เทคนิคการเทรด forex ระยะสั้น Time Frame กี่นาที มีเทคนิคอะไรบ้าง

IUX Markets Bonus

เทคนิคการเทรด forex ระยะสั้น

1 เทคนิคการเทรด forex ระยะสั้น

การเทรด Forex ระยะสั้น หมายถึง การเปิดและปิดตำแหน่งซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งอาจใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีหรือไม่เกินหลายชั่วโมงเท่านั้น แบ่งการเทรดระยะสั้น ได้ คือ การเทรด Scalping และ การเทรดแบบ Swing Trade ซึ่งดูได้จากการถือ Position

การเทรดระยะสั้นที่สั้นมากๆ เรียกว่า การเทรด Scalping ซึ่งเป็นการถือ Position ในระดับนาที ถึงชั่วโมง และถือไม่เกิน 1 วัน ชาวเทรดเดอร์จะเรียกแบบนี้ว่า Day Trader

การเทรดระยะสั้น เรียกว่า การเทรดแบบ Swing Trade จะถือ position ยาวขึ้นมา คือ ระยะ 1 วัน ไปจนถึง 1 – 2 สัปดาห์

เทคนิคการเทรด forex ระยะสั้น ควรเทรด forex กี่นาที

2 Scalping Forex

สำหรับการเทรด forex ในระยะเวลาสั้นๆนั้น จะเน้นการเทรดเน้นทำกำไรในช่วงสั้นๆ หรือที่เรียกว่า Scalping ซึ่งเป็นคำศัพท์ที่เหล่าเทรดเดอร์ในวงการ forex รู้กันดี

HFM Market Promotion

การเทรด forex ในระยะเวลาสั้นๆ แบบ Scalping ควรเทรด forex ในระดับนาที ถึงชั่วโมง และถือไม่เกิน 1 วัน ระยะเวลาที่เหมาะสำหรับการเทรด Forex ระยะสั้นจะขึ้นอยู่กับวิธีการเทรด และสไตล์การเทรดของเทรดเดอร์แต่ละคน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการเทรด Forex ระยะสั้นจะใช้ระยะเวลาที่สั้นกว่าหนึ่งชั่วโมง ซึ่งอาจเป็นเพียงไม่กี่นาทีหรือไม่เกินหลายสิบนาที ตัวอย่างเช่น การเทรดแบบสไลด์ (scalping)  อาจใช้ระยะเวลาในการเปิดและปิดตำแหน่งเพียงไม่กี่นาที ในขณะที่เทรดแบบเบรคเอเวอเรจ (breakout) อาจใช้เวลาระหว่าง 15 นาทีถึง 1 ชั่วโมง เพื่อรอให้ราคาแบบ Breakout หลุดออกจากเขตราคาสำคัญ

เทคนิคการเทรด Forex ระยะสั้นมีอะไรบ้าง

เทคนิคการเทรด Forex ระยะสั้นบางอย่างที่คุณสามารถใช้ได้

  • เทคนิคการเทรดแบบเบรคเอเวอเรจ (Breakout Trading): ใช้เทคนิคนี้เพื่อกำไรจากการบุกเข้าและออกจากเขตราคาสำคัญ เทรดเดอร์สามารถรอราคาทะลุระดับการต้านทานหรือระดับแนวรับเพื่อเปิดตำแหน่งซื้อหรือขายในทิศทางของการเคลื่อนไหว
  • เทคนิคการเทรดแบบเทรนด์ไบนารี่ (Binary Options Trading): ใช้เทคนิคนี้ในการพยายามทำกำไรจากการเทรดไบนารี่ออปชั่นซึ่งเป็นการเดิมพันว่าราคาของสกุลเงินจะขึ้นหรือลงในระยะเวลาที่กำหนด
  • เทคนิคการเทรดแบบสไลด์ (Scalping): เป็นการเปิดและปิดตำแหน่งในระยะเวลาสั้นๆ โดยพยายามหากำไรจากความแตกต่างของราคาในระยะเวลาสั้น การเทรดแบบสไลด์ต้องการความรวดเร็วในการตัดสินใจและสมาธิสูง
  • เทคนิคการเทรดแบบการเข้าทำกำไรแบบรอบเดียว (One-Punch Trading): ใช้เทคนิคนี้เพื่อเข้าทำกำไรในระยะสั้นๆ โดยเปิดตำแหน่งเพียงครั้งเดียวในแนวโน้มที่ชัดเจน และปิดตำแหน่งทันทีเมื่อความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
  • เทคนิคการเทรดแบบตามเทรนด์ (Trend Following): ใช้เทคนิคนี้ เพื่อเข้าทำกำไร โดยติดตามแนวโน้มราคาที่ชัดเจน

การเทรด Forex ระยะสั้นนิยมใช้อะไรบ้าง

การวิเคราะห์กราฟแท่งเทียนจะนิยมใช้กราฟแท่งเทียน (candlestick chart) เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของราคาและการเปลี่ยนแปลงราคาในระยะสั้น สามารถใช้รูปแบบและรูปแบบของแท่งเทียน เพื่อพิจารณาว่าควรจะเปิดหรือปิดตำแหน่งซื้อขายในเวลาที่เหมาะสม

การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคนั้นมีหลายเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่สามารถใช้ในการเทรด Forex ระยะสั้น เช่น สามารถใช้เส้นเทรนด์ (trend lines) เพื่อระบุแนวโน้มของราคา หรือใช้เครื่องมืออื่น ๆ เช่น เครื่องมือ Fibonacci, เครื่องมือการวิเคราะห์ของ Bollinger Bands, หรือเครื่องมืออื่น ๆ ที่ช่วยในการตัดสินใจในการซื้อขาย

การใช้เทคนิคการซื้อขายเทียบกลุ่ม (pair trading) เรียกได้ว่าวิธีนี้ใช้ในการซื้อขายคู่สกุลเงิน โดยการเปรียบเทียบการเคลื่อนไหวระหว่างสองสกุลเงินที่เกี่ยวข้องกันโดยซื้อขายแบบยาว (long) กับสกุลเงินที่คาดว่าจะเข้าแนวโน้มขึ้น และขายสกุลเงินที่คาดว่าจะเข้าแนวโน้มลง การใช้เทคนิคการซื้อขายเทียบกลุ่มช่วยลดความเสี่ยงเมื่อตลาดโดนัลเทรดสกุลเงินโดยรวม การวิเคราะห์และตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างคู่สกุลเงินเป็นสิ่งสำคัญในการใช้เทคนิคนี้

การใช้เทคนิคการเข้าทำกำไรแบบสไลด์ (scalping) ในวิธีนี้เน้นการทำกำไรจากความแตกต่างของราคาในระยะเวลาสั้นๆ โดยเปิดและปิดตำแหน่งในระยะเวลาเพียงไม่กี่นาที หรือไม่เกินหลายชั่วโมง การสไลด์ให้ได้กำไรนั้นอาจใช้เครื่องมือเทคนิคต่าง ๆ เช่น เส้นสนับสนุนและความต้านทาน (support and resistance), แบนด์วิดท์ของ Bollinger Bands, และเทคนิคการวิเคราะห์แบบอื่น ๆ

การใช้เทคนิคการซื้อขายแบบเบรคเอเวอเรจ (breakout) เทคนิคนี้เน้นการเปิดตำแหน่งซื้อขายเมื่อราคาของสกุลเงินบุกเข้าสู่เขตราคาสำคัญ เช่น ราคาทะลุระดับการต้านทานหรือระดับแนวรับของเทรนด์ เพื่อให้ได้กำไรจากการเคลื่อนไหวแรงขึ้นของราคาหลังจากการบุกเข้าสู่เขต เพื่อระบุระดับราคาที่สำคัญในการตัดสินใจซื้อขาย

การใช้เทคนิคการวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบเทรนด์ ถือได้ว่าเทรนด์เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่นิยมใช้ในการซื้อขาย Forex ระยะสั้น คุณสามารถใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่นการระบุแนวเทรนด์เบื้องต้น การใช้เทคนิคหลายตัวชี้วัดเพื่อระบุแนวโน้มราคา เช่น การใช้เส้นเทรนด์, ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (moving averages), และอื่น ๆ

สำหรับการจัดการเงินและการบริหารความเสี่ยง ในการใช้เทคนิคการวิเคราะห์ทางเทคนิคแล้ว การจัดการเงินและการบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในการเทรด Forex ระยะสั้น คุณควรกำหนดระดับของการเปิดตำแหน่งซื้อขายที่เหมาะสมตามความเสี่ยงที่คุณพร้อมรับ และใช้เครื่องมือการบริหารความเสี่ยงเช่น การตั้งค่าการหยุดขาดทุน (stop-loss) และการจัดการการเพิ่มขนาดของตำแหน่ง (position sizing) เพื่อลดความเสี่ยงในการเทรด

เทคนิคการตามเทรนด์ (Trend Following) ในการเทรด Forex ระยะสั้น

การระบุแนวโน้ม ให้ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น สายเทรนด์ (trend lines) หรือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (moving averages) เพื่อระบุแนวโน้มของราคา ราคาที่เคลื่อนไหวตามแนวเทรนด์จะมีโอกาสเป็นทางเลือกที่ดีในการเทรด เข้าทำกำไรตามแนวโน้ม คือเมื่อระบุแนวโน้มที่ชัดเจน สามารถเปิดตำแหน่งซื้อหรือขายในทิศทางของแนวโน้มนั้น การเข้าทำกำไรสามารถทำได้โดยรอราคาทะลุระดับการต้านทานหรือระดับแนวรับของเทรนด์ และในตั้งค่าการหยุดขาดทุนและเป้าหมายกำไรนั้นควรตั้งค่าระดับการหยุดขาดทุน (stop-loss) เพื่อความปลอดภัยในกรณีที่ราคาเคลื่อนที่ในทิศทางตรงกันข้าม และตั้งเป้าหมายกำไร (take-profit) เพื่อให้ออกจากตลาดเมื่อได้รับกำไรที่ต้องการ

การจัดการเงิน หลักการจัดการเงินเป็นสิ่งสำคัญในการเทรด Forex ระยะสั้นด้วยเทคนิคการตามเทรนด์ด้วย ควรจัดการขนาดตำแหน่งให้เหมาะสมเพื่อความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และต้อติดตามและปรับแนวโน้ม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องติดตามแนวโน้มตลอดเวลา เพื่อให้สามารถปรับกลยุทธ์การเทรดและตัดสินใจในการเข้าหรือออกจากตลาดได้อย่างทันท่วงที

การใช้การวิเคราะห์เทคนิคเสริม เป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือจากเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิคพื้นฐาน เช่น เส้นเทรนด์และค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ สามารถใช้เครื่องมือเสริมเพิ่มเติม เช่น อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค เช่น แบนด์วิดท์ของ Bollinger Bands, ค่าความแรงสัมพันธ์ (Relative Strength Index), และอื่น ๆ เพื่อเสริมความน่าเชื่อถือในการตัดสินใจการซื้อขาย ควรต้องมีการศึกษาและการฝึกฝน เป็นการพัฒนาทักษะในการเทรด Forex ระยะสั้นต้องการเวลาและความอุทิศให้กับการศึกษาและการฝึกฝน อ่านหนังสือ เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ หรือเข้าร่วมคอร์สการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มความรู้และทักษะในการเทรด Forex ระยะสั้น สำหรับความสำเร็จในระยะสั้นไม่ใช่ทุกครั้ง อาจมีความผันผวนสูงและอาจมีการสูญเสียเงินบางครั้ง จึงสำคัญที่จะมีอยู่ในช่วงระยะยาวและระบบการเทรดที่เหมาะสม

การเทรด Forex ระยะสั้น มีกลยุทธ์กี่แบบ

การเทรด Forex ระยะสั้น มีกลยุทธ์ที่นิยมกันอยู่ 5 แบบ ดังนี้

  1. การเทรดแบบสไลด์ (Scalping) เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เปิดและปิดตำแหน่งในระยะเวลาสั้นเพื่อกำไรจากความแตกต่างของราคาในระยะสั้นๆ โดยใช้เส้นสนับสนุนและความต้านทานเพื่อเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจ
  2. การเทรดแบบเบรคเอเวอเรจ (Breakout Trading) เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการเข้าทำกำไรจากการทะลุระดับการต้านทานหรือระดับแนวรับของราคาในแนวโน้มที่ชัดเจน
  3. การเทรดแบบเทรนด์ (Trend Trading) กลยุทธ์นี้ใช้ในการเข้าทำกำไรโดยติดตามแนวโน้มของราคา โดยเปิดตำแหน่งในทิศทางของแนวโน้มที่ชัดเจน
  4. การเทรดแบบเนื่องจากข่าว (News Trading) กลยุทธ์นี้ใช้ข่าวสารที่มีผลต่อตลาดเพื่อเข้าทำกำไรในระยะสั้นๆ โดยใช้การวิเคราะห์ข่าวและตรวจสอบตามแผนการเทรด
  5. การเทรดแบบแปรผัน (Range Trading) กลยุทธ์นี้ใช้ในช่วงตลาดที่แนวโน้มไม่ชัดเจน โดยเปิดตำแหน่งที่ราคาเคลื่อนที่ภายในช่วงราคาที่ระบุ

เทรดช่วงเวลาไหนดี

3 เทรดช่วงเวลาไหนดี

การเทรด Forex ระยะสั้นแต่ละช่วงเวลามีลักษณะและความเหมาะสมที่แตกต่างกันไป ดังนี้

เทรดช่วงเวลาแนะนำ (Recommended Timeframes) เทรด Forex ระยะสั้นในช่วงเวลา 15 นาที, 30 นาที, 1 ชั่วโมง ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างเหมาะสมและนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายมากในปัจจุบัน

เทรดช่วงเวลาที่เปิดตลาด (Market Opening Time) ช่วงเวลาที่ตลาดเปิดในแต่ละประเทศ เช่น ช่วงเวลาการเปิดตลาดในกรุงลอนดอน (London session), นิวยอร์ก (New York session), และตลาดในซิดนีย์ (Sydney session) อาจมีการเคลื่อนไหวราคาที่เพียงพอต่อการเทรดระยะสั้น มักจะมีจุดที่ทำกำไรได้ดี

เทรดช่วงเวลาที่มีความเคลื่อนไหวต่อเนื่อง (High Volatility Time) ช่วงเวลาที่มีเหตุการณ์สำคัญ ข่าวเศรษฐกิจที่มีผลต่อตลาด เหตุการณ์ทางการเมือง หรือเหตุการณ์ที่ส่งผลให้มีความผันผวนในราคา อาจเป็นช่วงที่เหมาะสมสำหรับการเทรดระยะสั้น

เทรดช่วงเวลาสนับสนุนและความต้านทาน (Support and Resistance Time) เวลาที่ราคามีแนวโน้มติดตัวกับระดับสนับสนุนและความต้านทานสำคัญ

เทรดช่วงเวลาความเงื่อนไขตลาด (Market Condition Time) ในบางครั้ง ความเคลื่อนไหวของตลาดอาจมีลักษณะเฉพาะในช่วงเวลาบางส่วน เช่น ตลาดที่มีความสมดุลราคา (sideways market) หรือตลาดที่มีเทรนด์อ่อนๆ ในช่วงเวลานั้น การเทรดระยะสั้นอาจไม่เหมาะสม เนื่องจากความเคลื่อนไหวราคาไม่เพียงพอต่อการจัดการความเสี่ยงและกำไร

ในการเทรดตามช่วงเวลาที่เทรดเดอร์เองสามารถติดตามกราฟได้ เพราะเวลาต้องเผื่อเวลาสำหรับข่าวที่จะออกด้วย ข้อนี้ก็เป็นอีกข้อที่สำคัญ ความสามารถในการติดตามตลาด การเทรดระยะสั้นต้องใช้การวิเคราะห์และตัดสินใจที่รวดเร็ว ดังนั้น ตังเทรดเดอร์เองควรเลือกช่วงเวลาที่ให้ความสำคัญกับการเทรดและมีความสะดวกในการติดตามและดูแลตลาดในช่วงเวลานั้นๆ ด้วยจะดีที่สุด

การเทรดแบบ scalping เหมาะกับเทรดเดอร์แบบไหน

การเทรดแบบ scalping เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีลักษณะและความพร้อมต่อการเทรดต่อไปนี้

  • ผู้เทรดที่มีความสามารถในการตัดสินใจรวดเร็ว: การเทรดแบบ scalping ต้องการความรวดเร็วในการตัดสินใจ เนื่องจากการเปิดและปิดตำแหน่งในระยะเวลาสั้น ผู้เทรดควรมีความสามารถในการวิเคราะห์และตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
  • ผู้เทรดที่มีความสามารถในการรับมือกับความเคลื่อนไหวของตลาด: การเทรดแบบ scalping เน้นความเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น ผู้เทรดควรมีความเชี่ยวชาญในการรับมือกับความผันผวนและความเปลี่ยนแปลงของตลาด
  • ผู้เทรดที่มีความรอบคอบในการจัดการเงิน: เนื่องจากการเทรดแบบ scalping มีการเปิดตำแหน่งบ่อยๆ ผู้เทรดควรมีความรอบคอบในการจัดการเงิน เพื่อความปลอดภัยและการควบคุมความเสี่ยง
  • ผู้เทรดที่มีความสามารถในการเรียนรู้และปรับปรุง: การเทรดแบบ scalping ต้องการความรับผิดชอบในการเรียนรู้และปรับปรุงกลยุทธ์การเทรด เนื่องจากตลาดอาจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
  • ผู้เทรดที่มีความสามารถในการใช้เทคนิคและเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิค: เทรดแบบ scalping ใช้เครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (moving averages) และเส้นสนับสนุนและความต้านทาน เทรดเดอร์ควรมีความรู้และความสามารถในการใช้เทคนิคเหล่านี้เพื่อประเมินแนวโน้มราคาและโอกาสการเข้าออกตำแหน่ง
  • ผู้เทรดที่มีความสามารถในการรับมือกับความเคลื่อนไหวของตลาด: เทรดแบบ scalping ต้องการความเชี่ยวชาญในการรับมือกับความผันผวนและความเปลี่ยนแปลงของตลาด ผู้เทรดควรมีความสามารถในการจับกลุ่มแนวโน้มราคาและการแปรผันของตลาดอย่างรวดเร็ว
  • ผู้เทรดที่มีความรอบคอบในการจัดการเงิน: เทรดแบบ scalping มีการเปิดตำแหน่งบ่อยๆ ผู้เทรดควรมีความรอบคอบในการจัดการเงิน เพื่อความปลอดภัยและการควบคุมความเสี่ยงในการทำกำไรและขาดทุน
  • ผู้เทรดที่มีความสามารถในการควบคุมอารมณ์และอดทน: การเทรดแบบ scalping อาจมีการเปิดและปิดตำแหน่งบ่อยๆ ซึ่งอาจเกิดความเคลื่อนไหวราคาที่ไม่คาดคิด ผู้เทรดควรมีความสามารถในการควบคุมอารมณ์และอดทนในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด
  • ผู้เทรดที่มีเวลาที่สำคัญในการติดตามตลาด: การเทรดแบบ scalping ต้องการความสัมพันธ์และการติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด ผู้เทรดควรมีเวลาที่สำคัญในการติดตามข้อมูลตลาดและปรับกลยุทธ์เทรดในเวลาทันที
  • ผู้เทรดที่มีความรับผิดชอบในการติดตามกิจกรรมการเทรด: เทรดแบบ scalping ต้องการความรับผิดชอบในการติดตามกิจกรรมการเทรด ผู้เทรดควรทำการบันทึกข้อมูลและวิเคราะห์ผลการเทรดเพื่อปรับปรุงและปรับแนวทางการเทรดในอนาคต
  • ผู้เทรดที่มีการวางแผนการเทรดที่เหมาะสม: เทรดแบบ scalping ต้องการการวางแผนการเทรดที่เหมาะสมและพิจารณาความเสี่ยงและกำไรให้เหมาะสม ผู้เทรดควรมีกลยุทธ์การเทรดที่ชัดเจนและมีการจัดการเงินที่เหมาะสม
  • ผู้เทรดที่มีความเสียสละในการเรียนรู้และปรับปรุง: เทรดแบบ scalping ต้องการความเสียสละในการเรียนรู้
  • ผู้เทรดที่มีการบริหารจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ: เทรดแบบ scalping ต้องการความรอบคอบในการบริหารจัดการเวลา เนื่องจากการเปิดและปิดตำแหน่งในระยะเวลาสั้น ผู้เทรดควรมีการวางแผนและการจัดสิ่งที่จำเป็นในการเทรดในช่วงเวลาที่เหมาะสม
  • ผู้เทรดที่มีความยืดหยุ่นในการปรับตัว: การเทรดแบบ scalping อาจมีการเปลี่ยนแปลงตลาดและโอกาสในการเข้าและออกตำแหน่งอย่างรวดเร็ว ผู้เทรดควรมีความยืดหยุ่นในการปรับตัวและปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
  • ผู้เทรดที่มีความรอบคอบในการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ผลการเทรด: เทรดแบบ scalping ต้องการการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ผลการเทรดอย่างรอบคอบ เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์และเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดในอนาคต
  • ผู้เทรดที่มีความพร้อมในการรับมือกับความเครียด: เทรดแบบ scalping อาจเกิดความเครียดในการตัดสินใจและการดำเนินการที่เร็ว ผู้เทรดควรมีความพร้อมทางจิตใจในการรับมือกับความเครียดและความกดดันในการเทรดได้
  • ผู้เทรดที่มีความรอบคอบในการใช้คำสั่งเปิดและปิดตำแหน่ง: การเทรดแบบ scalping ต้องการความรอบคอบในการใช้คำสั่งเปิดและปิดตำแหน่งให้ถูกต้องตามกลยุทธ์ที่กำหนด เพื่อลดความผิดพลาดและความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้
  • ผู้เทรดที่มีความเสียสละในการตัดสินใจ: เทรดแบบ scalping อาจต้องใช้การตัดสินใจรวดเร็วเมื่อเกิดสัญญาณการเข้าและออกตำแหน่ง ผู้เทรดควรมีความเสียสละในการตัดสินใจและเชื่อมั่นในกลยุทธ์การเทรดของตน
  • ผู้เทรดที่มีความสามารถในการอ่านความเป็นไปได้ของตลาด: เทรดแบบ scalping ต้องการความสามารถในการอ่านและวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของตลาดในระยะสั้น ผู้เทรดควรมีความเข้าใจในแนวโน้มราคาและการเคลื่อนไหวของตลาดในขณะนั้น
  • ผู้เทรดที่มีความสามารถในการรับมือกับการสูญเสีย: การเทรดแบบ scalping อาจเกิดการสูญเสียเร็วๆ ได้ ผู้เทรดควรมีความสามารถในการรับมือกับการสูญเสียและไม่ให้มีผลกระทบต่อจิตใจและกลยุทธ์การเทรดในอนาคต

ตัวอย่างของการเทรดแบบ scalping การเทรดระยะสั้น

วิเคราะห์กราฟแท่งเทียนระยะสั้น ใช้กราฟแท่งเทียนระยะสั้น เช่น 1 นาทีหรือ 5 นาที เพื่อระบุแนวโน้มราคาในระยะสั้น และค้นหาโอกาสที่เหมาะสมในการเข้าและออกตำแหน่ง ต้องใช้เส้นสนับสนุนและความต้านทาน ควรจะสำรวจและจดบันทึกระดับสนับสนุนและความต้านทานที่สำคัญบนกราฟ เมื่อราคาเข้าใกล้ระดับเหล่านี้ คุณสามารถเปิดหรือปิดตำแหน่งการซื้อขายได้ อาจจะใช้ใช้เครื่องมือเทคนิคเสริม เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (moving averages) เพื่อระบุแนวโน้มราคา แบนด์วิดท์ของ Bollinger Bands เพื่อระบุการเคลื่อนไหวของราคาและการแปรผันของตลาด

มีตั้งค่าการหยุดขาดทุนและเป้าหมายกำไร คือ ควรตั้งค่าระดับการหยุดขาดทุนและเป้าหมายกำไรที่เหมาะสม เพื่อความปลอดภัยและการบริหารจัดการความเสี่ยง ที่สำคัญอย่าลืมว่าต้องทำความเข้าใจและติดตามข่าวสาร เพราะการติดตามข่าวสารทางเศรษฐกิจและเหตุการณ์ที่อาจมีผลต่อราคา เป็นสิ่งสำคัญในการเทรดแบบ scalping เนื่องจากข่าวสารสามารถส่งผลให้ราคาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

การเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเทรด Forex ระยะสั้นนั้นเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็ยังขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การเทรดและสไตล์ของแต่ละคนด้วย ดังนั้น หากต้องการเก็งกำไรในการเทรด Forex ระยะเวลาสั้นๆ ควรทดลองและทบทวนกลยุทธ์ในช่วงเวลาต่างๆ อยู่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อค้นหาช่วงเวลาที่เหมาะสมและให้ผลการเทรดที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง อย่าลืมว่า เวลาที่ดีที่สุดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

FOREXDUCK Logo

FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง

HFM Promotion