ประวัติ พิชัย จาวลา
พิชัย จาวลา เป็นนักลงทุนเจาะด้านอสังหาริมทรัพย์ นักเขียนผู้คิดค้นทฤษฎีผลประโยชน์ ผลงานเขียนมากมายกว่า 10 เล่ม และเจ้าของธุรกิจโรงแรม B2 ถือเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยเป็นอย่างมาก
- ผู้ร่วมก่อตั้งและพัฒนาธุรกิจแบรนด์โรงแรมคุณภาพดีราคาประหยัดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
- นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 43 แห่งด้วยเงินของธนาคาร
- ขายคอนโดมิเนียม โดยใช้เวลาปิดการขายเพียง 2 เดือนเท่านั้น
- ผู้คิดค้นและเผยแพร่ทฤษฎีผลประโยชน์ ผ่านผลงานเขียนโด่งดังเศรษฐศาสตร์แห่งความจริง
- ร่วมก่อตั้งมูลนิธิจาวลา แชริตี้ โดยลูกค้าโรงแรม B2 มีส่วนร่วมทำบุญห้องละ 1.50 บาท และบริษัทสมทบ 1.50 บาท
- ปัจจุบันเป็นนักลงทุนและ Business Development ของโรงแรม B2
- ความเชี่ยวชาญ: อสังหาริมทรัพย์
- SkillLane: คุณพิชัยสอนลงทุน
- บทสัมภาษณ์: Bitcoin
- บทสัมภาษณ์: หุ้น
- Facebook : Pichai Chawla
ประวัติเบื้องต้น
คุณพิชัย จาวลา ประวัติส่วนตัว รวมถึงวันเดือนปีเกิด ไม่ปรากฎบนโลกออนไลน์เลย จากที่น้องเป็ดสืบค้นข้อมูล ในปี 2022 คุณพิชัยมีอายุประมาณ 55 ปี น้องเป็ดได้แบ่งรายละเอียดประวัติคุณพิชัย ดังต่อไปนี้
ประวัติครอบครัว
คุณพิชัย เติบโตมาในครอบครัวฐานะปานกลางค่อนข้างดี บิดาเป็นชาวอินเดียที่เติบโตมาในเมืองเชียงใหม่ เปิดร้านขายผ้า “ร้านนิรันดร์” อยู่ที่ตลาดวโรรส คุณพิชัยมีพี่น้องทั้งหมด 5 คน คุณพิชัยเป็นลูกชายคนโต
- บิดา : คุณมนตรี จาวลา อาชีพพ่อค้าขายผ้า
- มารดา : ไม่ปรากฎข้อมูล
- น้องชายคนที่ 1 : วสันต์ จาวลา ปัจจุบันเป็นนักลงทุนหุ้น
- น้องชายคนที่ 2 : ดร.นิรันดร์ จาวลา ปัจจุบันเป็นผู้ก่อตั้งและ CEO โรงแรมบีทู
- น้องสาวคนที่ 1 : ไม่ปรากฎข้อมูล
- น้องสาวคนที่ 2 : ไม่ปรากฎข้อมูล
ปู่ของคุณพิชัย คือ คุณรัตน์ (ราตัน) ศรีชวาลา และย่า คือ คุณราเวลกอ ศรีชวาลา ดังนั้งคุณพิชัยจึงมีเครือญาตินามสกุล ศรีชวาลา หนึ่งในตระกูลเศรษฐีหมื่นล้านบาทของประเทศไทย
ประวัติการทำงาน
ประวัติการทำงานของคุณพิชัย มีดังนี้
- หลังจากจบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยก็เข้าสู่วงการอสังหาฯ
- ปัจจุบันเป็นนักลงทุนและนักเขียน
- กรรมการบริหาร จาวลากรุ๊ป
- ผู้บริหาร เครือโรงแรม B2 บริษัทบีทู โฮเทล จำกัด
ประวัติการลงทุน
หลังจากเรียนจบคุณพิชัยได้เข้าสู่ธุรกิจบ้านจัดสรร โดยการลงทุนครั้งนี้ไม่ประสบความสำเร็จ จึงคืนเงินมัดจำของลูกค้าและปิดโครงการบ้านจัดสรร
ต่อมาคุณพิชัยได้ลงทุนทำคอนโดมิเนียมที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยเน้นกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ The Convention และ Mountain Front ซึ่งได้รับเสียงตอบรับดีเกินคาดหมาย ปิดการขายทั้งหมดในเวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้น
หลังจากนั้นคุณพิชัยเริ่มลงทุนทำอพาร์ตเมนท์ Center Park Service Apartment & Hotel ที่เชียงใหม่ ได้รับผลตอบรับดีอีกเช่นกัน จากนั้นจึงสร้างโรงแรมบีทูขึ้น
ทฤษฎีผลประโยชน์
หนังสือ Best Seller เศรษฐศาสตร์แห่งความจริง ได้นำเสนอแนวคิดและทฤษฎีของคุณพิชัย จาวลา ซึ่งเริ่มต้นศึกษาและลงทุนในตลาดหุ้นในปี 2532 เริ่มต้นด้วยเงิน 10-20 ล้านบาท ใช้เวลากว่า 20 ปี เรียนรู้ตลาดหุ้นและถ่ายทอดออกมาเป็นทฤษฎีผลประโยชน์
ทฤษฎีผลประโยชน์โดยธรรมชาติแล้ว คุณพิชัยกล่าวว่าระบบจะไม่สามารถทำให้คนส่วนใหญ่ได้กำไร คนส่วนน้อยในระบบเท่านั้นที่จะที่จะได้กำไร ตัวอย่างคือ ระบบในตลาดหุ้น ซึ่งคนส่วนน้อยในระบบประมาณไม่ถึง 20% ที่จะได้กำไร ส่วนคนส่วนใหญ่ 80% มักจะขาดทุน
ผู้ที่จะประสบความสำเร็จในการลงทุนจึงต้องมีวิธีการคิดที่ไม่เหมือนกันคนส่วนใหญ่ เหมือนที่คุณพิชัยเคยกล่าวไว้ในหนังสือที่เขาเขียนว่า “จงกลัวในเวลาที่คนอื่นกล้า แต่จงกล้าในเวลาที่คนอื่นกลัว” คนส่วนน้อยเท่านั้นที่ครอบครอบทรัพยากรจำนวนมากกว่าคนส่วนใหญ่
สรุปทฤษฎีผลประโยชน์
การนำทฤษฎีผลประโยชน์มาใช้งาน น้องเป็ดได้สรุปมุมมองที่ได้จากทฤษฎีผลประโยชน์ ดังนี้
- คนส่วนใหญ่ในตลาดจะขาดทุนเสมอ ดังนั้นให้ทำตรงข้ามกับคนส่วนใหญ่
- การตัดสินใจซื้อหรือขายหุ้นของคนส่วนใหญ่มาจากการวิเคราะห์ข่าวสาร สถานการณ์และราคา ซึ่งตรงข้ามกับคนส่วนน้อยที่มีปริมาณเงินมหาศาล
- การวิเคราะห์ ควรวิเคราะห์จากผู้รับข่าวสาร ห้ามวิเคราะห์ข่าวสารโดยตรง
- เมื่อกำหนดทิศทางของผู้รับข่าวสารได้แล้วก็ให้ทำในสิ่งตรงกันข้าม
- เข้าซื้อในช่วงที่คนอื่นไม่กล้าเข้าซื้อหรือกำลังเทขาย เพราะจะได้ของถูกเช่นเดียวกับรายใหญ่
- เมื่อสถานการณ์ไปในทิศทางที่ดี ผู้คนกล้าที่จะเข้ามาซื้อ ราคาจะพุ่งให้ขาย
- มองภาพรวมของคนส่วนใหญ่ให้ออกเสมอ เวลาจะซื้อหรือขายหุ้น
ทฤษฎีผลประโยชน์กับการลงทุนในหุ้น
ทฤษฎีผลประโยชน์ เมื่อนำมาใช้กับการลงทุนในหุ้น จะเน้นไปที่วิธีการคิด ความคิดของคนทั่วไปจะมีหลักการคิดชั้นเดียว โดยการเข้าซื้อหุ้นของคนทั่วไปนั้นจะมีกระบวนการตัดสินใจจากข้อมูลที่อยู่ในมือ เช่น ข่าวสาร บทวิเคราะห์ และสถานการณ์ ณ ช่วงเวลานั้น
คนที่อยากประสบความสำเร็จ จำเป็นจะต้องมีหลักการคิดแบบสองชั้น โดยการคิดแบบที่คนส่วนใหญ่คิด และตัดสินใจตรงข้ามกับคนส่วนใหญ่ เนื่องจากตลาดหุ้นนั้นแท้จริงแล้วคุณพิชัยมองว่าไม่มีเหตุผลในการที่ราคาหุ้นจะขึ้นหรือจะลง เพราะตลาดหุ้นอยู่เหนือเหตุผล
หากสถานการณ์และสภาวะทุกอย่างรอบตัว บ่งชี้ว่าไม่ควรซื้อหุ้น เช่น ภาวะหนี้ครัวเรือนสูง เศรษฐกิจตกต่ำ ปัจจัยต่าง ๆ ไม่เอื้ออำนวน เป็นต้น เมื่อคนส่วนใหญ่ขายหุ้น คุณต้องเป็นคนส่วนน้อยที่เข้าซื้อหุ้น หากคนส่วนใหญ่ซื้อหุ้น คุณต้องเป็นคนขายหุ้น
แนวคิดที่ว่า เมื่อเราขายหุ้น ใครกันที่รับซื้อหุ้นของเรา เมื่อคนส่วนใหญ่ขายหุ้นหนีตายเพราะกลัว กลุ่มคนส่วนน้อยที่รับซื้อนั่นแหละที่จะได้ซื้อของถูก ราคาเป็นตัวกำหนดข่าว ข่าวต่างๆที่คนส่วนใหญ่ติดตามไม่ใช่ตัวกำหนดราคาแม้แต่น้อย
คนส่วนน้อยในตลาดหุ้นเท่านั้น ที่มีโอกาสกำไรและประสบความสำเร็จ
จงคิดให้สวนทางกับคนส่วนใหญ่ จงเป็นคนส่วนน้อยในตลาดหุ้น
พิชัย จาวลา
การลงทุนในหุ้น ต้องใช้เหตุผลที่แตกต่างจากคนส่วนใหญ่ ต้องเป็นคนส่วนน้อยในตลาดจึงจะสามารถอยู่รอดและทำกำไรได้ในวันที่ราคาหุ้นขึ้น มองหาหุ้นที่มีราคาต่ำกว่าความเป็นจริงเสมอ แล้วถือหุ้นแบบยาว ๆ นอกจากนั้นอย่าลงทุนหุ้นตามกระแสเด็ดขาด
การนำเงินปันผลหุ้นทั้งหมดกลับมาซื้อหุ้นในจังหวะที่เหมาะสม เป็นอีกวิธีการที่คุณพิชัยเลือกใช้ คุณพิชัยไม่ใช้เครื่องมือทางเทคนิค ใช้เพียงการดูกราฟราคาย้อนหลัง จากนั้นกำหนดราคาที่เหมาะสม และแบ่งไม้ซื้อตามราคา รอหุ้นและเงินปันผลเติบโตขึ้นไปอีกเงินก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น
แนวคิดในการลงทุนอสังหาฯ
การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้น คุณพิชัยมีแนวคิดที่ว่าไม่จำเป็นต้องเป็นคนร่ำรวยจึงสามารถลงทุนในอสังหาฯได้ สิ่งแรกที่ควรคิด คือ การลงทุนแบบไม่ใช้เงิน โดยให้ออกไปดูโรงแรม คอนโดมิเนียม ทาว์โฮม หรือธุรกิจคุณที่สนใจของคนอื่นก่อนว่าเค้าทำยังไง
หัวใจของการลงทุน สิ่งสำคัญไม่ใช่ เงิน แต่เป็น เวลา
พิชัย จาวลา
การเข้าไปดูสิ่งที่คนอื่นทำไว้หลาย ๆ ที่ อย่างน้อย 100 แห่ง แล้วจดข้อดี ข้อเสีย ปัญหาต่าง ๆ ให้มากจะเป็นการลดระยะเวลาและข้อผิดพลาดของตัวเอง รวมถึงคุณจะได้ความสามารถในการจำแนกและเปรียบเทียบได้ว่าอสังหาริมทรัพย์ใดที่น่าลงทุน
เพียงแค่คุณศึกษาและเยี่ยมชมอสังหาฯ ตามที่ต่าง ๆ เกิน 100 แห่ง คุณก็สามารถเป็นนายหน้าเพราะแยกสินทรัพย์คุณภาพดีราคาต่ำ ออกจากสินทรัพย์อื่นๆ คุณสามารถทำเงินจากการได้รับค่าคอมมิชชั่นที่ติดต่อให้คนอื่นมาเข้าซื้ออสังหาฯที่คุณคัดเลือกให้แล้วอีกด้วย
การจะลงทุนอสังหาฯ ที่ประสบความสำเร็จ จำเป็นจะต้องบริหารจัดการอารมณ์ของตนเองให้ดีด้วย เนื่องจากการควบคุมอารมณ์และความรู้จากการปฏิบัติที่มากกว่าคนอื่น เป็นหนทางสู่ความร่ำรวยที่มากกว่าคนอื่น
หากมีอารมณ์กลัวเข้ามาในการลงทุน จะเป็นสิ่งที่ขัดขวางคุณสู่ความร่ำรวย เนื่องจากการขาดทุนเป็นสิ่งที่นักลงทุนทุกคนจะต้องพบเจอ การลดต้นทุนและการลดความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งที่นักลงทุนทุกคนสามารถควบคุมได้ เมื่อฝึกบ่อยๆ อารมณ์กลัวขาดทุนก็จะหายไปเอง
การลงทุนในอสังหาฯ สามารถลดความเสี่ยงโดยการลงทุนในธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำ กู้เงินไปลงทุนให้เยอะ แล้วใช้เงินตัวเองในการลงทุนให้น้อย ๆ การขยายตัวได้เร็ว และสามารถควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในเกณฑ์ต่ำ เป็นแก่นแท้ของการลงทุนที่ประสบความสำเร็จ
B2 Model
ธุรกิจโรงแรม B2 ย่อมาจาก boutique and budget เน้นหรูหรามีคุณภาพและราคาถูก เป็นธุรกิจที่ก่อตั้งมาเป็นเวลากว่า 15 ปี ปัจจุบันมีโรงแรมในเครือบีทูกว่า 40 แห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศไทย จำนวนลูกค้ามากกว่า 1.5 ล้านคนต่อปี มีสาขา B2 ขยายไปที่ประเทศลาวอีก 1 สาขาด้วย
การบริหารต้นทุนให้ต่ำเป็นหัวใจของธุรกิจ การลงทุนสร้างโรงแรมจะเน้นที่ทำเลใกล้ตัวเมืองที่มีราคาที่ดินต่ำ สร้างโรงแรมให้มีคุณภาพ มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบครัน ควบคุมงบประมาณการก่อสร้างเพื่อให้สามารถคงราคาห้องพักที่ต่ำ
ที่ผ่านมาโรงแรม B2 สามารถสร้างโดยลดต้นทุนจากโรงแรมอื่น ๆ ได้ประมาณ 20% จึงสามารถสร้างความรู้สึกคุ้มค่าให้กับลูกค้าทุกคนที่เข้าพัก ด้วยห้องพักราคาหลักร้อย แต่คุณภาพเกินราคา โรงแรมจึงไม่เสียเงินค่าโฆษณาเลยแม้แต่บาทเดียว
ต่อจากการควบคุมต้นทุนที่ดินและการสร้างโรงแรม เป็นการพัฒนาระบบที่จะทำให้แต่ละโรงแรมสามารถตรวจสอบจำนวนผู้เข้าพักได้โดยที่ไม่ต้องเดินทางไปดูทุกสาขา โดยปัจจุบันทราบจำนวนผู้เข้าพักทุกห้องทุกจังหวัดจากการใช้คีย์การ์ดแสดงผลมาที่สำนักงานใหญ่
จากนั้นเป็นการขยายสาขาอย่างมั่นคง เพิ่มจำนวนสาขาแบบค่อยเป็นค่อยไป ปัจจัยสำคัญอีกอย่าง คือ การรักษาบุคลากรที่ดีให้ทำงานระยะยาวก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน การมีบุคคลากรคุณภาพในองค์กรถือเป็นสิ่งที่มีส่วนช่วยให้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว
หนังสือ พิชัย จาวาลา
ผลงานการเขียนของคุณพิชัยมีออกมาอย่างต่อเนื่อง หนังสือหลาย ๆ เล่มเน้นวิธีการปรับเปลี่ยนแนวคิด สร้างแนวคิดที่ถูกต้องนำไปสู่การประสบความสำเร็จ ซึ่งใช้ได้กับทั้งการลงทุนและการดำเนินชีวิต โดยคุณพิชัยเขียนหนังสือทั้งหมด 9 เล่ม ดังนี้
รวยจากใจว่าง : คนรวยไม่เสี่ยง คนเสี่ยงไม่รวย
หนังสือพูดถึงเส้นทางของการประสบความสำเร็จในชีวิต การเลือกเส้นทางชีวิตที่ดีที่สุด เป็นการการันตีความสำเร็จในอนาคตได้ โดยทุก ๆ ด้านของชีวิตสามารถดีขึ้น
เนื้อหาในหนังสือจะเป็นการนำเสนอมุมมองทางเลือกในการตัดสินใจในชีวิตที่จะทำให้คุณไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่จะเป็นการตัดสินใจที่จะทำให้คุณได้ทุกอย่าง
คุณพิชัยได้เปิดเผยแนวความคิดการเลือกที่ดีที่สุดนี้ ในงานสัมมนาในปี 2559 หัวข้อ “สูตรลับการจัดการโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์อาชีพแห่งอนาคต” และนำมาเผยแพร่ตีพิมพ์
รู้พอดี พอดี รวยง่ายกว่า
เรียนรู้วิธีคิดแบบคุณ พิชัย จาวลา ซึ่งเป็นวิธีคิดที่ใช้ได้กับทั้งการลงทุนทุกรูปแบบ อีกทั้งยังเป็นแนวทางที่คุณพิชัยใช้แล้วได้ผล ก้าวสู่การประสบความสำเร็จในชีวิต
เนื้อหาในหนังสือเปิดเผยถึงการลงทุนทำธุรกิจได้โดยจำหน่ายเป็นหนังสือเสียง ตัวอย่างหัวข้อ เช่น ทำธุรกิจได้โดยไม่จำเป็นต้องเสี่ยง อย่ารอความพร้อม มีธุรกิจที่ติดลบดีกว่าไม่มีอะไรเลย เป็นต้น
นอกจากนี้หลังจากจบหัวข้อการลงทุนแล้ว ยังมีแนวทางสร้างความสมดุลความสุขความสำเร็จ การใช้กฎด้านตรงข้ามสู่ความสำเร็จ และมีการสรุปหัวข้อต่าง ๆ ให้อีกด้วย
รู้พอดี พอดี รวยง่ายกว่า2
ถัดมาจากหนังสือเล่มแรก หนังสือเล่มที่ 2 จะกล่าวถึงความรู้ที่มากเกินไปอาจกลายเป็นอุปสรรคในการประสบความสำเร็จของชีวิตคน ๆ นึงได้
หนังสือเล่มนี้เป็นภาคต่อของเล่มแรก โดยสิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้ เช่น เคล็ดลับการจัดการกับอารมณ์กลัวเสียเงิน การตัดสินใจผิดได้แต่หลักการผิดไม่ได้ โลกนี้ไม่มีคนฉลาด เป็นต้น
หัวข้อ 4 บทสุดท้ายที่น่าสนใจมาก 1.วิธีประสบความสำเร็จด้วยการสลายตัวตนกลายเป็นเส้นทาง 2.การไม่ยึดติดในความรู้ 3.ปรัชญาสำคัญกว่าเหตุผล 4.ไม่ฉลาดก็รวยได้
เศรษฐศาสตร์แห่งความจริง
หนังสือของคุณพิชัย จาวลา ทฤษฎีผลประโยชน์ ที่โด่งดังถูกคิดค้นขึ้นเพื่ออธิบายความเป็นไปของธรรมชาติในตลาดหุ้น และถูกถ่ายทอดออกมาในปี 2546
เนื้อหาในหนังสือเปิดเผย แนวคิดของทฤษฎี คือ การตัดสินใจที่ตรงกันข้ามกับคนส่วนใหญ่ ถึงแม้การติดสินใจของคนส่วนใหญ่จะถูกต้องตามหลักการก็ตาม
หนังสือเล่มนี้ยังสามารถอธิบบายถึงปรากฎการณ์สินทรัพย์ดิจิตอลอย่าง บิทคอยน์ รวมถึงสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น ราคาทองคำ ราคาน้ำมัน และกลไกของตลาดอีกด้วย
สูตรลับอสังหาฯเติบโต B2 Model
หนังสือเล่มนี้จะพูดถึงการสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่มีความเสี่ยง โมเดลจากธุรกิจโรงแรมบีทู
เหมาะกับผู้ที่กำลังศึกษาการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และเจ้าของธุรกิจที่ต้องการให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็วและประสบความสำเร็จทางธุรกิจแบบยั่งยืน
เนื้อหาในหนังสือแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการอธิบายโมเดลขยายธุรกิจแบบโรงแรมบีทู ส่วนที่สองเป็นการแบ่งปันมุมมองจากคุณพิชัย เช่น อสังหาฯ SMEs ไม่โตก็รวยได้, ลงทุนระยะสั้น VS ระยะยาว และ ที่ดินเปล่า VS พัฒนาโครงการ เป็นต้น
รวยหุ้นด้วยระบบผลประโยชน์ หรือ VI
หนังสือนำเสนอทฤษฎีผลประโยชน์ที่ใช้กับการลงทุนแบบเน้นคุณค่า หรือ VI ช่วยแนะแนวทางที่ถูกต้องเกี่ยวกับการลงทุน และปรับการรับรู้และเข้าใจเกี่ยวกับหุ้นที่ถูกต้อง
เน้นหลักไปที่การปรับ วิธีคิด ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ทั้งการลงทุนและการดำเนินชีวิตให้ประสบความสำเร็จได้ ไม่ว่าจะหยิบจับสิ่งใดก็สามารถสร้างเงิน
เนื้อหาแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ เเกะเปลือกวีเอ เข้าใจให้ถึงเเก่นคิด, ระบบทรายผลประโยชน์ สวนกระเเสสู่ทางรอด เเตกต่างสู่ทางรวย, และหุ้นไทยกับทฤษฎีระบบผลประโยชน์ว่าด้วย ตัวเลข 97 : 3
รวยด้วยอสังหาฯ โดยไม่ต้องใช้เงินสักบาท
หนังสือเล่มนี้เป็นคำแนะนำจากชายผู้สร้างโรมแรม B2 มากถึง 43 แห่ง ด้วยเงินของธนาคาร ทำลายความเชื่อเดิมที่ว่า คนลงทุนในอสังหาต้องมีเงิน
การที่คุณจะรวยจากอสังหาริมทรัพย์โดยไม่ใช้เงินนั้น มาจากการที่คุณเปลี่ยนมุมมองความคิดแล้วการกระทำของคุณก็จะเปลี่ยนตามไปด้วย
เนื้อหาแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ดังนี้ รวยด้วยอสังหาริมทรัพย์โดยไม่ต้องใช้เงินสักบาท ไม่ต้องใช้เงินสักบาท?, ทำอย่างไรจึงจะรวยด้วยอสังหาริมทรัพย์ เปลี่ยนการกระทำ, และเคล็ด (ไม่) ลับในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์
รวยหุ้นล้นฟ้า ด้วยระบบคิดใหม่
หนังสือแนวคิดการลงทุนจากคุณพิชัย จาวาลา เปลี่ยนมุมมองที่คุณมีต่อโลกการลงทุน สร้างแนวคิดที่นำพาคุณไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่และมีความสุข
หนังสือประกอบด้วย 4 บทใหญ่ ได้แก่ 1.คิดแบบเดิม เจ็บแบบเดิม 2.คิดต่าง ชนะขาด 3.ความลับตลาดหุ้น รู้แล้วรวย และ 4.บทพิสูจน์ความลับตลาดหุ้น
การเปิดเผยแนวคิดที่จะเปลี่ยนระบบความคิดของคุณใหม่ ซึ่งจะส่งผลต่อการตัดสินใจในการลงทุนของคุณทุก ๆ ตลาด จะประสบความสำเร็จ
Classified ลับเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้อง
หนังสือที่นำเสนอปรัชญาเกี่ยวกับจิตใจ ความคิด ความจริง ความสำเร็จ ความร่ำรวยที่ผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจมาเชื่อมโยง ร้อยเรียงเข้าด้วยกัน
หนังสืออธิบายหลักคิดทางวิทยาศาสตร์ ความจริงที่ถูกค้นพบซึ่งสอดคล้องกับหลักของศาสนาทางตะวันออก เช่น พุทธ เต๋าและเซน เป็นต้น
หนังสือแบ่งออกเป็น 6 บทใหญ่ แต่ละบทก็จะมีบทย่อยที่นำเสนอได้อย่างน่าสนใจและลงตัว เช่น ตามองแต่ไม่ติดสิน หลายล้านความจริง โครงข่ายของความสัมพันธ์ และพิสูจน์ทฤษฎี เศรษฐศาสตร์แห่งความจริง เป็นต้น
คุณพิชัย จาวลา มุมมองต่อ Bitcoin
มุมมองของคุณพิชัย จาวลา ที่มีต่อ Bitcoin เป็นไปในทางเดียวกับคุณปู่วอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่มีความเชื่อถือต่อ Bitcoin ต่ำ น้องเป็ดถอนบทสัมภาษณ์มาจากรายการ ถามอีก กับอิก ซึ่งผู้สัมภาษ์คือ คุณบรรพต ธนาเพิ่มสุข ปีที่สัมภาษณ์คือ 2021โดยน้องเป็นทำสรุปเพื่อให้เข้าใจได้ง่าย ดังนี้
สัญญาณฟองสบู่ Bitcoin แตก
คุณพิชัยได้วิเคราะห์สัญญาณฟองสบู่บิทคอยน์ โดยเปรียบเทียบจากฟองสบู่ใหญ่ ๆ การลงราคาของทองคำ การกู้เงิน USD ราคาน้ำมัน โดยสัญญาณโดยรวมมีดังนี้
- ราคาจะขึ้นแรงมากในระยะเวลาอันสั้น
- ยังไม่มีคนรู้จริง เป็นเรื่องใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น ณ ขณะนั้น ๆ
- มีเหตุผลที่จะเกิดขึ้นในอนาคตมาหนุนหลังอย่างชัดเจน
- ระดับสถาบันเข้าร่วมซื้อ (Bitcion เข้าสู่ระยะนี้)
- ทุกคนจะไม่เชื่อเลยว่าฟองสบู่จะแตก (กระแสขณะนี้เพียง 50:50)
เหตุผลประกอบที่คุณพิชัยวิเคราะห์เช่นนี้ คือ คุณพิชัยเปรียบเทียบกับช่วงราคาที่ดินพุ่งสูงสุดขีด โดยมีภาพอนาคตที่เปลี่ยนไปหนุนหลัง คนญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในประเทศไทยจำนวนมาก จากนั้นมีอาจารย์ นักวิชาการ และคนแวดวงอื่น เข้ามาลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ขณะนั้นทุกคนไม่มีใครเชื่อเลยว่าราคาที่ดินจะพลิกกลับมาลดลง ต่อมาหุ่นไทยตกหลายร้อยจุด แบงค์ชาติก็ออกมาประกาศว่าอสังหาริมทรัพย์ประเทศไทยฟองสบู่แตกแล้ว ขณะเกิดสงครามอ่าวเปอร์เซีย
อีก 1 ตัวอย่าง คือ ตลาดหุ้นปี 2535 ตลาดหุ้นเฟื่องฟู ระยะเวลา 3 เดือน หุ้นขึ้นจาก 10 บาทเป็น 100-200 บาท ราคาขึ้นแรงในระยะเวลาอันสั้น เป็นภาพสิ่งใหม่มีภาพอนาคตว่าประเทศไทยเปิดเสรีทางการเงิน ทุกคนเข้ามาร่วมลงทุนในตลาดหุ้น ก่อนที่หลังจากนั้นหุ้นจะลงหนัก
- คุณพิชัยมองว่ารอบของ Bitcoin ใกล้จะมีฟองสบู่แตกในอนาคต เนื่องจากระดับสถาบัน และนักลงทุนใหญ่ ๆ เข้าซื้อแล้ว เป็นสัญญาณของการพุ่งขึ้นครั้งสุดท้าย
- แบงค์ชาติอนุญาติ ทุกคนกำลังมีความเชื่อมั่นใน Bitcoin และคนที่ไม่มีเริ่มรู้สึกว่าจะต้องเข้าซื้อ ถือเป็นช่วงท้าย ๆ แล้วของการพุ่งขึ้นของราคา
- คุณพิชัยกล่าวว่า ราคา Bitcoin อาจจะพุ่งขึ้นไปแตะที่ 2-3 ล้าน ก่อนฟองสบู่แตก ซึ่งยังไม่มั่นใจว่าจะไปจบลงที่ช่วงเวลาไหน
คุณพิชัย จาวลา มุมมองต่อ หุ้นไทย
มุมมองต่อตลาดหุ้นไทยในปี 2565 ของคุณพิชัย น้องเป็ดนำมาจากบทสัมภาษณ์ Money Chat Thailand สัมภาษณ์โดยคุณเนาวรัตน์ เจริญประพิณ คือ ตลาดหุ้นจะอยู่ในกรอบและไม่ไปไหน
ดัชนีตลาดหุ้นปี 2565 อาจจะอยู่ที่ 1500 จุด ไม่ถึง 1800 จุดแน่นอน แต่มุมมองระยะยาวเป็นบวก ประมาณ 2200 จุด โดยมุมมองมาจาก 2 กลุ่มหลัก
- กลุ่มคนในตลาด เช่น นักวิเคราะห์ นักลงทุน VI นักเทรด มองบวกค่อนข้างชัดเจน เมื่อมองผ่านทฤษฎีผลประโยชน์ ทำให้ปีนี้หุ้นจะไม่ขึ้น
- กลุ่มคนนอกตลาด เช่น นักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ นักการเงิน ใช้เหตุผลต่าง ๆ มาประกอบ ยืนยันว่าตลาดเป็นลบ ต้องระวัง
สิ่งสำคัญคือกลุ่มหุ้นที่ควรถือและไม่ควรถือ โดยคิดจากทฤษฎีผลประโยชน์
- กลุ่มหุ้นที่ไม่ควรถือ คือ กลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการที่เศรษฐกิจจะฟื้นหรือดีขึ้น เช่น กลุ่มธนาคาร กลุ่มค้าปลีก กลุ่มห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
- กุล่มหุ้นที่ควรถือ คือ กลุ่มหุ้นที่ตรงข้ามดูแล้วไปได้ เช่น property ก่อสร้าง หลักทรัพย์ เป็นต้น
เมื่อผลการวิเคราะห์ออกมาเป็นแบบนี้หุ้นอาจจะเหวี่ยงอยู่ประมาณ 1500 – 1700 ตลาดหุ้นจะไม่ไปไหน แต่ยังมีกลุ่มหุ่นอีกหลายอย่างที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่เศรษฐกิจจะขึ้นเลยที่น่าถือ หุ้นที่ดูแล้วขายได้คุณพิชัยยังคงถืออยู่สูงถึง 75% โดยประมาณ
โดยคุณพิชัยให้เหตุผลว่าหลักการคนกลุ่มน้อยที่เงินทุนเยอะจะมีจังหวะตรงข้ามกับคนธรรมดา ภาพปัญหาของคนกลุ่มนี้ คือ เงินทุนเยอะมากเกินไป ทำยังไงจะขายได้มาก ๆ จึงเป็นจังหวะการลงทุนที่ตรงกันข้ามกับคนทั่วไป
Mindset ของคนกลุ่มน้อยคือ ต้องการขายให้ได้มากที่สุดในช่วงที่มีคนต้องการซื้อมากที่สุด ต้องการซื้อให้ได้มากที่สุดในช่วงที่มีคนขายมากที่สุด เพราะจำนวนเงินของคนกลุ่มนี้มากเกินกว่าจะซื้อหรือขายน้อย ๆ ได้ มองกรอบนี้ก็เป็นปัจจัยที่ชัดเจนที่ปีนี้ SET จึงเป็นขาลง
ปัจจัยอื่น ๆ เช่น ค่าเงิน และหุ้นต่างประเทศ ตัวอย่างคือคนที่มีเงินเยอะมาก ๆ อย่างจอร์จ โซรอส จะต้อง Matching กับเรา แล้วให้ราคาที่เคลื่อนไปจะเป็นตัวกำหนด คนธรรมดาจะมองเห็นทีหลัง การมองต้องมองเป็นส่วน ๆ แล้วค่อยนำมาประกอบกัน
ราคาที่จะเคลื่อนไปตามทิศทางที่คนส่วนน้อยได้ประโยชน์ บริบทต่าง ๆ จะขึ้นมาซัพพอร์ตเอง เช่น ขณะที่เกิดโควิดทุกคนไม่คิดเลยว่าหุ้นจะขึ้น ไม่มีคนมองเห็นเลยแต่หุ้นก็ขึ้นมาตลอด เป็นต้น ขณะนี้เป็นอารมณ์ผ่อนคลาย สบาย ๆ ไม่ใช่ช่วงที่จะทำให้เราได้กำไร
เวลาวิเคราะห์ เราต้องวิเคราะห์ผู้วิเคราะห์ข้อมูลข่าวสาร เราไม่ได้วิเคราะห์ข่าวสาร แนวโน้มนักลงทุนจะเชื่อความรู้สึกตนเอง แนวโน้มกราฟ นักวิชาการเตือนมาตลอดตั้งแต่ก่อนโควิดว่าหุ้นยังไม่ดี และยังคงมองเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ตอนนี้คนมองตลาดด้วยความระมัดระวัง ไม่ได้เชื่อมาก ดัชนีจึงไม่ได้ไปไกล ยื้อกันอยู่ระหว่างทาง ก่ำกึ่งกันอยู่เมื่อมองผ่านทฤษฎีผลประโยชน์ หุ้นกลุ่มที่ปลอดภัยที่คุณพิชัยถือ เป็นกลุ่มหลักทรัพย์ ก่อสร้าง เกษตร ขนส่ง สื่อสาร โดยทุกกลุ่มต้องเลือกบริษัทที่ดีด้วย
FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง
