ประวัติ พิชัย จาวลา พิชัย จาวลา เป็นนักลงทุนเจาะด้านอสังหาริมทรัพย์ นักเขียนผู้คิดค้นทฤษฎีผลประโยชน์ ผลงานเขียนมากมายกว่า 10 เล่ม และเจ้าของธุรกิจโรงแรม B2 ถือเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยเป็นอย่างมาก ผู้ร่วมก่อตั้งและพัฒนาธุรกิจแบรนด์โรงแรมคุณภาพดีราคาประหยัดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 43 แห่งด้วยเงินของธนาคาร ขายคอนโดมิเนียม โดยใช้เวลาปิดการขายเพียง 2 เดือนเท่านั้น ผู้คิดค้นและเผยแพร่ทฤษฎีผลประโยชน์ ผ่านผลงานเขียนโด่งดังเศรษฐศาสตร์แห่งความจริง ร่วมก่อตั้งมูลนิธิจาวลา แชริตี้ โดยลูกค้าโรงแรม B2 มีส่วนร่วมทำบุญห้องละ 1.50 บาท และบริษัทสมทบ 1.50 บาท ปัจจุบันเป็นนักลงทุนและ Business Development ของโรงแรม B2 ความเชี่ยวชาญ: อสังหาริมทรัพย์ SkillLane: คุณพิชัยสอนลงทุน บทสัมภาษณ์: Bitcoin บทสัมภาษณ์: หุ้น Facebook : Pichai Chawla ประวัติเบื้องต้น คุณพิชัย จาวลา ประวัติส่วนตัว [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
Copy Trade คืออะไร Copy Trade forex เป็นรูปแบบการซื้อขายที่เทรดเดอร์มือใหม่คัดลอกการเทรดของเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จ บัญชีของผู้เริ่มต้นจะดำเนินการซื้อขายโดยอัตโนมัติโดยผู้ซื้อขายที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งอาจทำให้ผู้เริ่มต้นได้รับผลกำไรจากประสบการณ์และกลยุทธ์ของผู้ซื้อขายที่ประสบความสำเร็จ การปล่อยสัญญาณจะมี คนสองกลุ่มก็คือ Master หรือ Leader และ Follower คน ก็อปปี้สัญญาณ ค่าใช้จ่ายในการทำ Copy Trade คนที่ปล่อยสัญญาณให้คนอื่นก็อปปี้ ไม่ต้องทำอะไร แค่สมัครเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ โดยเลือกบัญชีที่สามารถ Copy Trade ได้ ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ คนที่เป็น Master จะได้ผลตอบแทนเมื่อทำกำไรได้ โดยจะคิดเป็นสัดส่วนของเงินลงทุน ตัวอย่างอาจจะมีตั้งแต่ 10 % – 30 % ของกำไรที่ Master ทำได้ สำหรับคนที่ตามสัญญาณ Copy Trade คนอื่น ก็จะไม่เสียเงินอะไรเช่นกัน เสียแค่กำไรที่ต้องแบ่งให้ Master ตามที่ Master เป็นคนกำหนด โดยที่ master [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
ตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ ตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ forex ผ่านตารางตรวจสอบ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการเทรด หมายเหตุ: ปัจจุบันเรามีการอัพเดทจำนวนโบรกเกอร์หลายโบรกเกอร์นอกเหนือจากตาราง สามารถใช้หน้าคนหาของ Forexduck ตรวจสอบได้เลย มีหลายโบรกเกอร์ที่เรามีข้อมูลแต่ไม่ขึ้นในตาราง นั่นคือ มีความเสี่ยงสูงที่จะหลอกลวง เพื่อเพิ่มความรู้เกี่ยวกับโบรกเกอร์อ่านข้อมูลเกี่ยวกับโบรกเกอร์เพิ่มเติมได้ที่นี่ forexduckFOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง www.forexduck.com
Pin Bar คือรูปแบบกราฟแท่งเทียน รูปแบบหนึ่งที่ใช้ในการวิเคราะห์ ความน่าจะเป็นของการเคลื่อนไหวของกราฟในตลาด ฟอเร็กซ์ ตลาดหุ้น ตลาด Crypto ซึ่งเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมอย่างสูง Pin Bar เป็นศาสตร์การวิเคราะห์รูปแบบการกลับตัวที่เรียกว่า Price Action ซึ่งเผยแพร่อยู่ในต่างประเทศ ก่อนที่จะเทรดเดอร์ไทยจะรับเข้ามาใช้และได้รับความนิยมรูปแบบหนึ่ง ในบทความนี้จะมาทำความรู้จักกับ Pin Bar ว่ามันมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ทำหน้าที่ ใช้งานและวิเคราะห์รูปแบบกลับตัวอย่างไร Pin Bar คืออะไร Pin Bar คือ รูปแบบกราฟแท่งเทียน Candlestick ซึ่งเป็นศาสตร์การวิเคราะห์กราฟราคาย้อนหลังแบบญี่ปุ่น รูปแบบของ Pin Bar ถือเป็นรูปแบบของศาสตร์วิเคราะห์ทางเทคนิคที่เรียกว่า Price Action ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ที่ไม่ได้ใช้ Indicator ในการวิเคราะห์ราคา Pin Bar คือ รูปแบบของแท่งเทียนที่ราคาตัดสินใจไม่ได้ จะเกิดตามมาพร้อมกับการมีจุดกลับตัวเกินขึ้น Pin Bar เกิดจุดกลับตัวขึ้นได้ทั้งขาขึ้นและขาลง Pin Bar จุดกลับตัวขาลง มักจะเกิดขึ้นที่จุดก้นของราคา Pin Bar [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
MQL5 คืออะไร MQL5 (MetaQuotes Language 5) เป็นภาษาโปรแกรมมิ่งที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการพัฒนากลยุทธ์การเทรด, สคริปต์, และอินดิเคเตอร์ในแพลตฟอร์ม MetaTrader 5 (MT5) ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการเทรดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก MetaQuotes, 2021 MQL5 มีความคล้ายคลึงกับภาษา C++ ทำให้นักพัฒนาที่มีประสบการณ์ด้าน C++ สามารถเรียนรู้และใช้งานได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์การเขียนโปรแกรมมาก่อนก็สามารถเริ่มต้นได้ เนื่องจากมีทรัพยากรการเรียนรู้มากมายที่สามารถเข้าถึงได้ MQL5 Community, 2023 ประวัติความเป็นมาของ MQL5 MQL5 ถูกพัฒนาโดย MetaQuotes Software Corp. ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่มีสำนักงานใหญ่ในไซปรัส โดยมีจุดประสงค์เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของนักเทรดและนักพัฒนาในโลกของการเทรดออนไลน์ MetaQuotes, 2023 MQL5 ถูกแนะนำครั้งแรกพร้อมกับ MetaTrader 5 ในปี 2010 หลังจากความสำเร็จอย่างมากของ MetaTrader 4 แพลตฟอร์มใหม่นี้มาพร้อมกับความสามารถในการเทรดในหลายตลาด เช่น Forex, CFDs, และตลาดหุ้น Forex Factory, 2010 [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
Advance Block คืออะไร Advance Block เป็นรูปแบบแท่งเทียน (candlestick pattern) ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มักปรากฏในช่วงแนวโน้มขาขึ้น (uptrend) และอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มหรือการสิ้นสุดของแนวโน้มขาขึ้น (Edwards & Magee, 2007). รูปแบบนี้ประกอบด้วยแท่งเทียนบวก (bullish candlesticks) สามแท่งติดต่อกัน โดยมีลักษณะดังนี้: แท่งแรก: เป็นแท่งเทียนบวกขนาดใหญ่ แสดงถึงความมั่นใจของผู้ซื้อ แท่งที่สอง: เป็นแท่งเทียนบวกที่มีขนาดเล็กกว่าแท่งแรก แต่ยังคงมีราคาปิดที่สูงกว่า แท่งที่สาม: เป็นแท่งเทียนบวกที่มีขนาดเล็กลงอีก และ/หรือมีเงา (shadow) ที่ยาวในทิศทางขาขึ้น ความสำคัญของ Advance Block Advance Block มีความสำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเนื่องจาก: เป็นสัญญาณเตือนถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มในตลาดขาขึ้น แสดงถึงการลดลงของแรงซื้อและความไม่มั่นใจของผู้ซื้อ อาจบ่งชี้ถึงโอกาสในการขายหรือปิดสถานะซื้อ สถิติและความแม่นยำ จากข้อมูลในหนังสือ Encyclopedia of Candlestick Charts โดย Thomas Bulkowski (2021): ในตลาดขาขึ้น (bull market): มีความแม่นยำ 64% [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
Engulfing Bearish และ Bullish คืออะไร Engulfing Bearish และ Bullish เป็นรูปแบบแท่งเทียน (candlestick patterns) ที่สำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิคของตลาดการเงิน รูปแบบเหล่านี้ประกอบด้วยสองแท่งเทียน โดยแท่งที่สองมีขนาดใหญ่กว่าและ “กลืน” หรือครอบคลุมแท่งแรกไป (Nison, 2001) Engulfing Bearish แท่งแรก: เป็นแท่งเทียนขาขึ้น (bullish) สีเขียวหรือขาว แท่งที่สอง: เป็นแท่งเทียนขาลง (bearish) สีแดงหรือดำ ที่มีขนาดใหญ่กว่าและครอบคลุมแท่งแรก เป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแนวโน้มจากขาขึ้นเป็นขาลง Engulfing Bullish แท่งแรก: เป็นแท่งเทียนขาลง (bearish) สีแดงหรือดำ แท่งที่สอง: เป็นแท่งเทียนขาขึ้น (bullish) สีเขียวหรือขาว ที่มีขนาดใหญ่กว่าและครอบคลุมแท่งแรก เป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแนวโน้มจากขาลงเป็นขาขึ้น ความสำคัญของ Engulfing Patterns Engulfing patterns มีความสำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเนื่องจาก: เป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงในอำนาจระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย มีความน่าเชื่อถือสูงเมื่อเกิดขึ้นในบริบทที่เหมาะสม สถิติและความแม่นยำ จากข้อมูลในหนังสือ Encyclopedia [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
Elder-ray Index Indicator คืออะไร Elder-ray Index Indicator เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่พัฒนาโดย Dr. Alexander Elder ในปี 1989 เพื่อช่วยนักลงทุนและเทรดเดอร์ในการประเมินแรงซื้อและแรงขายในตลาดการเงิน (Elder, 2014). Indicator นี้ประกอบด้วยสองส่วนหลัก คือ “Bulls Power” และ “Bears Power” ซึ่งคำนวณจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล (EMA) และราคาสูงสุดและต่ำสุดของหลักทรัพย์ สูตรคำนวณ Elder-ray Index Indicator สูตรคำนวณของ Elder-ray Index Indicator ประกอบด้วย: Exponential Moving Average (EMA): EMA = (ราคาปิดวันนี้ – EMA เมื่อวาน) * (2 / (n + 1)) + EMA เมื่อวาน [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
Downside Tasuki Gap คืออะไร Downside Tasuki Gap เป็นรูปแบบแท่งเทียน (candlestick pattern) ที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคของตลาดหุ้นและตลาดการเงินอื่นๆ รูปแบบนี้มักปรากฏในช่วงที่ตลาดอยู่ในสถานะขาลง (downtrend) และทำหน้าที่ยืนยันว่าแนวโน้มขาลงนั้นจะยังคงดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่ง (Chen, 2023) Downside Tasuki Gap ประกอบด้วยแท่งเทียนสามแท่ง ดังนี้: แท่งเทียนแรก: เป็นแท่งเทียนสีดำหรือแดง (bearish candle) ยืนยันว่าตลาดยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลง แท่งเทียนที่สอง: เป็นแท่งเทียน bearish อีกแท่ง แต่มี gap (ช่องว่าง) ระหว่างราคาปิดของแท่งแรกและราคาเปิดของแท่งที่สอง แท่งเทียนที่สาม: เป็นแท่งเทียนสีขาวหรือเขียว (bullish candle) ที่เปิดในช่วงราคาของแท่งที่สองและปิดเข้าใกล้หรือถึงราคาปิดของแท่งแรก โดยไม่สามารถปิด gap ที่เกิดขึ้นได้ ความสำคัญของ Downside Tasuki Gap Downside Tasuki Gap มีความสำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเนื่องจาก: ยืนยันแนวโน้มขาลง: รูปแบบนี้ช่วยนักลงทุนยืนยันว่าแนวโน้มขาลงยังคงดำเนินต่อไป สัญญาณการขาย: เป็นสัญญาณที่นักลงทุนอาจใช้ในการตัดสินใจขายหรือเปิดสถานะขายชอร์ต การจัดการความเสี่ยง: [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]
Downside Gap Three Methods คืออะไร Downside Gap Three Methods เป็นรูปแบบแท่งเทียน (candlestick pattern) ที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคของตลาดการเงิน รูปแบบนี้ปรากฏในแนวโน้มขาลง (downtrend) และถือเป็นสัญญาณที่ยืนยันว่าแนวโน้มลงนั้นจะยังคงดำเนินต่อไป (Chen, 2023) แม้ว่าจะเป็นรูปแบบที่พบได้ไม่บ่อยนัก แต่ก็มีความสำคัญสำหรับนักลงทุนและนักวิเคราะห์ทางเทคนิค ลักษณะของ Downside Gap Three Methods รูปแบบ Downside Gap Three Methods ประกอบด้วยแท่งเทียนสามแท่ง ดังนี้: แท่งเทียนแรก: เป็นแท่งเทียนสีดำ (หรือแดง) ยาว ปรากฏในขณะที่ตลาดอยู่ในแนวโน้มขาลง แท่งเทียนที่สอง: เป็นแท่งเทียนสีดำ (หรือแดง) อีกแท่ง ที่มีช่องว่าง (gap) ห่างลงมาจากแท่งเทียนแรก แท่งเทียนที่สาม: เป็นแท่งเทียนสีขาว (หรือเขียว) ที่เปิดภายในร่างกายของแท่งเทียนที่สอง และปิดภายในร่างกายของแท่งเทียนแรก ทำให้ “เติม” ช่องว่างระหว่างสองแท่งแรก (Bulkowski, 2021) ความสำคัญของ [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]