่วงราคาที่ไม่ซ้อนทับแท่งเทียนแรก นั่นหมายความว่า ถ้าแนวโน้มเป็นขาขึ้น แท่งเทียนที่สองจะเปิดที่ราคาที่สูงกว่าแท่งเทียนแรก และถ้าแนวโน้มเป็นขาลง แท่งเทียนที่สองจะเปิดที่ราคาที่ต่ำกว่าแท่งเทียนแรก แท่งแท่งเทียนที่ 3, แท่งแท่งเทียนที่ 4 และแท่งแท่งเทียนที่ 5 จะเป็นแท่งเทียนที่ยืนยันแนวโน้มใหม่ ซึ่งความยาวของแท่งเทียนไม่จำเป็นต้องเป็นแบบเดียวกัน แต่จะยืนยันการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม การที่ Breakaway pattern [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

แท่งเทียนบอกอะไรในการเทรด วิธีการอ่านเกมส์เทรดด้วยแท่งเทียน

1.แท่งเทียน คืออะไร

แท่งเทียน คืออะไร แท่งเทียนหรือ Candlestick เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้สำหรับการแสดงราคาที่เกิดขึ้นในระยะเวลาที่กำหนดไว้ วิธีนี้มาจากญี่ปุ่น และเป็นที่นิยมในการวิเคราะห์กราฟราคาตลาดหุ้น สกุลเงิน และตลาดอื่นๆ แท่งเทียนประกอบด้วยสี่ส่วนหลักคือ ราคาเปิด (Open Price) : ราคาที่เริ่มต้นในช่วงเวลาที่กำหนด ราคาปิด (High Price) : ราคาที่สิ้นสุดในช่วงเวลาที่กำหนด ราคาสูงสุด (Low Price) : ราคาที่สูงที่สุดที่ถูกทำการซื้อขายในช่วงเวลาที่กำหนด ราคาต่ำสุด (Low Price) : ราคาที่ต่ำที่สุดที่ถูกทำการซื้อขายในช่วงเวลาที่กำหนด ถ้าราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด แท่งเทียนจะถูกแสดงเป็นสีเขียว หรือขาว(ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า) และถ้าราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด แท่งเทียนจะถูกแสดงเป็นสีแดง หรือดำ ในส่วนของ “ไส้เทียน” คือ เส้นที่ยื่นออกจากตัวแท่งเทียน แทนราคาสูงสุดและต่ำสุดในช่วงเวลานั้น ตัวแท่งเทียนในภาพรวมแสดงถึงกระแสความรู้สึกของผู้ลงทุนในตลาด และสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการทำนายแนวโน้มของตลาดในอนาคต แท่งเทียนบอกอะไรในการเทรด การวิเคราะห์แท่งเทียน (Candlestick) สามารถช่วยให้นักเทรดทำความเข้าใจถึงความผันผวนของราคา, แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงราคา และเป็นสัญญาณแนะนำสำหรับการทำการซื้อขาย มีหลากหลายรูปแบบแท่งเทียนที่นักเทรดทำใช้เป็นสัญญาณ บางรูปแบบมีความแม่นยำสูงเมื่อใช้ในสถานการณ์ที่เหมาะสม แท่งเทียนเดี่ยว: มีแท่งเทียนที่มีความหมายด้วยตัวเอง เช่น Doji [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

ทฤษฎีปลายไส้เทียน วิธีการเข้าออเดอร์ปลายไส้แท่งเทียน

ทฤษฎีปลายไส้เทียน

ทฤษฎีปลายไส้เทียน ทฤษฎีปลายไส้เทียนเป็นทฤษฎีที่นักวิเคราะห์ทางเทคนิคใช้ในการวิเคราะห์และคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นและตลาดทั่วโลก วิธีนี้ใช้การศึกษา “เทียน” ซึ่งเป็นแผนภูมิที่แสดงราคาการเปิดปิดสูงสุดและต่ำสุดของหุ้นหรือตราสารอื่นในช่วงเวลาที่กำหนด แต่ละเทียนในแผนภูมิเทียนจะมีส่วนประกอบสองส่วนหลัก คือ “ตัวแท่งเทียน” และ “ไส้เทียน” “ตัวแท่งเทียน” แสดงราคาการเปิดและปิดของตราสารในช่วงเวลาที่กำหนด ส่วน “ไส้เทียน” แสดงราคาสูงสุดและต่ำสุดในช่วงเวลานั้น การวิเคราะห์ “ปลายไส้เทียน” จึงมีความสำคัญเพราะสามารถช่วยระบุได้ว่าราคาหุ้นหรือตราสารมีแนวโน้มเคลื่อนที่ในทิศทางใดในอนาคต ตัวอย่างเช่น ถ้าเทียนมีไส้เทียนยาวที่ปลายล่างและตัวแท่งเทียนสีเขียว (หรือแสดงว่าราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด) นั่นหมายความว่าในช่วงนั้น ราคาหุ้นหรือตราสารมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ถ้าเทียนมีไส้เทียนยาวที่ปลายบนและตัวแท่งเทียนสีแดง (หรือแสดงว่าราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด) นั่นหมายความว่าราคาหุ้นหรือตราสารมีแนวโน้มลดลง ทว่าควรระลึกว่า การวิเคราะห์แผนภูมิเทียนและปลายไส้เทียนเป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งในการวิเคราะห์ทางเทคนิค นักลงทุนและนักวิเคราะห์ยังควรใช้วิเคราะห์ทางเทคนิคร่วมกับวิเคราะห์ทางพื้นฐาน เพื่อเข้าใจความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นหรือตราสารในระยะยาว   ความหมายปลายไส้เทียน ของกราฟแท่งเทียน กราฟแท่งเทียน (candlestick chart) เป็นแผนภูมิที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อแสดงการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงเวลาที่กำหนด มีทั้งแท่งเทียนสีเขียวหรือแดงซึ่งมีหน้าตาคล้ายแท่งเทียน แต่ละแท่งมีส่วนประกอบที่สำคัญคือ ตัวแท่งเทียน (body) และไส้เทียน (wick หรือ shadow) ตัวแท่งเทียน (Body): ตัวแท่งของเทียนแสดงราคาเปิดและราคาปิดในช่วงเวลานั้น ถ้าราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด (ขาขึ้น) ต่วแท่งเทียนจะเป็นสีเขียว แต่ถ้าราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด (ขาลง) ตัวแท่งเทียนจะเป็นสีแดง [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Rejection pattern คืออะไร สัญญาณกลับตัว วิธีวิเคราะห์กราฟ

1.Rejection pattern คืออะไร

Rejection pattern คืออะไร Rejection pattern คือ รูปแบบหนึ่งของการวิเคราะห์ทางเทคนิคในการซื้อขายหุ้น, Forex หรือเครื่องมือการลงทุนอื่น ๆ ในตลาดทางการเงิน เป็นการเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินการของราคาในช่วงเวลาที่มีสัญญาณการปฏิเสธ (rejection) หรือการต้านทานต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเงินที่สำคัญ การที่ราคาถูก “ปฏิเสธ” มักจะเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงทางทิศทางของราคา นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม rejection pattern จึงมักถูกนำมาใช้ในการทำนายการเปลี่ยนแปลงทิศทางของราคา และ Rejection pattern มักจะปรากฏในรูปของ ‘Pin Bar’ หรือ ‘Hammer’ ในกราฟแท่งเทียน (Candlestick) Pin Bar มีลักษณะคล้ายหมุด โดยมีส่วน ‘เรียวยาว’ ที่ถูกเรียกว่า ‘wick’ และส่วน ‘สั้น’ ที่ถูกเรียกว่า ‘body’ ‘Wick’ แสดงถึงระดับราคาสูงสุดและต่ำสุดในช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจง ในขณะที่ ‘body’ แสดงถึงราคาเปิดและปิดเมื่อ ‘wick’ ยาวมากเมื่อเทียบกับ ‘body’ แสดงถึงการปฏิเสธของราคาในช่วงเวลานั้น Hammer คือ รูปแบบแท่งเทียนที่มี ‘body’ [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

กราฟแท่งเทียน 26 รูปแบบ มีอะไรบ้าง

กราฟแท่งเทียน 26 รูปแบบ องค์ประกอบแท่งเทียน 2 ส่วนหลัก

กราฟแท่งเทียน คืออะไร กราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) เป็นวิธีการสรุปและแสดงข้อมูลราคาของหลักทรัพย์ หรือสินทรัพย์ทางการเงินในรูปแบบที่ช่วยให้ผู้นำข้อมูลไปใช้สามารถเข้าใจแนวโน้มราคาได้ดีขึ้น กราฟแท่งเทียนมีประวัติความเป็นมานานหลายศตวรรษ มาจากประเทศญี่ปุ่น กราฟแท่งเทียนประกอบด้วยสี่ส่วนหลัก ซึ่งมีชื่อเรียกเป็น “เปิด” (Open) “สูง” (High) “ต่ำ” (Low) และ “ปิด” (Close) ถ้าราคาปิดอยู่สูงกว่าราคาเปิด แท่งเทียนจะเป็นสีเขียวหรือขาว และถ้าราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด แท่งเทียนจะเป็นสีแดงหรือดำ แท่งเทียนช่วยให้นักลงทุนเห็นแนวโน้มราคาสินทรัพย์ ซึ่งนำไปสู่การตัดสินใจในการซื้อหรือขาย ในทำนองเดียวกัน มันสามารถใช้เพื่อระบุรูปแบบทางเทคนิคในการซื้อขาย เช่น เทรนด์ การกลับตัว และอื่น ๆ ที่สามารถช่วยในการพยากรณ์ความเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต องค์ประกอบของกราฟแท่งเทียน กราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) มีสี่ค่าหลักที่ใช้ในการสร้างแต่ละ “แท่งเทียน” ซึ่งประกอบด้วย “เปิด” (Open), “ปิด” (Close), “สูงสุด” (High) และ “ต่ำสุด” (Low) เปิด (Open): ราคาที่สินทรัพย์เริ่มต้นการซื้อขายในระยะเวลาที่กำหนด (เช่น วัน, [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]