10 เทรดเดอร์ระดับโลก ที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนมากที่สุด

IUX Markets Bonus

10 เทรดเดอร์ระดับโลก

นักเทรด Forex ที่ประสบความสำเร็จมากมักเป็นผู้ที่มีความรู้และทักษะในการวิเคราะห์ตลาดและการตัดสินใจที่แม่นยำ เทรดเดอร์เหล่านี้ล้วนผ่านการทดสอบในบทชีวิตมากมาย ต้องมีความอดทนและความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเองเพื่อเป็นนักเทรดที่ดีขึ้นอยู่เสมอ ตลาด Forex เป็นตลาดที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างไม่สามารถคาดเดาสถานการณ์ได้ ต้องอาศัยความรู้ประสบการณ์ทักษะการใช้เครื่องมือ ประกอบกับการตัดสินใจอย่างชาญฉลาด ถึงจะประสบความสำเร็จในตลาด Forex ได้ ดังนั้น นักเทรดที่ประสบความสำเร็จมากจะต้องเรียนรู้และปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดของตนอยู่เสมอ

เทรดเดอร์ที่ครองใจและเป็นแรงบันดาลใจให้นักเทรด คือ

  1. จอร์จ โซรอส (George Soros)
  2. จิม ไซมอน (Jim Simmons)
  3. สแตนลีย์ ดรัคเคนมิลเลอร์ (Stanley Druckenmiller)
  4. บรูซ โคฟเนอร์ (Bruce Kovner)
  5. บิล ลิปชอตซ์ (Bill Lipschutz)
  6. มาริโอ สิงห์
  7. เนล ฟูลเลอร์
  8. Andrew J. Krieger หรือ Andy
  9. เจสซี่ ลิเวอร์มอร์ (Jesse Livermore)
  10. วิลเลียม เดลเบิร์ต แกนน์

1.จอร์จ โซรอส (George Soros)

1 George Soros

จอร์จ โซรอส (George Soros) เป็นนักเทรดและนักลงทุนที่มีชื่อเสียงในวงการการเงิน ในระยะเวลาหนึ่ง เขาได้ทำกำไรมหาศาลจากการเทรดสกุลเงินต่างๆ โดยเฉพาะในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) จอร์จ โซรอส (George Soros) เริ่มต้นในตอนแรกของอาชีพการเงิน โซรอสทำงานในธนาคารของลอนดอนและนิวยอร์ก แต่ความสนใจของเขาในการลงทุนและการศึกษาในสกุลเงินเปลี่ยนไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะในการวิเคราะห์ข่าวเศรษฐกิจและตลาดทั่วโลก

ในปี 1992 โซรอสก่อตั้งกองทุนรวมชื่อ Quantum Fund ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในกองทุนรวมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ในช่วงนั้น เขาตัดสินใจลงทุนในการขายสกุลเงินปอนด์สเตอร์ลิง (Pound Sterling) ซึ่งถูกพิงพาอย่างรุนแรงโดยรัฐบาลและธนาคารกลางของสหราชอาณาจักร ผลลัพธ์ คือ เขาสามารถทำกำไรได้มากถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยทำให้ปอนด์สเตอร์ลิงตกลงมาอยู่ในระดับต่ำสุดใน 15 ปี

การดำเนินกิจการของโซรอสไม่จำกัดเพียงแค่การเทรด Forex เขายังลงทุนในหลายกลุ่มสินทรัพย์และตลาดทั่ว จากการเทรด Forex โดย Quantum Fund จอร์จ โซรอสได้เข้าสู่การลงทุนในหลายกลุ่มสินทรัพย์และตลาดทั่วโลก เขามีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวของตลาดทุน และเคยลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ และตลาดเงินทุนรวมอื่น ๆ

HFM Market Promotion

โดยเฉพาะในตลาดหลักทรัพย์ โซรอสเคยมีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งและลงทุนในบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล เมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 1992 ซึ่งเป็นบริษัทที่รวมกลุ่มสื่อข่าวและบริการในเครือของทางเครือข่ายโทรคมนาคม โดยการลงทุนในบริษัทดังกล่าว ทำให้กลายเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและสื่อมวลชน นอกจากนี้ เขายังลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งรวมถึงการซื้อและขายอสังหาริมทรัพย์ในหลายประเทศ รวมถึงอสังหาริมทรัพย์พาณิชย์และอสังหาริมทรัพย์ที่พักอาศัย โดยเฉพาะในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในยุโรปตะวันตก เขาทำกำไรได้จากการรับช่วงราคาที่เพิ่มขึ้นของอสังหาริมทรัพย์ในประเทศต่างๆ

2.จิม ไซมอน (Jim Simons)

2 Jim Simons

จิม ไซมอน (Jim Simons) เป็นนักเทรดและนักลงทุนที่มีชื่อเสียงในวงการการเงิน และเป็นผู้ก่อตั้งและประธานบริหารของ Renaissance Technologies LLC ซึ่งเป็นหนึ่งในกองทุนเฮดจ์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก ต้องบอกว่า เจ้าของกองทุนเฮดจ์แห่งนี้เป็นผู้มีความชำนาญในการใช้วิธีคณิตศาสตร์ และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการเทรดและการลงทุน วิธีการทางคณิตศาสตร์ที่ใช้ในกองทุน Renaissance Technologies ถูกเรียกว่า “สูตรสุ่ม” (quantitative trading strategies) หรือ “การซื้อขายอัตโนมัติ” (algorithmic trading) ที่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อวิเคราะห์และทำธุรกรรมในตลาดทุนอัตโนมัติ

Jim Simons เป็นนักคณิตศาสตร์ที่มีความรู้ความสามารถในด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ เขามีทีมวิทยากรและนักวิจัยที่เชี่ยวชาญทางด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ และการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อพัฒนาและปรับปรุงกลยุทธ์การลงทุนของกองทุนให้มีประสิทธิภาพ และผลงานการลงทุนของ Jim Simons และกองทุน Renaissance Technologies ได้รับความยอดเยี่ยมและความสำเร็จอย่างมาก โดยเฉพาะในการเทรดและลงทุนในตลาดทุนแบบเฮด

กองทุน Renaissance Technologies ที่ถูกก่อตั้งขึ้นโดย Jim Simons เน้นการลงทุนในตลาดทุนแบบเฮดจ์ (hedge funds) และใช้วิธีการทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์เพื่อทำธุรกรรมในตลาดอัตโนมัติ วิธีการที่เขาใช้นั้นเน้นการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลในอดีตเพื่อทำนายแนวโน้มของตลาดและวางกลยุทธ์การลงทุนที่มีโอกาสทำกำไรสูง โดยใช้โมเดลทางคณิตศาสตร์และข้อมูลประวัติศาสตร์

3.สแตนลีย์ ดรัคเคนมิลเลอร์ (Stanley Druckenmiller)

3 Stanley Druckenmiller

สแตนลีย์ ดรัคเคนมิลเลอร์ (Stanley Druckenmiller) เป็นนักเทรดและนักลงทุนที่มีชื่อเสียงในวงการการเงิน และเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเทรด Forex อย่างมาก เขาเกิดเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 1953 ในปิตซเบิร์ก (Pittsburgh), รัฐเพนซิลเวเนีย (Pennsylvania), สหรัฐอเมริกา เขาเริ่มต้นการทำงานในวงการการเงินเมื่อเข้าทำงานในธนาคารกลางของอเมริกา แต่ความสนใจของเขาเพิ่มขึ้นในการลงทุนและการเทรด ซึ่งทำให้เขาลาออกจากธนาคารเพื่อเริ่มต้นธุรกิจการลงทุนของตนเอง

ในช่วงปี 1988 ถึง 2000 เขาทำงานเป็นพาร์ทเนอร์กับอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกองทุน Quantum Fund อย่างจิม โซรอส (Jim Soros) และเคนเนธ ควอน (Kennon Quan) ในระหว่างนี้ เขามีบทบาทสำคัญในการวางกลยุทธ์การลงทุนและเทรดในตลาด Forex

สแตนลีย์ ดรัคเคนมิลเลอร์ได้รับความรู้และความเข้าใจที่ลึกซึ้งในตลาดการเงิน และใช้วิธีการทางเศรษฐศาสตร์เพื่อประเมินแนวโน้มและการเคลื่อนไหวของสกุลเงิน ซึ่งช่วยให้เขาสามารถทำกำไรได้ในการเทรด Forex อย่างสม่ำเสมอ โดยสแตนลีย์ ดรัคเคนมิลเลอร์เป็นนักลงทุนที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางเศรษฐกิจและการเงิน นอกจากการเทรด Forex แล้ว เขายังลงทุนในตลาดหลักทรัพย์และตลาดอื่น ๆ อีกยังยังเป็นผู้มีผลงานที่โดดเด่น โดยเฉพาะในการทำกำไรจากการพยายามทำนายและเก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงในตลาดการเงิน ในปี 1992 เขาได้รับความรู้สึกว่าสกุลเงินปอนด์สเตอร์ลิง (Pound Sterling) ได้รับการประนีประนอมเกินไป เขาทำกำไรจากการเดิมพันที่สกุลเงินนี้จะลดค่าลง ซึ่งเป็นเหตุทำให้ปอนด์สเตอร์ลิงปิดท้ายได้รับความเสียหายมาก

ความสำเร็จของสแตนลีย์ ดรัคเคนมิลเลอร์ไม่จำกัดเพียงแค่การเทรด Forex เท่านั้น แต่ยังประสบผลงานที่สำคัญในการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงการลงทุนในหลายกลุ่มสินทรัพย์อื่น ๆ อีกด้วย ต่อมาเขาได้ทำงานร่วมกับ Jim Soros (Jim Simons) ในกองทุน Quantum Fund ในช่วงระยะเวลา 1988-2000 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สแตนลีย์เติบโตและก้าวสู่ความสำเร็จในวงการการเงิน

ในช่วงเวลาที่ทำงานร่วมกันกับ Jim Soros สแตนลีย์มีบทบาทสำคัญในการวางกลยุทธ์การลงทุนและการเทรด โดยเฉพาะในตลาด Forex สแตนลีย์มีความคิดริเริ่มและความชำนาญในการวิเคราะห์ข้อมูลทางเศรษฐกิจและการเงิน เขาใช้วิธีการทางเศรษฐศาสตร์เพื่อประเมินแนวโน้มและการเคลื่อนไหวของสกุลเงิน เพื่อจะทำนายและปรับกลยุทธ์การเทรดเพื่อทำกำไร

4.บรูซ โคฟเนอร์ (Bruce Kovner)

4 Bruce Kovner

บรูซ โคฟเนอร์ (Bruce Kovner) เป็นนักเทรดและนักลงทุนที่มีชื่อเสียงในวงการการเงิน และเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเทรด Forex ในอดีต เขาเกิดเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1945 ในบรุกลิน (Brooklyn), รัฐนิวยอร์ก (New York), สหรัฐอเมริกา เขาเริ่มต้นการทำงานในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสกุลเงินในบริษัทเอ็มเว่อร์ ออปชั่น (C&E Berger) ในปี ค.ศ. 1977 และในช่วงเวลาที่ใช้งานอยู่ในบริษัทนี้ เขาได้รับการฝึกและพัฒนาทักษะในการเทรดสกุลเงิน

ในปี 1983 เขาก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ชื่อ Caxton Associates ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในกองทุนเฮดจ์ที่ประสบความสำเร็จในวงการการเงิน โดยเขาใช้วิธีการทางเศรษฐศาสตร์และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อประเมินแนวโน้มและการเคลื่อนไหวของตลาด Forex ซึ่งช่วยให้เขาสามารถทำกำไรได้ในการเทรด Forex

บรูซ โคฟเนอร์เป็นนักลงทุนที่มีความรู้ความสามารถในการจัดการความเสี่ยง และใช้กลยุทธ์การลงทุนที่มีพื้นฐานแน่นอนเพื่อเพิ่มโอกาสในการกำไร นอกจากการเทรด Forex โคฟเนอร์ยังลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เขามีความชำนาญในการวิเคราะห์ข้อมูลทางเศรษฐกิจ การเปรียบเทียบและประเมินแนวโน้มของสกุลเงิน เขาใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์พื้นฐานเพื่อให้มีการตัดสินใจที่มีความแม่นยำในการเทรด Forex

บรูซ โคฟเนอร์เป็นผู้มีความเข้าใจในการจัดการความเสี่ยงและการบริหารเงินอย่างมีประสิทธิภาพ และใช้กลยุทธ์การเทรดที่คำนึงถึงการรับความเสี่ยงและการป้องกันสูญเสีย อีกทั้งเขายังมีความเฉลียวฉลาดในการตัดสินใจ และผลงานการลงทุนของบรูซ โคฟเนอร์มีความสำเร็จมากมาย โดยเฉพาะในการเทรด Forex เขาได้ทำกำไรมากมายและเป็นที่ยอมรับในวงการการเงิน ต้องนอมรับว่าความรู้และประสบการณ์ของบรูซ โคฟเนอร์ทำให้เขาเป็นแรงบันดาลใจ และมีศักยภาพที่น่านับถือในวงการการเงิน และการเทรด Forex เรียกได้ว่า ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้ประสบความสำเร็จมากคนหนึ่งด้วย

5.บิล ลิปชอตซ์ (Bill Lipschutz)

5 Bill Lipschutz

บิล ลิปชอตซ์ (Bill Lipschutz) เป็นนักลงทุนและนักเทรดที่มีชื่อเสียงในวงการการเงิน และเป็นบุคคลที่ถูกยกย่องสำหรับเหล่าเทรดเดอร์ ในวงการ forex เป็นอย่างมาก

หลังจาก บิล ลิปชอตซ์ ได้รับปริญญาบัญชีจากมหาวิทยาลัยคอร์นเฟลล์ (Cornell University) ในปี ค.ศ. 1982 บิล ลิปชอตซ์ได้เริ่มต้นงานในธุรกิจการเงินในตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุนในบริษัท Salomon Brothers ซึ่งในช่วงเวลาที่ทำงานที่นี่ เขาได้รับการฝึกและพัฒนาทักษะในการเทรดสกุลเงินต่างๆ จนเก่ง และในช่วงต้นปี ค.ศ. 1984 บิล ลิปชอตซ์ได้เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นผู้บริหารของกองทุนเรือธงชื่อ North Tower Group ที่เน้นการเทรด Forex ซึ่งกองทุนนี้ได้รับความสำเร็จอย่างมาก ในการลงทุนตลาดเงิน

อีกทั้ง บิล ลิปชอตซ์ ยังเป็นนักลงทุนที่มีความชำนาญในการวิเคราะห์ข้อมูลทางเศรษฐกิจ และการเงิน เขาใช้ทักษาะการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์พื้นฐาน เพื่อประเมินแนวโน้ม และการเคลื่อนไหวของตลาด Forex ซึ่งช่วยให้เขาสามารถทำกำไรได้ในการเทรด Forex ได้อย่างมากมาย และกลายเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

6.มาริโอ สิงห์ (Mario Singh)

6 Mario Singh

Mario Singh เป็นนักเทรดและผู้เขียนที่มีชื่อเสียงในวงการการเงินและการเทรด Forex ในเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เขาเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นผู้จัดการทั่วไปของกลุ่มบริษัท Fullerton Markets ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการทางการเงินและการซื้อขายสกุลเงิน และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิคในการซื้อขายสกุลเงิน

Mario Singh มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการศึกษาแนวโน้มและการวิเคราะห์กราฟในตลาด Forex เขาเน้นการใช้เทคนิคการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการตัดสินใจทางการเงินเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการซื้อขายสกุลเงิน นอกจากนี้ยังเป็นผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับการซื้อขายสกุลเงินและการเทรด Forex โดยเฉพาะหนังสือชื่อ “17 Proven Currency Trading Strategies” ซึ่งเป็นหนังสือที่ได้รับความนิยมและถูกนำมาใช้เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับนักเทรด Forex

Mario Singh ถือว่าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการการเงินและการเทรด Forex และเป็นแรงบันดาลใจสำหรับนักลงทุนและนักเทรดอื่น ๆ ที่สนใจในการศึกษาและประยุกต์ใช้กลยุทธ์การซื้อขายสกุลเงินอย่างมาก จัดได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการซื้อขายสกุลเงิน Forex และเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการการเงิน นอกจากการเป็นผู้จัดการทั่วไปของกลุ่มบริษัท Fullerton Markets และเขียนหนังสือเกี่ยวกับการซื้อขายสกุลเงิน มาริโอ สิงห์ยังเป็นวิทยากรและที่ปรึกษาในอีกหลายสถาบันการศึกษา และองค์กรทางการเงินทั่วโลก

เขามีความเชี่ยวชาญในการใช้เทคนิคการวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น กราฟแท่งเทียน (candlestick chart) และตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่น ๆ เพื่อการตัดสินใจทางการเทรดที่มีความแม่นยำ และเขาเน้นการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพในการซื้อขาย

ผลงานและความรู้ของมาริโอ สิงห์ได้รับการยอมรับและความนิยมอย่างแพร่หลายในวงการการเงิน และผู้ที่สนใจในการเทรด Forex บางครั้งเรียกเขาว่า “ผู้ให้คำปรึกษาสกุลเงินเจ้าแรกของเอเชีย”

7.เนล ฟูลเลอร์ (Nial Fuller)

7 Nial Fuller

เนล ฟูลเลอร์ (Nial Fuller) เป็นเทรดเดอร์ค่าเงิน นักเทรดและนักศึกษาชาวออสเตรเลียนามว่า Nial Fuller เป็นบุคคลที่เชี่ยวชาญด้านการเทรดและความรู้ในการวิเคราะห์ราคาในตลาด Forex ฉายาที่เขาถือคือ “เจ้าพ่อ Price Action” เนื่องจากเขาเน้นการศึกษา และการใช้ราคาที่เกิดขึ้นในกราฟเทียบกับตลาดที่เปิดขึ้นก่อนหน้านั้นเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจการเทรดอย่างมาก

เนล ฟูลเลอร์ได้เริ่มต้นการทำงานในวงการการเงินในช่วงปี ค.ศ. 2002 โดยเริ่มต้นด้วยการเทรดและลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ต่อมาเขาย้ายไปสู่ตลาด Forex และเริ่มใช้เทคนิค Price Action ซึ่งเป็นกลยุทธ์การเทรดหลักของเขา

Nial Fuller ได้รับความนิยมและความรู้จากการแบ่งปันข้อมูลผ่านเว็บไซต์และหนังสือออนไลน์ที่เขียนขึ้นด้วยตนเอง โดยเน้นการสอนและแบ่งปันเทคนิคการเทรดที่เขาใช้ในตลาด Forex รวมถึงการวิเคราะห์ราคาโดยใช้ Price Action เพื่อช่วยให้นักเทรดสามารถใช้กลยุทธ์นี้ในการตัดสินใจการเทรด และยังเน้นการเทรดอย่างเป็นระบบ และการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เขาสอนให้นักเทรดเน้นความสำคัญของการจัดการเงินและการควบคุมอารมณ์ในการเทรดได้เป็นอย่างดี

จึงถือได้ว่า เขาเป็นผู้สอนและผู้เขียนที่มีความนิยมมากในวงการการซื้อขาย Forex และเขาได้สร้างชุมชนที่ใหญ่ขึ้นผ่านเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ ที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเทรด วิธีการวิเคราะห์ราคา และเทคนิคในการใช้ Price Action เพื่อตัดสินใจในการเข้า-ออกการเทรดอีกด้วย

8.Andrew J. Krieger หรือ Andy

8 Andrew J Krieger

แอนดรูว์ เครีย์เกอร์ (Andrew J. Krieger) ที่รู้จักในนาม “แอนดรูว์” เป็นนักเทรดและนักวิเคราะห์การเงินที่มีชื่อเสียงในวงการการเงิน และถือว่าเป้นคนที่ประสบความสำเร็จด้านการเทรด Forex

ในปี 1987 แอนดรูว์เครีย์เกอร์ทำงานในธนาคารชื่อดังชื่อ Bankers Trust ในตำแหน่งนักวิเคราะห์และเทรดเดอร์ ในช่วงเวลานี้ เขากลายเป็นตัวเลขที่เรียกว่า “วอลสตรีทวัน” หรือ “วอลสตรีทวันแห่งนิวซีแลนด์” จากการเทรดเงินเชื่อเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการแลกเปลี่ยนอัตราแลกเปลี่ยน

ในเดือนตุลาคมของปี 1987 แอนดรูว์เครีย์เกอร์ได้รับความรู้สึกว่าสกุลเงินชาวนิวซีแลนด์ (NZD) ราคาของมันได้รับการปรับลงอย่างไม่เหมาะสม เขาตัดสินใจที่จะเข้าสู่ตลาด เพื่อขายสกุลเงินนี้ โดยวางแผนในการทำกำไรจากความต่างราคาระหว่างความรู้สึกเข้าใจของเขากับสถานะตลาด และได้ผลลัพธ์ที่สำคัญของการซื้อขายของแอนดรูว์เครีย์เกอร์ คือ เขาได้ทำกำไรจากการเข้าสู่ตลาด NZD ที่มีขนาดใหญ่ได้ โดยระยะเวลาอยู่ระหว่างเดือนกันยายนถึงตุลาคมของปี 1987 และสร้างผลกระทบทางการเงินที่ใหญ่ในตลาดเงินโลกเมื่อเกิด “วันดำหัว” (Black Monday) ในวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2530 (1987) ซึ่งเป็นวันที่ตลาดหุ้นทั่วโลกลดลงอย่างรวดเร็วอย่างมาก ในช่วงเวลานี้ แอนดรูว์เครีย์เกอร์สามารถทำกำไรอย่างมากจากการลงทุนในตลาดเงินและสกุลเงินต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากวันดำหัว

นอกจากนี้ เนื่องจากความสำเร็จในการเข้าถึงผลกำไรในตลาดเงิน แอนดรูว์เครีย์เกอร์ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางในวงการการเงิน และเขายังกลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเทรดอื่น ๆ ที่สนใจในการลงทุนในตลาดเงิน และตัวแอนดรูว์เครีย์เกอร์เอง ยังเป็นผู้สอนและนักเขียนที่เชี่ยวชาญด้านการเงิน และเขาได้แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ในหลากหลายสื่อ รวมถึงเขียนหนังสือเกี่ยวกับการซื้อขายและการลงทุนในตลาดเงินอีกด้วย

9.เจสซี่ ลิเวอร์มอร์ (Jesse Livermore)

9 Jesse Livermore

เจสซี่ ลิเวอร์มอร์ (Jesse Livermore) เป็นนักเทรดและนักลงทุนที่มีชื่อเสียงในวงการการเงิน และถือว่าเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่มีผลงานสำเร็จอันดับต้น เขาเป็นตัวอย่างสำคัญในการศึกษาและเป็นแรงบันดาลใจให้แก่นักเทรดและนักลงทุนในหลายตลาดที่มีอยู่ในปัจจุบัน

เจสซี่ ลิเวอร์มอร์เกิด เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1877 ในรัฐแมสซาชูเซตส์ของสหรัฐอเมริกา และเริ่มต้นการเทรดในวัยเยาว์ โดยการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เขาก็แสวงหาความรู้และความชำนาญในการซื้อขายจากประสบการณ์ของตัวเอง และผลกระทบทางการเงินของสภาวะตลาด

ในช่วงปี ค.ศ. 1907 ที่เขาได้รับความสำเร็จอย่างมากในการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ผ่านกองทุนลงทุนที่เขาก่อตั้งขึ้นในบูตส์เทอร์ (Bucket Shop) โดยเจ้าหน้าที่ของตลาดในสมัยนั้นไม่ได้ให้ผู้ลงทุนทำธุรกรรมโดยตรงกับตลาดหลักทรัพย์ แต่จะซื้อขายผ่านบูตส์เทอร์ที่มีการจัดทำซองซื้อขายภายในและผลกำไรหรือขาดทุนจะอยู่ภายในกองทุนของบูตส์เทอร์เอง

เจสซี่ ลิเวอร์มอร์เป็นนักเทรดที่มีความสามารถในการวิเคราะห์ตลาดและการตัดสินใจทางการเงินอย่างโดดเด่น และเขาใช้กลยุทธ์เทรดที่มีการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งเขายังเน้นความสำคัญของการรับผิดชอบในการตัดสินใจการเทรด แต่เจสซี่ ลิเวอร์มอร์ก็ประสบความสำเร็จและขาดทุนต่าง ๆ ในช่วงชีวิตของเขา แม้ว่าเขาจะเคยมีช่วงเวลาที่รวยเป็นทองและมีทรัพย์สินมากมาย แต่เขายังเจอความล้มเหลวและขาดทุนอย่างมากในบางครั้ง ที่ทำให้เขาตกอยู่ในสภาวะฟลอปต์ เขาเป็นบุคคลที่ถือได้ว่ามีความชำนาญในการวิเคราะห์และตัดสินใจทางการเงิน โดยใช้กราฟแท่งเทียน (candlestick chart) เพื่อหาแนวโน้มและจุดเข้า-ออกการซื้อขายที่เหมาะสม นอกจากนี้ เขายังเน้นความสำคัญของการบริหารความเสี่ยงในการเทรดและการรับผิดชอบในการตัดสินใจอีกด้วย

10.วิลเลียม เดลเบิร์ต แกนน์ (William Delbert Gann)

10 William Delbert Gann

วิลเลียม เดลเบิร์ต แกนน์ (William Delbert Gann) เป็นนักศึกษา และนักเขียนที่มีชื่อเสียงในวงการการเงินและการซื้อขาย ทั้งในตลาดหลักทรัพย์และตลาดสกุลเงิน วิลเลียม เดลเบิร์ต แกนน์เกิดเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ. 1878 ในรัฐที่รวมเป็นกรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เขาเริ่มต้นการเทรดในตลาดหลักทรัพย์ในวัยเยาว์ และในภายหลังเขาพัฒนาเทคนิคการซื้อขายของตนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นกระบวนการวิเคราะห์และการตัดสินใจทางการเงินที่มีรากฐานอยู่ในหลักการสมมติฐานเชิงเลขวิเศษ

วิลเลียม เดลเบิร์ต แกนน์เคยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคเชิงเลขและเชิงเวลา เช่น กราฟแท่งเทียน (candlestick chart) และแผนภูมิและรูปแบบเชิงเส้นเพื่อให้นำมาวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด และตราสารทางการเงิน นอกจากนี้เขายังใช้สูตรคำนวณเพื่อระบุระดับราคา ที่เป็นที่สนใจในการเทรดและตัดสินใจ

ตัวอย่างเช่น เขาใช้เครื่องมือทางเทคนิคเรียกว่า Gann Angles เพื่อคาดเดาทิศทางและแนวโน้มของราคา โดยใช้เส้นมุมที่วาดขึ้นบนกราฟเพื่อระบุระดับราคาที่มีความสำคัญ

วิลเลียม เดลเบิร์ต แกนน์ใช้ในการวิเคราะห์และการเทรด คือ Gann Fans ซึ่งเป็นเส้นที่วาดขึ้นบนกราฟโดยใช้จุดสูงสุดและต่ำสุดเพื่อระบุระดับราคาที่มีการเคลื่อนไหวสำคัญ และเป็นแนวรับแนวต้านในการตัดสินใจการเทรด นอกจากการใช้เครื่องมือเทคนิคในการวิเคราะห์ราคาและการซื้อ ยังมีความสำคัญในเรื่องจิตวิญญาณและการบริหารจัดการเงินในการเทรด โดยเขาเน้นการรักษาสมดุลในการเข้า-ออกการเทรด และการจัดการความเสี่ยงให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

 องค์ประกอบเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ

การเทรด Forex มีแรงบันดาลใจมาจากหลายปัจจัย ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างบางส่วน

  • ภาวะทางการเงิน: การสามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมจากการเทรดเป็นแรงจูงใจหลักสำหรับหลายคน หากทำได้สำเร็จ การเทรด Forex สามารถให้ผลตอบแทนที่สูง
  • ความอิสระ: การเทรด Forex สามารถทำได้ทุกที่ ทุกเวลา ตามที่คุณต้องการ ความสามารถในการควบคุมตัวเอง มักเป็นแรงบันดาลใจสำหรับหลายคน
  • ความท้าทาย: ตลาด Forex เป็นตลาดที่ซับซ้อนและสามารถเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว ความท้าทายทางปัญญาในการควบคุมและทำกำไรจากตลาดนี้ สามารถเป็นแรงบันดาลใจสำหรับผู้ที่ชอบท้าทาย
  • การเรียนรู้: ตลาด Forex มีหลากหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงิน การเรียนรู้และเข้าใจเหตุผลของการเคลื่อนไหวเหล่านี้ สามารถเป็นแรงบันดาลใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเรียนรู้
  • การปรับตัว: ในสภาวะทางการเงินที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง การเทรด Forex อาจเป็นวิธีที่ดีในการปรับตัวและหาโอกาสในสภาวะตลาดที่ไม่แน่นอน

การประสบความสำเร็จในการเทรด Forex ต้องมีหลักสูตรที่จะปฏิบัติตาม ซึ่งจะช่วยให้เทรดเดอร์มีการจัดการที่มีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยง ต่อไปนี้ คือ หลักการที่สำคัญ

ความรู้และการศึกษา: ความรู้เกี่ยวกับตลาด Forex ที่ดีจะช่วยให้ทำความเข้าใจกับการเคลื่อนไหวของตลาด การวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐาน ความรู้ด้านนี้จะช่วยให้ทำการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ

การจัดการความเสี่ยง: การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในการเทรด Forex จึงควรตั้งค่า stop loss และ take profit อย่างรอบคอบ และไม่ควรเสี่ยงเงินมากเกินไปในการเทรดครั้งเดียว

แผนการเทรด: มีแผนการเทรดที่ชัดเจนเป็นสิ่งที่สำคัญ แผนการนี้ควรรวมถึงเงื่อนไขสำหรับการเข้าเทรด การออกจากเทรด และจำนวนเงินที่ยอมรับความเสี่ยง

ความมั่นใจและความอดทน: ความมั่นใจในแผนการเทรดนั้นจะช่วยให้คุณสามารถทนทานต่อความผันผวนของตลาดได้ ในขณะที่ความอดทนจะช่วยให้คุณรอการเกิดขึ้นของสัญญาณเทรดที่ดี

การรักษาอารมณ์: การเทรด Forex มักจะเกี่ยวข้องกับความแปรปรวนทางอารมณ์ที่เหนือธรรมชาติ เช่น ความกระตือรือร้น, ความหวาดกลัว หรือความยิ่งใหญ่ การสามารถรักษาความสงบและมั่นใจในแผนการเทรดในเวลาที่ตลาดกำลังเคลื่อนไหวเป็นสิ่งที่สำคัญ

การปรับตัวและการเรียนรู้: ตลาด Forex เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การสามารถปรับตัวและเรียนรู้จากประสบการณ์เป็นสิ่งที่สำคัญ นักเทรดที่ประสบความสำเร็จจะตรวจสอบและปรับปรุงแผนการเทรดของตนอย่างสม่ำเสมอ

ความคิดเป็นระบบ: การเทรด Forex ไม่เหมือนการพนัน เราพต่างกัน นักเทรดที่ประสบความสำเร็จมักจะมีวิธีการเทรดที่เป็นระบบและสามารถติดตามได้ ซึ่งจะช่วยลดความผันผวนและความเสี่ยง

การรักษาสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ: การเทรด Forex อาจจะทำให้บางคนเผชิญกับความเครียดสูง ดังนั้นการรักษาสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจเป็นสิ่งสำคัญ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ, การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการพักผ่อนเพียงพอ ทั้งนี้จะช่วยให้คุณมีสมาธิและความสามารถในการตัดสินใจที่ดี

ทรัพยากรทางการเงิน: การเริ่มเทรด Forex โดยไม่มีทุนเพียงพอสามารถเพิ่มความเสี่ยงได้ นักเทรดที่ประสบความสำเร็จมักจะมีทรัพยากรทางการเงินที่เพียงพอสำหรับการเทรดโดยไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น

การมีวินัย: การตั้งเป้าหมายและการปฏิบัติตามแผนการเทรด แม้ว่าจะเจอความผันผวนหรือความสูญเสีย สำคัญที่สุดในการประสบความสำเร็จ นักเทรดที่มีวินัยจะไม่ปล่อยให้อารมณ์ทำให้พวกเขาหันไปจากแผนการ

การตั้งเป้าหมายที่เหมาะสม: การตั้งเป้าหมายที่เหมาะสมและมีความเป็นไปได้จะช่วยให้รักษาความมุ่งมั่นและยังช่วยให้มีการเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่คุณสามารถคาดหวังจากการเทรด

การใช้เครื่องมือและซอฟต์แวร์ที่เหมาะสม: การใช้ซอฟต์แวร์และเครื่องมือการเทรดที่ทันสมัยและเหมาะสมสำหรับการเทรด จะช่วยให้ทำการวิเคราะห์และติดตามตลาดได้เพราะการเทรด Forex มักจะต้องใช้เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพ

เครือข่ายและการเรียนรู้จากผู้อื่น: การมีเครือข่ายของนักเทรดคนอื่นๆ และการเรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์ทำให้เทรดเดอร์นั้นสามารถรับข้อมูลและข้อเสนอแนะที่มีคุณค่าได้อย่างลึกซึ่งยิ่งขึ้น

FOREXDUCK Logo

FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง

HFM Promotion