หากคุณกำลังมองหาโบรกเกอร์ Forex และ CFD ที่น่าเชื่อถือ Roboforex อาจเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ก่อนจะตัดสินใจเปิดบัญชี มาทำความรู้จักกับ Roboforex กันให้มากขึ้นผ่านบทความรีวิวนี้ เราจะพาคุณไปดูรายละเอียดต่างๆ ของโบรกเกอร์นี้อย่างครบถ้วน ทั้งข้อดี ข้อเสีย ผลิตภัณฑ์ ประเภทบัญชี และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้ว่า Roboforex เหมาะกับความต้องการในการเทรดของคุณหรือไม่
Roboforex คืออะไร
Roboforex เป็นโบรกเกอร์ Forex และ CFD ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เบลีซ ให้บริการเทรดสินทรัพย์หลากหลายประเภท เช่น สกุลเงิน หุ้น ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโตเคอร์เรนซี โดยมีจุดเด่นคือการให้บริการแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย เช่น MT4, MT5, cTrader และแพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นเอง
Roboforex มุ่งเน้นการให้บริการทั้งนักลงทุนรายย่อยและมืออาชีพ โดยนำเสนอประเภทบัญชีที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักเทรดทุกระดับ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือและบริการเสริมต่างๆ เช่น การคัดลอกการเทรด VPS ฟรี และการแข่งขันเทรดเพื่อชิงรางวัล
Roboforex ดีไหม
การตัดสินว่า Roboforex ดีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง และความต้องการเฉพาะของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม เราสามารถพิจารณาจุดเด่นและข้อด้อยของโบรกเกอร์นี้ได้ ดังนี้
ข้อดีของ Roboforex
- มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมมายาวนานกว่า 10 ปี
- นำเสนอแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย รองรับทั้งคอมพิวเตอร์และมือถือ
- มีสินทรัพย์ให้เทรดหลากหลายประเภท รวมถึง Forex, หุ้น, ดัชนี, และคริปโตเคอร์เรนซี
- เสนอเลเวอเรจสูงถึง 1:2000 ในบางประเภทบัญชี
- มีโบนัสและโปรโมชั่นที่น่าสนใจ เช่น โบนัสต้อนรับ $30
- รองรับการฝาก-ถอนผ่านธนาคารไทยได้
- มี VPS ฟรีสำหรับลูกค้าที่มียอดเงินในบัญชีตามเงื่อนไข
- มีระบบ Copy Trade ให้บริการ
ข้อเสียของ Roboforex
- ไม่ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานชั้นนำอย่าง FCA หรือ ASIC
- มีรายงานเรื่องการ Slippage และ Requote ในบางครั้ง โดยเฉพาะช่วงที่ตลาดผันผวน
- ไม่มีบริการสนับสนุนลูกค้าภาษาไทย
- ค่า Swap ค่อนข้างสูงในบางคู่สกุลเงิน
- มีค่าธรรมเนียมการถอนเงินในบางวิธี
- ข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเงินลูกค้ายังไม่ชัดเจนเท่าที่ควร
รีวิวจาก Trustpilot
Trustpilot เป็นแพลตฟอร์มรีวิวออนไลน์ที่ให้ผู้ใช้งานจริงสามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบริษัทและบริการต่างๆ ได้ สำหรับ Roboforex นั้น มีคะแนนรีวิวบน Trustpilot อยู่ที่ 4.1 จาก 5 ดาว (ข้อมูล ณ สิงหาคม 2024) โดยมีรีวิวทั้งหมด 380 รายการ
ความคิดเห็นของผู้ใช้งานมีทั้งด้านบวกและลบ ดังนี้:
ด้านบวก:
- การฝาก-ถอนเงินรวดเร็ว โดยเฉพาะการถอนเงินผ่านวิธีการอิเล็กทรอนิกส์
- สเปรดต่ำและเงื่อนไขการเทรดดี โดยเฉพาะในบัญชี ECN
- แพลตฟอร์มการเทรดใช้งานง่ายและมีเสถียรภาพดี
ด้านลบ:
- มีรายงานปัญหาเกี่ยวกับการถอนเงินในบางกรณี
- บางครั้งเกิด Slippage มากเกินไปในช่วงที่ตลาดผันผวน
- การสนับสนุนลูกค้าอาจล่าช้าในบางครั้ง
อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณารีวิวเหล่านี้ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากประสบการณ์ของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป และบางครั้งอาจมีรีวิวปลอมหรือรีวิวที่มีอคติได้
รีวิวจาก Pantip
จากการสำรวจความคิดเห็นบนเว็บไซต์ Pantip พบว่ามีทั้งความเห็นเชิงบวกและลบต่อ RoboForex ดังนี้
ความเห็นเชิงบวก:
- หลายคนชื่นชมความสะดวกในการฝาก-ถอนเงินผ่านธนาคารไทย
- สเปรดต่ำเป็นที่ชื่นชอบของนักเทรดหลายคน
- โบนัสและโปรโมชั่นได้รับความสนใจ โดยเฉพาะโบนัสต้อนรับ $30
- มีผู้ใช้บางรายรายงานว่าการดำเนินการคำสั่งซื้อขายค่อนข้างเร็ว
ความเห็นเชิงลบ:
- มีรายงานปัญหาเกี่ยวกับการถอนเงินล่าช้าในบางกรณี
- บางคนกังวลเรื่องความน่าเชื่อถือของใบอนุญาต FSC Belize
- มีความเห็นว่าการสนับสนุนลูกค้าภาษาอังกฤษอาจเป็นอุปสรรคสำหรับผู้ใช้บางราย
- บางคนรายงานว่าเกิดการ Slippage (การลื่นไถลของราคา) ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง
การวิเคราะห์: ความคิดเห็นบน Pantip สะท้อนให้เห็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนของ RoboForex ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลที่ได้จากแหล่งอื่น ๆ นักลงทุนควรพิจารณาความคิดเห็นเหล่านี้ประกอบกับการวิเคราะห์ส่วนตัวก่อนตัดสินใจใช้บริการ
Roboforex ใบอนุญาต
Roboforex ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานดังต่อไปนี้:
- Financial Services Commission (FSC) ของประเทศเบลีซ
- หมายเลขใบอนุญาต: IFSC/60/271/TS/17
- Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC)
- หมายเลขใบอนุญาต: 191/13 (สำหรับ RoboMarkets Ltd.)
- Financial Services Authority (FSA) ของเซเชลส์
- หมายเลขใบอนุญาต: SD037
แม้ว่า Roboforex จะได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานเหล่านี้ แต่ควรทราบว่าหน่วยงานกำกับดูแลเหล่านี้อาจไม่ได้มีมาตรฐานการกำกับดูแลที่เข้มงวดเท่ากับหน่วยงานชั้นนำอย่าง FCA ของสหราชอาณาจักร หรือ ASIC ของออสเตรเลีย ดังนั้น นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงนี้ก่อนตัดสินใจเปิดบัญชี
Roboforex โบนัส
Roboforex มีโบนัสและโปรโมชั่นที่น่าสนใจหลายรายการ ดังนี้:
- โบนัสต้อนรับ $30
- สำหรับลูกค้าใหม่ที่เปิดบัญชี Pro หรือ ProCent
- ต้องฝากเงินขั้นต่ำ $10 เพื่อรับโบนัส
- สามารถถอนกำไรที่ได้จากการใช้โบนัสได้
- โบนัสเงินฝาก 115%
- สำหรับบัญชี Pro และ ProCent
- มีเงื่อนไขในการเทรดเพื่อถอนโบนัส
- โบนัสส่วนแบ่งกำไร 60%
- สำหรับการฝากเงินครั้งแรกและครั้งต่อไปในบัญชี Pro และ ProCent
- Cashback สูงสุด 10%
- คืนเงินตามปริมาณการเทรด
- VPS ฟรี
- สำหรับลูกค้าที่มียอดเงินในบัญชีตามเงื่อนไข
- การแข่งขันเทรดประจำเดือน
- ชิงเงินรางวัลรวมกว่า $3,000
ควรอ่านเงื่อนไขของแต่ละโบนัสและโปรโมชั่นอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจรับ เนื่องจากอาจมีข้อกำหนดในการเทรดหรือถอนเงินที่ต้องปฏิบัติตาม
Roboforex แพลตฟอร์ม
Roboforex นำเสนอแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของนักเทรดทุกระดับ ดังนี้:
- MetaTrader 4 (MT4)
- แพลตฟอร์มยอดนิยมที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในตลาด Forex
- มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคมากมาย
- รองรับการใช้งาน Expert Advisors (EAs)
- MetaTrader 5 (MT5)
- รุ่นที่พัฒนาต่อจาก MT4 มีฟีเจอร์เพิ่มเติมหลายอย่าง
- รองรับการเทรดสินทรัพย์หลากหลายประเภทมากขึ้น
- มีเครื่องมือวิเคราะห์และทดสอบกลยุทธ์ที่ทันสมัย
- cTrader
- แพลตฟอร์มที่เน้นความเร็วในการส่งคำสั่งซื้อขาย
- เหมาะสำหรับนักเทรด Scalping และ Day Trading
- มีอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและสวยงาม
- R WebTrader
- แพลตฟอร์มเว็บเทรดที่พัฒนาโดย Roboforex เอง
- ไม่ต้องดาวน์โหลดหรือติดตั้งโปรแกรม สามารถเทรดผ่านเว็บบราวเซอร์ได้ทันที
- รองรับการเทรดสินทรัพย์หลากหลายประเภท
- R MobileTrader
- แอปพลิเคชันมือถือสำหรับการเทรดบนสมาร์ทโฟน
- รองรับทั้งระบบ iOS และ Android
- มีฟีเจอร์ครบถ้วนเหมือนกับการเทรดบนคอมพิวเตอร์
- R StocksTrader
- แพลตฟอร์มเฉพาะสำหรับการเทรดหุ้นและ ETFs
- มีสินทรัพย์ให้เลือกเทรดมากกว่า 12,000 รายการ
ทุกแพลตฟอร์มของ Roboforex รองรับการใช้งานทั้งบนคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์มือถือ ทำให้นักเทรดสามารถติดตามและจัดการพอร์ตการลงทุนได้ทุกที่ทุกเวลา
Roboforex ผลิตภัณฑ์เทรด
Roboforex นำเสนอผลิตภัณฑ์การเทรดที่หลากหลาย ครอบคลุมสินทรัพย์หลายประเภท ดังนี้:
- Forex
- มีคู่สกุลเงินให้เลือกเทรดมากกว่า 40 คู่
- รวมทั้งคู่เงินหลัก คู่เงินรอง และคู่เงินแปลก
- สเปรดเริ่มต้นตั้งแต่ 0 pip ในบัญชี ECN
- หุ้น CFDs
- มี CFDs บนหุ้นมากกว่า 12,000 ตัว จากตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก
- รวมถึงหุ้นของบริษัทชั้นนำจาก NYSE, NASDAQ, LSE และอื่นๆ
- ดัชนีหุ้น
- สามารถเทรด CFDs บนดัชนีหุ้นสำคัญได้ เช่น S&P 500, NASDAQ, Dow Jones, DAX, FTSE 100
- สินค้าโภคภัณฑ์
- เทรด CFDs บนสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ เช่น ทองคำ, น้ำมัน, เงิน, แพลทินัม
- มีทั้งสัญญา Spot และ Futures
- คริปโตเคอร์เรนซี
- มีคู่เทรด Crypto CFDs มากกว่า 30 คู่
- รวมถึง Bitcoin, Ethereum, Litecoin และ Ripple
- ETFs
- สามารถเทรด CFDs บน ETFs ได้หลากหลาย
- ครอบคลุม ETFs ที่ติดตามดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, และกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ
- พันธบัตรรัฐบาล
- เทรด CFDs บนพันธบัตรรัฐบาลของประเทศต่างๆ ได้
ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์เทรดทำให้นักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงและหาโอกาสในการทำกำไรได้จากหลายตลาด อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาและทำความเข้าใจกับแต่ละผลิตภัณฑ์อย่างละเอียดก่อนเริ่มเทรด เนื่องจากแต่ละประเภทมีความเสี่ยงและลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน
Roboforex ประเภทบัญชี
Roboforex นำเสนอประเภทบัญชีที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของนักเทรดทุกระดับ ดังนี้:
- บัญชี Pro
- เหมาะสำหรับนักเทรดทั่วไปและผู้เริ่มต้น
- เงินฝากขั้นต่ำ: $10
- สเปรดเริ่มต้นที่ 1.3 pips
- เลเวอเรจสูงสุด 1:2000
- รองรับการรับโบนัสและโปรโมชั่นต่างๆ
- บัญชี ECN
- เหมาะสำหรับนักเทรดมืออาชีพที่ต้องการสเปรดต่ำและการดำเนินการที่รวดเร็ว
- เงินฝากขั้นต่ำ: $10
- สเปรดเริ่มต้นที่ 0 pips + ค่าคอมมิชชั่น
- เลเวอเรจสูงสุด 1:500
- การดำเนินการคำสั่งซื้อขายที่รวดเร็ว
- บัญชี Prime
- เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการเงื่อนไขการเทรดที่ดีที่สุด
- เงินฝากขั้นต่ำ: $10
- สเปรดเริ่มต้นที่ 0 pips
- เลเวอเรจสูงสุด 1:300
- ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
- บัญชี ProCent
- เหมาะสำหรับการทดสอบกลยุทธ์ด้วยเงินจริงจำนวนน้อย
- เงินฝากขั้นต่ำ: $10
- สเปรดเริ่มต้นที่ 1.3 pips
- เลเวอเรจสูงสุด 1:2000
- ขนาดล็อตเริ่มต้นที่ 0.01 lot
- บัญชี R StocksTrader
- เหมาะสำหรับการเทรดหุ้นและ ETFs
- เงินฝากขั้นต่ำ: $100
- สเปรดขึ้นอยู่กับสภาพตลาด
- เลเวอเรจสูงสุด 1:20
- สามารถซื้อหุ้นจริงได้
นักลงทุนควรพิจารณาเลือกประเภทบัญชีที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรด เป้าหมายการลงทุน และประสบการณ์ของตนเอง โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น เงินทุน ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และประเภทสินทรัพย์ที่ต้องการเทรด
Roboforex ฝากเงิน ถอนเงิน
Roboforex มีช่องทางการฝากและถอนเงินที่หลากหลาย รองรับความต้องการของนักลงทุนในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย ดังนี้:
วิธีการฝากเงิน:
- บัตรเครดิต/เดบิต (Visa, Mastercard, UnionPay)
- การโอนเงินผ่านธนาคาร (รวมถึงธนาคารไทย)
- E-wallets (Skrill, Neteller, Perfect Money, WebMoney)
- การโอนเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ
- คริปโตเคอร์เรนซี (Bitcoin, Ethereum, Tether)
วิธีการถอนเงิน:
- การโอนเงินผ่านธนาคาร
- E-wallets
- บัตรเครดิต/เดบิต
- คริปโตเคอร์เรนซี
ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการฝาก-ถอนเงิน:
- ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากเงิน
- การถอนเงินบางวิธีอาจมีค่าธรรมเนียม
- เวลาในการดำเนินการถอนเงินโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1-2 วันทำการ
- มีระบบถอนเงินอัตโนมัติ สามารถถอนได้แม้ในวันหยุด
- รองรับการฝาก-ถอนผ่านธนาคารไทย 4 แห่ง ได้แก่ กสิกรไทย, ไทยพาณิชย์, กรุงเทพ, และกรุงไทย
ข้อควรระวัง:
- ตรวจสอบเงื่อนไขและข้อกำหนดในการฝาก-ถอนเงินของแต่ละวิธีให้ดีก่อนทำรายการ
- ควรใช้บัญชีธนาคารหรือวิธีการชำระเงินที่เป็นชื่อเดียวกับบัญชีเทรดเพื่อป้องกันปัญหาในการถอนเงิน
- หากมีปัญหาในการฝากหรือถอนเงิน ควรติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของ Roboforex โดยตรง
Roboforex ติดต่อ
Roboforex มีช่องทางการติดต่อและบริการสนับสนุนลูกค้าหลายรูปแบบ ดังนี้:
- Live Chat
- บริการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์
- สามารถเข้าถึงได้จากหน้าเว็บไซต์หลัก
- โทรศัพท์
- หมายเลขสำหรับติดต่อ: +593 964 256 286
- ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์
- อีเมล
- สำหรับคำถามทั่วไป: info@roboforex.com
- สำหรับฝ่ายสนับสนุนทางเทคนิค: support@roboforex.com
- แบบฟอร์มติดต่อบนเว็บไซต์
- สามารถส่งข้อความถึงทีมสนับสนุนได้โดยตรงผ่านแบบฟอร์มบนเว็บไซต์
- สื่อสังคมออนไลน์
- Facebook: RoboForex
- Twitter: @RoboForex
- Instagram: @roboforex_official
- YouTube: RoboForex Official
- ที่อยู่สำนักงาน
- 2118 Guava Street, Belama Phase 1, Belize City, Belize
ข้อสังเกต:
- Roboforex ไม่มีบริการสนับสนุนลูกค้าภาษาไทยโดยตรง
- การติดต่อส่วนใหญ่จะเป็นภาษาอังกฤษ
- ระยะเวลาในการตอบกลับอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับช่องทางและความซับซ้อนของปัญหา
สรุป
Roboforex เป็นโบรกเกอร์ที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมมายาวนาน นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของนักเทรดทุกระดับ จุดเด่นของ Roboforex คือการมีแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย สินทรัพย์ให้เลือกเทรดมากมาย และโบนัสที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาข้อดีและข้อเสียของ Roboforex อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจเปิดบัญชี
ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม:
- การกำกับดูแล: แม้ว่า Roboforex จะได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแล แต่หน่วยงานเหล่านี้อาจไม่เข้มงวดเท่ากับหน่วยงานชั้นนำอย่าง FCA หรือ ASIC นักลงทุนควรตระหนักถึงความเสี่ยงนี้
- ความปลอดภัยของเงินทุน: ควรศึกษานโยบายการคุ้มครองเงินทุนของลูกค้าและมาตรการรักษาความปลอดภัยของ Roboforex ให้ละเอียด
- ค่าธรรมเนียม: แม้ว่า Roboforex จะมีสเปรดต่ำในบางประเภทบัญชี แต่อาจมีค่าธรรมเนียมแฝงอื่นๆ เช่น ค่า Swap ที่สูงในบางคู่สกุลเงิน หรือค่าธรรมเนียมการถอนเงิน
- การสนับสนุนลูกค้า: การไม่มีบริการสนับสนุนภาษาไทยอาจเป็นอุปสรรคสำหรับนักลงทุนไทยบางส่วน
- เลเวอเรจสูง: การเสนอเลเวอเรจสูงถึง 1:2000 อาจเป็นดาบสองคม นักลงทุนควรใช้ความระมัดระวังและบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม
- ความผันผวนของตลาด: มีรายงานเรื่อง Slippage และ Requote ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง นักเทรดควรระมัดระวังในการเทรดช่วงเวลาดังกล่าว
โดยสรุป Roboforex อาจเหมาะสมสำหรับนักลงทุนที่:
- ต้องการเข้าถึงตลาดและสินทรัพย์ที่หลากหลาย
- มีประสบการณ์ในการเทรดและเข้าใจความเสี่ยงของการใช้เลเวอเรจสูง
- ต้องการแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ
- สนใจโบนัสและโปรโมชั่นที่น่าดึงดูด
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมือใหม่หรือผู้ที่ต้องการความมั่นคงสูงอาจพิจารณาโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่เข้มงวดกว่า หรือมีประวัติการดำเนินงานที่ยาวนานและมั่นคงกว่า
สุดท้ายนี้ การตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ควรขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งประสบการณ์การเทรด เป้าหมายการลงทุน และความสามารถในการรับความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ทดลองใช้บัญชีทดลองก่อนเปิดบัญชีจริง และเริ่มต้นด้วยเงินลงทุนที่จำกัดเพื่อทดสอบการให้บริการของโบรกเกอร์อย่างระมัดระวัง
FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง