Fixed Spread กับ Variable Spread แตกต่างกันอย่างไร เหมาะกับเทรดเดอร์แบบไหน

IUX Markets Bonus

Fixed Spread กับ Variable Spread

ในการเทรด Forex สิ่งหนึ่งที่เทรดเดอร์ต้องพิจารณาคือ Spread หรือส่วนต่างระหว่างราคาซื้อ (Ask) และราคาขาย (Bid) ของคู่สกุลเงิน Spread เป็นต้นทุนหลักในการเทรด และมีสองประเภทหลัก คือ Fixed Spread และ Variable Spread บทความนี้จะอธิบายความแตกต่างระหว่าง Fixed Spread กับ Variable Spread และวิเคราะห์ว่าแต่ละประเภทเหมาะกับเทรดเดอร์แบบใด

  1. Fixed Spread คืออะไร?
  2. Variable Spread คืออะไร?
  3. ความแตกต่างระหว่าง Fixed Spread และ Variable Spread
  4. ข้อดีและข้อเสียของ Fixed Spread
  5. ข้อดีและข้อเสียของ Variable Spread
  6. Fixed Spread เหมาะกับเทรดเดอร์แบบไหน
  7. Variable Spread เหมาะกับเทรดเดอร์แบบไหน
  8. ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกระหว่าง Fixed และ Variable Spread
  9. สรุป
Fixed Spread Vs Variable Spread
Fixed Spread Vs Variable Spread

Fixed Spread คืออะไร?

Fixed Spread หรือสเปรดคงที่ คือส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขายที่ถูกกำหนดไว้แน่นอนและไม่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะตลาด ไม่ว่าตลาดจะมีความผันผวนมากหรือน้อยเพียงใด Spread ก็จะคงที่เสมอ

ตัวอย่างเช่น หากโบรกเกอร์กำหนด Fixed Spread สำหรับคู่สกุลเงิน EUR/USD ไว้ที่ 2 pips คุณจะเห็นราคาแบบนี้:

  • Bid (ราคาขาย): 1.1000
  • Ask (ราคาซื้อ): 1.1002

Spread จะคงที่ที่ 2 pips ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในตลาด

Variable Spread คืออะไร?

Variable Spread หรือสเปรดแบบลอยตัว คือส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขายที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะตลาด Spread จะกว้างขึ้นในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูงหรือสภาพคล่องต่ำ และจะแคบลงในช่วงที่ตลาดมีเสถียรภาพและสภาพคล่องสูง

ตัวอย่างเช่น สำหรับคู่สกุลเงิน EUR/USD คุณอาจเห็นราคาแบบนี้:

  • ในช่วงตลาดปกติ:
    • Bid: 1.1000
    • Ask: 1.1002 (Spread = 2 pips)
  • ในช่วงที่มีข่าวสำคัญ:
    • Bid: 1.1000
    • Ask: 1.1010 (Spread = 10 pips)

ความแตกต่างระหว่าง Fixed Spread และ Variable Spread

  1. ความแน่นอน:
    • Fixed Spread: มีความแน่นอนสูง เทรดเดอร์สามารถคาดการณ์ต้นทุนการเทรดได้ล่วงหน้า
    • Variable Spread: มีความไม่แน่นอนสูงกว่า ต้นทุนการเทรดอาจเปลี่ยนแปลงตามสภาวะตลาด
  2. การตอบสนองต่อสภาวะตลาด:
    • Fixed Spread: ไม่เปลี่ยนแปลงตามสภาวะตลาด
    • Variable Spread: เปลี่ยนแปลงตามความผันผวนและสภาพคล่องของตลาด
  3. ความเสี่ยงของ Requote:
    • Fixed Spread: มีโอกาสเกิด Requote สูงในช่วงที่ตลาดผันผวน
    • Variable Spread: โอกาสเกิด Requote น้อยกว่า เนื่องจาก Spread สามารถปรับตัวตามสภาวะตลาด
  4. ความเหมาะสมกับสไตล์การเทรด:
    • Fixed Spread: เหมาะกับ Scalping และการเทรดระยะสั้น
    • Variable Spread: เหมาะกับการเทรดระยะกลางถึงระยะยาว
  5. ต้นทุนโดยเฉลี่ย:
    • Fixed Spread: อาจสูงกว่าในช่วงตลาดปกติ แต่ถูกกว่าในช่วงตลาดผันผวน
    • Variable Spread: มักจะถูกกว่าในช่วงตลาดปกติ แต่อาจแพงมากในช่วงตลาดผันผวน

ข้อดีและข้อเสียของ Fixed Spread

ข้อดีของ Fixed Spread:

  1. ความแน่นอน: เทรดเดอร์สามารถคำนวณต้นทุนการเทรดได้แม่นยำ
  2. เหมาะกับ Scalping: ไม่ต้องกังวลเรื่อง Spread ที่อาจขยายตัวในช่วงเวลาสั้นๆ
  3. ง่ายต่อการวางแผน: สามารถวางแผนการเทรดและกำหนด Take Profit/Stop Loss ได้ง่าย
  4. ไม่มีความเสี่ยงจาก Slippage: ในกรณีที่ใช้ Instant Execution

ข้อเสียของ Fixed Spread:

  1. Requote: มีโอกาสเกิด Requote สูงในช่วงที่ตลาดผันผวน
  2. อาจแพงกว่าในบางช่วงเวลา: ในช่วงที่ตลาดมีสภาพคล่องสูง Fixed Spread อาจแพงกว่า Variable Spread
  3. จำกัดการเทรดในช่วงข่าว: อาจไม่สามารถเทรดในช่วงประกาศข่าวสำคัญได้
  4. อาจมีข้อจำกัดในการใช้ EA: บาง Expert Advisors (EAs) อาจทำงานได้ไม่ดีกับ Fixed Spread

ข้อดีและข้อเสียของ Variable Spread

ข้อดีของ Variable Spread:

  1. สะท้อนสภาวะตลาดจริง: Spread แคบลงในช่วงตลาดปกติ ทำให้ต้นทุนการเทรดต่ำลง
  2. ลดโอกาสเกิด Requote: เนื่องจาก Spread สามารถปรับตัวตามสภาวะตลาด
  3. เหมาะกับการเทรดข่าว: สามารถเทรดในช่วงประกาศข่าวสำคัญได้
  4. ยืดหยุ่นกว่า: เหมาะกับหลากหลายสไตล์การเทรด รวมถึงการใช้ EAs

ข้อเสียของ Variable Spread:

  1. ไม่แน่นอน: ยากต่อการคาดการณ์ต้นทุนการเทรดล่วงหน้า
  2. อาจแพงมากในบางช่วงเวลา: Spread อาจขยายตัวมากในช่วงที่ตลาดผันผวนสูง
  3. ไม่เหมาะกับ Scalping: Spread ที่เปลี่ยนแปลงบ่อยอาจทำให้กลยุทธ์ Scalping ไม่มีประสิทธิภาพ
  4. อาจเกิด Slippage: ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง

Fixed Spread เหมาะกับเทรดเดอร์แบบไหน

HFM Market Promotion

Fixed Spread มักจะเหมาะกับเทรดเดอร์ประเภทต่อไปนี้:

  1. Scalpers: เทรดเดอร์ที่เปิดและปิดการเทรดในระยะเวลาสั้นมาก (วินาทีถึงนาที) เพื่อทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อย Fixed Spread ช่วยให้พวกเขาสามารถคำนวณจุดคุ้มทุนได้แม่นยำ
  2. เทรดเดอร์มือใหม่: ผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นเทรด Forex อาจพบว่า Fixed Spread ง่ายต่อการทำความเข้าใจและการคำนวณต้นทุน
  3. ผู้ใช้ Expert Advisors (EAs) บางประเภท: EAs บางตัวถูกออกแบบมาให้ทำงานได้ดีกับ Fixed Spread โดยเฉพาะ
  4. เทรดเดอร์ที่ชอบความแน่นอน: ผู้ที่ต้องการความแน่นอนในการคำนวณต้นทุนและไม่ต้องการเผชิญกับความไม่แน่นอนของ Spread ที่เปลี่ยนแปลง
  5. Day Traders ที่เทรดบ่อย: เทรดเดอร์ที่เปิดและปิดหลายการเทรดในหนึ่งวัน อาจพบว่า Fixed Spread ช่วยให้พวกเขาสามารถควบคุมต้นทุนได้ดีกว่า
  6. ผู้ที่เทรดในช่วงเวลาที่มีสภาพคล่องต่ำ: เช่น ช่วงกลางคืนหรือช่วงหยุดยาว Fixed Spread อาจให้ราคาที่ดีกว่าในช่วงเวลาเหล่านี้

Variable Spread เหมาะกับเทรดเดอร์แบบไหน

IUX Markets Raw
IUX Markets Raw

Variable Spread มักจะเหมาะกับเทรดเดอร์ประเภทต่อไปนี้:

  1. Swing Traders: เทรดเดอร์ที่ถือครองตำแหน่งเป็นเวลาหลายวันถึงหลายสัปดาห์ มักไม่ได้รับผลกระทบจาก Spread ที่เปลี่ยนแปลงในระยะสั้น
  2. Position Traders: ผู้ที่ถือครองตำแหน่งเป็นเวลานาน (หลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน) สามารถรับมือกับ Variable Spread ได้ดี เนื่องจากผลกระทบของ Spread มีน้อยเมื่อเทียบกับการเคลื่อนไหวของราคาในระยะยาว
  3. News Traders: เทรดเดอร์ที่เทรดในช่่วงประกาศข่าวสำคัญสามารถเทรดได้ด้วย Variable Spread แม้ว่า Spread จะกว้างขึ้น แต่ก็สามารถเข้าเทรดได้โดยไม่ถูก Requote
  4. เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์: ผู้ที่มีความเข้าใจในการทำงานของตลาด Forex และสามารถปรับกลยุทธ์ตามสภาวะตลาดได้
  5. ผู้ใช้ Expert Advisors (EAs) ที่ซับซ้อน: EAs บางประเภทสามารถปรับตัวตาม Spread ที่เปลี่ยนแปลงได้ และอาจทำงานได้ดีกว่ากับ Variable Spread
  6. เทรดเดอร์ที่เน้นสภาพคล่อง: ผู้ที่ต้องการเข้าถึงสภาพคล่องที่แท้จริงของตลาดและยินดีรับความเสี่ยงจาก Spread ที่เปลี่ยนแปลง
  7. เทรดเดอร์ที่มีเงินทุนสูง: ผู้ที่มีเงินทุนมากพอที่จะรับมือกับ Spread ที่อาจกว้างขึ้นในบางช่วงเวลา

ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกระหว่าง Fixed และ Variable Spread

  1. สไตล์การเทรด: พิจารณาว่าคุณเป็นเทรดเดอร์ประเภทไหน (Scalper, Day Trader, Swing Trader, หรือ Position Trader)
  2. ขนาดเงินทุน: เทรดเดอร์ที่มีเงินทุนน้อยอาจเหมาะกับ Fixed Spread มากกว่า เพื่อป้องกันการสูญเสียจาก Spread ที่กว้างขึ้นในช่วงตลาดผันผวน
  3. ช่วงเวลาที่เทรด: หากคุณเทรดในช่วงเวลาที่มีสภาพคล่องสูง Variable Spread อาจให้ต้นทุนที่ต่ำกว่า
  4. ความถี่ในการเทรด: เทรดเดอร์ที่เทรดบ่อยอาจได้ประโยชน์จาก Fixed Spread ในแง่ของการคำนวณต้นทุนที่แม่นยำ
  5. ความทนต่อความเสี่ยง: หากคุณไม่ชอบความไม่แน่นอน Fixed Spread อาจเหมาะสมกว่า
  6. ประสบการณ์การเทรด: เทรดเดอร์มือใหม่อาจเริ่มต้นด้วย Fixed Spread เพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น ในขณะที่เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์อาจชอบความยืดหยุ่นของ Variable Spread
  7. การใช้ Expert Advisors (EAs): ตรวจสอบว่า EA ของคุณทำงานได้ดีกับ Spread ประเภทใด
  8. ความต้องการในการเทรดข่าว: หากคุณชอบเทรดในช่วงประกาศข่าวสำคัญ Variable Spread อาจเหมาะสมกว่า
  9. นโยบายของโบรกเกอร์: บางโบรกเกอร์อาจมีข้อจำกัดหรือเงื่อนไขพิเศษสำหรับ Fixed หรือ Variable Spread
  10. ต้นทุนโดยรวม: พิจารณาต้นทุนทั้งหมด รวมถึงค่าคอมมิชชั่นอื่นๆ ที่อาจมี ไม่ใช่แค่ Spread เพียงอย่างเดียว

สรุป

การเลือกระหว่าง Fixed Spread และ Variable Spread เป็นการตัดสินใจสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการเทรดของคุณ ไม่มีคำตอบตายตัวว่าประเภทไหนดีกว่ากัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น สไตล์การเทรด, ประสบการณ์, เงินทุน, และความทนต่อความเสี่ยงของคุณ

Fixed Spread มักเหมาะกับ Scalpers, เทรดเดอร์มือใหม่, และผู้ที่ต้องการความแน่นอนในการคำนวณต้นทุน ในขณะที่ Variable Spread เหมาะกับ Swing Traders, Position Traders, และเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ซึ่งสามารถปรับตัวตามสภาวะตลาดได้ดี

สิ่งสำคัญคือการทดลองใช้ทั้งสองประเภทผ่านบัญชีทดลอง (Demo Account) ก่อนตัดสินใจ และอย่าลืมพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ของโบรกเกอร์ด้วย เช่น ความน่าเชื่อถือ, คุณภาพการ Execution, และการสนับสนุนลูกค้า

ท้ายที่สุด การเลือก Spread ที่เหมาะสมเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ การพัฒนากลยุทธ์การเทรดที่ดี, การจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม, และการควบคุมอารมณ์ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในการเทรด Forex ในระยะยาว

อ้างอิง

  1. BabyPips.com. (2024). What is a Spread in Forex Trading? Retrieved from https://www.babypips.com/learn/forex/what-is-a-spread-in-forex-trading
  2. Bank for International Settlements. (2024). Triennial Central Bank Survey of Foreign Exchange and OTC Derivatives Markets. Retrieved from https://www.bis.org/statistics/rpfx19.htm
  3. CFA Institute. (2024). Currency Markets and Foreign Exchange Rates. CFA Program Curriculum Level I, Volume 2. Retrieved from https://www.cfainstitute.org/en/programs/cfa/curriculum
FOREXDUCK Logo

FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง

HFM Promotion