10 เทรดเดอร์ระดับโลก
นักเทรด Forex ที่ประสบความสำเร็จมากมักเป็นผู้ที่มีความรู้และทักษะในการวิเคราะห์ตลาดและการตัดสินใจที่แม่นยำ เทรดเดอร์เหล่านี้ล้วนผ่านการทดสอบในบทชีวิตมากมาย ต้องมีความอดทนและความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเองเพื่อเป็นนักเทรดที่ดีขึ้นอยู่เสมอ ตลาด Forex เป็นตลาดที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างไม่สามารถคาดเดาสถานการณ์ได้ ต้องอาศัยความรู้ประสบการณ์ทักษะการใช้เครื่องมือ ประกอบกับการตัดสินใจอย่างชาญฉลาด ถึงจะประสบความสำเร็จในตลาด Forex ได้ ดังนั้น นักเทรดที่ประสบความสำเร็จมากจะต้องเรียนรู้และปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดของตนอยู่เสมอ
เทรดเดอร์ที่ครองใจและเป็นแรงบันดาลใจให้นักเทรด คือ
- จอร์จ โซรอส (George Soros)
- จิม ไซมอน (Jim Simmons)
- สแตนลีย์ ดรัคเคนมิลเลอร์ (Stanley Druckenmiller)
- บรูซ โคฟเนอร์ (Bruce Kovner)
- บิล ลิปชอตซ์ (Bill Lipschutz)
- มาริโอ สิงห์
- เนล ฟูลเลอร์
- Andrew J. Krieger หรือ Andy
- เจสซี่ ลิเวอร์มอร์ (Jesse Livermore)
- วิลเลียม เดลเบิร์ต แกนน์
1.จอร์จ โซรอส (George Soros)
จอร์จ โซรอส (George Soros) เป็นนักเทรดและนักลงทุนที่มีชื่อเสียงในวงการการเงิน ในระยะเวลาหนึ่ง เขาได้ทำกำไรมหาศาลจากการเทรดสกุลเงินต่างๆ โดยเฉพาะในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) จอร์จ โซรอส (George Soros) เริ่มต้นในตอนแรกของอาชีพการเงิน โซรอสทำงานในธนาคารของลอนดอนและนิวยอร์ก แต่ความสนใจของเขาในการลงทุนและการศึกษาในสกุลเงินเปลี่ยนไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะในการวิเคราะห์ข่าวเศรษฐกิจและตลาดทั่วโลก
ในปี 1992 โซรอสก่อตั้งกองทุนรวมชื่อ Quantum Fund ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในกองทุนรวมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ในช่วงนั้น เขาตัดสินใจลงทุนในการขายสกุลเงินปอนด์สเตอร์ลิง (Pound Sterling) ซึ่งถูกพิงพาอย่างรุนแรงโดยรัฐบาลและธนาคารกลางของสหราชอาณาจักร ผลลัพธ์ คือ เขาสามารถทำกำไรได้มากถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยทำให้ปอนด์สเตอร์ลิงตกลงมาอยู่ในระดับต่ำสุดใน 15 ปี
การดำเนินกิจการของโซรอสไม่จำกัดเพียงแค่การเทรด Forex เขายังลงทุนในหลายกลุ่มสินทรัพย์และตลาดทั่ว จากการเทรด Forex โดย Quantum Fund จอร์จ โซรอสได้เข้าสู่การลงทุนในหลายกลุ่มสินทรัพย์และตลาดทั่วโลก เขามีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวของตลาดทุน และเคยลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ และตลาดเงินทุนรวมอื่น ๆ
โดยเฉพาะในตลาดหลักทรัพย์ โซรอสเคยมีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งและลงทุนในบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล เมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 1992 ซึ่งเป็นบริษัทที่รวมกลุ่มสื่อข่าวและบริการในเครือของทางเครือข่ายโทรคมนาคม โดยการลงทุนในบริษัทดังกล่าว ทำให้กลายเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและสื่อมวลชน นอกจากนี้ เขายังลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งรวมถึงการซื้อและขายอสังหาริมทรัพย์ในหลายประเทศ รวมถึงอสังหาริมทรัพย์พาณิชย์และอสังหาริมทรัพย์ที่พักอาศัย โดยเฉพาะในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในยุโรปตะวันตก เขาทำกำไรได้จากการรับช่วงราคาที่เพิ่มขึ้นของอสังหาริมทรัพย์ในประเทศต่างๆ
2.จิม ไซมอน (Jim Simons)
จิม ไซมอน (Jim Simons) เป็นนักเทรดและนักลงทุนที่มีชื่อเสียงในวงการการเงิน และเป็นผู้ก่อตั้งและประธานบริหารของ Renaissance Technologies LLC ซึ่งเป็นหนึ่งในกองทุนเฮดจ์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก ต้องบอกว่า เจ้าของกองทุนเฮดจ์แห่งนี้เป็นผู้มีความชำนาญในการใช้วิธีคณิตศาสตร์ และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการเทรดและการลงทุน วิธีการทางคณิตศาสตร์ที่ใช้ในกองทุน Renaissance Technologies ถูกเรียกว่า “สูตรสุ่ม” (quantitative trading strategies) หรือ “การซื้อขายอัตโนมัติ” (algorithmic trading) ที่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อวิเคราะห์และทำธุรกรรมในตลาดทุนอัตโนมัติ
Jim Simons เป็นนักคณิตศาสตร์ที่มีความรู้ความสามารถในด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ เขามีทีมวิทยากรและนักวิจัยที่เชี่ยวชาญทางด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ และการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อพัฒนาและปรับปรุงกลยุทธ์การลงทุนของกองทุนให้มีประสิทธิภาพ และผลงานการลงทุนของ Jim Simons และกองทุน Renaissance Technologies ได้รับความยอดเยี่ยมและความสำเร็จอย่างมาก โดยเฉพาะในการเทรดและลงทุนในตลาดทุนแบบเฮด
กองทุน Renaissance Technologies ที่ถูกก่อตั้งขึ้นโดย Jim Simons เน้นการลงทุนในตลาดทุนแบบเฮดจ์ (hedge funds) และใช้วิธีการทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์เพื่อทำธุรกรรมในตลาดอัตโนมัติ วิธีการที่เขาใช้นั้นเน้นการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลในอดีตเพื่อทำนายแนวโน้มของตลาดและวางกลยุทธ์การลงทุนที่มีโอกาสทำกำไรสูง โดยใช้โมเดลทางคณิตศาสตร์และข้อมูลประวัติศาสตร์
3.สแตนลีย์ ดรัคเคนมิลเลอร์ (Stanley Druckenmiller)
สแตนลีย์ ดรัคเคนมิลเลอร์ (Stanley Druckenmiller) เป็นนักเทรดและนักลงทุนที่มีชื่อเสียงในวงการการเงิน และเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเทรด Forex อย่างมาก เขาเกิดเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 1953 ในปิตซเบิร์ก (Pittsburgh), รัฐเพนซิลเวเนีย (Pennsylvania), สหรัฐอเมริกา เขาเริ่มต้นการทำงานในวงการการเงินเมื่อเข้าทำงานในธนาคารกลางของอเมริกา แต่ความสนใจของเขาเพิ่มขึ้นในการลงทุนและการเทรด ซึ่งทำให้เขาลาออกจากธนาคารเพื่อเริ่มต้นธุรกิจการลงทุนของตนเอง
ในช่วงปี 1988 ถึง 2000 เขาทำงานเป็นพาร์ทเนอร์กับอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกองทุน Quantum Fund อย่างจิม โซรอส (Jim Soros) และเคนเนธ ควอน (Kennon Quan) ในระหว่างนี้ เขามีบทบาทสำคัญในการวางกลยุทธ์การลงทุนและเทรดในตลาด Forex
สแตนลีย์ ดรัคเคนมิลเลอร์ได้รับความรู้และความเข้าใจที่ลึกซึ้งในตลาดการเงิน และใช้วิธีการทางเศรษฐศาสตร์เพื่อประเมินแนวโน้มและการเคลื่อนไหวของสกุลเงิน ซึ่งช่วยให้เขาสามารถทำกำไรได้ในการเทรด Forex อย่างสม่ำเสมอ โดยสแตนลีย์ ดรัคเคนมิลเลอร์เป็นนักลงทุนที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางเศรษฐกิจและการเงิน นอกจากการเทรด Forex แล้ว เขายังลงทุนในตลาดหลักทรัพย์และตลาดอื่น ๆ อีกยังยังเป็นผู้มีผลงานที่โดดเด่น โดยเฉพาะในการทำกำไรจากการพยายามทำนายและเก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงในตลาดการเงิน ในปี 1992 เขาได้รับความรู้สึกว่าสกุลเงินปอนด์สเตอร์ลิง (Pound Sterling) ได้รับการประนีประนอมเกินไป เขาทำกำไรจากการเดิมพันที่สกุลเงินนี้จะลดค่าลง ซึ่งเป็นเหตุทำให้ปอนด์สเตอร์ลิงปิดท้ายได้รับความเสียหายมาก
ความสำเร็จของสแตนลีย์ ดรัคเคนมิลเลอร์ไม่จำกัดเพียงแค่การเทรด Forex เท่านั้น แต่ยังประสบผลงานที่สำคัญในการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงการลงทุนในหลายกลุ่มสินทรัพย์อื่น ๆ อีกด้วย ต่อมาเขาได้ทำงานร่วมกับ Jim Soros (Jim Simons) ในกองทุน Quantum Fund ในช่วงระยะเวลา 1988-2000 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สแตนลีย์เติบโตและก้าวสู่ความสำเร็จในวงการการเงิน
ในช่วงเวลาที่ทำงานร่วมกันกับ Jim Soros สแตนลีย์มีบทบาทสำคัญในการวางกลยุทธ์การลงทุนและการเทรด โดยเฉพาะในตลาด Forex สแตนลีย์มีความคิดริเริ่มและความชำนาญในการวิเคราะห์ข้อมูลทางเศรษฐกิจและการเงิน เขาใช้วิธีการทางเศรษฐศาสตร์เพื่อประเมินแนวโน้มและการเคลื่อนไหวของสกุลเงิน เพื่อจะทำนายและปรับกลยุทธ์การเทรดเพื่อทำกำไร
4.บรูซ โคฟเนอร์ (Bruce Kovner)
บรูซ โคฟเนอร์ (Bruce Kovner) เป็นนักเทรดและนักลงทุนที่มีชื่อเสียงในวงการการเงิน และเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเทรด Forex ในอดีต เขาเกิดเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1945 ในบรุกลิน (Brooklyn), รัฐนิวยอร์ก (New York), สหรัฐอเมริกา เขาเริ่มต้นการทำงานในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสกุลเงินในบริษัทเอ็มเว่อร์ ออปชั่น (C&E Berger) ในปี ค.ศ. 1977 และในช่วงเวลาที่ใช้งานอยู่ในบริษัทนี้ เขาได้รับการฝึกและพัฒนาทักษะในการเทรดสกุลเงิน
ในปี 1983 เขาก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ชื่อ Caxton Associates ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในกองทุนเฮดจ์ที่ประสบความสำเร็จในวงการการเงิน โดยเขาใช้วิธีการทางเศรษฐศาสตร์และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อประเมินแนวโน้มและการเคลื่อนไหวของตลาด Forex ซึ่งช่วยให้เขาสามารถทำกำไรได้ในการเทรด Forex
บรูซ โคฟเนอร์เป็นนักลงทุนที่มีความรู้ความสามารถในการจัดการความเสี่ยง และใช้กลยุทธ์การลงทุนที่มีพื้นฐานแน่นอนเพื่อเพิ่มโอกาสในการกำไร นอกจากการเทรด Forex โคฟเนอร์ยังลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เขามีความชำนาญในการวิเคราะห์ข้อมูลทางเศรษฐกิจ การเปรียบเทียบและประเมินแนวโน้มของสกุลเงิน เขาใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์พื้นฐานเพื่อให้มีการตัดสินใจที่มีความแม่นยำในการเทรด Forex
บรูซ โคฟเนอร์เป็นผู้มีความเข้าใจในการจัดการความเสี่ยงและการบริหารเงินอย่างมีประสิทธิภาพ และใช้กลยุทธ์การเทรดที่คำนึงถึงการรับความเสี่ยงและการป้องกันสูญเสีย อีกทั้งเขายังมีความเฉลียวฉลาดในการตัดสินใจ และผลงานการลงทุนของบรูซ โคฟเนอร์มีความสำเร็จมากมาย โดยเฉพาะในการเทรด Forex เขาได้ทำกำไรมากมายและเป็นที่ยอมรับในวงการการเงิน ต้องนอมรับว่าความรู้และประสบการณ์ของบรูซ โคฟเนอร์ทำให้เขาเป็นแรงบันดาลใจ และมีศักยภาพที่น่านับถือในวงการการเงิน และการเทรด Forex เรียกได้ว่า ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้ประสบความสำเร็จมากคนหนึ่งด้วย
5.บิล ลิปชอตซ์ (Bill Lipschutz)
บิล ลิปชอตซ์ (Bill Lipschutz) เป็นนักลงทุนและนักเทรดที่มีชื่อเสียงในวงการการเงิน และเป็นบุคคลที่ถูกยกย่องสำหรับเหล่าเทรดเดอร์ ในวงการ forex เป็นอย่างมาก
หลังจาก บิล ลิปชอตซ์ ได้รับปริญญาบัญชีจากมหาวิทยาลัยคอร์นเฟลล์ (Cornell University) ในปี ค.ศ. 1982 บิล ลิปชอตซ์ได้เริ่มต้นงานในธุรกิจการเงินในตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุนในบริษัท Salomon Brothers ซึ่งในช่วงเวลาที่ทำงานที่นี่ เขาได้รับการฝึกและพัฒนาทักษะในการเทรดสกุลเงินต่างๆ จนเก่ง และในช่วงต้นปี ค.ศ. 1984 บิล ลิปชอตซ์ได้เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นผู้บริหารของกองทุนเรือธงชื่อ North Tower Group ที่เน้นการเทรด Forex ซึ่งกองทุนนี้ได้รับความสำเร็จอย่างมาก ในการลงทุนตลาดเงิน
อีกทั้ง บิล ลิปชอตซ์ ยังเป็นนักลงทุนที่มีความชำนาญในการวิเคราะห์ข้อมูลทางเศรษฐกิจ และการเงิน เขาใช้ทักษาะการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์พื้นฐาน เพื่อประเมินแนวโน้ม และการเคลื่อนไหวของตลาด Forex ซึ่งช่วยให้เขาสามารถทำกำไรได้ในการเทรด Forex ได้อย่างมากมาย และกลายเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
6.มาริโอ สิงห์ (Mario Singh)
Mario Singh เป็นนักเทรดและผู้เขียนที่มีชื่อเสียงในวงการการเงินและการเทรด Forex ในเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เขาเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นผู้จัดการทั่วไปของกลุ่มบริษัท Fullerton Markets ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการทางการเงินและการซื้อขายสกุลเงิน และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิคในการซื้อขายสกุลเงิน
Mario Singh มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการศึกษาแนวโน้มและการวิเคราะห์กราฟในตลาด Forex เขาเน้นการใช้เทคนิคการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการตัดสินใจทางการเงินเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการซื้อขายสกุลเงิน นอกจากนี้ยังเป็นผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับการซื้อขายสกุลเงินและการเทรด Forex โดยเฉพาะหนังสือชื่อ “17 Proven Currency Trading Strategies” ซึ่งเป็นหนังสือที่ได้รับความนิยมและถูกนำมาใช้เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับนักเทรด Forex
Mario Singh ถือว่าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการการเงินและการเทรด Forex และเป็นแรงบันดาลใจสำหรับนักลงทุนและนักเทรดอื่น ๆ ที่สนใจในการศึกษาและประยุกต์ใช้กลยุทธ์การซื้อขายสกุลเงินอย่างมาก จัดได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการซื้อขายสกุลเงิน Forex และเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการการเงิน นอกจากการเป็นผู้จัดการทั่วไปของกลุ่มบริษัท Fullerton Markets และเขียนหนังสือเกี่ยวกับการซื้อขายสกุลเงิน มาริโอ สิงห์ยังเป็นวิทยากรและที่ปรึกษาในอีกหลายสถาบันการศึกษา และองค์กรทางการเงินทั่วโลก
เขามีความเชี่ยวชาญในการใช้เทคนิคการวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น กราฟแท่งเทียน (candlestick chart) และตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่น ๆ เพื่อการตัดสินใจทางการเทรดที่มีความแม่นยำ และเขาเน้นการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพในการซื้อขาย
ผลงานและความรู้ของมาริโอ สิงห์ได้รับการยอมรับและความนิยมอย่างแพร่หลายในวงการการเงิน และผู้ที่สนใจในการเทรด Forex บางครั้งเรียกเขาว่า “ผู้ให้คำปรึกษาสกุลเงินเจ้าแรกของเอเชีย”
7.เนล ฟูลเลอร์ (Nial Fuller)
เนล ฟูลเลอร์ (Nial Fuller) เป็นเทรดเดอร์ค่าเงิน นักเทรดและนักศึกษาชาวออสเตรเลียนามว่า Nial Fuller เป็นบุคคลที่เชี่ยวชาญด้านการเทรดและความรู้ในการวิเคราะห์ราคาในตลาด Forex ฉายาที่เขาถือคือ “เจ้าพ่อ Price Action” เนื่องจากเขาเน้นการศึกษา และการใช้ราคาที่เกิดขึ้นในกราฟเทียบกับตลาดที่เปิดขึ้นก่อนหน้านั้นเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจการเทรดอย่างมาก
เนล ฟูลเลอร์ได้เริ่มต้นการทำงานในวงการการเงินในช่วงปี ค.ศ. 2002 โดยเริ่มต้นด้วยการเทรดและลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ต่อมาเขาย้ายไปสู่ตลาด Forex และเริ่มใช้เทคนิค Price Action ซึ่งเป็นกลยุทธ์การเทรดหลักของเขา
Nial Fuller ได้รับความนิยมและความรู้จากการแบ่งปันข้อมูลผ่านเว็บไซต์และหนังสือออนไลน์ที่เขียนขึ้นด้วยตนเอง โดยเน้นการสอนและแบ่งปันเทคนิคการเทรดที่เขาใช้ในตลาด Forex รวมถึงการวิเคราะห์ราคาโดยใช้ Price Action เพื่อช่วยให้นักเทรดสามารถใช้กลยุทธ์นี้ในการตัดสินใจการเทรด และยังเน้นการเทรดอย่างเป็นระบบ และการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เขาสอนให้นักเทรดเน้นความสำคัญของการจัดการเงินและการควบคุมอารมณ์ในการเทรดได้เป็นอย่างดี
จึงถือได้ว่า เขาเป็นผู้สอนและผู้เขียนที่มีความนิยมมากในวงการการซื้อขาย Forex และเขาได้สร้างชุมชนที่ใหญ่ขึ้นผ่านเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ ที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเทรด วิธีการวิเคราะห์ราคา และเทคนิคในการใช้ Price Action เพื่อตัดสินใจในการเข้า-ออกการเทรดอีกด้วย
8.Andrew J. Krieger หรือ Andy
แอนดรูว์ เครีย์เกอร์ (Andrew J. Krieger) ที่รู้จักในนาม “แอนดรูว์” เป็นนักเทรดและนักวิเคราะห์การเงินที่มีชื่อเสียงในวงการการเงิน และถือว่าเป้นคนที่ประสบความสำเร็จด้านการเทรด Forex
ในปี 1987 แอนดรูว์เครีย์เกอร์ทำงานในธนาคารชื่อดังชื่อ Bankers Trust ในตำแหน่งนักวิเคราะห์และเทรดเดอร์ ในช่วงเวลานี้ เขากลายเป็นตัวเลขที่เรียกว่า “วอลสตรีทวัน” หรือ “วอลสตรีทวันแห่งนิวซีแลนด์” จากการเทรดเงินเชื่อเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการแลกเปลี่ยนอัตราแลกเปลี่ยน
ในเดือนตุลาคมของปี 1987 แอนดรูว์เครีย์เกอร์ได้รับความรู้สึกว่าสกุลเงินชาวนิวซีแลนด์ (NZD) ราคาของมันได้รับการปรับลงอย่างไม่เหมาะสม เขาตัดสินใจที่จะเข้าสู่ตลาด เพื่อขายสกุลเงินนี้ โดยวางแผนในการทำกำไรจากความต่างราคาระหว่างความรู้สึกเข้าใจของเขากับสถานะตลาด และได้ผลลัพธ์ที่สำคัญของการซื้อขายของแอนดรูว์เครีย์เกอร์ คือ เขาได้ทำกำไรจากการเข้าสู่ตลาด NZD ที่มีขนาดใหญ่ได้ โดยระยะเวลาอยู่ระหว่างเดือนกันยายนถึงตุลาคมของปี 1987 และสร้างผลกระทบทางการเงินที่ใหญ่ในตลาดเงินโลกเมื่อเกิด “วันดำหัว” (Black Monday) ในวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2530 (1987) ซึ่งเป็นวันที่ตลาดหุ้นทั่วโลกลดลงอย่างรวดเร็วอย่างมาก ในช่วงเวลานี้ แอนดรูว์เครีย์เกอร์สามารถทำกำไรอย่างมากจากการลงทุนในตลาดเงินและสกุลเงินต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากวันดำหัว
นอกจากนี้ เนื่องจากความสำเร็จในการเข้าถึงผลกำไรในตลาดเงิน แอนดรูว์เครีย์เกอร์ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางในวงการการเงิน และเขายังกลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเทรดอื่น ๆ ที่สนใจในการลงทุนในตลาดเงิน และตัวแอนดรูว์เครีย์เกอร์เอง ยังเป็นผู้สอนและนักเขียนที่เชี่ยวชาญด้านการเงิน และเขาได้แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ในหลากหลายสื่อ รวมถึงเขียนหนังสือเกี่ยวกับการซื้อขายและการลงทุนในตลาดเงินอีกด้วย
9.เจสซี่ ลิเวอร์มอร์ (Jesse Livermore)
เจสซี่ ลิเวอร์มอร์ (Jesse Livermore) เป็นนักเทรดและนักลงทุนที่มีชื่อเสียงในวงการการเงิน และถือว่าเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่มีผลงานสำเร็จอันดับต้น เขาเป็นตัวอย่างสำคัญในการศึกษาและเป็นแรงบันดาลใจให้แก่นักเทรดและนักลงทุนในหลายตลาดที่มีอยู่ในปัจจุบัน
เจสซี่ ลิเวอร์มอร์เกิด เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1877 ในรัฐแมสซาชูเซตส์ของสหรัฐอเมริกา และเริ่มต้นการเทรดในวัยเยาว์ โดยการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เขาก็แสวงหาความรู้และความชำนาญในการซื้อขายจากประสบการณ์ของตัวเอง และผลกระทบทางการเงินของสภาวะตลาด
ในช่วงปี ค.ศ. 1907 ที่เขาได้รับความสำเร็จอย่างมากในการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ผ่านกองทุนลงทุนที่เขาก่อตั้งขึ้นในบูตส์เทอร์ (Bucket Shop) โดยเจ้าหน้าที่ของตลาดในสมัยนั้นไม่ได้ให้ผู้ลงทุนทำธุรกรรมโดยตรงกับตลาดหลักทรัพย์ แต่จะซื้อขายผ่านบูตส์เทอร์ที่มีการจัดทำซองซื้อขายภายในและผลกำไรหรือขาดทุนจะอยู่ภายในกองทุนของบูตส์เทอร์เอง
เจสซี่ ลิเวอร์มอร์เป็นนักเทรดที่มีความสามารถในการวิเคราะห์ตลาดและการตัดสินใจทางการเงินอย่างโดดเด่น และเขาใช้กลยุทธ์เทรดที่มีการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งเขายังเน้นความสำคัญของการรับผิดชอบในการตัดสินใจการเทรด แต่เจสซี่ ลิเวอร์มอร์ก็ประสบความสำเร็จและขาดทุนต่าง ๆ ในช่วงชีวิตของเขา แม้ว่าเขาจะเคยมีช่วงเวลาที่รวยเป็นทองและมีทรัพย์สินมากมาย แต่เขายังเจอความล้มเหลวและขาดทุนอย่างมากในบางครั้ง ที่ทำให้เขาตกอยู่ในสภาวะฟลอปต์ เขาเป็นบุคคลที่ถือได้ว่ามีความชำนาญในการวิเคราะห์และตัดสินใจทางการเงิน โดยใช้กราฟแท่งเทียน (candlestick chart) เพื่อหาแนวโน้มและจุดเข้า-ออกการซื้อขายที่เหมาะสม นอกจากนี้ เขายังเน้นความสำคัญของการบริหารความเสี่ยงในการเทรดและการรับผิดชอบในการตัดสินใจอีกด้วย
10.วิลเลียม เดลเบิร์ต แกนน์ (William Delbert Gann)
วิลเลียม เดลเบิร์ต แกนน์ (William Delbert Gann) เป็นนักศึกษา และนักเขียนที่มีชื่อเสียงในวงการการเงินและการซื้อขาย ทั้งในตลาดหลักทรัพย์และตลาดสกุลเงิน วิลเลียม เดลเบิร์ต แกนน์เกิดเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ. 1878 ในรัฐที่รวมเป็นกรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เขาเริ่มต้นการเทรดในตลาดหลักทรัพย์ในวัยเยาว์ และในภายหลังเขาพัฒนาเทคนิคการซื้อขายของตนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นกระบวนการวิเคราะห์และการตัดสินใจทางการเงินที่มีรากฐานอยู่ในหลักการสมมติฐานเชิงเลขวิเศษ
วิลเลียม เดลเบิร์ต แกนน์เคยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคเชิงเลขและเชิงเวลา เช่น กราฟแท่งเทียน (candlestick chart) และแผนภูมิและรูปแบบเชิงเส้นเพื่อให้นำมาวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด และตราสารทางการเงิน นอกจากนี้เขายังใช้สูตรคำนวณเพื่อระบุระดับราคา ที่เป็นที่สนใจในการเทรดและตัดสินใจ
ตัวอย่างเช่น เขาใช้เครื่องมือทางเทคนิคเรียกว่า Gann Angles เพื่อคาดเดาทิศทางและแนวโน้มของราคา โดยใช้เส้นมุมที่วาดขึ้นบนกราฟเพื่อระบุระดับราคาที่มีความสำคัญ
วิลเลียม เดลเบิร์ต แกนน์ใช้ในการวิเคราะห์และการเทรด คือ Gann Fans ซึ่งเป็นเส้นที่วาดขึ้นบนกราฟโดยใช้จุดสูงสุดและต่ำสุดเพื่อระบุระดับราคาที่มีการเคลื่อนไหวสำคัญ และเป็นแนวรับแนวต้านในการตัดสินใจการเทรด นอกจากการใช้เครื่องมือเทคนิคในการวิเคราะห์ราคาและการซื้อ ยังมีความสำคัญในเรื่องจิตวิญญาณและการบริหารจัดการเงินในการเทรด โดยเขาเน้นการรักษาสมดุลในการเข้า-ออกการเทรด และการจัดการความเสี่ยงให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
องค์ประกอบเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ
การเทรด Forex มีแรงบันดาลใจมาจากหลายปัจจัย ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างบางส่วน
- ภาวะทางการเงิน: การสามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมจากการเทรดเป็นแรงจูงใจหลักสำหรับหลายคน หากทำได้สำเร็จ การเทรด Forex สามารถให้ผลตอบแทนที่สูง
- ความอิสระ: การเทรด Forex สามารถทำได้ทุกที่ ทุกเวลา ตามที่คุณต้องการ ความสามารถในการควบคุมตัวเอง มักเป็นแรงบันดาลใจสำหรับหลายคน
- ความท้าทาย: ตลาด Forex เป็นตลาดที่ซับซ้อนและสามารถเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว ความท้าทายทางปัญญาในการควบคุมและทำกำไรจากตลาดนี้ สามารถเป็นแรงบันดาลใจสำหรับผู้ที่ชอบท้าทาย
- การเรียนรู้: ตลาด Forex มีหลากหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงิน การเรียนรู้และเข้าใจเหตุผลของการเคลื่อนไหวเหล่านี้ สามารถเป็นแรงบันดาลใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเรียนรู้
- การปรับตัว: ในสภาวะทางการเงินที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง การเทรด Forex อาจเป็นวิธีที่ดีในการปรับตัวและหาโอกาสในสภาวะตลาดที่ไม่แน่นอน
การประสบความสำเร็จในการเทรด Forex ต้องมีหลักสูตรที่จะปฏิบัติตาม ซึ่งจะช่วยให้เทรดเดอร์มีการจัดการที่มีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยง ต่อไปนี้ คือ หลักการที่สำคัญ
ความรู้และการศึกษา: ความรู้เกี่ยวกับตลาด Forex ที่ดีจะช่วยให้ทำความเข้าใจกับการเคลื่อนไหวของตลาด การวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐาน ความรู้ด้านนี้จะช่วยให้ทำการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ
การจัดการความเสี่ยง: การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในการเทรด Forex จึงควรตั้งค่า stop loss และ take profit อย่างรอบคอบ และไม่ควรเสี่ยงเงินมากเกินไปในการเทรดครั้งเดียว
แผนการเทรด: มีแผนการเทรดที่ชัดเจนเป็นสิ่งที่สำคัญ แผนการนี้ควรรวมถึงเงื่อนไขสำหรับการเข้าเทรด การออกจากเทรด และจำนวนเงินที่ยอมรับความเสี่ยง
ความมั่นใจและความอดทน: ความมั่นใจในแผนการเทรดนั้นจะช่วยให้คุณสามารถทนทานต่อความผันผวนของตลาดได้ ในขณะที่ความอดทนจะช่วยให้คุณรอการเกิดขึ้นของสัญญาณเทรดที่ดี
การรักษาอารมณ์: การเทรด Forex มักจะเกี่ยวข้องกับความแปรปรวนทางอารมณ์ที่เหนือธรรมชาติ เช่น ความกระตือรือร้น, ความหวาดกลัว หรือความยิ่งใหญ่ การสามารถรักษาความสงบและมั่นใจในแผนการเทรดในเวลาที่ตลาดกำลังเคลื่อนไหวเป็นสิ่งที่สำคัญ
การปรับตัวและการเรียนรู้: ตลาด Forex เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การสามารถปรับตัวและเรียนรู้จากประสบการณ์เป็นสิ่งที่สำคัญ นักเทรดที่ประสบความสำเร็จจะตรวจสอบและปรับปรุงแผนการเทรดของตนอย่างสม่ำเสมอ
ความคิดเป็นระบบ: การเทรด Forex ไม่เหมือนการพนัน เราพต่างกัน นักเทรดที่ประสบความสำเร็จมักจะมีวิธีการเทรดที่เป็นระบบและสามารถติดตามได้ ซึ่งจะช่วยลดความผันผวนและความเสี่ยง
การรักษาสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ: การเทรด Forex อาจจะทำให้บางคนเผชิญกับความเครียดสูง ดังนั้นการรักษาสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจเป็นสิ่งสำคัญ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ, การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการพักผ่อนเพียงพอ ทั้งนี้จะช่วยให้คุณมีสมาธิและความสามารถในการตัดสินใจที่ดี
ทรัพยากรทางการเงิน: การเริ่มเทรด Forex โดยไม่มีทุนเพียงพอสามารถเพิ่มความเสี่ยงได้ นักเทรดที่ประสบความสำเร็จมักจะมีทรัพยากรทางการเงินที่เพียงพอสำหรับการเทรดโดยไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น
การมีวินัย: การตั้งเป้าหมายและการปฏิบัติตามแผนการเทรด แม้ว่าจะเจอความผันผวนหรือความสูญเสีย สำคัญที่สุดในการประสบความสำเร็จ นักเทรดที่มีวินัยจะไม่ปล่อยให้อารมณ์ทำให้พวกเขาหันไปจากแผนการ
การตั้งเป้าหมายที่เหมาะสม: การตั้งเป้าหมายที่เหมาะสมและมีความเป็นไปได้จะช่วยให้รักษาความมุ่งมั่นและยังช่วยให้มีการเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่คุณสามารถคาดหวังจากการเทรด
การใช้เครื่องมือและซอฟต์แวร์ที่เหมาะสม: การใช้ซอฟต์แวร์และเครื่องมือการเทรดที่ทันสมัยและเหมาะสมสำหรับการเทรด จะช่วยให้ทำการวิเคราะห์และติดตามตลาดได้เพราะการเทรด Forex มักจะต้องใช้เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพ
เครือข่ายและการเรียนรู้จากผู้อื่น: การมีเครือข่ายของนักเทรดคนอื่นๆ และการเรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์ทำให้เทรดเดอร์นั้นสามารถรับข้อมูลและข้อเสนอแนะที่มีคุณค่าได้อย่างลึกซึ่งยิ่งขึ้น
FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง