Triple Bottom Reversal คืออะไร?
Triple Bottom Reversal เป็นรูปแบบกราฟทางเทคนิคที่บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มจากขาลงเป็นขาขึ้น โดยมีลักษณะเฉพาะดังนี้:
- เกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาลงที่ชัดเจน
- ประกอบด้วยจุดต่ำสุดสามจุดที่อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน
- มีเส้นแนวต้าน (neckline) ที่เชื่อมจุดสูงสุดระหว่างจุดต่ำทั้งสาม
- ปริมาณการซื้อขายมักจะเพิ่มขึ้นในแต่ละจุดต่ำที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะจุดที่สาม
ลักษณะสำคัญของ Triple Bottom Reversal
- รูปแบบราคา: ราคาทดสอบระดับต่ำสุดสามครั้งโดยไม่สามารถลงต่ำกว่านั้นได้
- ระยะห่างระหว่างจุดต่ำ: จุดต่ำทั้งสามมักจะห่างกันพอสมควร อาจเป็นหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน
- ระดับของจุดต่ำ: จุดต่ำทั้งสามควรอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน แต่ไม่จำเป็นต้องเท่ากันทุกประการ
- เส้นแนวต้าน (Neckline): เส้นที่เชื่อมจุดสูงสุดระหว่างจุดต่ำทั้งสาม มักจะเป็นแนวนอนหรือเอียงเล็กน้อย
วิธีใช้ Triple Bottom Reversal ในการวิเคราะห์
- การระบุรูปแบบ:
- สังเกตการเกิดจุดต่ำสามจุดที่อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน
- ตรวจสอบว่าเกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาลงที่ชัดเจน
- การยืนยันการทะลุ:
- รอให้ราคาทะลุเส้นแนวต้าน (neckline) ขึ้นไป
- การทะลุควรเกิดขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
- การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย:
- ปริมาณมักจะเพิ่มขึ้นในแต่ละจุดต่ำที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะจุดที่สาม
- ควรเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อราคาทะลุเส้นแนวต้านขึ้นไป
- การคำนวณเป้าหมายราคา:
- วัดระยะจากจุดต่ำสุดถึงเส้นแนวต้าน
- นำระยะดังกล่าวไปวัดต่อจากจุดที่ราคาทะลุเส้นแนวต้านขึ้นไป เพื่อประมาณเป้าหมายราคาขาขึ้น
- การใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่น:
- ใช้ร่วมกับตัวบ่งชี้แนวโน้มหรือ oscillators เพื่อยืนยันสัญญาณ
- พิจารณาแนวรับแนวต้านสำคัญประกอบการวิเคราะห์
ข้อควรระวังในการใช้ Triple Bottom Reversal
- การระบุรูปแบบที่ไม่ชัดเจน: บางครั้งอาจสับสนกับรูปแบบอื่น เช่น Double Bottom หรือ Inverse Head and Shoulders
- การทะลุหลอก: ราคาอาจทะลุเส้นแนวต้านขึ้นไปเพียงเล็กน้อยแล้วกลับตัวลงมา ควรรอการยืนยันและใช้ stop loss เสมอ
- ความแม่นยำในกรอบเวลาต่างๆ: Triple Bottom Reversal อาจมีความน่าเชื่อถือแตกต่างกันในกรอบเวลาที่ต่างกัน ควรพิจารณาใช้หลายกรอบเวลาประกอบกัน
- ปัจจัยพื้นฐาน: ควรพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของหลักทรัพย์หรือตลาดประกอบด้วย เพราะอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคา
- ความผันผวนของตลาด: ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง อาจเกิดสัญญาณหลอกได้ง่าย
การประยุกต์ใช้ในกลยุทธ์การเทรด
- การเข้าซื้อ: นักเทรดอาจเข้าซื้อเมื่อราคาทะลุเส้นแนวต้านขึ้นไปพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น
- การตั้ง Stop Loss: อาจตั้ง stop loss ไว้ใต้จุดต่ำสุดของ Triple Bottom เล็กน้อย
- การตั้งเป้าหมายกำไร: ใช้การคำนวณเป้าหมายราคาตามที่กล่าวไว้ข้างต้น หรือใช้แนวต้านสำคัญถัดไปเป็นเป้าหมาย
- การทำกำไรบางส่วน: อาจทยอยปิดสถานะซื้อเมื่อราคาขึ้นไปถึงเป้าหมายที่คำนวณไว้
- การเทรดระยะกลาง: Triple Bottom Reversal มักใช้ในการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงแนวโน้มในระยะกลาง
ความแตกต่างระหว่าง Triple Bottom และ Triple Top
- ทิศทาง: Triple Bottom เกิดหลังจากแนวโน้มขาลงและบ่งชี้การกลับตัวขาขึ้น ในขณะที่ Triple Top เกิดหลังจากแนวโน้มขาขึ้นและบ่งชี้การกลับตัวขาลง
- ปริมาณการซื้อขาย: ใน Triple Bottom ปริมาณมักจะเพิ่มขึ้นในแต่ละจุดต่ำ โดยเฉพาะจุดที่สาม ในขณะที่ Triple Top ปริมาณมักจะลดลงในแต่ละยอด
- การยืนยัน: Triple Bottom ยืนยันเมื่อราคาทะลุเส้นแนวต้านขึ้นไป ส่วน Triple Top ยืนยันเมื่อราคาทะลุเส้นแนวรับลงมา
สรุป
Triple Bottom Reversal เป็นรูปแบบกราฟทางเทคนิคที่มีประโยชน์ในการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงแนวโน้มจากขาลงเป็นขาขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ การจัดการความเสี่ยง และการพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของตลาด เพื่อให้การวิเคราะห์และการตัดสินใจลงทุนมีความแม่นยำมากขึ้น
อ้างอิง
- Murphy, J. J. (1999). Technical Analysis of the Financial Markets. New York Institute of Finance.
- Bulkowski, T. N. (2005). Encyclopedia of Chart Patterns (2nd ed.). John Wiley & Sons.
- StockCharts.com. (n.d.). Triple Bottom. Retrieved August 10, 2024, from https://school.stockcharts.com/doku.php?id=chart_analysis:chart_patterns:triple_bottom_reversal
FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง