ตลาด Forex เป็นตลาดที่เปิดทำการ 24 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ความเป็นตลาดโลกที่ไม่มีศูนย์กลางทำให้การซื้อขายสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องผ่านศูนย์กลางทางการเงินหลักๆ ทั่วโลก การเข้าใจเวลาการซื้อขายและเซสชั่นการเทรดต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเทรด Forex เพื่อวางแผนกลยุทธ์การเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เซสชั่นการเทรดหลัก ตลาด Forex แบ่งออกเป็น 4 เซสชั่นการเทรดหลัก ตามเวลาของศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญของโลก ได้แก่ เซสชั่นซิดนีย์ เซสชั่นโตเกียว เซสชั่นลอนดอน และเซสชั่นนิวยอร์ก โดยทั่วไปแล้วจะรวมเซสชั่นซิดนีย์และโตเกียวเข้าด้วยกันเป็นเซสชั่นเอเชีย ดังนั้นเราจะพูดถึง 3 เซสชั่นหลักดังนี้: 1. เซสชั่นเอเชีย (Asian Session) เวลาเปิด-ปิด: 00:00 – 09:00 UTC (Coordinated Universal Time) ศูนย์กลางหลัก: โตเกียว ฮ่องกง สิงคโปร์ สกุลเงินหลัก: JPY, AUD, NZD ลักษณะเฉพาะ: มักมีความผันผวนต่ำกว่าเซสชั่นอื่นๆ เหมาะสำหรับกลยุทธ์การเทรดแบบ range trading [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
ประเภทของตลาด Forex ตลาด Forex หรือตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันสูงถึง 7.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2022 [1] ตลาด Forex มีหลายประเภท แต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะและเหมาะสมกับวัตถุประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกัน ในบทความนี้ เราจะอธิบายถึงประเภทหลักๆ ของตลาด Forex ได้แก่ Forex Spot Market, Forex Forward Market, Forex Futures Market, Forex Options Market และ Forex CFDs 1. Forex Spot Market Forex Spot Market หรือตลาดซื้อขายเงินตราต่างประเทศทันที เป็นตลาดที่มีการซื้อขายเงินตราต่างประเทศเพื่อส่งมอบทันที โดยทั่วไปจะมีการส่งมอบภายใน 2 วันทำการ ลักษณะสำคัญของ Forex Spot Market: การส่งมอบทันที: การซื้อขายในตลาดนี้จะมีการส่งมอบเงินตราจริงภายใน 2 วันทำการ [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
ผู้เล่นหลักในตลาด Forex ตลาด Forex หรือตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันสูงถึง 6.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2022 [1] ตลาดนี้ประกอบด้วยผู้เล่นหลักหลายกลุ่ม แต่ละกลุ่มมีบทบาทและอิทธิพลต่อตลาดที่แตกต่างกัน ในบทความนี้ เราจะพูดถึงผู้เล่นหลักในตลาด Forex ซึ่งประกอบด้วย ธนาคารกลาง ธนาคารพาณิชย์ Hedge Funds และกองทุนต่างๆ รวมถึงนักลงทุนรายย่อย ธนาคารกลาง (Central Banks) ธนาคารกลางเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีอิทธิพลมากที่สุดในตลาด Forex บทบาทหลักของธนาคารกลางคือการกำหนดและดำเนินนโยบายการเงินของประเทศ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่ออัตราแลกเปลี่ยน บทบาทและอิทธิพลของธนาคารกลาง การกำหนดอัตราดอกเบี้ย: ธนาคารกลางมีอำนาจในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งส่งผลต่อค่าเงินของประเทศนั้นๆ โดยตรง เมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น มักจะดึงดูดเงินทุนจากต่างประเทศ ทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น [2] การแทรกแซงตลาด: ธนาคารกลางสามารถซื้อหรือขายสกุลเงินของตนเองในปริมาณมากเพื่อควบคุมค่าเงิน เรียกว่าการแทรกแซงตลาด (Market Intervention) การประกาศนโยบายและมุมมองทางเศรษฐกิจ: แถลงการณ์และการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจของธนาคารกลางมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและทิศทางของค่าเงิน การบริหารเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ: ธนาคารกลางมีหน้าที่บริหารเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ซึ่งการซื้อขายสกุลเงินต่างๆ เพื่อปรับสมดุลของเงินทุนสำรองก็ส่งผลต่อตลาด Forex ตัวอย่างธนาคารกลางที่มีอิทธิพลในตลาด Forex Federal Reserve [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
Stop Loss และ Take Profit กับการจัดการความเสี่ยง การจัดการความเสี่ยงเป็นหนึ่งในทักษะที่สำคัญที่สุดสำหรับนักเทรดทุกคน ในขณะที่การทำกำไรเป็นเป้าหมายหลัก การรักษาเงินทุนควรเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเสมอ วิธีหลักในการจัดการความเสี่ยงคือการใช้คำสั่ง Stop Loss (SL) และ Take Profit (TP) อย่างมีกลยุทธ์ คำสั่ง SL และ TP ช่วยให้นักเทรดสามารถออกจากตลาดได้อย่างมีวินัยและเป็นกลาง โดยไม่ถูกอิทธิพลจากอารมณ์ในสองขั้วสุดโต่ง ความหมายของ Stop Loss และ Take Profit Stop Loss (SL) คืออะไร Stop Loss หรือที่เรียกว่าคำสั่ง Stop Loss เป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารความเสี่ยงสำหรับนักเทรดในตลาดการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาด Forex คำสั่งนี้ถูกออกแบบมาเพื่อจำกัดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นจากการเทรด โดยการปิดสถานะการซื้อขายโดยอัตโนมัติเมื่อราคาเคลื่อนไหวไปถึงระดับที่กำหนดไว้ล่วงหน้า [1] ในทางปฏิบัติ Stop Loss ทำหน้าที่เสมือนเป็น “สัญญาณเตือนภัย” ที่คอยปกป้องเงินทุนของนักเทรดจากการขาดทุนที่มากเกินไป โดยจะทำงานดังนี้: สำหรับสถานะ Long (ซื้อ): [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
การตั้งค่า Stop Loss (SL) และ Take Profit (TP) ที่เหมาะสมเป็นหนึ่งในทักษะที่สำคัญที่สุดสำหรับนักเทรด การตั้งค่าที่ดีจะช่วยจำกัดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร บทความนี้จะอธิบายวิธีการตั้งค่า SL TP ที่เหมาะสมอย่างละเอียด เข้าใจความสำคัญของ SL และ TP ก่อนที่จะเข้าสู่วิธีการตั้งค่า เราควรเข้าใจความสำคัญของ SL และ TP ก่อน: Stop Loss (SL): ช่วยจำกัดการขาดทุนโดยปิดสถานะอัตโนมัติเมื่อราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงข้ามกับที่คาดการณ์ Take Profit (TP): ช่วยล็อคกำไรโดยปิดสถานะอัตโนมัติเมื่อราคาเคลื่อนที่ไปถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้ การตั้งค่าที่เหมาะสมจะช่วยให้นักเทรดสามารถจัดการความเสี่ยงและผลตอบแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ [1] ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการตั้งค่า SL TP ความผันผวนของตลาด: ตลาดที่มีความผันผวนสูงอาจต้องการ SL ที่กว้างขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกปิดสถานะก่อนเวลา Time frame ที่ใช้เทรด: การเทรดใน time frame ที่ยาวขึ้นมักต้องการ SL และ TP ที่กว้างขึ้น ลักษณะของสินทรัพย์: สินทรัพย์แต่ละประเภทมีลักษณะการเคลื่อนไหวที่แตกต่างกัน กลยุทธ์การเทรด: [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
Free Margin คืออะไร Free Margin เป็นอีกหนึ่งแนวคิดสำคัญที่นักเทรด Forex จำเป็นต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ เพราะมันเกี่ยวข้องโดยตรงกับความสามารถในการเปิดตำแหน่งใหม่และการจัดการความเสี่ยงในบัญชีเทรดของคุณ ความหมายของ Free Margin Free Margin คือจำนวนเงินในบัญชีเทรดของคุณที่สามารถใช้เปิดตำแหน่งใหม่ได้ หรืออีกนัยหนึ่งคือ “เงินที่ว่าง” ในบัญชีของคุณ [1] สูตรคำนวณ Free Margin คือ: Free Margin = Equity – Used Margin โดย: Equity คือมูลค่ารวมของบัญชีเทรด รวมกำไรหรือขาดทุนที่ยังไม่ได้รับรู้จากตำแหน่งที่เปิดอยู่ Used Margin คือจำนวนเงินที่ถูกใช้เป็นหลักประกันสำหรับตำแหน่งที่เปิดอยู่ ตัวอย่าง Free Margin ใน MT4 ใน MetaTrader 4 (MT4) คุณสามารถดู Free Margin ของบัญชีได้ในหน้าต่าง “Terminal” ภายใต้แท็บ “Trade” ดังภาพตัวอย่าง: Balance: [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
Equity คืออะไร Equity คือมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ เป็นอีกหนึ่งตัวเลขสำคัญที่นักเทรด Forex ต้องเข้าใจ เพราะมันแสดงถึงมูลค่าจริงของบัญชีเทรดในขณะนั้น รวมถึงกำไรหรือขาดทุนที่ยังไม่ได้รับรู้จากตำแหน่งที่เปิดอยู่ ความหมายของ Equity Equity คือมูลค่ารวมของบัญชีเทรดของคุณ ซึ่งประกอบด้วย Balance (ยอดคงเหลือในบัญชี) บวกกับกำไรหรือขาดทุนที่ยังไม่ได้รับรู้จากตำแหน่งที่เปิดอยู่ในปัจจุบัน [1] สูตรคำนวณ Equity คือ: Equity = Balance + Floating Profits – Floating Losses โดย: Balance คือยอดเงินในบัญชีที่ไม่รวมกำไรหรือขาดทุนจากตำแหน่งที่เปิดอยู่ Floating Profits คือกำไรที่ยังไม่ได้รับรู้จากตำแหน่งที่เปิดอยู่และมีกำไร Floating Losses คือขาดทุนที่ยังไม่ได้รับรู้จากตำแหน่งที่เปิดอยู่และขาดทุน ตัวอย่าง Equity ใน MT4 ใน MetaTrader 4 (MT4) คุณสามารถดู Equity ของบัญชีได้ในหน้าต่าง “Terminal” ภายใต้แท็บ “Trade” ดังภาพตัวอย่าง: Balance: [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
Balance คืออะไร Balance หรือยอดคงเหลือในบัญชี เป็นหนึ่งในตัวเลขสำคัญที่นักเทรด Forex ต้องทำความเข้าใจ เพราะมันเป็นพื้นฐานในการคำนวณค่าต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการความเสี่ยงและการเทรด ความหมายของ Balance Balance คือจำนวนเงินทั้งหมดในบัญชีเทรดของคุณ โดยไม่รวมกำไรหรือขาดทุนที่ยังไม่ได้รับรู้จากตำแหน่งที่เปิดอยู่ในปัจจุบัน กล่าวอีกนัยหนึ่ง Balance คือเงินสดที่คุณมีในบัญชี [1] Balance จะเปลี่ยนแปลงในกรณีต่อไปนี้: คุณฝากหรือถอนเงินจากบัญชี คุณปิดตำแหน่งการเทรดที่มีกำไรหรือขาดทุน คุณได้รับหรือจ่ายค่า Swap จากการถือตำแหน่งข้ามคืน ตัวอย่าง Balance ใน MT4 ใน MetaTrader 4 (MT4) คุณสามารถดู Balance ของบัญชีได้ในหน้าต่าง “Terminal” ภายใต้แท็บ “Trade” ดังภาพตัวอย่าง: Balance: $10,000.00 Equity: $10,050.00 Margin: $100.00 Free Margin: $9,950.00 Margin Level: 10050.00% ในตัวอย่างนี้ Balance คือ [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
ในโลกของการเทรด Forex การเข้าใจเรื่องขนาดของ Lot เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักเทรดทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “Mini Lot” ซึ่งเป็นทางเลือกที่ยอดนิยมสำหรับนักเทรดที่ต้องการควบคุมความเสี่ยงและเพิ่มความยืดหยุ่นในการเทรด บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับ Mini Lot ความสำคัญ วิธีการคำนวณ และการตั้งค่าในการเทรด เพื่อให้คุณสามารถใช้ความรู้นี้ในการวางแผนและดำเนินการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ Mini Lot คืออะไร? Mini Lot เป็นหน่วยการซื้อขายในตลาด Forex ที่มีขนาดเท่ากับ 10,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก (Base Currency) ในคู่สกุลเงินที่เทรด ซึ่งเท่ากับ 1/10 ของ Standard Lot ตัวอย่างเช่น ในคู่สกุลเงิน EUR/USD หนึ่ง Mini Lot จะเท่ากับ 10,000 EUR การใช้ Mini Lot ในการเทรดมีเหตุผลหลายประการ: การควบคุมความเสี่ยงที่ดีขึ้น: Mini Lot ช่วยให้นักเทรดสามารถควบคุมขนาดการเทรดและความเสี่ยงได้ละเอียดมากขึ้น ความยืดหยุ่นในการจัดการพอร์ตโฟลิโอ: สามารถกระจายความเสี่ยงได้ดีขึ้นโดยการแบ่งเงินลงทุนเป็นหลายๆ การเทรดขนาดเล็ก เหมาะสำหรับนักเทรดที่มีเงินทุนจำกัด: [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
ในโลกของการเทรด Forex การเข้าใจเรื่องขนาดของ Lot เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักเทรดทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “Micro Lot” ซึ่งเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับนักเทรดมือใหม่หรือผู้ที่มีเงินทุนจำกัด บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับ Micro Lot ความสำคัญ วิธีการคำนวณ และการตั้งค่าในการเทรด เพื่อให้คุณสามารถใช้ความรู้นี้ในการวางแผนและดำเนินการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ Micro Lot คืออะไร? Micro Lot เป็นหน่วยการซื้อขายในตลาด Forex ที่มีขนาดเท่ากับ 1,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก (Base Currency) ในคู่สกุลเงินที่เทรด ซึ่งเท่ากับ 1/100 ของ Standard Lot หรือ 1/10 ของ Mini Lot ตัวอย่างเช่น ในคู่สกุลเงิน EUR/USD หนึ่ง Micro Lot จะเท่ากับ 1,000 EUR การใช้ Micro Lot ในการเทรดมีเหตุผลหลายประการ: การควบคุมความเสี่ยงที่ละเอียดมากขึ้น: Micro Lot [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]