กราฟแท่งเทียน คือ
กราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) คือ ชนิดหนึ่งของกราฟที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคภายในตลาดการเงินและตลาดหุ้น เพื่อแสดงราคาเปิด, ราคาปิด, ราคาสูงสุด, และราคาต่ำสุดของระยะเวลาที่กำหนด
ส่วนประกอบหลักๆของแท่งเทียนมี 2 ส่วน
ส่วนที่ 1 ตัวแท่ง (Body)
ตัวแท่ง (Body): ซึ่งแสดงราคาเปิดและปิด ถ้าราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด แท่งเทียนจะเป็นสีเขียว (หรือสีอื่นๆที่ถูกกำหนดไว้) และถ้าราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด แท่งเทียนจะเป็นสีแดง
ตัวแท่ง (Body) ของกราฟแท่งเทียนเป็นส่วนหลักที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงราคาในช่วงเวลาที่ต้องการวิเคราะห์มันสามารถเข้าใจได้ง่ายและให้ข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับกระแสตลาดในช่วงเวลานั้น ๆ ได้
- แท่งเทียนขาว หรือ เขียว: หากตัวแท่ง (Body) เป็นสีขาวหรือเขียว มันแสดงว่า ราคาปิดสูงกว่าราคาเปิดในช่วงเวลานั้น ตัวแท่งเริ่มที่ราคาเปิดและสิ้นสุดที่ราคาปิด หมายความว่าในช่วงเวลานั้น ๆ ราคาได้เพิ่มขึ้น
- แท่งเทียนดำ หรือ แดง: หากตัวแท่ง (Body) เป็นสีดำหรือแดง มันแสดงว่า ราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิดในช่วงเวลานั้น. ตัวแท่งเริ่มที่ราคาเปิดและสิ้นสุดที่ราคาปิด แสดงว่าในช่วงเวลานั้น ๆ ราคาได้ลดลง
ในบางกรณี
- ตัวแท่ง (Body) อาจจะไม่มีเลย หมายความว่าราคาเปิดและปิดเท่ากัน (Doji candlestick) นี่คือสัญญาณที่แสดงถึงการลังเลหรือความไม่แน่นอนในตลาด
- ความยาวของตัวแท่ง (Body) แสดงระดับของการความเคลื่อนไหวราคา แท่งเทียนที่ยาวแสดงถึงความเปลี่ยนแปลงราคาที่สูงมากในช่วงเวลานั้น ในขณะที่แท่งเทียนที่สั้นแสดงถึงความเปลี่ยนแปลงราคาที่น้อย
ส่วนที่ 2 เงา (Shadow) หรือ Wick
เงา (Shadow) หรือ Wick: เส้นบางๆที่เห็นด้านบนและด้านล่างของตัวแท่ง แสดงราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดในระยะเวลานั้นๆ เงาของกราฟแท่งเทียนเป็นส่วนที่เห็นเป็นเส้นบางๆที่อยู่ทั้งด้านบนและด้านล่างของตัวแท่ง (Body) เงาแสดงถึง การแกว่งของราคาที่เกินเหนือและอยู่ที่ล่างของราคาเปิดและปิดในช่วงเวลาที่กำหนด
เงาด้านบน (Upper Shadow)
เงาด้านบน (Upper Shadow) ในกราฟแท่งเทียนซึ่งบางครั้งยังถูกเรียกว่า “wick” หรือ “nose” คือส่วนที่แสดงถึงระดับราคาสูงสุดที่มีการซื้อขายในช่วงเวลาที่แท่งเทียนนั้นสะท้อนถึง เงาด้านบนเริ่มจากราคาที่สูงขึ้นจากตัวแท่ง (Body) และขยายไปถึงราคาสูงสุดที่ถูกซื้อขายในช่วงเวลานั้น
ความยาวของเงาด้านบน แสดงระดับของความผันผวนราคาในช่วงเวลานั้น เงาที่ยาวบ่งบอกว่ามีความผันผวนราคาสูงในช่วงเวลานั้น แสดงถึงการปรับตัวขึ้นของราคาจากราคาที่เปิดถึงราคาที่สูงที่สุด หากเงาด้านบนสั้นหรือไม่มีเลย มันหมายความว่าราคาไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากมายจากราคาเปิดและมีความผันผวนต่ำ
เงาด้านล่าง (Lower Shadow)
เงาด้านล่าง (Lower Shadow) ในกราฟแท่งเทียน ซึ่งบางครั้งยังถูกเรียกว่า “tail” หรือ “shadow” คือ ส่วนที่แสดงถึงระดับราคาต่ำสุดที่มีการซื้อขายในช่วงเวลาที่แท่งเทียนนั้นสะท้อนถึง เงาด้านล่างเริ่มจากราคาที่ต่ำกว่าตัวแท่ง (Body) และขยายไปถึงราคาต่ำสุดที่ถูกซื้อขายในช่วงเวลานั้น
ความยาวของเงาด้านล่าง แสดงระดับของความผันผวนราคาในช่วงเวลานั้น เงาที่ยาวบ่งบอกว่ามีความผันผวนราคาสูงในช่วงเวลานั้น แสดงถึงการปรับตัวลงของราคาจากราคาที่เปิดถึงราคาที่ต่ำที่สุด หากเงาด้านล่างสั้นหรือไม่มีเลย มันหมายความว่าราคาไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากมายจากราคาเปิดและมีความผันผวนต่ำ
แท่งเทียนที่มีเงาทั้งด้านบนและล่างที่ยาว และตัวแท่งที่เล็กเรียกว่า “Doji” ที่สื่อถึงการลังเลในการซื้อขายจนราคาเปิดและปิดเท่ากัน มันอาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนทิศทางของตลาด
แท่งเทียนที่มีเงาทั้งด้านบนและด้านล่างที่ยาวและตัวแท่งที่เล็กเรียกว่า “Doji” เป็นลักษณะพิเศษของกราฟแท่งเทียนที่สะท้อนถึงความลังเลหรือความไม่แน่นอนในตลาด มันเป็นสัญญาณที่บอกว่ามีความสมดุลระหว่างคู่ซื้อขาย ระหว่างผู้ค้าที่ซื้อและผู้ค้าที่ขายกันเสมอ ซึ่งส่งผลให้ราคาปิดเท่ากับราคาเปิด หรืออาจจะเล็กน้อยเท่านั้นทำให้แท่งเทียนดูเล็ก และเป็นเครื่องหมายของความไม่แน่นอนหรือความสับสนในตลาด
การเจาะจงความหมายของแต่ละแท่ง Doji สามารถมองได้จากลักษณะทางเทคนิคอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในระยะเวลาก่อนหรือหลังแท่ง Doji เช่น รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นก่อนหน้า (preceding trend) หรือรูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น (following trend) เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ทิศทางที่เป็นไปได้ของตลาดได้ใกล้เคียง อย่างไรก็ตาม แต่ละกรณีอาจมีการแปลงความหมายขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องในตลาดและการกระจายตัวของแท่งเทียนอื่นๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัว Doji ด้วย
กราฟแท่งเทียนเบื้องต้น
กราฟแท่งเทียนใช้ในการวิเคราะห์และประเมินแนวโน้มของตลาดและเคลื่อนไหวของราคา ซึ่งสามารถทำได้หลายอย่างดังนี้
การตรวจสอบแนวโน้ม: กราฟแท่งเทียนช่วยให้คุณสามารถรับรู้แนวโน้มของตลาดได้ง่ายขึ้น ถ้าแท่งเทียนสีเขียวหรือเป็นแท่งใหญ่ขึ้นต่อเนื่องกัน อาจแสดงถึงการเคลื่อนไหวของราคาขึ้น (uptrend) ในขณะที่แท่งเทียนสีแดงหรือเป็นแท่งใหญ่ขึ้นต่อเนื่องกัน อาจแสดงถึงการเคลื่อนไหวของราคาลง (downtrend)
การตรวจสอบแนวรับและแนวต้าน: เงาด้านบนและด้านล่างของแท่งเทียนแสดงระดับราคาสูงสุดและต่ำสุดในช่วงเวลานั้น คุณสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการจับแนวรับและแนวต้านในการวางแผนการซื้อขาย
การตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของตลาด: แท่งเทียนที่มีขนาดใหญ่หรือเปลี่ยนแปลงสีจากแท่งก่อนหน้าอาจแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของตลาด มันช่วยให้คุณรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของราคาที่สำคัญ
การหาสัญญาณซื้อขาย: โดยอาศัยแท่งเทียนที่มีลักษณะเฉพาะ เช่น แท่งเทียน Doji หรือแท่งเทียนที่เป็นตรงกลาง (Indecision) คุณสามารถใช้แนวรับและแนวต้าน รวมถึงการวิเคราะห์รูปแบบเทคนิคอื่นๆ เพื่อหาสัญญาณซื้อขายที่เป็นไปได้
การจัดการความเสี่ยง: โดยใช้กราฟแท่งเทียน คุณสามารถกำหนดระดับ Stop Loss และ Take Profit โดยพิจารณาจากการวิเคราะห์แท่งเทียนและระดับราคาที่สำคัญ
ดังนั้นแล้ว กราฟแท่งเทียนมีความสามารถในการสื่อถึงข้อมูลราคาในรูปแบบที่เข้าใจง่าย และมีความหลากหลายของรูปแบบแท่งเทียนที่สามารถให้ข้อมูลที่สำคัญในการตัดสินใจในการซื้อขาย
การอ่านแท่งเทียนในกราฟ
เมื่ออ่านแท่งเทียนในกราฟ สามารถดูและวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ที่แท่งเทียนนั้นสื่อถึงได้อย่างละเอียดดังนี้
สีของแท่งเทียน
แท่งเทียนที่เป็นสีเขียวหรือให้ความหมายว่าราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด ในบางกรณีอาจแสดงถึงการเคลื่อนไหวของตลาดที่เป็นเชิงบวกหรือแนวโน้มขึ้น (uptrend) ซึ่งอาจเป็นสัญญาณให้คุณพิจารณาการซื้อหรือสัญญาณต่อยอดการซื้อที่มีความเป็นไปได้
แท่งเทียนที่เป็นสีแดงหรือให้ความหมายว่าราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด ในบางกรณีอาจแสดงถึงการเคลื่อนไหวของตลาดที่เป็นเชิงลบหรือแนวโน้มลง (downtrend) ซึ่งอาจเป็นสัญญาณให้คุณพิจารณาการขายหรือสัญญาณต่อยอดการขายที่มีความเป็นไปได้
ความยาวของตัวแท่ง
ความยาวของตัวแท่งเทียนแสดงถึงการเคลื่อนไหวราคาในช่วงเวลานั้นๆ ถ้าตัวแท่งยาวมาก อาจแสดงถึงการเคลื่อนไหวราคาที่แรงขึ้นและเป็นตัวบ่งบอกว่ามีผู้ซื้อและผู้ขายที่เคลื่อนที่กันมากในช่วงเวลานั้น ถ้าตัวแท่งยาวน้อย อาจแสดงถึงความไม่แน่นอนหรือความเฉลี่ยของราคาที่น้อยลง ซึ่งอาจแสดงถึงช่วงเวลาที่ตลาดอยู่ในช่วงระหว่างการเคลื่อนไหวหรือเฉี่ยวชนกัน
เงาด้านบนและเงาด้านล่าง
เงาด้านบนแสดงระดับราคาสูงสุดที่ถูกซื้อขายในช่วงเวลานั้น และเงาด้านล่างแสดงระดับราคาต่ำสุดที่ถูกซื้อขายในช่วงเวลานั้น การวิเคราะห์เงาด้านบนและด้านล่างสามารถช่วยให้คุณระบุแนวรับและแนวต้านของราคาได้ แนวรับคือระดับราคาที่มีการซื้อมากและราคาลงมากจากนั้น และแนวต้านคือระดับราคาที่มีการขายมากและราคาขึ้นมากจากนั้น
ในการอ่านแท่งเทียนในกราฟช่วยให้เรดเดอร์สามารถตรวจสอบแนวโน้มของตลาด หากเห็นรูปแบบของแท่งเทียนที่ซับซ้อน เช่น แท่งเทียน Doji ซึ่งมีตัวแท่งเล็กและเงาทั้งด้านบนและด้านล่างที่ยาว อาจแสดงถึงความไม่แน่นอนหรือตลาดที่อยู่ในช่วงระหว่างการตัดสินใจ ฉะนั้น การอ่านแท่งเทียนในกราฟเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการตัดสินใจซื้อขายของเทรดเดอร์ให้มีการวิเคราะห์ที่แม่นยำขึ้น
กราฟแท่งเทียนมีกี่ประเภท
กราฟแท่งเทียนที่พบเห็นได้บ่อยสุดมี 7 ประเภท
ประเภทของกราฟแท่งเทียนมี ดังนี้
กราฟแท่งเทียนใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคมีหลากหลายประเภท โดยมีลักษณะที่แตกต่างกันตามความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ดังนี้:
- กราฟแท่งเทียนขาว (Bullish Candlestick): แท่งเทียนนี้แสดงถึงการเคลื่อนไหวขึ้นของราคาหุ้น ที่มีราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด เส้นตัวเทียนจะมีสีขาวหรือเขียว เรียกว่า “body” ของแท่งเทียน
- กราฟแท่งเทียนดำ (Bearish Candlestick): แท่งเทียนนี้แสดงถึงการเคลื่อนไหวลงของราคาหุ้น ที่มีราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด เส้นตัวเทียนจะมีสีดำหรือแดง เรียกว่า “body” ของแท่งเทียน
- กราฟแท่งเทียน Doji: แท่งเทียนนี้มีลักษณะพิเศษ คือราคาเปิดและปิดเท่ากันหรือใกล้เคียงกันมาก ทำให้ “body” ของแท่งเทียนมีความสั้นมาก แท่งเทียน Doji ส่วนใหญ่เป็นสัญญาณแสดงถึงความลังเลของผู้ซื้อและผู้ขาย มีหลายแบบ เช่น Standard Doji, Long-legged Doji, Dragonfly Doji และ Gravestone Doji
- Hammer และ Hanging Man: แท่งเทียนประเภทนี้มีรูปร่างคล้ายค้อน (Hammer) หรือคนแขวน (Hanging Man) ทั้งสองประเภทนี้สามารถทำนายถึงการกลับเเทรกของตลาดได้ Hammer ปรากฏในเทรนด์ลงและสัญญาณว่าเทรนด์อาจจะกลับเป็นขาขึ้น ในขณะที่ Hanging Man ปรากฏในเทรนด์ขึ้นและสัญญาณว่าเทรนด์อาจจะกลับเป็นขาลง
- Inverted Hammer และ Shooting Star: แท่งเทียนประเภทนี้มีลักษณะคล้ายค้อนที่กลับหัว (Inverted Hammer) หรือดาวตก (Shooting Star) Inverted Hammer ปรากฏในเทรนด์ลงและสัญญาณว่าเทรนด์อาจจะกลับเป็นขาขึ้น ในขณะที่ Shooting Star ปรากฏในเทรนด์ขึ้นและสัญญาณว่าเทรนด์อาจจะกลับเป็นขาลง
- Bullish Engulfing และ Bearish Engulfing: กราฟแท่งเทียนประเภทนี้คือรูปแบบที่แท่งเทียนใหม่ “กลืน” แท่งเทียนก่อนหน้าโดยราคาเปิดและปิดของแท่งเทียนใหม่เป็นมากกว่าแท่งเทียนก่อนหน้า Bullish Engulfing บ่งบอกถึงการกลับเป็นเทรนด์ขาขึ้น ในขณะที่ Bearish Engulfing บ่งบอกถึงการกลับเป็นเทรนด์ขาลง
- Morning Star และ Evening Star: แท่งเทียนประเภทนี้เป็นรูปแบบที่ประกอบด้วยสามแท่งเทียน Morning Star ปรากฏในเทรนด์ลงและบ่งบอกถึงการกลับเป็นเทรนด์ขาขึ้น ในขณะที่ Evening Star ปรากฏในเทรนด์ขึ้นและบ่งบอกถึงการกลับเป็นเทรนด์ขาลง
กราฟแท่งเทียนเหล่านี้เป็นเพียงบางส่วนของรูปแบบกราฟแท่งเทียนที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค แต่มีรูปแบบอื่นๆ อีกด้วย เช่น
- Spinning Tops: แท่งเทียนนี้มี “body” ที่สั้นและ “shadow” ที่ยาวทั้งด้านบนและด้านล่าง แสดงถึงความลังเลระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย
- Marubozu: ไม่มี “shadow” ทั้งด้านบนและล่าง หากเป็นแท่งเทียนขาว Marubozu แสดงถึงแนวโน้มของผู้ซื้อที่มากมาย หากเป็นแท่งเทียนดำ Marubozu แสดงถึงแนวโน้มของผู้ขายที่มากมาย
- Harami: แท่งเทียนนี้ประกอบด้วยแท่งเทียนใหญ่และแท่งเทียนเล็กที่ตั้งอยู่ภายในราคาเปิดและราคาปิดของแท่งเทียนใหญ่ สามารถเป็นสัญญาณของการกลับเทรนด์
- Three White Soldiers / Three Black Crows: ต่อเนื่องจากแท่งเทียนขาว หรือแท่งเทียนดำ 3 แท่งที่เกิดขึ้นติดต่อกัน บ่งบอกถึงแนวโน้มของเทรนด์ที่แข็งแกร่ง
- Piercing Line / Dark Cloud Cover: รูปแบบของแท่งเทียน 2 แท่งที่บ่งบอกถึงการกลับเทรนด์ Piercing Line เป็นสัญญาณการกลับเป็นเทรนด์ขาขึ้น ในขณะที่ Dark Cloud Cover เป็นสัญญาณการกลับเป็นเทรนด์ขาลง
กราฟแท่งเทียนเหล่านี้ทั้งหมดเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค สามารถช่วยให้คุณเข้าใจถึงพฤติกรรมของตลาดและทำนายแนวโน้มของราคาในอนาคต แต่โปรดทราบว่าไม่มีอะไรที่100% แน่นอนในการทำนายตลาด ดังนั้นควรใช้กราฟแท่งเทียนร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ ในการสนับสนุนการตัดสินใจการลงทุนของคุณ
โปรแกรมดูกราฟแท่งเทียน และดูที่ไหน
มีหลายโปรแกรมและเว็บไซต์ที่ให้เทรเดอร์ดูกราฟแท่งเทียน (candlestick chart) มากมาย แต่ที่นิยมเป็นส่วนใหญ่ จะนิยมมากที่สุด คือ
- TradingView: เป็นเครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ให้บริการการวิเคราะห์ราคาหุ้น, สินค้า, สกุลเงินดิจิตอล, และอื่นๆ อีกมากมาย มีระบบที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้และมีตัวเลือกการปรับแต่งมากมาย
- MetaTrader MT4/ MT5: โปรแกรมนี้มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการเทรดหุ้น, สกุลเงินดิจิตอล, และอื่นๆ อีกมากมาย และยังให้เทรดเดอร์สร้างและทดสอบระบบการเทรดแบบอัตโนมัติของตัวเอง
- StockCharts: เว็บไซต์นี้ให้บริการกราฟแท่งเทียนที่ง่ายต่อการใช้งาน มีเครื่องมือวิเคราะห์หลากหลายและมีบทความทางการเงินที่มีประโยชน์
กราฟแท่งเทียนขาลง (Bearish Candlestick)
แท่งเทียนขาลง (Bearish Candlestick) แสดงถึงราคาที่ปิดต่ำกว่าราคาที่เปิดในช่วงเวลานั้น ๆ ที่แท่งเทียนนั้นครอบคลุม การสร้างแท่งเทียนขาลงจะใช้สี่ค่าราคาหลักคือ ราคาเปิด, ราคาสูงสุด, ราคาต่ำสุด และราคาปิด โดยราคาเปิดจะอยู่ด้านบนและราคาปิดจะอยู่ด้านล่าง ทำให้”ลำตัว” (body) ของแท่งเทียนเป็นสีที่เราเลือกเพื่อแทนแท่งเทียนขาลง (ส่วนใหญ่จะเป็นสีดำหรือสีแดง)
ราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นจะถูกแทนด้วยเส้นที่บางกว่าและยาวกว่าเรียกว่า “wick” หรือ “shadow” “wick” ด้านบนแสดงถึงราคาสูงสุดในช่วงเวลานั้น และ “wick” ด้านล่างแสดงถึงราคาต่ำสุดในช่วงเวลานั้น
กราฟแท่งเทียนขาขึ้น (Bullish Candlestick)
แท่งเทียนขาขึ้น (Bullish Candlestick) แสดงถึงราคาที่ปิดสูงกว่าราคาที่เปิดในช่วงเวลานั้น ๆ ที่แท่งเทียนนั้นครอบคลุม การสร้างแท่งเทียนขาขึ้นจะใช้สี่ค่าราคาหลักคือ ราคาเปิด, ราคาสูงสุด, ราคาต่ำสุด และราคาปิด โดยราคาเปิดจะอยู่ด้านล่างและราคาปิดจะอยู่ด้านบน ทำให้”ลำตัว” (body) ของแท่งเทียนเป็นสีที่เราเลือกเพื่อแทนแท่งเทียนขาขึ้น (ส่วนใหญ่จะเป็นสีขาวหรือสีเขียว)
ราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นจะถูกแทนด้วยเส้นที่บางกว่าและยาวกว่าเรียกว่า “wick” หรือ “shadow””wick” ด้านบนแสดงถึงราคาสูงสุดในช่วงเวลานั้น และ “wick” ด้านล่างแสดงถึงราคาต่ำสุดในช่วงเวลานั้น
สรุป
การวิเคราะห์แท่งเทียนขาขึ้นและขาลงสามารถช่วยให้นักลงทุนสามารถทำนายแนวโน้มของตลาดและทำการซื้อขายให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตลาด แต่หากจะใช้แท่งเทียนในการวิเคราะห์ทางเทคนิคควรใช้ร่วมกับตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่น ๆ และตัวชี้วัดทางพื้นฐานเพื่อให้การวิเคราะห์มีความเชื่อถือได้มากขึ้น
FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง