ท่ามกลางกระแสความนิยมของการลงทุนเทรด Forex และ CFD ออนไลน์ ผู้คนจำนวนไม่น้อยกำลังมองหาโบรกเกอร์ที่จะไว้วางใจได้ เพื่อเป็นตัวกลางในการซื้อขาย และหวังผลกำไรที่งอกงามในระยะยาว ซึ่งในบรรดาโบรกเกอร์มากมายที่มีให้เลือกใช้บริการ PaxForex เป็นหนึ่งในนั้นที่ถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวาง ทั้งในแง่ดีและไม่ดี แต่แท้จริงแล้ว PaxForex ดีอย่างที่เขาโฆษณาจริงหรือไม่ วันนี้เรามีคำตอบ พร้อมเปิดเผยทุกข้อเท็จจริง ที่นักลงทุนทุกคนควรอ่านให้เข้าใจก่อนตัดสินใจสมัครเปิดบัญชีเทรด
PaxForex คืออะไร
PaxForex เป็นโบรกเกอร์ Forex และ CFD ที่เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 2010 โดยบริษัท Laino Group Ltd ที่จดทะเบียนในเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ มีจุดเด่นคือการให้บริการที่หลากหลาย ทั้งการเทรด Forex, ทองคำ, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์ ตลอดจนหุ้น ผ่านแพลตฟอร์มซื้อขายอย่าง MetaTrader 4 ที่รองรับการใช้งานได้อย่างเสถียร
โดยทาง PaxForex อ้างว่าได้รับความไว้วางใจจากเทรดเดอร์กว่า 120 ประเทศทั่วโลก เนื่องจากมีข้อได้เปรียบจากค่าสเปรดต่ำและเงื่อนไขการเทรดที่ยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเป็น
- เงินฝากขั้นต่ำเพียง 10 ดอลลาร์
- มีบัญชีให้เลือกหลายประเภท ทั้ง Cent, Mini, Standard และ VIP
- ค่าสเปรดลอยตัวเริ่มต้นที่ 0.4 pips
- ไม่มีค่าคอมมิชชัน
- วงเงินเทรดสูงสุดถึง 1:500
- มีระบบ Copy Trade และสัญญาณเทรดให้ใช้ฟรี
อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังข้อเสนอที่ดูน่าสนใจเหล่านี้ ก็มีจุดอ่อนและความเสี่ยงบางประการที่ควรระมัดระวัง ซึ่งเราจะมาเจาะลึกกันในลำดับต่อไป
ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทไม่ชัดเจน ไม่สามารถตรวจสอบได้
PaxForex อ้างว่ามีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ ซึ่งเป็นเกาะขนาดเล็กในหมู่เกาะแคริบเบียน แต่เมื่อลองตรวจสอบข้อมูลบริษัทอย่างละเอียด กลับพบว่าไม่มีหลักฐานยืนยันที่ชัดเจนว่าบริษัทดังกล่าวมีตัวตนอยู่จริง และมีพนักงานทำงานอยู่ที่นั่น
นอกจากนี้ เว็บไซต์และเอกสารต่างๆ ของบริษัท ก็ให้ข้อมูลค่อนข้างคลุมเครือ ไม่ครบถ้วน ไม่มีชื่อบุคคลที่เป็นผู้บริหารระดับสูง และไม่แสดงรายละเอียดหรือหลักฐานสำคัญทางธุรกิจ สิ่งเหล่านี้จึงยิ่งเพิ่มข้อสงสัยเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์รายนี้
แปลข้อความจากภาพได้ว่า
โดเมนสำหรับ PaxForex ถูกยึดแล้ว
โดเมนสำหรับ paxforex.com ถูกยึดโดยสำนักงานสอบสวนกลางในข้อหาละเมิดตามข้อกำหนดต่อไปนี้:
- มาตรการ 18 U.S.C. §§ 981 และ 982
- การละเมิด 18 U.S.C. § 1956, 18 U.S.C. § 1343, และ 7 U.S.C. § 13
- ออกโดยศาลแขวงสหรัฐสำหรับเขตทางใต้ของรัฐเท็กซัสตามส่วนหนึ่งของกฎหมายการบังคับใช้การดำเนินการร่วมกัน
หน่วยงาน Federal Bureau of Investigation สำนักงานอัยการรัฐบาลกลางแห่งเขตทางใต้ของรัฐเท็กซัส
ถ้าคุณเชื่อว่าคุณอาจเป็นเหยื่อของ PaxForex โปรดส่งคำร้องไปที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ตของ FBI ที่ www.ic3.gov ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใส่ #Paxforex ในส่วนเนื้อหาของคำร้องด้วย
ประเภทบัญชีเทรด PaxForex
PaxForex มีให้เลือกเทรดด้วยกัน 4 ประเภทบัญชี ซึ่งมีรายละเอียดที่แตกต่างกันดังนี้
- บัญชี Cent เหมาะสำหรับนักลงทุนที่เพิ่งเริ่มต้น
- เงินฝากขั้นต่ำ $10
- สเปรดต่ำสุดที่ 2.4 pips
- ขนาดออเดอร์ขั้นต่ำ 0.0001 lot
- มีสิทธิ์เข้าถึงการซื้อขายหุ้น
- ได้รับสิทธิพิเศษในการส่งคำสั่งก่อน
- บัญชี Mini เหมาะสำหรับนักลงทุนระดับกลาง
- เงินฝากขั้นต่ำ $100
- สเปรดต่ำสุดที่ 1.4 pips
- ขนาดออเดอร์ขั้นต่ำ 0.01 lot
- มีสิทธิ์เข้าถึงการซื้อขายหุ้น
- ได้รับสิทธิพิเศษในการส่งคำสั่งก่อน
- บัญชี Standard เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์
- เงินฝากขั้นต่ำ $2,000
- สเปรดต่ำสุดที่ 0.4 pips
- ขนาดออเดอร์ขั้นต่ำ 0.01 lot
- มีสิทธิ์เข้าถึงการซื้อขายหุ้น
- ได้รับสิทธิพิเศษในการส่งคำสั่งก่อน
- บัญชี VIP เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพ
- เงินฝากขั้นต่ำ $10,000
- สเปรดต่ำสุดที่ 0.4 pips
- ขนาดออเดอร์ขั้นต่ำ 0.01 lot
- มีสิทธิ์เข้าถึงการซื้อขายหุ้น
- ได้รับสิทธิพิเศษในการส่งคำสั่งก่อน
จุดเด่นที่น่าสนใจคือทุกประเภทบัญชีของ PaxForex จะได้รับสิทธิพิเศษในการส่งคำสั่งก่อน และมีสิทธิ์เข้าถึงตลาดหุ้นด้วย ซึ่งเป็นประโยชน์ในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน
ส่วนเรื่องสเปรด จะแตกต่างกันไปตามประเภทบัญชี โดยบัญชี Standard และ VIP จะมีสเปรดที่ต่ำที่สุด เริ่มต้นที่ 0.4 pips เหมาะกับการเทรดระยะยาว ส่วนบัญชี Cent และ Mini จะมีสเปรดสูงกว่า แต่ก็ใช้เงินลงทุนขั้นต่ำที่น้อยกว่า จึงเป็นทางเลือกสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่พร้อมลงทุนมาก
ทั้งนี้ ก่อนตัดสินใจเลือกประเภทบัญชีกับ PaxForex ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ให้รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ในการเทรด เงินทุน กลยุทธ์การลงทุน ฯลฯ รวมถึงอ่านข้อมูลและข้อกำหนดให้ชัดเจน เพื่อให้ได้บัญชีที่เหมาะสมและคุ้มค่ากับการลงทุนมากที่สุด
มีประวัติการร้องเรียนและเสียงแสดงความไม่พอใจจากลูกค้า
เมื่อสำรวจในเว็บบอร์ดและกระดานสนทนาที่เกี่ยวกับการลงทุน พบว่ามีลูกค้าที่เคยใช้บริการ PaxForex จำนวนมาก ออกมาแสดงความไม่พอใจกับคุณภาพการให้บริการ โดยประเด็นที่พบบ่อย ได้แก่
- แพลตฟอร์มเทรดมีปัญหา ล่าช้า ใช้งานไม่ได้ในบางครั้ง
- สเปรดและค่าคอมมิชชันสูงเกินไป ไม่เป็นไปตามที่โฆษณา
- การฝากและถอนเงินมีความยุ่งยาก ล่าช้า และไม่ได้รับเงินตามที่ร้องขอ
- เจ้าหน้าที่บริการลูกค้าไม่เป็นมืออาชีพ ไม่สามารถแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ทันท่วงที
- ถูกปิดบัญชีโดยไม่ทราบสาเหตุ และไม่ได้รับเงินในบัญชีคืน
จะเห็นได้ว่า ลูกค้าจำนวนไม่น้อยประสบปัญหากับโบรกเกอร์เจ้านี้ และไม่ได้รับการดูแลที่ดีเท่าที่ควร นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสัญญาณบ่งชี้ว่า PaxForex อาจไม่ใช่โบรกเกอร์ที่ไว้ใจได้
PaxForex ได้รับใบอนุญาตและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลหรือไม่
ข้อกังวลประการแรกเกี่ยวกับ PaxForex ก็คือเรื่องของใบอนุญาตและการกำกับดูแลโดยองค์กรที่น่าเชื่อถือ เพราะเมื่อลองตรวจสอบข้อมูลพบว่า PaxForex ไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลจากหน่วยงานกำกับสากลชั้นนำ
การไม่มีใบอนุญาตจากองค์กรเหล่านี้ ก็เท่ากับว่า PaxForex ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบและควบคุมมาตรฐานการให้บริการ ทำให้ไม่สามารถการันตีได้ว่าจะไม่เกิดการฉ้อโกงหรือเอาเปรียบลูกค้า อีกทั้งยังไม่มีมาตรการคุ้มครองเงินลงทุนของเทรดเดอร์อย่างเป็นทางการหากเกิดข้อพิพาท
ผลการดำเนินงานในอดีตของ PaxForex เป็นอย่างไร
แม้ PaxForex จะให้บริการมาเป็นเวลากว่า 10 ปี แต่กลับไม่ค่อยพบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการดำเนินงานมากนัก โดยข้อมูลส่วนใหญ่มาจากในเว็บไซต์ของบริษัทเอง ซึ่งก็เน้นย้ำแต่ข้อดีและจุดขายทางการตลาดเท่านั้น
ในขณะเดียวกัน เมื่อเสาะหาข้อมูลจากแหล่งอื่นๆ โดยเฉพาะเว็บบอร์ดและกระดานสนทนาของเทรดเดอร์ กลับพบเจอเสียงสะท้อนด้านลบและประสบการณ์ที่ไม่ดีจากผู้ใช้บริการจริงหลายราย เช่น
- ปัญหาความไม่เสถียรของเซิร์ฟเวอร์ ทำให้แพลตฟอร์มล่ม เปิดคำสั่งเทรดไม่ได้
- ความล่าช้าในการดำเนินการถอนเงิน บางครั้งอาจนานนับสัปดาห์หรือเดือน
- ค่าสเปรดและค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าที่โฆษณา โดยเฉพาะกับลูกค้าบางกลุ่ม
- การปิดบัญชีเทรดแบบกะทันหันโดยไม่ทราบสาเหตุ และไม่ได้รับเงินคืน
สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าการบริการของ PaxForex อาจจะไม่ได้ราบรื่นอย่างที่ควรจะเป็น รวมถึงมีความเสี่ยงในการใช้งานที่ควรนำมาพิจารณาให้รอบคอบ
ความน่าเชื่อถือในสายตานักลงทุนชาวไทย
ในแวดวงนักลงทุนชาวไทยเอง ก็มีการพูดถึง PaxForex อยู่บ้างในกลุ่มเทรดเดอร์ โดยประเด็นหลักๆ ที่หยิบยกขึ้นมา มักหมุนเวียนอยู่ที่
- ข้อเสนอโปรโมชั่นและโบนัสเงินฝากที่ให้ผลตอบแทนสูง
- แพลตฟอร์มการเทรดที่ดูทันสมัย มีเครื่องมือให้ใช้อย่างครบครัน
- ระบบ Copy Trade ที่เปิดโอกาสให้เทรดตามกลยุทธ์ของผู้เชี่ยวชาญ
อย่างไรก็ดี คำถามสำคัญที่หลายคนยังกังขา ก็คือในแง่ของความปลอดภัยและความเสี่ยง โดยเฉพาะการไม่มีสำนักงานตัวแทนในไทย ไม่มีพนักงานที่พูดภาษาไทยได้ และไม่มีช่องทางสื่อสารที่เป็นทางการ ทำให้หากมีปัญหาในการใช้บริการ อาจแก้ไขได้ยากและใช้เวลานาน
ดังนั้น แม้ PaxForex จะเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนไทยที่อยากลงทุน Forex แต่ก็ยังจำเป็นต้องไตร่ตรองให้ดีถึงความเหมาะสมและประโยชน์ที่จะได้รับ เทียบกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะการขาดการรับประกันด้านกฎหมายและสภาพคล่องที่ชัดเจน
ทางเลือกอื่นสำหรับเทรดเดอร์ไทยที่กำลังมองหาโบรกเกอร์
หากคุณเป็นเทรดเดอร์ชาวไทยที่กำลังมองหาโบรกเกอร์สำหรับเทรด Forex หรือ CFD แต่ไม่แน่ใจว่า PaxForex จะเหมาะสมกับตัวคุณหรือไม่ การศึกษาทางเลือกอื่นเพิ่มเติมก็เป็นสิ่งจำเป็น โดยปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาในการเปรียบเทียบ มีดังนี้
- ความน่าเชื่อถือของใบอนุญาตและการกำกับดูแลจากองค์กรที่ได้มาตรฐาน
- สภาพคล่องและความมั่นคงทางการเงินของบริษัท
- ประวัติการดำเนินงานและเสียงสะท้อนจากลูกค้าในอดีต
- คุณภาพของแพลตฟอร์มการลงทุน เครื่องมือ และบริการที่จำเป็น
- ความสามารถในการรองรับผู้ใช้ภาษาไทย ทั้งข้อมูล สัญญา และฝ่ายสนับสนุน
- เงื่อนไขการเทรด สเปรด และค่าธรรมเนียมที่ชัดเจน แข่งขันได้
- ความหลากหลายของสินทรัพย์ที่ให้ซื้อขาย ตอบโจทย์นักลงทุนแต่ละประเภท
โบรกเกอร์ที่ผ่านเกณฑ์ในหัวข้อเหล่านี้และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล อาทิ XM, Exness, Pepperstone, FBS เป็นต้น ก็นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนชาวไทย เพราะมีการบริการที่เป็นภาษาไทย เข้าใจง่าย และมีความปลอดภัยสูงกว่า
ข้อสรุปและคำแนะนำ
จากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมา เราจึงไม่แนะนำให้เทรดเดอร์เลือกใช้บริการของโบรกเกอร์ PaxForex เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงและข้อบ่งชี้ถึงการทำงานที่ไม่โปร่งใส ไม่ปลอดภัย และอาจเข้าข่ายหลอกลวงได้ สิ่งเหล่านี้จะส่งผลโดยตรงต่อเงินลงทุนและผลประโยชน์ของคุณในระยะยาว
ดังนั้น เมื่อเลือกโบรกเกอร์สำหรับเทรด Forex และ CFD เราควรมองหาโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือสูง ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เข้มงวดและมีมาตรฐานสากล มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในวงการ มีบริการลูกค้าที่ดี และมีเงื่อนไขการเทรดที่โปร่งใสและยุติธรรม
สุดท้ายนี้ อยากฝากเตือนเทรดเดอร์ทุกคนว่า ก่อนสมัครใช้บริการกับโบรกเกอร์ใด ให้ตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบ อ่านรีวิวจากแหล่งต่างๆ ศึกษาเงื่อนไขข้อตกลงให้ชัดเจน และทดลองใช้บัญชีเดโม่ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนจริง เพื่อป้องกันตัวคุณเองจากโบรกเกอร์ที่ไม่ซื่อสัตย์ และการถูกหลอกลวงที่อาจเกิดขึ้นในโลกของการเทรดออนไลน์
FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง