Bump and Run Reversal คืออะไร?
Bump and Run Reversal (BARR) เป็นรูปแบบกราฟทางเทคนิคที่ถูกพัฒนาโดย Thomas Bulkowski ซึ่งสามารถใช้ในการคาดการณ์การกลับตัวของราคา โดยมีลักษณะเฉพาะดังนี้:
- ประกอบด้วยสามส่วนหลัก: Lead-in phase, Bump phase, และ Run phase
- มักเกิดขึ้นหลังจากช่วงแนวโน้มขาขึ้นที่ยาวนาน
- แสดงถึงการเก็งกำไรที่มากเกินไปและการกลับตัวของราคาที่รุนแรง
ลักษณะสำคัญของ Bump and Run Reversal
- Lead-in phase:
- เป็นช่วงเริ่มต้นของรูปแบบ
- ราคามีการเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้นที่สม่ำเสมอ
- สามารถลากเส้นแนวโน้มด้านล่างที่เชื่อมจุดต่ำสุดได้
- Bump phase:
- ราคาเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและชันมากขึ้น
- มักมีความผันผวนสูงและปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น
- ราคาอาจสร้างจุดสูงสุดหลายจุดในช่วงนี้
- Run phase:
- ราคาเริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว
- มักมีการทะลุเส้นแนวโน้มด้านล่างที่ลากมาจาก Lead-in phase
- เป็นสัญญาณของการกลับตัวและการเริ่มต้นของแนวโน้มขาลง
วิธีใช้ Bump and Run Reversal ในการวิเคราะห์
- การระบุรูปแบบ:
- สังเกตการเคลื่อนไหวของราคาที่มีลักษณะเป็นไปตามสามเฟสข้างต้น
- ลากเส้นแนวโน้มด้านล่างจาก Lead-in phase
- การยืนยันการกลับตัว:
- รอให้ราคาทะลุเส้นแนวโน้มด้านล่างในช่วง Run phase
- การทะลุควรเกิดขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น
- การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย:
- ปริมาณมักจะเพิ่มขึ้นในช่วง Bump phase
- ควรเพิ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อราคาทะลุเส้นแนวโน้มด้านล่างในช่วง Run phase
- การคำนวณเป้าหมายราคา:
- วัดระยะจากจุดสูงสุดของ Bump phase ถึงเส้นแนวโน้มด้านล่าง
- นำระยะดังกล่าวไปวัดต่อจากจุดที่ราคาทะลุเส้นแนวโน้มด้านล่างลงมา เพื่อประมาณเป้าหมายราคาขาลง
- การใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่น:
- ใช้ร่วมกับตัวบ่งชี้แนวโน้มหรือ oscillators เพื่อยืนยันสัญญาณ
- พิจารณาแนวรับแนวต้านสำคัญประกอบการวิเคราะห์
ข้อควรระวังในการใช้ Bump and Run Reversal
- ความซับซ้อนของรูปแบบ: BARR เป็นรูปแบบที่ค่อนข้างซับซ้อนและอาจยากในการระบุในบางครั้ง
- การทะลุหลอก: ราคาอาจทะลุเส้นแนวโน้มด้านล่างเพียงเล็กน้อยแล้วกลับตัวขึ้นไป ควรรอการยืนยันและใช้ stop loss เสมอ
- ความแม่นยำในกรอบเวลาต่างๆ: BARR อาจมีความน่าเชื่อถือแตกต่างกันในกรอบเวลาที่ต่างกัน ควรพิจารณาใช้หลายกรอบเวลาประกอบกัน
- ปัจจัยพื้นฐาน: ควรพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของหลักทรัพย์หรือตลาดประกอบด้วย เพราะอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคา
- ความผันผวนของตลาด: ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง อาจเกิดสัญญาณหลอกได้ง่าย
การประยุกต์ใช้ในกลยุทธ์การเทรด
- การเข้าขาย: นักเทรดอาจเข้าขายเมื่อราคาทะลุเส้นแนวโน้มด้านล่างในช่วง Run phase
- การตั้ง Stop Loss: อาจตั้ง stop loss ไว้เหนือจุดสูงสุดล่าสุดของ Bump phase
- การตั้งเป้าหมายกำไร: ใช้การคำนวณเป้าหมายราคาตามที่กล่าวไว้ข้างต้น หรือใช้แนวรับสำคัญถัดไปเป็นเป้าหมาย
- การทำกำไรบางส่วน: อาจทยอยปิดสถานะขายเมื่อราคาลงไปถึงเป้าหมายที่คำนวณไว้
- การเทรดระยะกลางถึงยาว: BARR มักใช้ในการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงแนวโน้มในระยะกลางถึงยาว
ข้อแตกต่างจากรูปแบบอื่น
- ความชัดเจนของเฟส: BARR มีการแบ่งเฟสที่ชัดเจนกว่ารูปแบบอื่นๆ เช่น Head and Shoulders หรือ Double Top
- การเพิ่มขึ้นของราคาอย่างรวดเร็ว: Bump phase ใน BARR แสดงถึงการเพิ่มขึ้นของราคาอย่างรวดเร็วและผิดปกติ ซึ่งไม่พบในรูปแบบอื่นๆ
- ความยาวของรูปแบบ: BARR มักใช้เวลาในการพัฒนารูปแบบนานกว่ารูปแบบอื่นๆ
สรุป
Bump and Run Reversal เป็นรูปแบบกราฟทางเทคนิคที่มีประโยชน์ในการวิเคราะห์การกลับตัวของราคาหลังจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ การจัดการความเสี่ยง และการพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของตลาด เพื่อให้การวิเคราะห์และการตัดสินใจลงทุนมีความแม่นยำมากขึ้น
อ้างอิง
- Bulkowski, T. N. (2005). Encyclopedia of Chart Patterns (2nd ed.). John Wiley & Sons.
- StockCharts.com. (n.d.). Bump and Run Reversal (BARR). Retrieved August 10, 2024, from https://school.stockcharts.com/doku.php?id=chart_analysis:chart_patterns:bump_and_run_reversal_bottoms
- Murphy, J. J. (1999). Technical Analysis of the Financial Markets. New York Institute of Finance.
FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง