เส้น MA กับ EMA และ SMA แตกต่างกันอย่างไร อ่านรายละเอียด

1.เส้น Moving Average (MA) คืออะไร

เส้น Moving Average (MA) คืออะไร “Moving Average (MA)” หรือ “ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่” คือ เครื่องมือในการวิเคราะห์เชิงเทคนิคที่นิยมในตลาดการเงิน โดยเฉพาะในตลาดหุ้นและตลาดฟอเร็กซ์ เพื่อช่วยแสดงแนวโน้มของราคาในช่วงเวลาที่ผ่านมา ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ถูกคำนวณโดยการนำราคาปิด (หรือราคาอื่น ๆ ที่เลือก) ของหลายวันในช่วงเวลาที่ผ่านมามาหารด้วยจำนวนวันที่เลือก ประเภทของ Moving Average ได้แก่ Simple Moving Average (SMA): คำนวณจากการหาค่าเฉลี่ยอย่างง่ายของราคาในช่วงเวลาที่กำหนด Exponential Moving Average (EMA): คำนวณโดยให้น้ำหนักแก่ราคาล่าสุดมากกว่าราคาในวันก่อนหน้า ทำให้ EMA สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงราคาได้เร็วกว่า SMA Weighted Moving Average (WMA): คำนวณโดยให้น้ำหนักต่าง ๆ กับราคาตามวันที่เกิดเหตุ MA มีประโยชน์หลายประการ โดยเฉพาะในการช่วยนักลงทุนระบุแนวโน้มของตลาด ถ้าราคาปัจจุบันของสินค้าอยู่เหนือ MA แสดงว่าสินค้านั้นมีแนวโน้มขาขึ้น แต่ถ้าอยู่ใต้ MA แสดงว่ามีแนวโน้มขาลง MA ยังสามารถใช้เป็นสัญญาณซื้อขาย [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

จิตวิทยาแท่งเทียนและความหมายแท่งเทียนแต่ละแบบ มีอะไรบ้าง

กราฟแท่งเทียน คืออะไร

กราฟแท่งเทียน คืออะไร กราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) คือ หนึ่งในวิธีการแสดงข้อมูลราคาของหุ้น, สินค้าหรือเงินตราต่างประเทศในตลาดการเงิน โดยเน้นไปที่การแสดงภาพรวมของการเคลื่อนไหวราคาในแต่ละช่วงเวลาที่กำหนด กราฟแท่งเทียนมีความสามารถในการสะท้อนถึงอารมณ์และความรู้สึกของนักลงทุนในตลาด และมักถูกนำมาใช้กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อหาแนวโน้มของตลาดและสัญญาณซื้อขาย ส่วนประกอบหลักของกราฟแท่งเทียนได้แก่ ราคาเปิด (Open Price): ราคาที่เริ่มต้นในช่วงเวลาที่กำหนด ราคาปิด (Close Price): ราคาสิ้นสุดในช่วงเวลานั้น ราคาสูงสุด (High Price): ราคาที่สูงที่สุดในช่วงเวลานั้น ราคาต่ำสุด (Low Price): ราคาที่ต่ำที่สุดในช่วงเวลานั้น ภาพรวมของกราฟแท่งเทียน ส่วนที่เป็นสี (ที่กล่าวว่าเป็น “เทียน” หรือ “Body”) แสดงถึงความแตกต่างระหว่างราคาเปิดกับราคาปิด หากแท่งเทียนเป็นสีเขียวหรือขาว หมายความว่าราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด (ราคาขึ้น) หากแท่งเทียนเป็นสีแดงหรือดำ หมายความว่าราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด (ราคาลดลง) “เสา” หรือ “Shadow” ที่มีทั้งด้านบนและด้านล่างของเทียนแสดงถึงการเคลื่อนไหวราคาในช่วงเวลานั้น จากราคาสูงสุดไปถึงราคาต่ำสุด จิตวิทยาแท่งเทียน เครื่องมือของนักลงทุน จิตวิทยาแท่งเทียน (candlestick chart) เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่นักลงทุนและนักวิเคราะห์ทางเทคนิคใช้ในการตัดสินใจลงทุนในตลาดหุ้น หรือตลาดเงินอื่น ๆ จิตวิทยาในที่นี้คือการแสดงถึงการต่อสู้ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในแต่ละช่วงเวลา [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

รีวิว Sigzy ดีไหม คืออะไร เรามีข้อมูลและรายละเอียด

1 Sigzy คืออะไร

Sigzy คืออะไร Sig-zy คือ เครื่องมือหรือแพลตฟอร์มการเทรดที่ถูกออกแบบมา เพื่อทำให้ประสบการณ์การเทรดเป็นเรื่องง่าย Sig-Zy.com นั้นจะไม่ส่งสแปมหรือขายอีเมล Sig-Zy หรือบางคนจะรู้จักกันในรูปแบบของแพลตฟอร์มที่ให้บริการสัญญาณเทรดสำหรับตลาดไบนารี่ออปชั่นและฟอเร็กส์ ส่วนใหญ่ทำงานบน 6 คู่เงินหลัก เป้าหมายหลัก คือ การทำให้การเทรดเป็นเรื่องง่ายสำหรับนักเทรดทั้งมือใหม่และมืออาชีพ ด้วยการให้สัญญาณที่ชัดเจน คุณเพียงแค่ต้องดูสัญญาณ เปิด Position และปิดเมื่อได้กำไร สำหรับคนที่กำลังมองหาเครื่องมือใหม่ๆ ในการเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากตลาด Sig-Zy น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี ไม่เพียงแต่เรียนรู้การใช้งานได้ง่าย ยังช่วยให้คุณเห็นผลกำไรในระยะสั้น การใช้ Sig-Zy อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการสร้างรายได้จากตลาดการเงิน Sigzy มักจะเสนอโซลูชั่นในการเทรด ด้วยการรวมความสามารถและฟีเจอร์ที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ที่สนใจการเทรด ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือผู้ที่มีประสบการณ์ ทั้ง เทรดบนมือถือ: สามารถเทรดบนมือถือและแบ่งจอออกเป็นสองส่วน ทำให้การดูและวิเคราะห์กราฟเป็นไปอย่างราบรื่น ความเข้ากันได้กับคอมพิวเตอร์: ทั้ง Windows และ Mac และเพียงจอเดียวก็เทรดได้ทุกอย่าง เวลาในการเทรด: ให้เทรดได้ตลอดวัน ตั้งแต่วันจันทร์ถึงศุกร์ หลักสูตรการเรียน: มีคอร์สเรียนและแหล่งข้อมูลที่มั่นใจในการเทรด เป็นมิตรกับมือใหม่: ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์เกี่ยวกับการเทรด กลุ่ม LINE: พื้นที่ในการแชร์ประสบการณ์ [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Forward test คืออะไร การทำ Forward test forex ทดสอบยังไง

1.Forward test คืออะไร

Forward test คืออะไร Forward Test คือ กระบวนการทดสอบโมเดลการลงทุน หรือการซื้อขายเช่นอัลกอริทึมการซื้อขายในเงื่อนไขตลาดที่ยังไม่เกิดขึ้นหรือในอนาคต หรือลักษณะคือรูปแบบทดสอบระบบ เทรดจริง โดยใช้กราฟแบบ RealTime เทรดตามระบบที่ตั้งไว้ ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งเงินจริงหรือเงิน Demo ขั้นตอน Forward Test นี้ จึงถือว่ามีความสำคัญอย่างมากในการพัฒนาสัญญาณการซื้อขายหรือระบบการลงทุนเนื่องจากมันทำให้นักลงทุนสามารถประเมินประสิทธิภาพที่คาดหวังของโมเดลในสภาพการลงทุนที่หลากหลายและไม่แน่นอนได้ การทดสอบการเดินหน้านำเอาเอกสารอ้างอิงจากผลการทดสอบในอดีตหรือBacktestไปปรับใช้กับข้อมูลใหม่ที่ไม่ได้ถูกใช้ในการเทรนโมเดลที่สร้างขึ้น โดยทั่วไปแล้วการทดสอบการเดินหน้านั้นซับซ้อนและต้องใช้เวลามากกว่าการทดสอบในอดีตหรือ Backtest เนื่องจากความไม่แน่นอนของอนาคตทำให้การทดสอบนี้เป็นไปอย่างยาก เพื่อปรับปรุงและปรับเพิ่มประสิทธิภาพของการทดสอบการเดินหน้านักลงทุนมักจะทำการทดลองด้วยหลากหลายชุดข้อมูลใหม่และตั้งค่ารายละเอียดของโมเดลให้เหมาะสมกับเงื่อนไขตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปตามเวลา การทดสอบการเดินหน้าสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุนที่ส่งผลกระทบทางการเงินและช่วยให้นักลงทุนเข้าใจถึงความสามารถในการทนต่อความสูญเสียของโมเดลที่ถูกใช้งานอย่างดีและไม่ดีของมันในสภาพการลงทุนที่หลากหลาย.ในท้ายที่สุดการทดสอบการเดินหน้าคือเครื่องมือที่มีค่าสำหรับทั้งผู้สร้างและผู้ใช้ระบบการซื้อขายที่อัตโนมัติเพื่อทดสอบและปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบในเงื่อนไขที่ไม่แน่นอนและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา   Forward test มีจุดประสงค์ของการทดสอบระบบดังนี้ การทดสอบเดินหน้า (Forward Test) เป็นส่วนสำคัญของกระบวนการพัฒนาระบบการซื้อขายหรือทดสอบระบบเทรดทั้งในการเทรดด้วยมือ และการเทรดด้วยโรบอต (Algorithmic Trading)และมีจุดประสงค์หลักๆ ดังนี้ 1.สำหรับ โรบอตเทรด โมเดลที่ถูกทดสอบเดินหน้าจะทำการเทรดตามกฎหมายที่กำหนด โดยไม่มีการเข้าระบบจากผู้ใช้หรือนักเทรด ผลลัพธ์จากการทดสอบเดินหน้าจะช่วยทดสอบความแม่นยำของโมเดลและความสามารถในการสร้างกำไรในสภาพแวดล้อมที่มีความไม่แน่นอน การทดสอบเดินหน้าจะเป็นการทดลองใช้โมเดลในสภาพแวดล้อมที่มีความหลากหลายและไม่แน่นอน ซึ่งทำให้เราสามารถวัดความทนทานของระบบที่จะทำให้ผลผลิตอยู่ในระดับที่ต้องการได้ ผลลัพธ์จากการทดสอบเดินหน้าสามารถใช้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการเทรดโดยอัตโนมัติ 2.สำหรับเทรดมือ นักเทรดมือสามารถใช้การทดสอบเดินหน้าเพื่อทดสอบสมมติฐานการเทรดของพวกเขาในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนกับที่พวกเขาเคยเจอมาก่อน วิธีนี้ช่วยให้นักเทรดมองเห็นความผิดพลาดหรือข้อบกพร่องในสมมติฐานของพวกเขาได้ การทดสอบเดินหน้าเป็นที่ทดลองที่ดีสำหรับนักเทรดมือในการฝึกฝนความสามารถในการตัดสินใจของพวกเขาในสภาพแวดล้อมที่มีความไม่แน่นอนและไม่คาดคิด ผลลัพธ์จากการทดสอบเดินหน้าสามารถช่วยนักเทรดมือปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของสมมติฐานการเทรดของพวกเขาให้ดียิ่งขึ้น ความสำคัญ ทั้งสำหรับโรบอตเทรดและเทรดมือ ก็จะ forward [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Pivot Point คืออะไร สูตรการคำนวณ เทคนิคการใช้งาน

Pivot Point คืออะไร

Pivot Point คืออะไร Pivot Point Indicator อ่านว่า ไพวอท พ้อยส์ คือ เครื่องมือชนิดหนึ่งในการวิเคราะห์กราฟราคาหุ้น ฟิวเจอร์ส สกุลเงินดิจิทัลต่างๆ และสินทรัพย์อื่นๆ ที่ใช้สำหรับวิเคราะห์คำนวณระดับแนวรับ และระดับแนวต้าน ตัวช่วยในการดูทิศทางการแกว่งตัวของราคา ในวันถัดไป โดยใช้ราคาของวันก่อนหน้าเป็นข้อมูลเข้า โดย Pivot Point Indicator จะคำนวณโดยใช้ราคาเปิด (Open), ราคาปิด (Close), ราคาสูงสุด (High) และราคาต่ำสุด (Low) ของวันก่อนหน้า แล้วแสดงผลลัพธ์เป็นเส้นระดับรับและระดับต้านทางของราคาในวันถัดไป ส่วนสูงสุดของราคาในวันก่อนหน้าจะกลายเป็นระดับต้านทาง ในขณะที่ราคาต่ำสุดจะกลายเป็นระดับรับทาง ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการวิเคราะห์และเทรดหุ้นในวันถัดไป Pivot points นั้น มาจากพวก Floor trader หรือเทรดเดอร์อนุรักษ์นิยมรุ่นเก่าที่ซื้อขาย บนกระดาน (สมัยก่อนไม่มีโปรแกรมเทรด จะใช้ดูการขึ้นลงของราคาเป็นกระดาน) ในพวกสาย Day trade ก็จะดูราคา High, Low และ Close ของวันก่อนหน้ามาคำนวณ [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Parabolic SAR คืออะไร การตั้งค่าการใช้งาน Parabolic SAR

1.Parabolic SAR คืออะไร

Parabolic SAR คืออะไร Parabolic SAR หรือ PSAR คือ เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่ช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้ม SAR ย่อมาจาก “Stop and Reverse” หมายความว่าตัวบ่งชี้ไม่เพียงแต่กำหนดแนวโน้ม จะให้สัญญาณในการซื้อขาย จุดที่เป็นจังหวะปิดการซื้อขายในแนวโน้มนั้น แล้วพิจารณาทิศทางตรงกันข้าม ถือว่าเป็นตัวบ่งชี้แนวโน้มที่มีความล่าช้าน้อย แต่การใช้งานก็อาจมีซับซ้อนบ้าง สามารถใช้ได้ในเกือบทุกกรอบเวลา สิ่งนี้และความแม่นยำในการคาดการณ์ที่ดีเป็นสาเหตุของความนิยมอย่างมากของ Parabolic บน Forex SAR เป็นตัวบ่งชี้แนวโน้ม มันแสดงให้เห็นว่าใครแข็งแกร่งกว่าในตลาด – กระทิงหรือหมี และอนุญาตให้ตัวเทรตดเดอร์ระบุเงื่อนไขสำหรับการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มได้อย่างไม่มีการจำกัด คำนิยาม Parabolic SAR (SAR) เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคด้านเวลาและราคาที่ใช้เป็นหลักในการระบุจุดที่อาจหยุดและกลับตัว และในความเป็นจริง SAR ใน Parabolic SAR ย่อมาจาก “Stop and Reverse” การคำนวณของตัวบ่งชี้จะสร้างพาราโบลาซึ่งอยู่ต่ำกว่าราคาในช่วงเทรนด์ขาขึ้นและอยู่เหนือราคาในช่วงเทรนด์ขาลงนั้นเอง ความเป็นมาของ Parabolic SAR ภาพประกอบ: Welles Wilder, ca. 1990s จาก [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Weighted Moving Average คืออะไร วิธีการใช้ และการตั้งค่า

1 Weighted Moving Average คืออะไร

Weighted Moving Average คืออะไร? Weighted Moving Average (WMA) คือ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบถ่วงน้ำหนัก ที่มีการให้ความสำคัญของข้อมูลใหม่มากกว่าข้อมูลเก่า ข้อมูลย้อนหลังที่นำมาใช้คำนวณจะเป็นข้อมูลอะไรก็ได้ เช่น ราคาปิด ราคาเปิด ราคาสูงสุด หรือราคาต่ำสุด เป็นต้น การถ่วงน้ำหนักข้อมูลจะทำให้ค่าเฉลี่ยที่ได้มีการเคลื่อนที่ที่สอดคล้องกับข้อมูลจริงมากขึ้น (มากกว่า Simple moving average (SMA) จึงทำให้เวลาเอาไปใช้งานจะสามารถติดตามสถานการณ์ตลาดได้ทันท่วงที คำนิยาม WMA Weighted Moving Averages (WMAs) ได้รับการพัฒนา เพื่อต่อยอดจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบดั้งเดิมและค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียล ด้วยการเพิ่มน้ำหนักให้กับข้อมูลราคาล่าสุดของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MAs) ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบถ่วงน้ำหนักจะถูกใช้เพื่อถ่วงน้ำหนักช่วงเวลาเฉพาะในการคำนวณนั้นมากกว่าช่วงเวลาอื่นๆ Weighted Moving Averages (WMAs) เป็นวิธีการคำนวณค่าเฉลี่ยของข้อมูลในชุดข้อมูล โดยใช้น้ำหนักที่แตกต่างกันให้กับข้อมูลแต่ละตัว โดยมีการนำเสนอในรูปแบบของกราฟหรือแผนภูมิเส้นที่แสดงค่าเฉลี่ยของชุดข้อมูลในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ วิธีการคำนวณ WMAs จะใช้น้ำหนักที่ต่างกันในการคำนวณค่าเฉลี่ย โดยสามารถกำหนดน้ำหนักได้โดยตรงหรือตามสูตรที่กำหนดไว้ น้ำหนักสามารถเป็นจำนวนเต็มหรือเป็นทศนิยมได้ โดยสังเกตได้ว่า น้ำหนักที่ให้กับข้อมูลล่าสุดจะมีค่ามากกว่าน้ำหนักที่ให้กับข้อมูลเก่ากว่า WMAs สามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลในหลายๆ ด้าน เช่น การวิเคราะห์กราฟการเคลื่อนไหวของราคาเงิน [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

EMA คืออะไร Exponential Moving Average วิธีการใช้อย่างไร

Exponential Moving Average หรือ EMA คืออะไร

EMA คืออะไร เส้น EMA คือ เครื่องมือที่สามารถช่วยในการตัดสินใจต่อการเทรดอย่าง EMA หรือ Exponential Moving Average คือเส้นที่ใช้แสดงค่าเฉลี่ยของราคาของหุ้น หรือ Forex และในบริบทของตลาด Forex คือค่าเฉลี่ยของสกุลเงินตรา ภายในระยะเวลาที่กำหนดเอง โดยสำหรับ Forex เส้น EMA ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท ได้แก่ EMA 5 (สัญญาณเร็ว) มาจากค่าเฉลี่ย ราคา 5 วันทำการ EMA 20 (สัญญาณกลาง) มาจากค่าเฉลี่ย ราคา 20 วันทำการ หรือ 1 เดือน เส้น EMA ก็ต่างจากการสถิติของอดีตราคามาทำเป็นกราฟ แบบนี้เอง จึงสามารถใช้เป็นหนึ่งในตัวช่วยวิเคราะห์แนวโน้มราคาความผันผวนที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ และเส้น EMA จึงกลายเป็นเครื่องมือช่วยเทรดที่เรียกว่า EMA Indicator ยอดนิยมอีกตัวในปัจจุบัน โดย [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

bollinger band คืออะไร สูตร การตั้งค่าและวิธีใช้

Bollinger Band คืออะไร

Bollinger Band คืออะไร Bollinger Band คือ เครื่องมือการวิเคราะห์หุ้น Forex หรือกราฟราคาหลายชนิด Indicator ประเภทหนึ่ง ที่เคลื่อนไหวตามเทรนด์และโมเมนตัมที่เกิดขึ้นภายในตลาด ที่ใช้ในการวิเคราะห์เชิงเทคนิคอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์กราฟหุ้น, น้ำมัน, คริปโตฯ และอื่น ๆ ซึ่ง Bollinger Bands จะใช้กรอบวิเคราะห์ความผันผวนของตลาด เพื่อดูจังหวะในการเข้าซื้อหรือขายออกได้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่นำไปใช้ร่วมกับ Indicator ตัวอื่น ๆ Indicator Bollinger Bands ใช้เพื่อวิเคราะห์สภาวะตลาดการเงิน ซึ่งนิยมจัดให้เป็นเครื่องมือ “Technical Analysis” ในกลุ่ม Trend หรือใช้เพื่อเทรดในตลาดที่มีแนวโน้ม โดยวิเคราะห์ผ่านเทคนิคทางสถิติที่เรียกว่า Standard Deviation หรือ “SD” ซึ่งมันจะสร้าง “Band” หรือกรอบราคาขึ้นมาอีก 2 เส้น และนักเทคนิคจะใช้กรอบดังกล่าวในการวิเคราะห์สภาวะตลาด Bollinger Bands เป็นหนึ่งใน Indicator ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการเทรด Forex เครื่องมือ [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Moving Average คืออะไร การตั้งค่าและการใช้งาน

1 Moving Average คืออะไร

Moving Average คืออะไร? Moving Average คือ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ หรือ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ การคำนวณราคาเฉลี่ยของสินทรัพย์ในช่วงเวลาที่กำหนด เป็นเครื่องมือเทคนิคที่ใช้วิเคราะห์แนวโน้ม หรือทิศทางของตลาด เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดตลาดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุดในทุกอุตสาหกรรม โดยส่วนใหญ่แล้ว นักวิเคราะห์ใช้ Moving Average เพื่อตรวจสอบระดับแนวรับและแนวต้านโดยการประเมินการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ในช่วงเวลาหนึ่ง เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เป็นตัวบ่งชี้ราคาที่สะท้อนถึงการเคลื่อนไหวของราคาก่อนหน้าของหลักทรัพย์ ต่อมานักวิเคราะห์หรือนักลงทุนจะใช้ข้อมูลนี้คาดการณ์ทิศทางในอนาคตของราคาสินทรัพย์ การใช้ MA จะช่วยให้เราเห็นแนวโน้มของราคาหรือข้อมูลที่เรากำลังวิเคราะห์ โดยที่ไม่ต้องพยายามดูข้อมูลแต่ละวัน แต่อย่างไรก็ตาม การใช้ MA ต้องคำนึงถึงการเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการวิเคราะห์ และการตัดสินใจการลงทุนด้วยด้วย โดยมีขนาดของช่วงเวลานั้น ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์ และลักษณะของข้อมูลที่ใช้วิเคราะห์ เพื่อให้เข้าใจง่าย โดยปกติแล้ว เราอาจจะใช้ MA ในการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งราคาของ Forex หรือแม้แต่ราคาของหุ้น เช่น ตัวอย่าง หากเราต้องการวิเคราะห์ราคาหุ้นในช่วง 10 วันที่ผ่านมา โดย MA 10-day จะหมายถึง ค่าเฉลี่ยของราคาหุ้นในช่วง 10 วันที่ผ่านมา โดยคำนวณจากราคาหุ้นในแต่ละวัน และหาค่าเฉลี่ย นับจำนวนวันตามจำนวนวันที่เรากำหนด (ในที่นี้คือ [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]