Falling Window คืออะไร วิธีใช้วิเคราะห์

36 Falling Window

Falling Window คืออะไร? Falling Window หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Downside Gap” เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้: เกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาลง (downtrend) ประกอบด้วยแท่งเทียนสองแท่งติดกัน ระหว่างสองแท่งเทียนมีช่องว่าง (gap) โดยราคาสูงสุดของแท่งที่สองต่ำกว่าราคาต่ำสุดของแท่งแรก Falling Window ถูกมองว่าเป็นสัญญาณของการดำเนินต่อของแนวโน้มขาลง (bearish continuation pattern) ซึ่งบ่งชี้ว่าแรงขายยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง วิธีใช้ Falling Window ในการวิเคราะห์ พิจารณาบริบท: Falling Window ต้องเกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาลงที่ชัดเจน และมีความสำคัญมากขึ้นเมื่อเกิดขึ้นหลังจากการพักตัวของราคาระยะสั้น ตรวจสอบขนาดของ gap: ยิ่ง gap มีขนาดใหญ่ ยิ่งแสดงถึงแรงขายที่รุนแรงมากขึ้น วิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย: ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นในแท่งที่สองอาจเป็นสัญญาณยืนยันที่แข็งแกร่งของการดำเนินต่อของแนวโน้มขาลง สังเกตแท่งเทียนที่ตามมา: แท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลัง Falling Window มีความสำคัญในการยืนยันแนวโน้มขาลง ใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น: เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) หรือดัชนีกำลังสัมพัทธ์ (RSI) เพื่อยืนยันสัญญาณ ข้อควรระวังในการใช้ Falling Window [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Evening Star คืออะไร วิธีใช้วิเคราะห์

35 Evening Star

Evening Star คืออะไร? Evening Star เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้: เกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาขึ้น (uptrend) ประกอบด้วยแท่งเทียนสามแท่ง แท่งแรกเป็นแท่งเทียนสีขาว (bullish) ขนาดใหญ่ แท่งที่สองเป็นแท่งเทียนขนาดเล็ก (สีขาวหรือดำ) ที่มี gap ขึ้นจากแท่งแรก แท่งที่สามเป็นแท่งเทียนสีดำ (bearish) ที่ปิดลึกเข้าไปในตัวแท่งเทียนของแท่งแรก Evening Star ถูกมองว่าเป็นสัญญาณของการกลับตัวของแนวโน้มขาขึ้นเป็นขาลง (bearish reversal pattern) ที่มีความน่าเชื่อถือสูง โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นที่จุดสูงสุดของแนวโน้มขาขึ้น วิธีใช้ Evening Star ในการวิเคราะห์ พิจารณาบริบท: Evening Star ต้องเกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน และมีความสำคัญมากขึ้นเมื่อเกิดขึ้นใกล้กับระดับแนวต้านหรือจุดสูงสุดของแนวโน้ม ตรวจสอบลักษณะของแท่งเทียน: แท่งแรกต้องเป็นแท่งสีขาวขนาดใหญ่ แท่งที่สองต้องเป็นแท่งขนาดเล็กที่มี gap ขึ้นจากแท่งแรก แท่งที่สามต้องเป็นแท่งสีดำที่ปิดลึกเข้าไปในตัวแท่งเทียนของแท่งแรก วิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย: ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นในแท่งที่สามอาจเป็นสัญญาณยืนยันที่แข็งแกร่ง สังเกตแท่งเทียนที่ตามมา: แท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลัง Evening Star มีความสำคัญในการยืนยันการกลับตัว ใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น: เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Evening Doji Star คืออะไร วิธีใช้วิเคราะห์

34 Evening Doji Star

Evening Doji Star คืออะไร? Evening Doji Star เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้: เกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาขึ้น (uptrend) ประกอบด้วยแท่งเทียนสามแท่ง แท่งแรกเป็นแท่งเทียนสีขาว (bullish) ขนาดใหญ่ แท่งที่สองเป็น Doji (แท่งเทียนที่ราคาเปิดและปิดใกล้เคียงกันมาก) ที่มี gap ขึ้นจากแท่งแรก แท่งที่สามเป็นแท่งเทียนสีดำ (bearish) ที่ปิดลึกเข้าไปในตัวแท่งเทียนของแท่งแรก Evening Doji Star ถูกมองว่าเป็นสัญญาณของการกลับตัวของแนวโน้มขาขึ้นเป็นขาลง (bearish reversal pattern) ที่มีความน่าเชื่อถือสูง โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นที่จุดสูงสุดของแนวโน้มขาขึ้น วิธีใช้ Evening Doji Star ในการวิเคราะห์ พิจารณาบริบท: Evening Doji Star ต้องเกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน และมีความสำคัญมากขึ้นเมื่อเกิดขึ้นใกล้กับระดับแนวต้านหรือจุดสูงสุดของแนวโน้ม ตรวจสอบลักษณะของแท่งเทียน: แท่งแรกต้องเป็นแท่งสีขาวขนาดใหญ่ แท่งที่สองต้องเป็น Doji ที่มี gap ขึ้นจากแท่งแรก แท่งที่สามต้องเป็นแท่งสีดำที่ปิดลึกเข้าไปในตัวแท่งเทียนของแท่งแรก วิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย: ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นในแท่งที่สามอาจเป็นสัญญาณยืนยันที่แข็งแกร่ง สังเกตแท่งเทียนที่ตามมา: แท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลัง [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Engulfing Bearish Line คืออะไร วิธีใช้วิเคราะห์

32 Engulfing Bearish Line

Engulfing Bearish Line คืออะไร? Engulfing Bearish Line หรือ Bearish Engulfing Pattern เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้: เกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาขึ้น (uptrend) ประกอบด้วยแท่งเทียนสองแท่ง แท่งแรกเป็นแท่งเทียนสีขาว (bullish) ขนาดเล็ก แท่งที่สองเป็นแท่งเทียนสีดำ (bearish) ขนาดใหญ่กว่า โดยตัวแท่งเทียน (real body) ครอบคลุม (engulf) ตัวแท่งเทียนของแท่งแรกทั้งหมด Engulfing Bearish Line ถูกมองว่าเป็นสัญญาณของการกลับตัวของแนวโน้มขาขึ้นเป็นขาลง (bearish reversal pattern) ที่มีความน่าเชื่อถือสูง วิธีใช้ Engulfing Bearish Line ในการวิเคราะห์ พิจารณาบริบท: Engulfing Bearish Line ต้องเกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน และมีความสำคัญมากขึ้นเมื่อเกิดขึ้นใกล้กับระดับแนวต้านหรือจุดสูงสุดของแนวโน้ม ตรวจสอบลักษณะของแท่งเทียน: แท่งแรกต้องเป็นแท่งสีขาวขนาดเล็ก แท่งที่สองต้องเป็นแท่งสีดำขนาดใหญ่กว่า โดยต้องครอบคลุมตัวแท่งเทียนของแท่งแรกทั้งหมด วิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย: ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นในแท่งที่สองอาจเป็นสัญญาณยืนยันที่แข็งแกร่ง สังเกตแท่งเทียนที่ตามมา: แท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลัง Engulfing [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Bullish Harami คืออะไร วิธีใช้วิเคราะห์

29 Bullish Harami

Bullish Harami คืออะไร? Bullish Harami เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้: เกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาลง (downtrend) ประกอบด้วยแท่งเทียนสองแท่ง แท่งแรกเป็นแท่งเทียนสีดำ (bearish) ขนาดใหญ่ แท่งที่สองเป็นแท่งเทียนสีขาว (bullish) ขนาดเล็กกว่า โดยตัวแท่งเทียน (real body) อยู่ภายในตัวแท่งเทียนของแท่งแรก คำว่า “Harami” มาจากภาษาญี่ปุ่น แปลว่า “การตั้งครรภ์” หรือ “ท้อง” โดยแท่งแรกถูกมองว่าเป็น “แม่” ที่มีตัวใหญ่ล้อมรอบแท่งที่สองที่เล็กกว่า ทำให้ดูเหมือนแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ Bullish Harami ถูกมองว่าเป็นสัญญาณของการกลับตัวของแนวโน้มขาลงเป็นขาขึ้น (bullish reversal pattern) วิธีใช้ Bullish Harami ในการวิเคราะห์ พิจารณาบริบท: Bullish Harami ต้องเกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาลงที่ชัดเจน และมีความสำคัญมากขึ้นเมื่อเกิดขึ้นใกล้กับระดับแนวรับหรือเส้นแนวโน้ม ตรวจสอบลักษณะของแท่งเทียน: แท่งแรกต้องเป็นแท่งสีดำขนาดใหญ่ แสดงถึงการดำเนินต่อของแนวโน้มขาลง แท่งที่สองต้องเป็นแท่งสีขาวที่เล็กกว่า โดยราคาเปิดสูงกว่าราคาปิดของแท่งแรก แต่ตัวแท่งเทียนยังคงอยู่ภายในตัวแท่งเทียนของแท่งแรก สังเกตแท่งเทียนที่ตามมา: แท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลัง Bullish Harami [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Bullish 3-Method Formation คืออะไร วิธีใช้วิเคราะห์

28 Bullish 3 Method Formation

forexduckFOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง www.forexduck.com

Bearish 3-Method Formation คืออะไร วิธีใช้วิเคราะห์

27 Bearish 3 Method Formation

Bearish 3-Method Formation คืออะไร? Bearish 3-Method Formation หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Falling Three Method” เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้: เกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาลง (downtrend) ประกอบด้วยแท่งเทียนห้าแท่ง แท่งแรกเป็นแท่งเทียนสีดำ (bearish) ขนาดใหญ่ ตามด้วยสามแท่งเทียนขนาดเล็ก (โดยทั่วไปมักเป็นสีขาว) ที่มีราคาอยู่ภายในช่วงราคาของแท่งแรก แท่งสุดท้ายเป็นแท่งเทียนสีดำขนาดใหญ่ที่ปิดต่ำกว่าแท่งแรก Bearish 3-Method Formation ถูกมองว่าเป็นรูปแบบการยืนยันแนวโน้มขาลง (bearish continuation pattern) ซึ่งบ่งชี้ว่าแนวโน้มขาลงที่มีอยู่จะดำเนินต่อไป วิธีใช้ Bearish 3-Method Formation ในการวิเคราะห์ พิจารณาบริบท: Bearish 3-Method Formation ต้องเกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาลงที่ชัดเจน ตรวจสอบลักษณะของแท่งเทียน: แท่งแรกและแท่งสุดท้ายต้องเป็นแท่งสีดำขนาดใหญ่ สามแท่งกลางควรมีขนาดเล็กกว่าและอยู่ภายในช่วงราคาของแท่งแรก แท่งสุดท้ายต้องปิดต่ำกว่าแท่งแรก สังเกตปริมาณการซื้อขาย: ปริมาณการซื้อขายควรลดลงในช่วงสามแท่งกลาง และเพิ่มขึ้นในแท่งสุดท้าย วิเคราะห์ความสัมพันธ์กับแนวรับ: หากแท่งสุดท้ายทะลุแนวรับสำคัญ อาจเป็นการยืนยันการดำเนินต่อของแนวโน้มขาลงที่แข็งแกร่ง ใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น: เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Bearish Harami Cross คืออะไร วิธีใช้วิเคราะห์

26 Bearish Harami Cross

Bearish Harami Cross คืออะไร? Bearish Harami Cross เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้: เกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาขึ้น (uptrend) ประกอบด้วยแท่งเทียนสองแท่ง แท่งแรกเป็นแท่งเทียนสีขาว (bullish) ขนาดใหญ่ แท่งที่สองเป็นแท่งเทียนรูปแบบ Doji (ราคาเปิดและปิดใกล้เคียงกันมาก) โดยตัวแท่ง Doji อยู่ภายในตัวแท่งเทียนของแท่งแรก Bearish Harami Cross เป็นรูปแบบพิเศษของ Bearish Harami โดยแท่งที่สองเป็น Doji แทนที่จะเป็นแท่งเทียนสีดำปกติ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงความไม่แน่นอนในตลาดที่มากขึ้น Bearish Harami Cross ถูกมองว่าเป็นสัญญาณของการกลับตัวของแนวโน้มขาขึ้นเป็นขาลง (bearish reversal pattern) ที่อาจมีความน่าเชื่อถือมากกว่า Bearish Harami ปกติ วิธีใช้ Bearish Harami Cross ในการวิเคราะห์ พิจารณาบริบท: Bearish Harami Cross ต้องเกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน และมีความสำคัญมากขึ้นเมื่อเกิดขึ้นใกล้กับระดับแนวต้านหรือเส้นแนวโน้ม ตรวจสอบลักษณะของแท่งเทียน: แท่งแรกต้องเป็นแท่งสีขาวขนาดใหญ่ แสดงถึงการดำเนินต่อของแนวโน้มขาขึ้น [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Bearish Harami คืออะไร วิธีใช้วิเคราะห์

25 Bearish Harami

Bearish Harami คืออะไร? Bearish Harami เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้: เกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาขึ้น (uptrend) ประกอบด้วยแท่งเทียนสองแท่ง แท่งแรกเป็นแท่งเทียนสีขาว (bullish) ขนาดใหญ่ แท่งที่สองเป็นแท่งเทียนสีดำ (bearish) ขนาดเล็กกว่า โดยตัวแท่งเทียน (real body) อยู่ภายในตัวแท่งเทียนของแท่งแรก คำว่า “Harami” มาจากภาษาญี่ปุ่น แปลว่า “การตั้งครรภ์” หรือ “ท้อง” โดยแท่งแรกถูกมองว่าเป็น “แม่” ที่มีตัวใหญ่ล้อมรอบแท่งที่สองที่เล็กกว่า ทำให้ดูเหมือนแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ Bearish Harami ถูกมองว่าเป็นสัญญาณของการกลับตัวของแนวโน้มขาขึ้นเป็นขาลง (bearish reversal pattern) วิธีใช้ Bearish Harami ในการวิเคราะห์ พิจารณาบริบท: Bearish Harami ต้องเกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน และมีความสำคัญมากขึ้นเมื่อเกิดขึ้นใกล้กับระดับแนวต้านหรือเส้นแนวโน้ม ตรวจสอบลักษณะของแท่งเทียน: แท่งแรกต้องเป็นแท่งสีขาวขนาดใหญ่ แสดงถึงการดำเนินต่อของแนวโน้มขาขึ้น แท่งที่สองต้องเป็นแท่งสีดำที่เล็กกว่า โดยราคาเปิดต่ำกว่าราคาปิดของแท่งแรก แต่ตัวแท่งเทียนยังคงอยู่ภายในตัวแท่งเทียนของแท่งแรก สังเกตแท่งเทียนที่ตามมา: แท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลัง Bearish Harami [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Shaven Head คืออะไร วิธีใช้วิเคราะห์

23 Shaven Head

Shaven Head คืออะไร? Shaven Head เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้: ไม่มีเงาบน (upper shadow) หรือมีเงาบนที่สั้นมาก มีตัวแท่งเทียน (real body) ที่ชัดเจน อาจมีหรือไม่มีเงาล่าง (lower shadow) สามารถเป็นได้ทั้งแท่งเทียนสีขาว (bullish) หรือสีดำ (bearish) Shaven Head มักถูกมองว่าเป็นสัญญาณของความเข้มแข็งในทิศทางของแท่งเทียนนั้น โดยแท่งเทียนสีขาวแสดงถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่ง ในขณะที่แท่งเทียนสีดำแสดงถึงแรงขายที่รุนแรง วิธีใช้ Shaven Head ในการวิเคราะห์ พิจารณาบริบท: Shaven Head มีความสำคัญมากขึ้นเมื่อเกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มที่ชัดเจน หรือเมื่อราคาอยู่ใกล้ระดับแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ ตรวจสอบปริมาณการซื้อขาย: หาก Shaven Head เกิดขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่สูงผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มที่แข็งแกร่ง สังเกตแท่งเทียนที่ตามมา: แท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลัง Shaven Head มักมีความสำคัญในการยืนยันแนวโน้มหรือการกลับตัว วิเคราะห์ขนาดของแท่งเทียน: ยิ่งแท่งเทียนมีขนาดใหญ่ ยิ่งแสดงถึงความเข้มแข็งของแนวโน้มนั้น ใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น: เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) หรือดัชนีกำลังสัมพัทธ์ [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]