Forex หรือ Foreign Exchange Market เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีปริมาณการซื้อขายมากกว่า 6.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน[1] ตลาดนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักลงทุนและนักเก็งกำไรทั่วโลก ด้วยเหตุผลหลายประการ ลองมาดูเหตุผลสำคัญกันอย่างละเอียด:
โอกาสในการทำกำไร
Forex เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้หลายวิธี:
การเก็งกำไรจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
นักเทรดสามารถซื้อสกุลเงินที่คาดว่าจะแข็งค่าขึ้น และขายสกุลเงินที่คาดว่าจะอ่อนค่าลง[2] ตัวอย่างเช่น:
- หากนักเทรดคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะแข็งแกร่งขึ้น พวกเขาอาจซื้อดอลลาร์สหรัฐเทียบกับยูโร (Long EUR/USD)
- ในทางกลับกัน หากมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปจะลดอัตราดอกเบี้ย นักเทรดอาจขายยูโรเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (Short EUR/USD)
การเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนแม้เพียงเล็กน้อยก็สามารถสร้างกำไรได้มาก โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับ Leverage
การใช้ประโยชน์จากความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ย
นักลงทุนสามารถทำกำไรจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสองสกุลเงิน ผ่านกลยุทธ์ที่เรียกว่า Carry Trade[4] วิธีนี้ทำได้โดย:
- กู้ยืมเงินในสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ
- นำเงินที่กู้ยืมมาไปลงทุนในสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า
- ทำกำไรจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย
ตัวอย่างเช่น ในอดีตนักลงทุนมักกู้ยืมเงินเยนญี่ปุ่น (อัตราดอกเบี้ยต่ำ) เพื่อนำไปลงทุนในดอลลาร์ออสเตรเลีย (อัตราดอกเบี้ยสูงกว่า)
การใช้ Leverage
Forex อนุญาตให้ใช้ Leverage สูง ซึ่งหมายความว่านักเทรดสามารถควบคุมเงินทุนจำนวนมากด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียงเล็กน้อย ทำให้มีโอกาสทำกำไรได้มากขึ้น[3]
ตัวอย่างเช่น:
- หากโบรกเกอร์เสนอ Leverage 1:100 นักเทรดที่มีเงินทุน $1,000 สามารถควบคุมสถานะการเทรดมูลค่า $100,000 ได้
- การเคลื่อนไหวของตลาดเพียง 1% สามารถสร้างกำไรหรือขาดทุน 100% ของเงินลงทุนเริ่มต้น
อย่างไรก็ตาม ต้องระมัดระวังว่า Leverage ก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงและขาดทุนได้เช่นกัน นักเทรดจึงควรใช้ Leverage อย่างระมัดระวังและมีการจัดการความเสี่ยงที่ดี
สภาพคล่องสูง
Forex เป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูงที่สุดในโลก ซึ่งมีข้อดีหลายประการ:
ราคาที่แม่นยำ
เนื่องจากมีผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนมาก ทำให้ราคามีความแม่นยำและสะท้อนมูลค่าที่แท้จริง[1] ข้อดีของราคาที่แม่นยำ ได้แก่:
- ลดโอกาสของการเกิด Arbitrage (การทำกำไรจากความแตกต่างของราคาในตลาดต่างๆ)
- ทำให้การวิเคราะห์ทางเทคนิคมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น เนื่องจากราคาสะท้อนอุปสงค์และอุปทานที่แท้จริง
- ช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ต้นทุนการทำธุรกรรมต่ำ
สภาพคล่องสูงทำให้ Spread (ส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและขาย) แคบลง ช่วยลดต้นทุนการเทรด[3] ตัวอย่างเช่น:
- คู่เงิน EUR/USD อาจมี Spread เพียง 1-2 pips ในช่วงเวลาที่ตลาดมีสภาพคล่องสูง
- เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นหรือสินค้าโภคภัณฑ์ Forex มีต้นทุนการทำธุรกรรมที่ต่ำกว่ามาก
ต้นทุนที่ต่ำนี้ทำให้นักเทรดสามารถทำกำไรได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักเทรดระยะสั้นที่เข้าออกตลาดบ่อยครั้ง
ความสามารถในการเข้าและออกจากตลาดได้ง่าย
นักลงทุนสามารถซื้อหรือขายสกุลเงินได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ส่งผลกระทบต่อราคามากนัก[2] ข้อดีนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในสถานการณ์ต่างๆ เช่น:
- การปิดสถานะที่ขาดทุนเพื่อจำกัดความเสียหาย
- การทำกำไรอย่างรวดเร็วเมื่อตลาดมีความผันผวนสูง
- การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนได้อย่างยืดหยุ่นตามสภาวะตลาด
ตลาดเปิด 24 ชั่วโมง
Forex เป็นตลาดที่เปิดทำการ 24 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งมีข้อดีดังนี้:
ความยืดหยุ่นในการเทรด
นักลงทุนสามารถเทรดได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่ในโซนเวลาใดก็ตาม[3] ความยืดหยุ่นนี้เอื้อประโยชน์ต่อนักเทรดหลายกลุ่ม:
- นักเทรดที่มีงานประจำสามารถเทรดนอกเวลาทำงานได้
- นักเทรดที่อยู่ในโซนเวลาต่างๆ ทั่วโลกสามารถเข้าถึงตลาดได้เท่าเทียมกัน
- นักเทรดสามารถเลือกช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูงหรือต่ำตามกลยุทธ์ของตน
โอกาสในการตอบสนองต่อข่าวสารได้ทันที
เมื่อมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น นักเทรดสามารถเข้าสู่ตลาดได้ทันทีเพื่อทำกำไรหรือป้องกันความเสี่ยง[4] ตัวอย่างเช่น:
- การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ เช่น อัตราการว่างงานหรืออัตราเงินเฟ้อ
- เหตุการณ์ทางการเมืองที่ไม่คาดคิด เช่น การลงประชามติ Brexit
- ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
การเปิดทำการ 24 ชั่วโมงช่วยให้นักลงทุนสามารถจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไม่สามารถเข้าถึงตลาดเมื่อมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น
เหมาะสำหรับผู้ที่มีงานประจำ
สามารถเทรด Forex นอกเวลาทำงานปกติได้[2] ข้อดีนี้ทำให้ Forex เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับ:
- ผู้ที่ต้องการสร้างรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ
- ผู้ที่ต้องการเรียนรู้การลงทุนโดยไม่กระทบต่อการทำงานหลัก
- ผู้ที่ต้องการค่อยๆ สร้างพอร์ตการลงทุนในระยะยาว
ความสามารถในการเทรดทั้ง Long และ Short
ในตลาด Forex นักลงทุนสามารถทำกำไรได้ทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง:
การ Long
การ Long คือการซื้อสกุลเงินที่คาดว่าจะแข็งค่าขึ้นเทียบกับอีกสกุลเงินหนึ่ง ตัวอย่างเช่น:
- นักลงทุนคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะแข็งแกร่งขึ้น จึง Long EUR/USD (ซื้อดอลลาร์สหรัฐ ขายยูโร)
- หากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นจริง นักลงทุนจะได้กำไรจากส่วนต่างของอัตราแลกเปลี่ยน
การ Short
การ Short คือการขายสกุลเงินที่คาดว่าจะอ่อนค่าลงเทียบกับอีกสกุลเงินหนึ่ง ตัวอย่างเช่น:
- นักลงทุนคาดว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะชะลอตัว จึง Short USD/JPY (ขายเยนญี่ปุ่น ซื้อดอลลาร์สหรัฐ)
- หากเยนญี่ปุ่นอ่อนค่าลงจริง นักลงทุนจะได้กำไรจากส่วนต่างของอัตราแลกเปลี่ยน
ข้อดีของการเทรดได้ทั้งสองทิศทาง
- เพิ่มโอกาสในการทำกำไรไม่ว่าตลาดจะเป็นอย่างไร[1]
- ในภาวะเศรษฐกิจขาขึ้น นักลงทุนสามารถ Long สกุลเงินของประเทศที่เศรษฐกิจแข็งแกร่ง
- ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย นักลงทุนสามารถ Short สกุลเงินของประเทศที่ได้รับผลกระทบมาก
- ช่วยในการบริหารความเสี่ยงและป้องกันพอร์ตการลงทุน[3]
- นักลงทุนสามารถใช้การ Short เพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedge) ในพอร์ตการลงทุน
- ตัวอย่างเช่น บริษัทที่มีรายได้เป็นดอลลาร์สหรัฐแต่มีค่าใช้จ่ายเป็นยูโร อาจ Short EUR/USD เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการอ่อนค่าของดอลลาร์
- ไม่มีข้อจำกัดในการ Short เหมือนในตลาดหุ้น[4]
- ในตลาดหุ้น การ Short อาจมีข้อจำกัด เช่น ต้องยืมหุ้นมาก่อน หรือมีกฎ uptick rule
- ในตลาด Forex การ Short ทำได้ง่ายและไม่มีข้อจำกัดเหล่านี้ ทำให้มีความยืดหยุ่นในการเทรดมากกว่า
- เปิดโอกาสให้ใช้กลยุทธ์การเทรดที่หลากหลาย
- นักเทรดสามารถใช้กลยุทธ์ที่ซับซ้อนขึ้น เช่น การเทรดแบบ Pairs Trading โดยการ Long สกุลเงินหนึ่งและ Short อีกสกุลเงินหนึ่งในเวลาเดียวกัน
- สามารถทำกำไรจากความแตกต่างของการเคลื่อนไหวระหว่างสกุลเงินได้
- ช่วยในการจัดการกระแสเงินสด
- บริษัทที่มีธุรกรรมระหว่างประเทศสามารถใช้การ Long และ Short ในตลาด Forex เพื่อจัดการกระแสเงินสดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัท
สรุป: ทำไมคนถึงเทรด Forex
ตลาด Forex ได้รับความนิยมอย่างมากด้วยเหตุผลหลายประการ:
- โอกาสในการทำกำไรที่หลากหลาย: ไม่ว่าจะเป็นการเก็งกำไรจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน การใช้ประโยชน์จากความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ย หรือการใช้ Leverage เพื่อเพิ่มผลตอบแทน
- สภาพคล่องสูง: ทำให้มีราคาที่แม่นยำ ต้นทุนการทำธุรกรรมต่ำ และสามารถเข้าออกตลาดได้อย่างรวดเร็ว
- ตลาดเปิด 24 ชั่วโมง: ให้ความยืดหยุ่นในการเทรด โอกาสในการตอบสนองต่อข่าวสารได้ทันที และเหมาะสำหรับผู้ที่มีงานประจำ
- ความสามารถในการเทรดทั้ง Long และ Short: เพิ่มโอกาสในการทำกำไร ช่วยในการบริหารความเสี่ยง และเปิดโอกาสให้ใช้กลยุทธ์การเทรดที่หลากหลาย
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรตระหนักว่าการเทรด Forex ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงสูงเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ Leverage สูง ดังนั้น การศึกษาและเข้าใจตลาดอย่างถ่องแท้ การมีแผนการเทรดที่ชัดเจน และการจัดการความเสี่ยงที่ดี จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการประสบความสำเร็จในการเทรด Forex
ในท้ายที่สุด Forex เป็นตลาดที่เปิดโอกาสให้ทั้งนักลงทุนรายย่อย นักเก็งกำไรมืออาชีพ และองค์กรธุรกิจได้เข้ามามีส่วนร่วมในตลาดการเงินระดับโลก การเข้าใจถึงเหตุผลว่าทำไมผู้คนถึงเลือกเทรด Forex จะช่วยให้เราเห็นภาพรวมของโอกาสและความท้าทายในตลาดนี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
อ้างอิง
[1] Investopedia. (n.d.). Forex Market: Who Trades Currency and Why. https://www.investopedia.com/articles/forex/11/who-trades-forex-and-why.asp
[2] Quora. (n.d.). What is the Forex market? Why do people trade in the Forex market? https://www.quora.com/What-is-the-Forex-market-Why-do-people-trade-in-the-Forex-market
[3] My Trading Skills. (n.d.). Why is Forex Popular. https://mytradingskills.com/forex-for-beginners/why-do-people-trade-forex
[4] Setyono, L. (n.d.). Why Do People Trade Forex? LinkedIn. https://www.linkedin.com/pulse/why-do-people-trade-forex-luthfi-setyono/
FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง