จิตวิทยาแท่งเทียนและความหมายแท่งเทียนแต่ละแบบ มีอะไรบ้าง

IUX Markets Bonus

กราฟแท่งเทียน คืออะไร

กราฟแท่งเทียน คืออะไร

กราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) คือ หนึ่งในวิธีการแสดงข้อมูลราคาของหุ้น, สินค้าหรือเงินตราต่างประเทศในตลาดการเงิน โดยเน้นไปที่การแสดงภาพรวมของการเคลื่อนไหวราคาในแต่ละช่วงเวลาที่กำหนด กราฟแท่งเทียนมีความสามารถในการสะท้อนถึงอารมณ์และความรู้สึกของนักลงทุนในตลาด และมักถูกนำมาใช้กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อหาแนวโน้มของตลาดและสัญญาณซื้อขาย

ส่วนประกอบหลักของกราฟแท่งเทียนได้แก่

  • ราคาเปิด (Open Price): ราคาที่เริ่มต้นในช่วงเวลาที่กำหนด
  • ราคาปิด (Close Price): ราคาสิ้นสุดในช่วงเวลานั้น
  • ราคาสูงสุด (High Price): ราคาที่สูงที่สุดในช่วงเวลานั้น
  • ราคาต่ำสุด (Low Price): ราคาที่ต่ำที่สุดในช่วงเวลานั้น

ภาพรวมของกราฟแท่งเทียน

ภาพรวมของกราฟแท่งเทียน

ส่วนที่เป็นสี (ที่กล่าวว่าเป็น “เทียน” หรือ “Body”) แสดงถึงความแตกต่างระหว่างราคาเปิดกับราคาปิด

  • หากแท่งเทียนเป็นสีเขียวหรือขาว หมายความว่าราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด (ราคาขึ้น)
  • หากแท่งเทียนเป็นสีแดงหรือดำ หมายความว่าราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด (ราคาลดลง)

“เสา” หรือ “Shadow” ที่มีทั้งด้านบนและด้านล่างของเทียนแสดงถึงการเคลื่อนไหวราคาในช่วงเวลานั้น จากราคาสูงสุดไปถึงราคาต่ำสุด

จิตวิทยาแท่งเทียน เครื่องมือของนักลงทุน

จิตวิทยาแท่งเทียน (candlestick chart) เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่นักลงทุนและนักวิเคราะห์ทางเทคนิคใช้ในการตัดสินใจลงทุนในตลาดหุ้น หรือตลาดเงินอื่น ๆ จิตวิทยาในที่นี้คือการแสดงถึงการต่อสู้ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในแต่ละช่วงเวลา

HFM Market Promotion

เมื่อพูดถึงตลาดมีคนอยู่ประมาณ 3 กลุ่ม ในการวิเคราะห์ คือ คนที่ต้องการซื้อ, คนที่ต้องการขาย และกลุ่มที่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะทำอะไร

กลุ่มคนที่ต้องการซื้อมักเสนอราคาซื้อ (Bid) และต้องการซื้อสินค้าหรือหุ้นในราคาที่ถูกที่สุด เพื่อคาดหวังว่าในอนาคตราคาจะเพิ่มขึ้นและสามารถขายได้ในราคาที่สูงกว่า ในขณะที่กลุ่มคนที่ต้องการขายเสนอราคาขาย (Offer) พยายามขายสินค้าของตนในราคาที่สูงที่สุด เพื่อหากำไร

ส่วนกลุ่มคนที่ยังไม่ตัดสินใจนั้นเป็นกลุ่มที่สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดได้มาก เพราะถ้าพวกเขาเปลี่ยนใจและเข้าร่วมฝ่ายซื้อหรือขาย มันสามารถทำให้ราคาขยับไปในทิศทางหนึ่งได้

การทำนายว่าฝ่ายใดระหว่างผู้ซื้อหรือผู้ขายจะควบคุมตลาดได้นั้นเป็นหน้าที่หลักของนักเทรด เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จจะค้นหาจุดกลับตัวของตลาด หรือจุดที่แรงของฝ่ายหนึ่งหมดสิ้น และใช้จุดเหล่านี้เป็นโอกาสในการเข้าและออกจากตลาดเพื่อหากำไรได้

ที่สำคัญอีกอย่างคือ แท่งเทียนแต่ละแท่งสามารถบ่งบอกถึงการต่อสู้ระหว่างความเชื่อของผู้ซื้อและผู้ขายได้ โดยจากรูปแบบ สี และขนาดของแท่งเทียน

รูปแบบต่าง ๆของแท่งเทียนนั้นสามารถบ่งบอกได้ถึงทิศทางของตลาด เช่น Doji บ่งบอกถึงความลังเล ในขณะที่ Hammer หรือ Hanging Man บ่งบอกถึงสัญญาณการกลับตัวของตลาด อีกทั้ง จิตวิทยาแท่งเทียนสามารถเข้าไปประยุกต์ใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ

 

จิตวิทยาแท่งเทียนบอกอะไรได้บ้าง

จิตวิทยาของกราฟแท่งเทียน (Candlestick) เป็นส่วนสำคัญที่นักลงทุนใช้วิเคราะห์การซื้อขายและทำนายแนวโน้มตลาดต่อไป เมื่อเราเข้าใจจิตวิทยาที่แท่งเทียนบ่งบอก จะทำให้เราสามารถตีความได้ว่าในขณะนั้นตลาดมีสภาวะอย่างไร และนักลงทุนรู้สึกยังไง บางครั้งแท่งเทียนยังช่วยให้เราเห็นภาพการซื้อขายแบบชัดเจน และเข้าใจภาพรวมของตลาดมากขึ้น

จิตวิทยาที่กราฟแท่งเทียนเปิดเผย

แท่งเทียนขาว/เขียว (Bullish Candle): บ่งบอกว่าในช่วงเวลานั้น ผู้ซื้อมีพลังมากกว่าผู้ขาย จึงทำให้ราคาปิดสูงขึ้น

แท่งเทียนดำ/แดง (Bearish Candle): บ่งบอกว่าผู้ขายมีพลังเหนือกว่า ซึ่งทำให้ราคาปิดลดลง

Long Upper Shadow: บ่งบอกว่าระหว่างช่วงเวลานั้น ได้มีการซื้อขายในราคาที่สูงขึ้น แต่ในที่สุดผู้ขายก็สามารถกดราคาให้ลดลงมาได้

Long Lower Shadow: บ่งบอกว่าระหว่างช่วงเวลานั้น ราคาลดลงแต่ก็มีผู้ซื้อที่กดราคาให้ขึ้นอีกครั้ง

Doji (แท่งเทียนที่มีลำตัวสั้น): ราคาเปิดและราคาปิดเท่ากันหรือใกล้เคียงกัน บ่งบอกถึงความไม่แน่นอนในตลาด และการต่อสู้ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย

 

ประวัติความเป็นมาของกราฟแท่งเทียน

กราฟแท่งเทียน หรือ “Candlestick” คือ หนึ่งในเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่เก่าแก่และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ซึ่งมีประวัติความเป็นมายาวนาน โดยเริ่มต้นขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 17 หลังจากนั้นเป็นเวลากว่า 200 ปี ศิลปะในการวิเคราะห์กราฟแท่งเทียนนี้ได้รับการเผยแพร่และพัฒนาให้เป็นที่รู้จักในตลาดทั่วโลก โดยเฉพาะในตลาดหุ้นและสินค้าเกษตรต่างๆ

ประวัติกราฟแท่งเทียน Sokyu Homma

Mr.Munehisa Homma หรือที่เรียกว่า Sokyu Homma คือ ผู้ที่เป็นตำนานในประวัติศาสตร์ของกราฟแท่งเทียน ในศตวรรษที่ 18 Homma คือ หนึ่งในนักเทรดที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยเขาได้สร้างความรวยที่ยิ่งใหญ่จากการเทรดข้าว และเป็นผู้พัฒนาเทคนิคในการใช้กราฟแท่งเทียนในการวิเคราะห์ราคาข้าว ซึ่งในยุคนั้นเป็นสินค้าหลักของญี่ปุ่น

การเข้าใจในกราฟแท่งเทียนที่ Homma สร้างขึ้นมาไม่ใช่เพียงการดูแต่ละแท่งเทียนเพียงแต่ละแท่งเท่านั้น แต่เขาได้นำเสนอแนวคิดในการวิเคราะห์ภาพรวมของตลาด และการรับรู้ถึงความคิดรวม โดยการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของราคาในแต่ละวัน และศึกษากราฟแท่งเทียนที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างราคาเปิด-ปิด

ในปัจจุบันกราฟแท่งเทียนถูกใช้ในการวิเคราะห์ตลาดหลายๆ ประเภท ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น, ตลาดเงิน, หรือตลาดสินค้า และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก ซึ่งหลายแนวคิดและเทคนิคที่ Homma สร้างขึ้นมาในยุคนั้น ได้ถูกนำมาปรับปรุง และพัฒนาต่อยอดในยุคสมัยต่อๆมา แต่หลักการพื้นฐานที่ Homma ได้นำเสนอยังคงเป็นฐานของการวิเคราะห์ทางเทคนิคจนถึงปัจจุบัน

 

ลักษณะของแท่งเทียน Candlestick Chart

แท่งเทียน (Candlestick) ในกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) นั้น สื่อถึงข้อมูลการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงเวลาที่กำหนด โดยแท่งเทียนมีลักษณะทางภาษาศาสตร์ ดังนี้

Body (หรือ แท่งเทียน)

คือ ส่วนที่แสดงถึงความแตกต่างระหว่างราคาเปิด (Open Price) กับราคาปิด (Close Price)

  • หากเป็น แท่งเทียนขาว/เขียว หมายความว่าราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด คือราคาขึ้นในวันนั้น
  • หากเป็น แท่งเทียนดำ/แดง หมายความว่าราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด คือราคาลดลงในวันนั้น

Shadow หรือ เสาเทียน

คือ เส้นบางที่เรียกว่า “Upper Shadow” และ “Lower Shadow”

Upper Shadow หรือเสาเทียนบน

เป็นส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างบนสุดของเทียนถึงราคาสูงสุด (High Price) ในช่วงเวลานั้น

Lower Shadow หรือเสาเทียนล่าง

เป็นส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างล่างสุดของเทียนถึงราคาต่ำสุด (Low Price) ในช่วงเวลานั้น

หมายเหตุ

  • แท่งเทียนที่มี Body สั้น ๆ หมายถึงการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงเวลานั้นมีไม่มาก ขณะที่แท่งเทียนที่มี Body ยาว ๆ แสดงว่ามีการเคลื่อนไหวของราคาอย่างมาก
  • Shadow ที่ยาวแสดงให้เห็นว่าระหว่างช่วงเวลานั้นมีการสวิงของราคาที่สูงมาก

กราฟแท่งเทียนไม่ได้มีเพียงแท่งเดียว แต่ประกอบด้วยแท่งเทียนหลาย ๆ แท่งที่เรียงต่อกัน ซึ่งแต่ละแท่งจะบอกข้อมูลการเคลื่อนไหวราคาในช่วงเวลาต่าง ๆ นั้น แท่งเทียนนั้นใช้สำหรับการวิเคราะห์เชิงเทคนิคในตลาดการเงิน เพื่อช่วยวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด และเสนอสัญญาณซื้อขาย

 

ความหมายแท่งเทียนแต่ละแบบ candlestick

กราฟแท่งเทียน candlestick เป็นเครื่องมือที่นิยมใช้ เพื่อแสดงการเคลื่อนไหวของราคาในตลาด แต่ละแท่งเทียนแสดงราคาเปิด, สูงสุด, ต่ำสุดและปิดในช่วงเวลาที่กำหนด และการแปลรูปแบบต่างๆ ของแท่งเทียนนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่เพียงแต่ลักษณะภายนอกของแท่งเทียนเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างแท่งเทียนเหล่านั้นในช่วงเวลาที่กำลังสังเกตด้วย ซึ่งความหมายแท่งเทียนแต่ละแบบที่นิยมอยู่ในปัจจุบันมี ดังนี้

แท่งเทียนแนวขาขึ้น (Bullish Candlestick)

  • ราคาเปิดต่ำกว่าราคาปิด
  • ส่วนใหญ่ สีของแท่งเทียนจะเป็นสีขาวหรือสีเขียว
  • บ่งบอกถึงกำลังของผู้ซื้อ

แท่งเทียนแนวขาลง (Bearish Candlestick)

  • ราคาเปิดสูงกว่าราคาปิด
  • สีของแท่งเทียนส่วนใหญ่จะเป็นสีดำหรือสีแดง
  • บ่งบอกถึงกำลังของผู้ขาย

Doji

  • ราคาเปิดและปิดเท่ากันหรือใกล้เคียงกัน
  • บ่งบอกถึงสถานะของการตัดสินใจในตลาดที่ยังไม่ชัดเจน

Doji Star

  • เป็นรูปแบบของ Doji ที่ปรากฏอยู่ระหว่างแท่งเทียนที่มีตัวหนา
  • บ่งบอกถึงการระดมกำลังระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย

ฮัมเมอร์ (Hammer) และ ฮัมเมอร์กลับหัว (Inverted Hammer):

  • ดูเหมือนฮัมเมอร์ มีแท่งยาวด้านล่างและส่วนหลักเล็ก
  • เป็นแนวโน้มการกลับตัวจากแนวขาลงเป็นขาขึ้น

Hanging Man และ Shooting Star

  • ทั้งสองประเภทมีส่วนหลักเล็กและแท่งยาวด้านบน
  • บ่งบอกถึงแนวโน้มการกลับตัว

Bullish Engulfin

  • ประกอบด้วยสองแท่งเทียน แท่งที่สองครอบงำแท่งแดงก่อนหน้า
  • บ่งบอกถึงโอกาสในการเปลี่ยนแนวโน้ม

Bearish Engulfing

  • ตรงข้ามกับ Bullish Engulfing
  • บ่งบอกถึงแนวโน้มการกลับตัวจากแนวขาขึ้นเป็นขาลง

Morning Star

  • เป็นแบบแปลงแนวโน้มแบบสามแท่งเทียน
  • บ่งบอกถึงแนวโน้มการกลับตัวจากแนวขาลง

Evening Star

  • ตรงข้ามกับ Morning Star
  • บ่งบอกถึงแนวโน้มการกลับตัวจากแนวขาขึ้น

Spinning Top

  • มีส่วนหลักเล็กและแท่งยาวทั้งด้านบนและล่าง
  • บ่งบอกถึงการตัดสินใจที่ยังไม่ชัดเจน

Tweezer Tops และ Tweezer Bottoms

  • ปรากฏเมื่อมีแท่งเทียนสองแท่งที่มีจุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดที่เท่ากัน
  • บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม

Three Black Crows

  • ประกอบด้วยแท่งเทียนสีดำหรือสีแดง 3 แท่งที่เรียงต่อกัน
  • บ่งบอกถึงแนวโน้มขาลงที่แข็งแกร่ง

Three White Soldiers

  • ประกอบด้วยแท่งเทียนสีขาวหรือสีเขียว 3 แท่งที่เรียงต่อกัน
  • บ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง

Hanging Man

  • ปรากฏในแนวโน้มขาขึ้น
  • มีตัวเทียนสีเดียวกับแนวโน้ม แต่มีแท่งเงาที่ยาวด้านล่าง
  • บ่งบอกถึงความเป็นไปได้ของการกลับตัวของแนวโน้ม

Shooting Star

  • ปรากฏในแนวโน้มขาขึ้น
  • มีตัวเทียนสีตรงข้ามกับแนวโน้ม แต่มีแท่งเงายาวด้านบน
  • บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม

Hammer

  • ปรากฏในแนวโน้มขาลง
  • มีตัวเทียนสีตรงข้ามกับแนวโน้ม แต่มีแท่งเงายาวด้านล่าง
  • บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้มและการเริ่มขาขึ้น

Inverted Hammer

  • ปรากฏในแนวโน้มขาลง
  • มีตัวเทียนสีตรงข้ามกับแนวโน้ม แต่มีแท่งเงายาวด้านบน
  • บ่งบอกถึงความเป็นไปได้ของการกลับตัวของแนวโน้ม

Piercing Pattern

  • สัญญาณเปลี่ยนแนวโน้มจากลงเป็นขึ้น
  • มีแท่งแดงที่ปิดลงสูงและแท่งเขียวในวันถัดไปที่ปิดขึ้นสูง

Dark Cloud Cover

  • สัญญาณเปลี่ยนแนวโน้มจากขึ้นเป็นลง
  • มีแท่งเขียวที่ปิดขึ้นสูงและแท่งแดงในวันถัดไปที่ปิดลงสูง

 

อธิบายจุดซื้อขาย candlestick

กราฟแท่งเทียน (candlestick) ได้รับความนิยมในการวิเคราะห์ตลาดอย่างแพร่หลาย เนื่องจากสามารถบอกถึงการเปลี่ยนแนวโน้มของราคา และระบุจุดซื้อขายที่เหมาะสมได้ จุดซื้อขายที่อ้างอิงจากกราฟแท่งเทียนส่วนใหญ่จะถูกเตือนสัญญาณโดยรูปแบบต่างๆ ของแท่งเทียน

การใช้กราฟแท่งเทียนในการระบุจุดซื้อขาย

  • Piercing Pattern / Dark Cloud Cover: ถ้ามีการปรากฎ Piercing Pattern ในแนวโน้มขาลง นั้นเป็นสัญญาณซื้อ ในขณะที่ Dark Cloud Cover ในแนวโน้มขาขึ้น เป็นสัญญาณขาย
  • Bullish Engulfing / Bearish Engulfing: Bullish Engulfing เป็นสัญญาณซื้อเมื่อปรากฎในแนวโน้มขาลง. ส่วน Bearish Engulfing เป็นสัญญาณขายเมื่อปรากฎในแนวโน้มขาขึ้น
  • Hammer / Hanging Man: Hammer ที่ปรากฎในแนวโน้มขาลง เป็นสัญญาณซื้อ Hanging Man ในแนวโน้มขาขึ้น เป็นสัญญาณขาย
  • Bullish Inverted Hammer / Shooting Star: Bullish Inverted Hammer ในแนวโน้มขาลง เป็นสัญญาณซื้อ Shooting Star ในแนวโน้มขาขึ้น เป็นสัญญาณขาย
  • Three Inside Up / Three Inside Down: Three Inside Up ในแนวโน้มขาลง เป็นสัญญาณซื้อ. ส่วน Three Inside Down ในแนวโน้มขาขึ้น เป็นสัญญาณขาย
  • Morning Star / Bearish Evening Star: Morning Star ที่ปรากฎในแนวโน้มขาลง เป็นสัญญาณของการกลับตัวของแนวโน้มและเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการซื้อ ในขณะที่ Bearish Evening Star ที่ปรากฎในแนวโน้มขาขึ้น แสดงถึงความเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มและเป็นสัญญาณขาย
  • Bullish Harami / Bearish Harami: Bullish Harami มีแนวโน้มปรากฎเมื่อตลาดมีแนวโน้มขาลงและเป็นสัญญาณกลับตัวของแนวโน้ม ส่วน Bearish Harami เป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มขณะที่ตลาดขาขึ้น
  • Bullish Abandoned Baby / Bearish Abandoned Baby: ปรากฎหลังจากการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรงและเป็นสัญญาณกลับตัวของแนวโน้ม
  • Bullish Marubozu / Bearish Marubozu: แท่งเทียนแบบนี้ไม่มีเงายาวหรือเงาสั้น แสดงถึงการควบคุมของฝ่ายซื้อหรือขาย Bullish Marubozu มักปรากฎในแนวโน้มขาขึ้น และ Bearish Marubozu ในแนวโน้มขาลง
  • Bullish Tri Star / Bearish Tri Star: สัญญาณการกลับตัวของแนวโน้มราคาที่น่าสนใจ

 

เหตุผลที่ทำให้กราฟแท่งเทียน (Candlesticks) ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือหลักในการวิเคราะห์

เหตุผลที่ทำให้กราฟแท่งเทียนเป็นที่นิยมมากในปัจจุบันนั้น อีกทั้งยังถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือหลักในการวิเคราะห์นั้นเป็นเพราะกราฟแท่งเทียน (Candlesticks) เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีความน่าสนใจมาก เนื่องจากมันเป็นการสะท้อนถึงการเคลื่อนไหวของราคาในตลาดอย่างชัดเจน และนี่เป็นเหตุผลที่ทำให้นักลงทุนหลายๆ คนตัดสินใจนำมาใช้เป็นเครื่องมือหลักในการวิเคราะห์

หลักการของกราฟแท่งเทียน คือ การแสดงข้อมูลของราคาเปิด, ราคาปิด, ราคาสูงสุด และราคาต่ำสุด ภายในระยะเวลาที่กำหนด ทำให้เทรดเดอร์สามารถเห็นภาพรวมของการซื้อขายในตลาดได้จากแท่งเทียนเพียงแท่งเดียวการที่แท่งเทียนสามารถสะท้อนถึงความรู้สึกและอารมณ์ของนักลงทุนในตลาดได้

ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ กราฟแท่งเทียนจึงได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับในวงการนักลงทุน เพราะมันเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจตลาดได้ดียิ่งขึ้น

FOREXDUCK Logo

FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง

HFM Promotion