AvaTrade เป็นโบรกเกอร์ Forex และ CFD ที่มีชื่อเสียงในวงการมานานกว่า 18 ปี แต่โบรกเกอร์นี้เหมาะสมกับคุณหรือไม่? ในบทความนี้ เราจะวิเคราะห์ข้อดีและข้อเสียของ AvaTrade อย่างละเอียด เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าโบรกเกอร์นี้ตอบโจทย์ความต้องการของคุณหรือไม่
Avatrade คืออะไร
AvaTrade คือโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือสูง เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการความปลอดภัยและมั่นคงในการลงทุน โดดเด่นด้วยการกำกับดูแลที่เข้มงวด แพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย และสินทรัพย์ให้เลือกเทรดมากมาย อย่างไรก็ตาม ค่า Spread และ Swap ที่ค่อนข้างสูงอาจไม่เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ต้องการต้นทุนการเทรดที่ต่ำที่สุด นอกจากนี้ การไม่มีบัญชี ECN และ Leverage ที่จำกัดอาจไม่ตอบโจทย์เทรดเดอร์บางกลุ่ม
- ชื่อ: AvaTrade (เดิมชื่อ AvaFX)
- ปีที่ก่อตั้ง: 2006
- สำนักงานใหญ่: ดับลิน ประเทศไอร์แลนด์
- ที่อยู่: Dockline, Mayor Street, Dublin 1, D01 K8N7, Ireland
- ประเภทโบรกเกอร์: Market Maker
- เว็บไซต์: www.avatrade.com
- ภาษาที่รองรับ: มากกว่า 20 ภาษา รวมถึงภาษาไทย
- การกำกับดูแล:
- Central Bank of Ireland (CBI) – ใบอนุญาตเลขที่ C53877
- Australian Securities & Investments Commission (ASIC) – ใบอนุญาตเลขที่ 406684
- Financial Sector Conduct Authority (FSCA) ของแอฟริกาใต้ – ใบอนุญาตเลขที่ 45984
- Japan Financial Services Authority (JFSA) และ Financial Futures Association of Japan (FFAJ) – ใบอนุญาตเลขที่ 1662
- Abu Dhabi Global Markets (ADGM) – ใบอนุญาตเลขที่ 190018
- Israel Securities Authority (ISA) – ใบอนุญาตเลขที่ 514666577
- Financial Services Commission (BVIFSC) ของหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน
Avatrade ดีไหม
หลังจากที่เราได้วิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ของ AvaTrade อย่างละเอียดแล้ว เราสามารถตอบคำถามว่า “Avatrade ดีไหม?” ได้ดังนี้
ข้อดีของ AvaTrade
- ความน่าเชื่อถือสูง:
- เปิดให้บริการมานานกว่า 18 ปี
- มีประวัติการดำเนินงานที่โปร่งใสและไม่มีข่าวอื้อฉาว
- ได้รับรางวัลจากหลายสถาบันในอุตสาหกรรม
- การกำกับดูแลที่เข้มงวด:
- ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำหลายแห่งทั่วโลก
- มีการแยกบัญชีของลูกค้าออกจากบัญชีของบริษัท
- มีการประกันเงินฝากของลูกค้าสูงสุด 20,000 EUR
- แพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย:
- รองรับทั้ง MT4 และ MT5 ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่เทรดเดอร์
- มีแพลตฟอร์มเฉพาะทางอย่าง AvaOptions สำหรับการเทรด Forex options
- มีแอปมือถือ AvaTradeGO ที่ใช้งานง่ายและมีฟีเจอร์ครบครัน
- สินทรัพย์ให้เทรดหลากหลาย:
- มีสินทรัพย์ให้เลือกเทรดมากกว่า 1,250 ประเภท
- ครอบคลุมทั้ง Forex, หุ้น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, และ Cryptocurrency
- ค่า Swap ต่ำสำหรับ Forex และทองคำ:
- เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบถือออเดอร์ข้ามคืน
- ช่วยลดต้นทุนการเทรดในระยะยาว
- ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากและถอนเงิน:
- ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรม
- ทำให้การจัดการเงินทุนมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
- เครื่องมือและบทวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ทันสมัย:
- มี Trading Central ให้บริการบทวิเคราะห์และสัญญาณการเทรด
- มีเครื่องมือ AvaProtect สำหรับจัดการความเสี่ยง
- โปรแกรมการศึกษาและฝึกอบรมที่ครอบคลุม:
- มีบทความ วิดีโอ และ eBook สอนการเทรดฟรี
- จัดเว็บบินาร์และสัมมนาออนไลน์อย่างสม่ำเสมอ
- รองรับการใช้งาน EA และ Social Trading:
- สามารถใช้ Expert Advisors (EA) ได้อย่างอิสระ
- มีระบบ DupliTrade และ ZuluTrade สำหรับ Social Trading
- ไม่จำกัดเวลา:
- สามารถทดลองใช้งานแพลตฟอร์มและทดสอบกลยุทธ์ได้โดยไม่มีความเสี่ยง
- เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และเทรดเดอร์ที่ต้องการทดสอบระบบ
ข้อเสียของ AvaTrade
- ค่า Spread ค่อนข้างสูง:
- Spread เริ่มต้นที่ 0.9 pips สำหรับ EUR/USD ซึ่งสูงกว่าโบรกเกอร์ ECN บางราย
- อาจไม่เหมาะกับเทรดเดอร์ที่เน้นการทำกำไรจากการเทรดระยะสั้น
- ค่า Swap สำหรับ Cryptocurrency สูง:
- ไม่มีประเภทบัญชี ECN:
- ทุกบัญชีเป็นแบบ Standard Account
- อาจไม่ตอบโจทย์เทรดเดอร์ที่ต้องการ Spread แคบที่สุดและการ Execute ที่เร็วที่สุด
- Leverage สูงสุดที่ 1:400:
- อาจน้อยเกินไปสำหรับเทรดเดอร์บางคนที่ต้องการ Leverage สูงๆ
- ข้อจำกัดนี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศตามกฎระเบียบท้องถิ่น
- ไม่มีโบนัสและโปรโมชั่นที่น่าสนใจ:
- ไม่มีโบนัสเงินฝากหรือโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่
- อาจทำให้เสียเปรียบในการแข่งขันกับโบรกเกอร์อื่นที่มีข้อเสนอจูงใจมากกว่า
- การถอนเงินอาจใช้เวลานาน:
- ใช้เวลา 1-5 วันทำการในการดำเนินการถอนเงิน
- อาจไม่สะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการความคล่องตัวสูงในการจัดการเงินทุน
- อัตราแลกเปลี่ยนในการฝากถอนค่อนข้างสูง:
- มีค่าใช้จ่ายแฝงประมาณ 2.25% ในการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน
- อาจกระทบต่อผลกำไรโดยรวมของเทรดเดอร์
- ยอดฝากถอนขั้นต่ำค่อนข้างสูง:
- ฝากและถอนขั้นต่ำ $100 อาจสูงเกินไปสำหรับนักลงทุนรายย่อยหรือผู้เริ่มต้น
- อาจเป็นอุปสรรคสำหรับผู้ที่ต้องการทดลองเทรดด้วยเงินทุนน้อย
- ไม่รองรับการฝากถอนด้วย Cryptocurrency:
- ไม่มีตัวเลือกในการฝากหรือถอนเงินด้วย Bitcoin หรือ Cryptocurrency อื่นๆ
- อาจไม่สะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ Crypto ในการทำธุรกรรม
AvaTrade ใบอนุญาต การกำกับดูแลและความน่าเชื่อถือ
AvaTrade เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลอย่างเข้มงวดจากหน่วยงานกำกับดูแลชั้นนำในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามมาตรฐานสูงสุดของอุตสาหกรรมและการคุ้มครองผู้ลงทุน ต่อไปนี้คือรายละเอียดของใบอนุญาตที่ AvaTrade ได้รับ:
1. Central Bank of Ireland (CBI)
- ประเทศ: ไอร์แลนด์
- เลขที่ใบอนุญาต: C53877
- ชื่อบริษัทที่จดทะเบียน: Ava Trade EU Ltd
- ความสำคัญ: เป็นใบอนุญาตหลักสำหรับการดำเนินงานในสหภาพยุโรป (EU) ภายใต้กฎระเบียบ MiFID II
- ระดับการกำกับดูแล: สูง (Tier 1)
2. Australian Securities & Investments Commission (ASIC)
- ประเทศ: ออสเตรเลีย
- เลขที่ใบอนุญาต: 406684
- ชื่อบริษัทที่จดทะเบียน: Ava Capital Markets Australia Pty Ltd
- ความสำคัญ: ควบคุมการให้บริการทางการเงินในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นตลาด Forex ที่สำคัญ
- ระดับการกำกับดูแล: สูง (Tier 1)
3. Financial Sector Conduct Authority (FSCA)
- ประเทศ: แอฟริกาใต้
- เลขที่ใบอนุญาต: 45984
- ชื่อบริษัทที่จดทะเบียน: AVA Capital Markets (Pty) Ltd
- ความสำคัญ: ควบคุมการให้บริการทางการเงินในแอฟริกาใต้และภูมิภาคแอฟริกา
- ระดับการกำกับดูแล: ปานกลาง (Tier 2)
4. Japan Financial Services Agency (JFSA) และ Financial Futures Association of Japan (FFAJ)
- ประเทศ: ญี่ปุ่น
- เลขที่ใบอนุญาต: 1662
- ชื่อบริษัทที่จดทะเบียน: Ava Trade Japan K.K.
- ความสำคัญ: ควบคุมการให้บริการในตลาด Forex ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
- ระดับการกำกับดูแล: สูง (Tier 1)
5. Abu Dhabi Global Markets (ADGM)
- ประเทศ: สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- เลขที่ใบอนุญาต: 190018
- ชื่อบริษัทที่จดทะเบียน: Ava Trade Middle East Limited
- ความสำคัญ: ควบคุมการให้บริการในภูมิภาคตะวันออกกลาง
- ระดับการกำกับดูแล: ปานกลาง (Tier 2)
6. Israel Securities Authority (ISA)
- ประเทศ: อิสราเอล
- เลขที่ใบอนุญาต: 514666577
- ชื่อบริษัทที่จดทะเบียน: ATrade Ltd
- ความสำคัญ: ควบคุมการให้บริการในอิสราเอล ซึ่งเป็นตลาด Fintech ที่สำคัญ
- ระดับการกำกับดูแล: ปานกลาง (Tier 2)
7. Financial Services Commission (BVIFSC)
- ประเทศ: หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน
- ชื่อบริษัทที่จดทะเบียน: Ava Trade Markets Ltd
- ความสำคัญ: ให้ความยืดหยุ่นในการดำเนินงานระหว่างประเทศ
- ระดับการกำกับดูแล: ต่ำ (Tier 3)
ความสำคัญของการกำกับดูแลที่หลากหลาย
- ความน่าเชื่อถือสูง: การได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลชั้นนำหลายแห่งแสดงถึงความมุ่งมั่นของ AvaTrade ในการปฏิบัติตามมาตรฐานสูงสุดของอุตสาหกรรม
- การคุ้มครองนักลงทุน: แต่ละหน่วยงานกำกับดูแลมีกฎระเบียบเฉพาะเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนักลงทุน เช่น การแยกบัญชีลูกค้า และการประกันเงินฝาก
- ความโปร่งใส: โบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลต้องรายงานข้อมูลทางการเงินและการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เกิดความโปร่งใสสูง
- การระงับข้อพิพาท: หากเกิดปัญหา นักลงทุนสามารถร้องเรียนผ่านหน่วยงานกำกับดูแลได้ ซึ่งช่วยเพิ่มความคุ้มครองให้กับผู้ใช้บริการ
- ความยืดหยุ่นทางภูมิศาสตร์: การมีใบอนุญาตในหลายประเทศช่วยให้ AvaTrade สามารถให้บริการลูกค้าได้ทั่วโลกภายใต้กฎระเบียบที่เหมาะสม
- การปรับตัวตามกฎระเบียบท้องถิ่น: ใบอนุญาตในแต่ละประเทศช่วยให้ AvaTrade สามารถปรับบริการให้สอดคล้องกับกฎหมายและวัฒนธรรมท้องถิ่นได้ดียิ่งขึ้น
ข้อควรระวัง
แม้ว่า AvaTrade จะมีใบอนุญาตที่น่าเชื่อถือ แต่นักลงทุนควรตระหนักว่า:
- ระดับการคุ้มครองอาจแตกต่างกันไปในแต่ละเขตอำนาจศาล
- ควรตรวจสอบว่าคุณกำลังใช้บริการภายใต้นิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตในประเทศของคุณ
- การมีใบอนุญาตไม่ได้รับประกันผลกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงทั้งหมดในการเทรด
โดยสรุป ใบอนุญาตที่หลากหลายและน่าเชื่อถือของ AvaTrade เป็นจุดแข็งสำคัญของโบรกเกอร์นี้ แสดงถึงความมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามมาตรฐานสูงสุดของอุตสาหกรรมและการคุ้มครองผู้ลงทุน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรศึกษาและเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเทรด Forex และ CFDs อย่างถ่องแท้ก่อนตัดสินใจลงทุน
รีวิว AvaTrade จาก Trustpilot
Trustpilot เป็นแพลตฟอร์มรีวิวออนไลน์ที่ได้รับความนิยมและน่าเชื่อถือ ซึ่งให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสบการณ์จริงของลูกค้าที่ใช้บริการ AvaTrade ต่อไปนี้เป็นสรุปรีวิวของ AvaTrade บน Trustpilot:
คะแนนโดยรวม
ณ เดือนสิงหาคม 2024 AvaTrade ได้รับคะแนนโดยรวม 4.5 ดาวจาก 5 ดาว บนพื้นฐานของรีวิวมากกว่า 8,700 รายการ ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับ “ดีเยี่ยม” ตามมาตรฐานของ Trustpilot
การกระจายของคะแนน
- 5 ดาว: 75% ของรีวิวทั้งหมด
- 4 ดาว: 7% ของรีวิวทั้งหมด
- 3 ดาว: 2% ของรีวิวทั้งหมด
- 2 ดาว: 2% ของรีวิวทั้งหมด
- 1 ดาว: 14% ของรีวิวทั้งหมด
ประเด็นที่ได้รับคำชมเชยบ่อย
- การบริการลูกค้า: หลายรีวิวชื่นชมการบริการลูกค้าที่รวดเร็วและเป็นมืออาชีพ โดยเฉพาะการสนับสนุนผ่าน live chat และโทรศัพท์
- กระบวนการสมัครและยืนยันตัวตน: ผู้ใช้หลายรายรู้สึกพอใจกับกระบวนการเปิดบัญชีที่ราบรื่นและรวดเร็ว
- แพลตฟอร์มการเทรด: มีความเห็นในแง่บวกเกี่ยวกับความง่ายในการใช้งานและความเสถียรของแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะ AvaTradeGO
- เครื่องมือการศึกษา: ผู้ใช้ชื่นชมแหล่งข้อมูลการศึกษาที่ครอบคลุม รวมถึงบทความ วิดีโอ และเว็บบินาร์
- ความหลากหลายของสินทรัพย์: มีความพึงพอใจต่อความหลากหลายของสินทรัพย์ที่สามารถเทรดได้
ประเด็นที่มีการวิจารณ์บ่อย
- การถอนเงิน: มีรีวิวบางส่วนที่แสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับความล่าช้าในกระบวนการถอนเงิน
- ค่าธรรมเนียม: บางรีวิวระบุว่าค่าธรรมเนียมบางอย่าง เช่น ค่า inactivity fee ค่อนข้างสูง
- ความผันผวนของราคา: มีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับ slippage และการ execute ที่ช้าในบางครั้ง โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง
- การสนับสนุนทางเทคนิค: มีรีวิวบางส่วนที่ระบุว่าการแก้ไขปัญหาทางเทคนิคบางครั้งใช้เวลานาน
- ข้อจำกัดด้านภูมิศาสตร์: ผู้ใช้บางรายแสดงความไม่พอใจกับข้อจำกัดในการให้บริการในบางประเทศ
การตอบสนองของ AvaTrade
สิ่งที่น่าสังเกตคือ AvaTrade มีการตอบสนองต่อรีวิวเชิงลบอย่างสม่ำเสมอ โดยพยายามแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือ ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นในการปรับปรุงบริการและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า
จากรีวิวบน Trustpilot AvaTrade ได้รับการประเมินในระดับดีถึงดีมากจากผู้ใช้ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในด้านการบริการลูกค้า ความง่ายในการใช้งาน และความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม มีประเด็นที่ควรปรับปรุง เช่น กระบวนการถอนเงินและค่าธรรมเนียมบางประเภท
ทั้งนี้ ควรตระหนักว่ารีวิวออนไลน์อาจมีอคติและไม่ได้เป็นตัวแทนของประสบการณ์ทั้งหมดของผู้ใช้ นักลงทุนควรใช้ข้อมูลนี้ประกอบกับการวิจัยและการทดลองใช้บัญชีทดลองด้วยตนเองก่อนตัดสินใจเปิดบัญชีจริงกับ AvaTrade
แพลตฟอร์มการเทรด
AvaTrade นำเสนอแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนทุกระดับ ตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงเทรดเดอร์มืออาชีพ ต่อไปนี้คือรายละเอียดของแพลตฟอร์มการเทรดที่ AvaTrade มีให้บริการ
- MetaTrader 4 (MT4): แพลตฟอร์มยอดนิยมที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย รองรับการใช้งาน EA
- MetaTrader 5 (MT5): รุ่นอัพเกรดของ MT4 มีเครื่องมือและฟีเจอร์เพิ่มเติม
- AvaOptions: แพลตฟอร์มเฉพาะสำหรับการเทรด Forex options
- WebTrader: แพลตฟอร์มบนเว็บที่ไม่ต้องดาวน์โหลด ใช้งานง่าย
- AvaTradeGO: แอปพลิเคชันมือถือสำหรับการเทรดบน iOS และ Android
AvaTrade เทรดอะไรได้บ้าง
AvaTrade เป็นโบรกเกอร์ที่ให้บริการเทรดสินทรัพย์หลากหลายประเภท ครอบคลุมตลาดการเงินทั่วโลก ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงและแสวงหาโอกาสในการทำกำไรได้จากหลายแหล่ง ต่อไปนี้คือรายละเอียดของสินทรัพย์ที่สามารถเทรดได้กับ AvaTrade
1. Forex (ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ)
- จำนวน: 56 คู่สกุลเงิน
- ตัวอย่าง:
- คู่สกุลเงินหลัก: EUR/USD, GBP/USD, USD/JPY
- คู่สกุลเงินรอง: AUD/CAD, NZD/JPY, EUR/GBP
- คู่สกุลเงินแปลก: USD/TRY, EUR/PLN, USD/MXN
- ข้อดี: สภาพคล่องสูง, เทรดได้ 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์
- Leverage สูงสุด: 1:400 (ขึ้นอยู่กับกฎระเบียบของแต่ละประเทศ)
2. Cryptocurrency CFDs (สัญญาซื้อขายส่วนต่างของสกุลเงินดิจิทัล)
- จำนวน: 20 เหรียญ
- ตัวอย่าง: Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH), Ripple (XRP), Litecoin (LTC), Cardano (ADA)
- ข้อดี: สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง, ไม่ต้องเก็บสกุลเงินดิจิทัลจริง
- Leverage สูงสุด: 1:20 (ขึ้นอยู่กับกฎระเบียบของแต่ละประเทศ)
3. Stocks CFDs (สัญญาซื้อขายส่วนต่างของหุ้น)
- จำนวน: 626 บริษัท
- ตัวอย่าง:
- หุ้นสหรัฐฯ: Apple, Amazon, Google, Tesla
- หุ้นยุโรป: Volkswagen, Airbus, Deutsche Bank
- หุ้นเอเชีย: Toyota, Samsung, Alibaba
- ข้อดี: เข้าถึงตลาดหุ้นทั่วโลกได้โดยไม่ต้องซื้อหุ้นจริง
- Leverage สูงสุด: 1:5 (ขึ้นอยู่กับหุ้นและกฎระเบียบ)
4. Indices CFDs (สัญญาซื้อขายส่วนต่างของดัชนีหุ้น)
- จำนวน: 30 ดัชนี
- ตัวอย่าง: S&P 500, NASDAQ 100, Dow Jones 30, FTSE 100, DAX 30, Nikkei 225
- ข้อดี: สามารถเทรดภาพรวมของตลาดหุ้นได้ในครั้งเดียว
- Leverage สูงสุด: 1:200 สำหรับดัชนีหลัก
5. Commodities CFDs (สัญญาซื้อขายส่วนต่างของสินค้าโภคภัณฑ์)
- จำนวน: 20 ชนิด
- ตัวอย่าง:
- โลหะมีค่า: ทองคำ, เงิน, แพลทินัม
- พลังงาน: น้ำมันดิบ Brent, น้ำมันดิบ WTI, ก๊าซธรรมชาติ
- สินค้าเกษตร: กาแฟ, น้ำตาล, ฝ้าย
- ข้อดี: ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ, กระจายการลงทุน
- Leverage สูงสุด: 1:100 สำหรับทองคำ, 1:200 สำหรับน้ำมัน
6. ETF CFDs (สัญญาซื้อขายส่วนต่างของกองทุน ETF)
- จำนวน: 60 กองทุน
- ตัวอย่าง: SPDR S&P 500 ETF, iShares MSCI Emerging Markets ETF, VanEck Vectors Gold Miners ETF
- ข้อดี: เข้าถึงการลงทุนในหลายสินทรัพย์พร้อมกัน, กระจายความเสี่ยง
- Leverage สูงสุด: 1:5
7. Bond CFDs (สัญญาซื้อขายส่วนต่างของพันธบัตร)
- จำนวน: 2 ประเภท
- ตัวอย่าง: US 10-Year T-Note, Germany 10-Year Bund
- ข้อดี: เพิ่มความหลากหลายในพอร์ตการลงทุน, ป้องกันความเสี่ยง
- Leverage สูงสุด: 1:100
AvaTrade ประเภทบัญชี
AvaTrade นำเสนอประเภทบัญชีที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมา เพื่อให้นักลงทุนสามารถเริ่มต้นการเทรดได้อย่างรวดเร็วและไม่ซับซ้อน โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ดังนี้:
1. บัญชีจริง (Real Account)
บัญชีจริงคือบัญชีที่ใช้สำหรับการเทรดด้วยเงินจริง เหมาะสำหรับนักลงทุนที่พร้อมจะเริ่มต้นการเทรดในตลาดจริง
คุณสมบัติหลัก:
- ฝากเงินขั้นต่ำ: 100 USD หรือเทียบเท่า
- สามารถเลือกสกุลเงินหลักของบัญชีได้ 4 สกุล: USD, EUR, GBP, CHF
- เข้าถึงเครื่องมือและบริการทั้งหมดของ AvaTrade
- สามารถใช้งานได้กับทุกแพลตฟอร์มการเทรดที่ AvaTrade นำเสนอ
ข้อดี:
- เริ่มต้นด้วยเงินลงทุนที่ไม่สูงมาก
- มีความยืดหยุ่นในการเลือกสกุลเงินหลักของบัญชี
- สามารถทำกำไรจริงจากการเทรด
ข้อควรระวัง:
- มีความเสี่ยงในการสูญเสียเงินลงทุนจริง
- ควรมีความรู้และประสบการณ์ในการเทรดก่อนเริ่มใช้บัญชีจริง
2. บัญชีทดลอง (Demo Account)
บัญชีทดลองเป็นบัญชีที่จำลองสภาพแวดล้อมการเทรดจริง แต่ใช้เงินเสมือน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่ต้องการทดสอบกลยุทธ์การเทรดใหม่ๆ
คุณสมบัติหลัก:
- ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเปิดบัญชี
- ได้รับเงินเสมือน 100,000 USD หรือเทียบเท่า
- สามารถเลือกสกุลเงินหลักของบัญชีได้ 4 สกุล: USD, EUR, GBP, CHF
- มีอายุการใช้งาน 21 วัน (สามารถต่ออายุได้)
- เข้าถึงเครื่องมือและบริการเกือบทั้งหมดของ AvaTrade
ข้อดี:
- ฝึกฝนการเทรดโดยไม่มีความเสี่ยงทางการเงิน
- ทดลองใช้แพลตฟอร์มและเครื่องมือต่างๆ ของ AvaTrade
- เหมาะสำหรับการทดสอบกลยุทธ์การเทรดใหม่ๆ
ข้อจำกัด:
- ไม่สามารถทำกำไรจริงจากการเทรด
- อาจไม่สะท้อนสภาวะตลาดจริงทั้งหมด เช่น ความล่าช้าในการ execute คำสั่งซื้อขาย
ข้อมูลเพิ่มเติม
- การเลือกสกุลเงินหลักของบัญชี:
- USD (ดอลลาร์สหรัฐ): เหมาะสำหรับการเทรดสินทรัพย์ที่อ้างอิงกับ USD
- EUR (ยูโร): เหมาะสำหรับนักลงทุนในยุโรปหรือผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงจากการผันผวนของ USD
- GBP (ปอนด์สเตอร์ลิง): เหมาะสำหรับนักลงทุนในสหราชอาณาจักร
- CHF (ฟรังก์สวิส): เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคงสูง เนื่องจาก CHF มักถูกมองว่าเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัย
- การยืนยันตัวตน:
- บัญชีจริงจำเป็นต้องผ่านกระบวนการยืนยันตัวตน (KYC) ตามกฎระเบียบของหน่วยงานกำกับดูแล
- บัญชีทดลองไม่จำเป็นต้องยืนยันตัวตน สามารถเริ่มใช้งานได้ทันที
- การอัพเกรดบัญชี:
- แม้ว่า AvaTrade จะไม่มีระดับบัญชีที่แตกต่างกันมาก แต่ลูกค้าที่มียอดเงินฝากสูงหรือปริมาณการเทรดมาก อาจได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษ เช่น ส่วนลดค่า Spread หรือบริการ VIP
- ความยืดหยุ่นในการเปลี่ยนแปลง:
- สามารถเปลี่ยนสกุลเงินหลักของบัญชีได้ภายหลัง แต่อาจมีค่าธรรมเนียมในการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน
- สามารถมีได้มากกว่าหนึ่งบัญชี เช่น บัญชี USD สำหรับเทรด Forex และบัญชี EUR สำหรับเทรดหุ้นยุโรป
- ข้อแนะนำสำหรับผู้เริ่มต้น:
- ควรเริ่มต้นด้วยบัญชีทดลองก่อนเสมอ เพื่อทำความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มและกลไกการเทรด
- เมื่อพร้อมเปิดบัญชีจริง ควรเริ่มต้นด้วยเงินลงทุนที่ไม่มากเกินไปและค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามประสบการณ์และความมั่นใจ
AvaTrade นำเสนอโครงสร้างบัญชีที่เรียบง่าย เน้นที่ประสบการณ์การใช้งานมากกว่าการแบ่งระดับบัญชี ทำให้เหมาะสมสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและนักลงทุนที่มีประสบการณ์ การมีบัญชีทดลองที่เข้าถึงได้ง่ายช่วยให้ผู้สนใจสามารถทดลองใช้บริการได้ก่อนตัดสินใจลงทุนจริง ในขณะที่บัญชีจริงก็มีเงื่อนไขการเริ่มต้นที่ไม่สูงมากนัก ทำให้เข้าถึงได้ง่ายสำหรับนักลงทุนทั่วไป
ข้อมูลสำคัญอื่นๆ
- Leverage สูงสุด: 1:400 (ขึ้นอยู่กับประเภทสินทรัพย์และข้อกำหนดของแต่ละประเทศ)
- สเปรด: เริ่มต้นที่ 0.9 pips สำหรับ EUR/USD (แบบลอยตัว)
- ค่า Swap:
- ขนาด Lot ต่ำสุด: 0.01 lot (1,000 หน่วย)
- รองรับ EA: ใช่
- รองรับ Scalping: ใช่
- รองรับ Hedging: ใช่
การฝากและถอนเงิน
วิธีฝากเงิน
- QR Code (รองรับทุกธนาคารในประเทศไทย)
- บัตรเครดิต/เดบิต (Visa, MasterCard)
- โอนเงินระหว่างประเทศ (Wire Transfer)
วิธีถอนเงิน
- ธนาคารในประเทศไทย (เฉพาะบางธนาคาร เช่น กรุงศรี, ออมสิน, กสิกรไทย, กรุงไทย, ไทยพาณิชย์, ทหารไทยธนชาต, CIMB Thai, เกียรตินาคินภัทร, กรุงเทพ)
- บัตรเครดิต/เดบิต (Visa, MasterCard)
- โอนเงินระหว่างประเทศ (Wire Transfer)
ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการฝากถอน
- ฝากขั้นต่ำ: $100
- ถอนขั้นต่ำ: $100
- ระยะเวลาฝาก: ทันที (สำหรับวิธีการฝากส่วนใหญ่)
- ระยะเวลาถอน: 1-5 วันทำการ
- ค่าธรรมเนียมฝาก-ถอน: ไม่มี (แต่มีค่าแลกเปลี่ยนประมาณ 2.25%)
AvaTrade ติดต่อ
การติดต่อกับ AvaTrade สำหรับลูกค้าชาวไทยสามารถทำได้หลายช่องทาง โดยมีบริการภาษาไทยรองรับ ทำให้สะดวกในการสื่อสารและแก้ไขปัญหาต่างๆ ต่อไปนี้คือวิธีการติดต่อ AvaTrade สำหรับลูกค้าในประเทศไทย
1. โทรศัพท์
- หมายเลขโทรศัพท์สำหรับลูกค้าไทย: +66 86485067
- สามารถติดต่อได้ในเวลาทำการปกติ
- มีเจ้าหน้าที่พูดภาษาไทยคอยให้บริการ
2. อีเมล
- สามารถส่งอีเมลถึง AvaTrade ผ่านแบบฟอร์มบนเว็บไซต์
- เลือกหัวข้อที่ต้องการติดต่อ เช่น การเปิดบัญชี, ฝ่ายบริการลูกค้า, หรือโปรแกรมพันธมิตร
- ควรระบุว่าต้องการติดต่อเป็นภาษาไทยในอีเมล
3. Live Chat
- บริการแชทสดบนเว็บไซต์ของ AvaTrade
- สามารถเลือกภาษาไทยได้ (หากมีให้บริการ)
- เหมาะสำหรับการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นหรือปัญหาที่ต้องการคำตอบรวดเร็ว
4. WhatsApp
- หมายเลข WhatsApp: +447520644093
- สามารถส่งข้อความเป็นภาษาไทยได้
- สะดวกสำหรับการติดต่อผ่านมือถือ
5. เว็บไซต์ภาษาไทย
- AvaTrade มีเว็บไซต์ภาษาไทยที่ www.avatrade.co.th
- สามารถศึกษาข้อมูล, เปิดบัญชี, และใช้บริการต่างๆ เป็นภาษาไทยได้
6. โซเชียลมีเดีย
- Facebook: AvaTrade Thai
- Line Official: @avatradethofficial
- สามารถติดตามข่าวสาร โปรโมชั่น และสอบถามข้อมูลผ่านช่องทางเหล่านี้ได้
ชั่วโมงทำการ
- เปิด: วันอาทิตย์เวลา 21:00 น. (เวลาไทย)
- ปิด: วันศุกร์เวลา 21:00 น. (เวลาไทย)
- การเทรดสกุลเงินคริปโตสามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน
ข้อแนะนำในการติดต่อ
- เตรียมข้อมูล: ก่อนติดต่อ ควรเตรียมข้อมูลสำคัญ เช่น หมายเลขบัญชี, ชื่อ-นามสกุล, และรายละเอียดปัญหาที่ต้องการสอบถาม
- เลือกช่วงเวลา: ควรติดต่อในช่วงเวลาทำการปกติเพื่อรับบริการที่รวดเร็วที่สุด
- ใช้ภาษาที่ชัดเจน: อธิบายปัญหาหรือคำถามอย่างชัดเจนและตรงประเด็น
- บันทึกการติดต่อ: ควรจดบันทึกวันเวลา และชื่อเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการทุกครั้ง
- ติดตามผล: หากปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข อย่าลังเลที่จะติดต่อกลับไปอีกครั้ง
สรุป
AvaTrade เป็นโบรกเกอร์ที่มีประวัติยาวนานและได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรม Forex และ CFD ด้วยจุดแข็งด้านความน่าเชื่อถือ การกำกับดูแลที่เข้มงวด และความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนหลายกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและต้องการเครื่องมือการเทรดที่ครบครัน
อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับโบรกเกอร์ทุกราย AvaTrade ก็มีข้อเสียบางประการที่ควรพิจารณา เช่น ค่า Spread ที่อาจสูงกว่าคู่แข่งบางราย ข้อจำกัดด้าน Leverage และค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งานบัญชี ซึ่งอาจไม่เหมาะกับเทรดเดอร์บางกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ที่เน้นการเทรดระยะสั้นหรือต้องการต้นทุนการเทรดที่ต่ำที่สุด
สำหรับผู้ที่สนใจ ควรพิจารณาข้อดีและข้อเสียอย่างรอบคอบ เปรียบเทียบกับความต้องการและสไตล์การเทรดของตนเอง รวมถึงทดลองใช้บัญชีทดลองก่อนตัดสินใจเปิดบัญชีจริง นอกจากนี้ ควรศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงในการเทรด Forex และ CFDs อย่างถ่องแท้ก่อนเริ่มลงทุน
สุดท้ายนี้ ไม่ว่าคุณจะเลือกเทรดกับโบรกเกอร์ใด สิ่งสำคัญที่สุดคือการพัฒนาความรู้และทักษะการเทรดอย่างต่อเนื่อง มีวินัยในการบริหารความเสี่ยง และไม่ลงทุนด้วยเงินที่ไม่สามารถสูญเสียได้ การเทรดอย่างรับผิดชอบและมีสติจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในระยะยาวในตลาด Forex และ CFDs ที่มีความผันผวนสูงนี้
FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง