Tickmill บัญชี มีกี่ประเภท
Tickmill เป็นโบรกเกอร์ชั้นนำที่ให้บริการซื้อขายฟอเร็กซ์และคอนแทรกต์ซื้อขายส่วนต่าง (CFDs) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศอังกฤษและได้รับการกำกับดูแลจากองค์กรชั้นนำระดับโลกอย่าง FCA UK เพื่อให้เหมาะกับเทรดเดอร์หลากหลายประเภท Tickmill จึงมีบัญชีเทรดให้เลือกใช้หลายแบบ ได้แก่ บัญชี Pro, บัญชี Classic, และบัญชี VIP โดยแต่ละบัญชีจะมีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป เหมาะกับเทรดเดอร์ต่างกลุ่มกัน ซึ่งเราจะมาดูรายละเอียดของแต่ละบัญชีกันในบทความนี้
บัญชี Pro เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพ
บัญชี Pro เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการต้นทุนการเทรดที่ต่ำ โดยมีค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 0 pip และคิดค่าคอมมิชชั่นเพียง 4 USD ต่อการเทรด 1 lot (รวมค่าเปิดและปิดออร์เดอร์) ซึ่งถือว่าราคาถูกมากเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ ที่มักจะคิดค่าคอมมิชชั่นที่ 7 USD ขึ้นไป นอกจากต้นทุนที่ต่ำแล้ว ข้อดีของบัญชี Pro ยังมีดังนี้
- ฝากเงินขั้นต่ำเพียง 100 USD
- รองรับการเทรด Forex, หุ้น, ดัชนี, โลหะมีค่า, พันธบัตร, คริปโต ฯลฯ
- ใช้เลเวอเรจได้สูงสุด 1:500
- ตั้ง Stop-Limit ได้แบบ 0 ระยะ
- ได้รับโบนัสเงินเดิมพันฟรี 30 USD
บัญชี Classic เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ทั่วไป
บัญชี Classic เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากเทรดเดอร์ เพราะเป็นบัญชีแบบไม่มีค่าคอมมิชชั่น และเปิดบัญชีได้ง่ายด้วยเงินเริ่มต้นเพียง 100 USD แม้จะมีสเปรดสูงกว่าบัญชี Pro แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่แพงมากนัก และยังคงสามารถเทรดได้หลากหลายตราสารเหมือนบัญชี Pro ทุกประการ โดยข้อดีของบัญชี Classic มีดังนี้
- ฟรีค่าคอมมิชชั่น เหมาะสำหรับคนที่เทรดบ่อย
- เทรดขั้นต่ำเพียง 0.01 lot (Micro Account)
- รองรับทุกกลยุทธ์การเทรด ไม่ว่าจะเป็น Scalping, Hedging, หรือการใช้ EA
- มีสเปรดลอยตัว เริ่มต้นที่ 1.6 pip ซึ่งไม่สูงมาก
- ได้รับโบนัสเงินเดิมพัน Welcome Bonus 30 USD เช่นกัน
บัญชี VIP เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ระดับสูง
บัญชี VIP เป็นบัญชีสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพที่มีทุนสูง เนื่องจากต้องฝากเงินเปิดบัญชีขั้นต่ำถึง 50,000 USD (ประมาณ 1.7 ล้านบาท) ซึ่งถือว่าสูงมาก แต่ข้อดีคือ ค่าคอมมิชชั่นถูกที่สุดเพียง 2 USD ต่อ 1 lot เท่านั้น และค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 0 เหมือนบัญชี Pro ทำให้บัญชีนี้คุ้มค่าสำหรับเทรดเดอร์ที่มีปริมาณการเทรดมาก โดยมีข้อดีดังนี้
- ค่าคอมมิชชั่นต่ำสุดในบรรดาโบรกเกอร์ส่วนใหญ่
- รองรับการเทรดทุกตราสารเหมือนบัญชีอื่นๆ
- ฟรีค่าคอมมิชชั่นสำหรับ CFDs หุ้น ดัชนี คริปโต น้ำมัน และพันธบัตร
- สามารถตั้งระยะ Stop-Limit เป็น 0 ได้
- ความเร็วในการส่งคำสั่งเทรดอยู่ที่ 0.2 วินาที
ทั้งนี้ Tickmill มีบัญชีทดลอง Demo Account ให้เปิดฟรี เพื่อให้เทรดเดอร์ได้ทดลองฝึกฝนการเทรดตามประเภทบัญชีจริงที่ต้องการ โดยการเปิดบัญชีทดลองจะต้องเป็นไปตามข้อตกลง เช่น ต้อง login เข้าใช้งานภายใน 7 วัน, ใช้ master password ในการเข้าสู่ระบบ, ไม่ใช้ EA ส่งคำสั่งเกิน 40,000 ครั้งต่อวัน เป็นต้น
เปรียบเทียบประเภทบัญชี Tickmill
เมื่อทราบรายละเอียดของแต่ละบัญชีแล้ว น้องเป็ดจะทำการเปรียบเทียบความแตกต่างของแต่ละประเภทบัญชี ดังนี้
รายละเอียด | Pro | Classic | VIP |
ฝากเงินขั้นต่ำ | 100 USD | 100 USD | 50,000 USD |
มี | มี | มี | |
Spread | เริ่มต้น 0.0 pip | 1.6 pip | 0.0 pip |
Commission | 4 USD | ฟรี | 2 USD |
1:500 | 1:500 | 1:500 | |
สกุลเงินฐาน | USD, EUR,และ GBP | USD, EUR,และ GBP | USD, EUR,และ GBP |
ผลิตภัณฑ์เทรด | ฟอเร็กซ์, หุ้น, ดัชนีหุ้นหลัก, น้ำมัน, โลหะมีค่า พันธบัตร และคริปโตเคอเรนซี่ | ฟอเร็กซ์,, หุ้น, ดัชนีหุ้นหลัก, น้ำมัน, โลหะมีค่า พันธบัตร และคริปโตเคอเรนซี่ | ฟอเร็กซ์,, หุ้น, ดัชนีหุ้นหลัก, น้ำมัน, โลหะมีค่า พันธบัตร และคริปโตเคอเรนซี่ |
กลยุทธ์ที่ใช้ได้ | รองรับทั้งหมด | รองรับทั้งหมด | รอบรับทั้งหมด |
100% | 100% | 100% | |
Stop Out | 30% | 30% | 30% |
ความเร็วส่งคำสั่ง | 0.2 วินาที | 0.2 วินาที | 0.2 วินาที |
โบนัสต้อนรับ 30 USD | มี | มี | มี |
สรุป
จะเห็นว่า Tickmill มีประเภทบัญชีให้เลือกหลากหลาย ขึ้นอยู่กับความต้องการและระดับเงินทุนของเทรดเดอร์ หากมีทุนจำกัดและเน้นเทรดบ่อยๆ บัญชี Classic ก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะไม่มีค่าคอมมิชชั่น ส่วนเทรดเดอร์ที่อยากได้ต้นทุนต่ำที่สุดและเทรดเป็นอาชีพ ก็ควรเลือกบัญชี Pro หรือ VIP ตามงบประมาณที่มี ซึ่งทั้ง 3 บัญชีต่างก็มีฟีเจอร์ที่ครบครัน เทรดได้ทุกตราสาร และมีเลเวอเรจสูงสุดถึง 1:500 จึงสามารถตอบโจทย์เทรดเดอร์ได้เกือบทุกระดับ
FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง