Forex Balance ติดลบคืออะไร พอร์ต forex ทอง ติดลบทำอย่างไร

IUX Markets Bonus

Forex Balance คืออะไร

Forex Balance คือ อ้างอิงถึงยอดเงินที่มีอยู่ในบัญชีเทรดฟอเร็กซ์ (Forex trading account) ของคุณรายละเอียดของ “Forex Balance” สามารถอธิบายได้ดังนี้

1 Forex Balance คืออะไร

Balance (ยอดเงินคงเหลือ) เพราะเป็นยอดเงินทั้งหมดที่คุณมีอยู่ในบัญชีเทรด ณ ขณะนั้น ซึ่งไม่รวมถึงกำไรหรือขาดทุนจากการเปิดตำแหน่งที่ยังไม่ปิด (open trades) ยอดเงินนี้จะเปลี่ยนแปลงเมื่อคุณปิดตำแหน่งทั้งหมดที่เปิดอยู่

Floating Profit/Loss (กำไร/ขาดทุนลอยล float) เป็นผลต่างระหว่างค่าซื้อขายเมื่อเปิดตำแหน่งและราคาปัจจุบัน โดยยังไม่ได้เข้าไปปรับยอดใน Balance ของคุณจนกว่าคุณจะปิดตำแหน่งนั้นๆ

Equity (ยอดเงินทั้งหมด) เป็นค่ารวมของ Balance และ Floating Profit/Loss หากคุณปิดตำแหน่งทั้งหมดที่เปิดอยู่ณ ขณะนั้น ยอดเงิน Equity จะกลายเป็นยอดเงิน Balance ใหม่ของคุณ

ดังนั้น เมื่อพูดถึง “Forex Balance” ก็คือยอดเงินที่คุณมีอยู่ในบัญชีเทรดฟอเร็กซ์ของคุณ ไม่รวมการเปิดตำแหน่งที่ยังไม่ได้ปิด แต่ถ้าคุณต้องการทราบยอดเงินรวมทั้งการเปิดตำแหน่งปัจจุบัน คุณควรดูที่ “Equity”

HFM Market Promotion

 

ความหมายของ Balance ในการเทรด Forex

Balance สำหรับภาษาอังกฤษทั่วไปอาจ หมายถึง ความสมดุลหรือดุลยภาพ1 แต่เมื่อมาถึงบริบทของการเทรด Forex ความหมายของมันเปลี่ยนไป เนื่องจากในตลาด Forex “Balance” หมายถึง ยอดเงินที่มีอยู่ในบัญชีของผู้เทรด ซึ่งไม่เป็นจำนวนเงินที่ปรับปรุงเรียลไทม์ หากมีการเปิดออร์เดอร์ที่ติดลบและยังไม่ได้ปิด ยอด “Balance” จะยังคงอยู่เดิม

แต่นอกจากนั้น “Balance” ยังไม่รวมโบนัสที่ผู้เทรดได้รับหรือกำไรและขาดทุนที่กำลังเกิดขึ้นจากออร์เดอร์ที่ยังไม่ได้ปิด การอ้างถึง “Balance” ก็คือการอ้างถึงยอดเงินสุทธิที่ผู้เทรดสามารถใช้ในการเปิดออร์เดอร์ใหม่หรืออนเงินออกมาได้ บางครั้ง “Balance” จะถูกแสดงเป็นเงินบาท ขณะที่บางครั้งก็เป็น USD

ตัวอย่างเช่น

2 ตัวอย่างเช่น

  • หากฝากเงินเข้าบัญชีเทรด 200$ ยอด “Balance” ของผู้เทรดก็จะแสดงเป็น 200$ เป็นต้น

คำศัพท์ Forex เกี่ยวข้องและใช้ร่วมกับ Balance มีอะไรบ้าง

การเทรดในตลาด Forex มีการใช้คำศัพท์ที่เฉพาะเจาะจงในการอ้างอิงต่อสถานะเงินในบัญชีของนักเทรด ซึ่งมีหลายคำศัพท์ แต่วันนี้ขอนำเสนอที่สำคัญๆ ดังนี้

Equity

คือ: ยอดเงินรวมกำไรหรือขาดทุนของออเดอร์ที่กำลังเปิด

วิธีคำนวณ: Equity = Balance + กำไร/ขาดทุน

เช่น: Balance 200$ แต่ Equity 210$ นั่นคือ มีกำไร 10$

Margin

คือ: เงินที่นักเทรดใช้เปิดออเดอร์ (เรียกว่า “เงินประกัน”)

วิธีคำนวณ: Margin = ราคา x Lot x Contract size / Leverage

เช่น: เปิด 1 lot ของ EURUSD ที่ราคา 13413 กับ Leverage 1:500 ต้องใช้ Margin 26826$

Free Margin

คือ: เงิน Margin ที่ยังไม่ได้ใช้

วิธีคำนวณ: Free Margin = Equity – Margin

Margin Level

คือ: เปอร์เซ็นต์ของ Margin ที่กำลังถูกใช้

วิธีคำนวณ: Margin Level = (Equity / Margin) x 100%

Leverage

คือ: อัตราส่วนที่นักเทรดสามารถยืมเงินมาเทรด

คำแนะนำ การเทรดด้วย Leverage สูงสามารถเพิ่มโอกาสของกำไร แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนมากขึ้น ดังนั้นควรใช้วิจารณญาณและวางแผนการลงทุนอย่างระมัดระวัง

  • ข้อดี: เพิ่มโอกาสในการเทรดแบบสั้น เปิดออเดอร์เยอะๆ แม้มีเงินน้อย
  • ข้อเสีย: เปิดออเดอร์ใหญ่ๆ กับเงินน้อยอาจนำไปสู่การขาดทุนมาก

 

Forex Balance ติดลบคืออะไร

การเทรด Forex สามารถมีการเกิดขาดทุนได้ และเมื่อเราพูดถึง “Forex Balance ติดลบ” หมายถึง บัญชีการเทรดของคุณมียอดเงินที่น้อยกว่า 0 หรือบัญชีของคุณขาดทุนเกินกว่าเงินที่คุณฝากเข้าไป

การที่บัญชี Forex ของคุณมี Balance ติดลบสามารถเกิดจากหลายสาเหตุ

  • การใช้ Leverage สูง: Leverage ช่วยให้คุณสามารถเทรดเงินจำนวนมาก แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนขนาดใหญ่
  • ข่าวหรือเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ: เหตุการณ์บางอย่างอาจทำให้ตลาดมีการเคลื่อนไหวแบบกะทันหัน ทำให้เกิดขาดทุนอย่างรวดเร็ว
  • การไม่ตั้ง Stop Loss: การไม่กำหนดระดับตัดขาดทุน หรือ Stop Loss อาจทำให้ขาดทุนสะสมได้เรื่อยๆ

หากบัญชีของคุณมี Balance ติดลบ อาจจำเป็นต้องชำระเงินเพิ่มเติมเข้าบัญชี เพื่อปิดยอดเงินติดลบนั้น แต่บางโบรกเกอร์ในตลาด Forex นั้นมีนโยบายที่ป้องกันบัญชีของนักเทรดจากการติดลบ ที่เรียกว่า “Negative Balance Protection” ซึ่งหากเกิดขาดทุนเกินไปจนบัญชีติดลบ โบรกเกอร์จะตั้งค่าให้บัญชีกลับมาเป็น 0 โดยไม่ต้องชำระเงินเพิ่ม

ในทางปฏิบัติควรคำนึงถึงความเสี่ยงในการเทรด Forex และใช้วิธีการป้องกันความเสี่ยง เช่น การตั้ง Stop Loss การไม่ใช้ Leverage สูงเกินไป และติดตามข่าวสารทางเศรษฐกิจเพื่อป้องกันขาดทุนที่ไม่คาดคิดอยู่สม่ำเสมอ

 

ตัวอย่าง

สมมติว่าคุณเป็นนักเทรด Forex ที่เพิ่งเริ่มต้น และคุณต้องการเทรดคู่สกุลเงิน EUR/USD โดยคุณมีบัญชีที่มียอดเงินฝาก 1000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

1 การใช้ Leverage สูง

คุณเลือกใช้ Leverage 1:500 ซึ่งหมายความว่า คุณสามารถเทรดจำนวนเงินมากกว่าที่คุณมีในบัญชีได้ถึง 500 เท่า นั่น คือ คุณสามารถเทรดได้มากสุด 500000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยเงินที่คุณมีเพียง 1000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

2 การไม่ตั้ง Stop Loss

คุณเทรด Long (ซื้อ) EUR/USD โดยไม่ได้ตั้ง Stop Loss เพราะคิดว่าตลาดจะเคลื่อนไปในทิศทางที่คุณคาดการณ์

3 ข่าวหรือเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ

ขณะที่คุณกำลังเทรด มีข่าวเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ทางการเมืองในยุโรป เกิดขึ้น ทำให้ค่าของ EUR ตกต่ำอย่างรวดเร็ว

ผลที่เกิดขึ้น

  • เนื่องจากคุณใช้ Leverage สูงและไม่ได้ตั้ง Stop Loss
  • การที่ EUR ตกต่ำทำให้คุณขาดทุนเร็วมาก
  • สมมติว่าคุณขาดทุนไป 1500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้บัญชีของคุณแสดงยอดเงิน -500 ดอลลาร์สหรัฐฯ นั่น คือ “Forex Balance ติดลบ”

หากคุณเทรดกับโบรกเกอร์ที่มีนโยบาย “Negative Balance Protection” โบรกเกอร์จะทำการปรับยอดเงินในบัญชีของคุณกลับเป็น 0 แต่หากไม่มีนโยบายดังกล่าว คุณอาจจำเป็นต้องชำระเงินเพิ่มเติมเข้าสู่บัญชีเพื่อปิดยอดติดลบนั้น

 

เทรดกับโบรกเกอร์ที่มีนโยบาย “Negative Balance Protection”

สถานการณ์จะเป็นดังนี้

  • การปรับยอดเงิน: โบรกเกอร์จะปรับยอดเงินในบัญชีการเทรดของคุณกลับมาที่ 0 (ศูนย์) หรือยอดเริ่มต้นสำหรับบัญชีใหม่ หมายความว่าคุณจะไม่ต้องติดลบ
  • ไม่ต้องชำระเงินเพิ่ม: คุณจะไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเข้าบัญชีเพื่อคืนยอดให้กลับมาเป็นบวกหรือเท่ากับศูนย์
  • การป้องกันความเสี่ยง: นโยบายนี้ช่วยให้นักเทรดป้องกันความเสี่ยงจากการเสียเงินเกินกว่าที่ฝากเข้ามาในบัญชีการเทรด
  • ทบทวนการเทรด: แม้ว่านโยบายนี้จะเป็นการป้องกันยอดเงินติดลบ แต่คุณยังควรทบทวนการเทรดของคุณและเหตุผลที่ทำให้บัญชีติดลบ เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดในอนาคต
  • ตรวจสอบข้อกำหนด: ถึงแม้คุณจะเทรดกับโบรกเกอร์ที่มีนโยบาย “Negative Balance Protection” แต่ควรตรวจสอบข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้าใจขั้นตอนและสิทธิ์ของคุณในกรณีที่บัญชีการเทรดติดลบ
  • ความเสี่ยงจากการเทรด: ควรระลึกว่า แม้จะมีนโยบายนี้ การเทรด Forex ยังคงมีความเสี่ยง ควรเทรดด้วยเงินที่คุณพร้อมที่จะเสียได้
  • ด้วยนโยบาย “Negative Balance Protection” นักเทรดจะรู้สึกมั่นใจมากขึ้นในการเทรด แต่ยังควรมีความระมัดระวังและทบทวนกลยุทธ์การเทรดของตนเองอย่างสม่ำเสมอ

 

พอร์ตติดลบ ได้ไหม

พอร์ตติดลบได้ไหมนั้น เทรดเดอร์ทุกคนคงพอรู้อยู่แล้วว่า พอร์ตติดลบถือว่าเป็นเรื่องธรรมดามาก ในตลาด Forex (ตลาดเปรียบเทียบค่าเงินของสกุลต่างๆ) คำว่า “พอร์ตติดลบ” ไม่ได้ใช้บ่อยครั้งเท่ากับคำว่า “Balance ติดลบ” หรือ “Negative Balance” ทว่าเราสามารถอธิบายความหมายในบริบทของ Forex ได้ดังนี้

การที่บัญชีการเทรด Forex ของคุณมี “Balance ติดลบ” หมายความว่า

  • คุณเปิดออเดอร์ในตลาด Forex และตลาดเคลื่อนไปในทิศทางตรงกันข้ามจนถึงระดับที่เงินในบัญชีของคุณไม่สามารถรองรับขาดทุนที่เกิดขึ้นได้แล้ว
  • โบรกเกอร์สามารถปิดออเดอร์ของคุณโดยอัตโนมัติเมื่อเงินในบัญชีลดลงจนถึงระดับที่กำหนด (เรียกว่า Margin Call) แต่ในบางกรณีที่ตลาดเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว ออเดอร์ของคุณอาจจะปิดในราคาที่แย่กว่าที่คาดหวัง ทำให้บัญชีของคุณมี Balance ติดลบ

นี่เป็นสถานการณ์ที่คุณต้องการเปิดตำแหน่งเทรดให้ตรงกับทิศทางตลาด แต่เนื่องจากการเคลื่อนไปของตลาดทำให้คุณขาดทุนมากเกินกว่าที่เงินประกัน (Margin) ของคุณสามารถรองรับได้

ถ้าโบรกเกอร์ของคุณมีนโยบาย “Negative Balance Protection” ในกรณีที่บัญชีของคุณติดลบ โบรกเกอร์จะปรับยอด Balance ของคุณกลับมาที่ 0 หรือไม่ต้องให้คุณชำระเงินที่ติดลบนั้น แต่ถ้าโบรกเกอร์ไม่มีนโยบายนี้ คุณอาจต้องชำระเงินที่ติดลบนั้นแก่โบรกเกอร์

 

XM Balance ติดลบ ทำอย่างไร

XM เป็นบริษัทโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรม Forex และมีนโยบาย “Negative Balance Protection” นั่นหมายความว่าถ้าบัญชีการเทรดของคุณติดลบหลังจากการเคลื่อนไหวของตลาดที่รวดเร็วหรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด XM จะปรับยอด Balance ของคุณกลับมาที่ 0 โดยไม่ต้องให้คุณชำระเงินที่ติดลบนั้น

3 XM Balance ติดลบ ทำอย่างไร

หากบัญชีการเทรดของคุณที่ XM ติดลบ ควรทำดังนี้

  • ตรวจสอบยอดบัญชี: ก่อนอื่น ควรตรวจสอบยอดบัญชีของคุณในแพลตฟอร์มการเทรดเพื่อยืนยันว่ามันติดลบจริงๆ และเป็นการติดลบที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของตลาดหรือเนื่องจากบางสาเหตุอื่น
  • XM มีนโยบาย “Negative Balance Protection” ดังนั้นหากบัญชีของคุณติดลบ โบรกเกอร์ควรจะปรับยอดบัญชีของคุณกลับเป็น 0 ภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือภายใน 1 วันทำการ
  • ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า: หากผ่านไปสักพักแล้วยอดบัญชีของคุณยังคงอยู่ในสถานะติดลบ ควรติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ XM เพื่อแจ้งเรื่องและขอคำแนะนำเพิ่มเติม
  • วิเคราะห์สาเหตุ: พยายามทบทวนและวิเคราะห์เหตุผลที่ทำให้บัญชีของคุณติดลบ เพื่อป้องกันการเกิดสถานการณ์เดียวกันในอนาคต
  • ประเมินและปรับปรุงกลยุทธ์การเทรด: หากคุณพบว่าสาเหตุที่ทำให้บัญชีของคุณติดลบเกิดจากการเทรดของคุณเอง ควรพิจารณาปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์การเทรดของคุณ
  • พิจารณาวิธีการจัดการความเสี่ยง: การตั้งค่า Stop Loss การใช้ขนาดตำแหน่งที่เหมาะสม และการมีความรู้ความเข้าใจในการใช้ Leverage สามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการที่บัญชีของคุณจะติดลบได้

 

เป็นหนี้โบรกเกอร์ไหม

การว่าคุณจะเป็นหนี้กับโบรกเกอร์ในธุรกิจ Forex จะขึ้นอยู่กับนโยบายของโบรกเกอร์นั้นๆ และเงื่อนไขที่คุณตกลงกับโบรกเกอร์

  • นโยบาย “Negative Balance Protection”: หากโบรกเกอร์มีนโยบายนี้ บัญชีการเทรดของคุณจะไม่สามารถมียอดติดลบได้ ถ้าเกิดมีเหตุการณ์ที่สาเหตุให้บัญชีของคุณติดลบ (เช่น การเคลื่อนไหวของตลาดที่รวดเร็ว) โบรกเกอร์จะปรับยอดเงินในบัญชีของคุณกลับเป็น 0 และคุณจะไม่ต้องชำระหนี้ใดๆ ที่เกิดขึ้น
  • ไม่มีนโยบาย “Negative Balance Protection”: ในกรณีนี้ หากบัญชีการเทรดของคุณติดลบ คุณจะต้องชำระเงินตามจำนวนที่ติดลบ นี่คือรูปแบบเดิมๆ ในอดีตของการเทรด Forex แต่ในปัจจุบัน หลายๆ โบรกเกอร์ได้เริ่มใช้นโยบาย “Negative Balance Protection” เพื่อปกป้องลูกค้าของพวกเขา
  • สัญญาและเงื่อนไข: ควรอ่านและทำความเข้าใจสัญญาและเงื่อนไขที่คุณได้รับจากโบรกเกอร์เมื่อเปิดบัญชี เนื่องจากสิ่งเหล่านี้จะมีรายละเอียดเกี่ยวกับความรับผิดชอบของคุณในกรณีที่บัญชีการเทรดติดลบ
  • ติดต่อโบรกเกอร์: หากคุณไม่แน่ใจหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับยอดบัญชีของคุณ ควรติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของโบรกเกอร์เพื่อขอคำแนะนำ

 

ตัวอย่าง Balance Forex Balance ติดลบ

สถานการณ์ เพื่ออธิบายในเรื่องของ “Forex Balance ติดลบ” ให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น

1 การเริ่มต้น

คุณมีบัญชีการเทรด Forex กับโบรกเกอร์ A และมีเงินฝากอยู่ 1000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) ในบัญชีเทรดของคุณ

2 การใช้ Leverage สูง

คุณต้องการเทรดคู่สกุลเงิน EUR/USD และเลือกใช้ Leverage 1:500 ซึ่งแปลว่า ด้วยเงินฝาก 1000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ของคุณ คุณสามารถควบคุมรายการเทรดที่มีมูลค่า 500000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

3 การเปิด Position

คุณเทรด Long (ซื้อ) EUR/USD ใน volume 5 lots (ซึ่งสัมพันธ์กับ 500000 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ในราคา 12000 โดยคาดว่า EUR จะเพิ่มมูลค่าเทียบกับ USD

4 การเคลื่อนไหวของตลาด

ขณะที่คุณเทรด มีข่าวว่าธนาคารกลางยุโรปประกาศลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้ EUR ตกต่ำอย่างรวดเร็ว

5 ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด

EUR/USD ตกจาก 12000 เป็น 11970 ภายในไม่กี่นาที นั่นหมายความว่าคุณขาดทุน 30 pips ใน 5 lots = 1500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยเงินฝากเริ่มแรกของคุณที่ 1000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และขาดทุน 1500 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากการเทรดนี้ บัญชีของคุณจึงแสดงยอดเงินติดลบ -500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเรียกว่า “Forex Balance ติดลบ”

6 การแก้ไข

หากโบรกเกอร์ของคุณมีนโยบาย “Negative Balance Protection” บัญชีของคุณจะถูกปรับเป็น 0 ดอลลาร์สหรัฐฯ และคุณจะไม่ต้องชำระเงินเพิ่ม แต่ถ้าโบรกเกอร์ของคุณไม่มีนโยบายดังกล่าว คุณอาจจะต้องชำระเงินเพิ่มเข้าในบัญชีเพื่อปิดยอดติดลบนั้น แนะนำให้นักเทรดตั้งค่า Stop Loss และไม่ควรใช้ Leverage สูงเกินความสามารถในการรับความเสี่ยงของตนเองเพื่อป้องกันบัญชีเทรดของตนเองจากการติดลบ

 

ประโยชน์จากการอ่านค่า Balance

ช่วยให้เราวางแผนการจัดการความเสี่ยง ยอด Balance ที่แท้จริงเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจว่าคุณควรลงทุนในตำแหน่งใดและใช้ leverage เท่าไหร่ ทั้งนี้จะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการเทรดที่ไม่ตระหนักถึงยอดเงินที่คุณมีอยู่จริง

เป็นสัญญาณแจ้งเตือนเมื่อมีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ หากค่า Balance ของคุณมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วหรือไม่สอดคล้องกับความคาดหวัง, นั่นอาจเป็นสัญญาณว่ามีบางสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบทันที

ช่วยตรวจสอบผลกำไร-ขาดทุน บางครั้งการดูยอด Balance เป็นวิธีง่ายในการตรวจสอบว่าเรากำลังได้กำไรหรือขาดทุนจากการเทรด หากยอด Balance มีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แสดงว่าการเทรดของคุณนั้นประสบความสำเร็จ

ช่วยให้เราสามารถประเมินประสิทธิภาพของการเทร ยอด Balance สามารถช่วยให้เราวัดดูประสิทธิภาพของการเทรดได้ ว่าเราสามารถทำกำไรได้มากแค่ไหน และยอดขาดทุนคือเท่าไหร่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงแผนการเทรดให้ดียิ่งขึ้น

การเข้าใจยอด Balance จึงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับนักเทรด ไม่ว่าจะเป็นนักเทรดมือใหม่หรือมืออาชีพ การทราบยอดเงินที่คุณมีอยู่จริง จะช่วยให้คุณเทรดด้วยความมั่นใจและรู้ทันสถานการณ์ในแต่ละขณะ

 

FOREXDUCK Logo

FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง

HFM Promotion