ตัวอย่าง Code Function ที่รวมหลายปัจจัยในการสร้างสัญญาณ การสร้างสัญญาณเทรดที่มีประสิทธิภาพมักจะต้องพิจารณาหลายปัจจัยร่วมกัน เพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดความเสี่ยงของสัญญาณหลอก ต่อไปนี้เป็นตัวอย่าง Code Function ที่รวมหลายปัจจัยในการวิเคราะห์และสร้างสัญญาณเทรด 1. ฟังก์ชันหลักสำหรับสร้างสัญญาณ int GenerateMultiFactorSignal() { // 1. วิเคราะห์แนวโน้ม int trend = AnalyzeTrend(); // 2. ตรวจสอบ Indicator ทางเทคนิค int techSignal = AnalyzeTechnicalIndicators(); // 3. วิเคราะห์ Candlestick Patterns int candleSignal = AnalyzeCandlePatterns(); // 4. ตรวจสอบ Price Action int priceActionSignal = AnalyzePriceAction(); // 5. ตรวจสอบ Support/Resistance bool nearSR [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
ตัวอย่างการใช้ equity stops Equity stop เป็นวิธีการจัดการความเสี่ยงที่ใช้มูลค่า equity ของบัญชีเป็นตัวกำหนดจุดหยุดการเทรด วิธีนี้ช่วยป้องกันการขาดทุนเกินกว่าที่กำหนด โดยจะปิดทุกออเดอร์ที่เปิดอยู่เมื่อ equity ลดลงถึงระดับที่กำหนด ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างฟังก์ชันสำหรับใช้ equity stop ใน EA: // ฟังก์ชันตรวจสอบและทำงานตาม equity stop void CheckEquityStop(double stopLevel) { // ดึงค่า equity ปัจจุบันของบัญชี double currentEquity = AccountEquity(); // ดึงค่า balance เริ่มต้นของบัญชี double initialEquity = AccountBalance(); // คำนวณเปอร์เซ็นต์การขาดทุน (drawdown) double equityDrawdown = (initialEquity – currentEquity) / initialEquity * 100; [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
ชุดคำสั่งสำหรับการปิดและแก้ไขออเดอร์ (Close Order, Modify Order) จัดการออเดอร์: เป็นหัวข้อหลักที่แบ่งออกเป็น 3 ส่วนย่อย ปิดออเดอร์: CloseOrder(): ใช้สำหรับปิดออเดอร์เดี่ยวที่ระบุด้วย ticket CloseAllOrders(): ใช้สำหรับปิดทุกออเดอร์ที่เปิดอยู่ แก้ไขออเดอร์: ModifyOrder(): ใช้สำหรับแก้ไข Stop Loss (SL) และ Take Profit (TP) ของออเดอร์ที่ระบุ Trailing Stop: ApplyTrailingStop(): ใช้สำหรับปรับ Stop Loss แบบอัตโนมัติตามการเคลื่อนไหวของราคา หัวข้อนี้แสดงให้เห็นภาพรวมของการจัดการออเดอร์และความสัมพันธ์ระหว่างฟังก์ชันต่างๆ ที่ใช้ในการจัดการออเดอร์ ข้อสังเกตเพิ่มเติม: การปิดออเดอร์ใช้ฟังก์ชัน OrderClose() ภายใน การแก้ไขออเดอร์ใช้ฟังก์ชัน OrderModify() ภายใน Trailing Stop เป็นการปรับ SL อัตโนมัติตามการเคลื่อนไหวของราคา โดยใช้ฟังก์ชัน ModifyOrder() ที่สร้างไว้ การปิดออเดอร์ ฟังก์ชัน CloseOrder() ใช้สำหรับปิดออเดอร์ที่ระบุด้วย ticket [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
ทำไมต้องใช้ EA ในการเทรด Forex ในยุคที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในทุกวงการ การเทรด Forex ก็ไม่ได้เป็นข้อยกเว้น Expert Advisor (EA) ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักเทรดทั้งมือใหม่และมืออาชีพ แต่ทำไมเราถึงควรพิจารณาใช้ EA ในการเทรด Forex? มาดูเหตุผลสำคัญกันครับ: การทำงานตลอด 24 ชั่วโมง: ตลาด Forex ไม่เคยหลับใหล และ EA ก็เช่นกัน EA สามารถทำงานและติดตามตลาดได้ตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ โดยไม่ต้องพักหรือนอนหลับเหมือนมนุษย์ ทำให้ไม่พลาดโอกาสการเทรดที่ดีไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ การตัดสินใจที่ปราศจากอารมณ์: หนึ่งในปัญหาใหญ่ของนักเทรดมือใหม่คือการตัดสินใจด้วยอารมณ์ EA ทำงานตามกฎและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ไม่มีความกลัว ความโลภ หรือความหวังเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้การเทรดเป็นไปอย่างมีระบบและมีวินัยมากขึ้น ความเร็วในการทำงาน: ในตลาด Forex ทุกวินาทีมีค่า EA สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและเปิด/ปิดคำสั่งซื้อขายได้ในเสี้ยววินาที ซึ่งเร็วกว่ามนุษย์มาก ทำให้สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างทันท่วงที ความสามารถในการทำงานหลายคู่สกุลเงินพร้อมกัน: ในขณะที่มนุษย์อาจมีข้อจำกัดในการติดตามหลายคู่สกุลเงินพร้อมกัน EA สามารถทำได้โดยไม่มีปัญหา ทำให้เพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากหลายแหล่ง [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
ในการเขียนโปรแกรม MQL4 เราจำเป็นต้องใช้ตัวแปรเพื่อเก็บข้อมูลต่างๆ ตัวแปรเหมือนกับกล่องที่เราใช้เก็บของ โดยแต่ละกล่องจะเก็บของได้เฉพาะประเภท ต่อไปนี้คือประเภทข้อมูลพื้นฐานใน MQL4 และวิธีการใช้งาน: 1. ตัวเลขจำนวนเต็ม (Integer) ใช้เก็บตัวเลขที่ไม่มีจุดทศนิยม int myAge = 25; int lotSize = 1; int orderNumber = 12345; Print(“My age is “, myAge); Print(“Lot size is “, lotSize); Print(“Order number is “, orderNumber); 2. ตัวเลขทศนิยม (Double) ใช้เก็บตัวเลขที่มีจุดทศนิยม เหมาะสำหรับราคาหรือค่าที่ต้องการความแม่นยำสูง double currentPrice = 1.2345; double stopLoss = 1.2300; double takeProfit [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
ตัวอย่างการใช้งานตัวดำเนินการและนิพจน์ ตัวอย่างการใช้งานตัวดำเนินการและนิพจน์ใน MQL4 ตัวดำเนินการ (Operators) และนิพจน์ (Expressions) เป็นส่วนสำคัญในการเขียนโปรแกรม MQL4 ที่ช่วยให้เราสามารถคำนวณ เปรียบเทียบ และตัดสินใจได้ ลองมาดูตัวอย่างการใช้งานกัน: 1. ตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ ใช้สำหรับการคำนวณทางคณิตศาสตร์พื้นฐาน double a = 10; double b = 3; double sum = a + b; // บวก double difference = a – b; // ลบ double product = a * b; // คูณ double quotient = a / b; // [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
ตัวอย่างการสร้างและเรียกใช้ฟังก์ชัน ฟังก์ชันเป็นส่วนสำคัญในการเขียนโปรแกรม MQL4 ที่ช่วยให้เราสามารถจัดระเบียบโค้ด ลดการเขียนโค้ดซ้ำซ้อน และทำให้โปรแกรมอ่านง่ายขึ้น มาดูตัวอย่างการสร้างและเรียกใช้ฟังก์ชันแบบต่างๆ กัน: 1. ฟังก์ชันพื้นฐานไม่มีการรับค่าและส่งค่า void PrintWelcomeMessage() { Print(“Welcome to my Expert Advisor!”); Print(“Current Symbol: “, Symbol()); Print(“Current Timeframe: “, Period()); } // เรียกใช้ฟังก์ชัน void OnStart() { PrintWelcomeMessage(); } ฟังก์ชันที่รับค่าใน MQL4: คำอธิบาย: ฟังก์ชัน PrintTradeInfo รับค่า 3 ตัว: symbol (string): ชื่อคู่สกุลเงิน volume (double): ปริมาณการเทรด type (int): ประเภทของการเทรด (ซื้อหรือขาย) ฟังก์ชันนี้ไม่ส่งค่ากลับ (void) [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
ตัวอย่าง EA ที่มีฟังก์ชันหลัก: OnInit(), OnDeinit(), OnTick() Expert Advisor (EA) ใน MetaTrader 4 มีโครงสร้างพื้นฐานที่ประกอบด้วยฟังก์ชันหลัก 3 ฟังก์ชัน ได้แก่ OnInit(), OnDeinit(), และ OnTick() ฟังก์ชันเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการทำงานของ EA 1. OnInit() ฟังก์ชัน OnInit() ถูกเรียกใช้เมื่อ EA ถูกเริ่มต้นหรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงค่า input parameters ฟังก์ชันนี้ใช้สำหรับ: การกำหนดค่าเริ่มต้นให้กับตัวแปร การตรวจสอบความถูกต้องของ input parameters การเตรียมทรัพยากรที่จำเป็น เช่น การเปิดไฟล์หรือการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล ตัวอย่างการใช้งาน: // ฟังก์ชัน OnInit() int OnInit() { Print(“EA has been initialized”); return(INIT_SUCCEEDED); } 2. OnDeinit() ฟังก์ชัน [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
ตัวอย่างการใช้งาน global variables และ input parameters ในการพัฒนา Expert Advisor (EA) สำหรับ MetaTrader 4, การใช้ global variables และ input parameters มีบทบาทสำคัญในการสร้าง EA ที่มีความยืดหยุ่นและปรับแต่งได้ ทั้งสองส่วนนี้มีลักษณะและการใช้งานที่แตกต่างกัน Global Variables Global variables เป็นตัวแปรที่สามารถเข้าถึงได้จากทุกส่วนของ EA ใช้สำหรับเก็บข้อมูลที่ต้องใช้ร่วมกันระหว่างฟังก์ชันต่างๆ ลักษณะสำคัญ: ประกาศนอกฟังก์ชัน ค่าสามารถเปลี่ยนแปลงได้ระหว่างการทำงานของ EA ใช้เก็บสถานะหรือข้อมูลที่ต้องใช้ตลอดการทำงานของ EA ตัวอย่างการใช้งาน: int g_LastOrderTicket = 0; double g_TotalProfit = 0; datetime g_LastTradeTime = 0; void OnTick() { // ใช้และอัพเดท global [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
ตัวอย่างการตั้งค่า Stoploss และ Take Profit การตั้งค่า Stoploss // ฟังก์ชันสำหรับตั้งค่า Stop Loss bool SetStopLoss(int ticket, double slDistance) { if(!OrderSelect(ticket, SELECT_BY_TICKET)) { Print(“Error selecting order “, ticket, “. Error: “, GetLastError()); return false; } string symbol = OrderSymbol(); int digits = (int)MarketInfo(symbol, MODE_DIGITS); double point = MarketInfo(symbol, MODE_POINT); double stopLoss; if(OrderType() == OP_BUY) { stopLoss = [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]