vitalik buterin ประวัติ ผู้สร้าง Ethereum ความสามารถ

Vitalik Buterin

Vitalik Buterin หรือ วิทาลิก บูเทอริน คือ โปรแกรมเมอร์และนักเขียนที่โลกรู้จักในฐานะผู้ก่อตั้งสกุลเงินดิจิตอล Ethereum หรือ ETH ซึ่งเป็น Cryptocurrency ที่โด่งดังไม่แพ้ Bitcoin มูลค่ามากที่สุดในตลาดเป็นอันดับ 2 เป็นรองแค่ Bitcoin (BTC) เท่านั้น วิทาลิกกลายเป็นมหาเศรษฐีอายุน้อยของโลก ประสบความสำเร็จในขณะที่พึ่งเข้ารับการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยปี 1 ด้วยอายุ 19 ปีเท่านั้น

Vitalik Buterin ประวัติ

คุณวิทาลิก เกิดเมื่อวันที่ 31 มกราคม คศ. 1994 ที่เมือง Kolomna กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ก่อตั้งสกุลเงิน Ethereum ตอนอายุ 19 ปี และกลายมาเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางด้านการเงินของโลก ขณะนี้ผู้คนต่างสนใจและต้องการทราบอัตชีวประวัติ ซึ่งน้องเป็นแบ่งออกได้ดังนี้

Vitalik Buterin

1 Vitalik Buterin ประวัติ

Vitalic Buterin Social Media

การติดตามวิทาลิก ในสื่อออนไลน์มีหลากหลายช่องทางด้วยกัน เช่น

  • เว็บไซต์ : www.vitalik.ca
  • LinkedIn : Vitalic Buterin
  • Twitter : vitalik.eth

คุณวิทาลิกไม่ค่อยใช้ Social Media เท่าไหร่ ใน LinkedIn ของเขาเขียนหน้าโปรไฟล์ว่า “ผมไม่ได้ใช้บัญชี LinkedIn” และไม่มีการปรากฎตัวบนแพลตฟอร์ม Facebook

รางวัลที่ได้รับ

  • Thiel Fellowship ปี 2014
  • World Technology Award in the IT Software category ปี 2014
  • Fortune 40 under 40 list ปี 2016
  • Forbes 30 under 30 list ปี 2018
  • Fortune the ledger 40 under 40 list ปี 2018
  • University of Basel Honorary doctorate, 2018
  • Time 100 ปี 2021

Vitalik Buterin ชีวิตวัยเด็ก

คุณวิทาลิกอาศัยในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ในวัยเพียง 4 ขวบ Vitalik ก็สามารถใช้โปรแกรม Excel ได้อย่างคล่องแคล่ว เพราะ Excel คือ “ของเล่น” ที่เขาชอบมาก ๆ แตกต่างจากเด็กทั่วไปที่จะร้องขอการดูการ์ตูน

คุณวิทาลิก วัย 6 ขวบ ย้ายประเทศจากรัสเซียมาอาศัยที่เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา ต่อมาขณะที่คุณวิทาลิกวัย 7 ขวบ ชื่นชอบกระต่ายเป็นอย่างมาก เขาสามารถสร้าง สารานุกรมกระต่าย โดยใช้ Macro ของโปรแกรม Excel

2 Vitalik Buterin ชีวิตวัยเด็ก

Vitalik Buterin วัย 4 ขวบ กำลังใช้ Excel

Vitalik Buterin IQ

ระดับสติปัญญา หรือ Intelligence Quotient เรียกสั้น ๆ ว่า IQ ในคนทั่วไปปกติจะมีระดับ IQ อยู่ที่ 90-109 แต่มีข่าวลือมาว่าคุณวิทาลิก มี IQ สูงถึง 257 แต่ก็ยังไม่มีการยืนยันจากสำนักพิมพ์ใหญ่ ๆ หรือสำนักข่าวที่มีชื่อเสียง ทุกแห่งเป็นการคาดเดาที่อาจมีมูลความจริง

คุณวิทลิกในวัย 7 ขวบเข้าสู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ด้วยการอยู่ห้องเด็กเก่งพิเศษ หรือห้อง Gifted นอกจากนั้นเขายังคิดเลขจำนวน 3 หลักโดยไม่ใช้เครื่องมือช่วยเหลือใด ๆ เขาคิดเลขได้รวดเร็วกว่าเด็กธรรมดาทั่วไป ถึง 1 เท่าตัว เช่น เด็กทั่วไปคิดเลข 3 หลัก ในเวลา 3 นาที เขาทำได้ในเวลา 1.5 นาที

ประวัติครอบครัว

คุณวิทลิกเติบโตมาในครอบครัวฐานะปานกลางค่อนข้างดี ครอบครัวพาเขาย้ายจากประเทศรัสเซียมาอาศัยอยู่ที่ประเทศแคนาดาตอนเขาอายุ 6 ขวบ

  • มารดา : Natalia Ameline ชาวแคนาดา อาชีพนักเศรษฐศาสตร์
  • บิดา : Dmitry Buterin ชาวรัสเซีย อาชีพนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์

คุณวิทาลิก และพ่อของเขา

3 ประวัติครอบครัว

ประวัติการศึกษา

คุณวิทาลิกมีพรสวรรค์ทางคณิตศาสตร์และคอมพิวเตอร์ตั้งแต่วัยเด็ก แต่ก็มีพรสวรรค์ทางด้านภาษาเช่นกัน โดยเขาสามารถใช้ 3 ภาษา ได้แก่ อังกฤษ รัสเซียและจีน ได้อย่างคล่องแคล่ว การศึกษาของคุณวิทาลิกตามช่วงวัย สามารถแบ่งได้ดังนี้

  • มัธยมปลาย : The Abelard School
  • มหาวิทยาลัย : University of Waterloo

วัย 17 ปี

ช่วงที่ศึกษาใน The Abelard School คุณวิทาลิกได้ศึกษาและเรียนรู้ Bitcoin โดยที่มีพ่อของเขาเป็นผู้แนะนำให้รู้จักกับคริปโตเคอเรนซี่ เขาเริ่มต้นจากการอ่าน White Paper และเข้าร่วมประชุมที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin

วัย 18 ปี

ช่วงมัธยมปลายกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย คุณวิทาลิก ได้รับรางวัลเหรียญทองแดงในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกสากลด้านสารสนเทศ

วัย 19 ปี

ทำงานเป็นผู้ช่วยนักวิจัยให้กับ Ian Goldberg ซึ่งเป็น cryptographer ผู้เชี่ยวชาญด้านการเข้ารหัสข้อมูลและเป็นอดีตคณะกรรมการบริหารของ The Project

ต่อมาคุณวิทาลิกได้รับการสนับสนุนจากกองทุน Thiel Fellowship ของ Peter Thiel หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Paypal จำนวน 100,000 USD ซึ่งเป็นทุนสำหรับนักศึกษาที่มีพรสวรรค์ให้ลาออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อทำสิ่งที่ต้องการ ดังนั้นคุณวิทาลิก จึงลาออกจากการศึกษาเพื่อมาพัฒนา Blockchain ของตัวเอง

ในวัย 24 ปี คุณวิทาลิก ได้รับปริญญาเอก ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากคณะธุรกิจและเศรษฐศาสตร์จาก the University of Base

ประวัติการทำงาน

คุณวิทาลิกวัย 17 ปี ศึกษาเกี่ยวกับ Bitcoin และ Blockchain อย่างเข้าละเอียดจนเข้าใจอย่างถ่องแท้ แต่ขณะนั้นเงินทุนของเขามีน้อย ไม่เพียงพอใช้ในการขุด Bitcoin หรือการทำ Bitcoin Mining จึงเริ่มต้นด้วยการทำงานเป็นนักเขียน

ปี 2011

ในปี 2011 Dmitry ได้แนะนำ Vitalik ให้รู้จักกับ Bitcoin ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากวิกฤตการเงินในปี 2008 ของสหรัฐฯ

  • หลังจากเห็นการล่มสลายของระบบการเงินทั้งในรัสเซียและสหรัฐอเมริกา Dmitry รู้สึกทึ่งกับแนวคิดเรื่องแหล่งเงินทางเลือกระดับโลกที่ทางการไม่สามารถควบคุมได้
  • ในไม่ช้า Vitalik ก็เริ่มเขียนบทความสำรวจเทคโนโลยีใหม่ลงใน นิตยสาร Bitcoin Weekly ซึ่งเขาได้รับ 5 bitcoins ต่อบทความ
  • เขาหาทุนซื้อ Bitcoin ด้วยการเริ่มต้นเป็นนักเขียนบทความให้ความรู้เกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซี่
  • Bitcoin Weekly ให้ค่าจ้างบทความละ 5 BTC ซึ่งในขณะนั้น 1 BTC = 0.8 USD
  • หลังจากนั้นไม่นาน Bitcoin Weekly ได้ประกาศปิดตัวลง
  • วิทาลิกในวัย 17 ปี ได้ร่วมกับ Mihai Alisie นักอ่านผู้ชื่นชอบบทความที่เขาเขียนใน Bitcoin Weekly ก่อตั้ง Bitcoin Magazine ขึ้น
  • Bitcoin Magazine เป็นนิตยสารบิทคอยน์เล่มแรกของโลก และปัจจุบันยังดำเนินกิจการอยู่ภายใต้ชื่อบริษัท BTC Media LLC
  • ปลายปี 2011 คุณวิทาลิกก็ได้ก้าวมาเป็นนักเขียนอาวุโสของนิตยสารดังกล่าว

ปี 2012

วิทาลิกในวัย 18 ปี ถูกคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในทีมผู้พัฒนา Bitcoin

ปี 2013

ในปี 2013 Buterin ลาออกจากวิทยาลัยและเขียนเอกสาร white paper 36 หน้าซึ่งแสดงวิสัยทัศน์ของเขาเกี่ยวกับ Ethereum: เขาส่งให้เพื่อนในกลุ่ม Bitcoin

วิทาลิกในวัย 19 ปี ลาออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อมาสร้าง Ethereum แบบเต็มตัว ในระหว่างช่วงเวลานี้เขาได้ออกท่องเที่ยวทั่วโลกด้วยเงินจากการทำงานทั้งหมดที่เขาสะสมมาและสังเกตการใช้สกุลเงินดิจิตอลในประเทศต่าง ๆ

หลังจากเข้ามาเป็นหนึ่งในทีมพัฒนา Bitcoin คุณวิทาลิกได้แจ้งกับทีมว่า Bitcoin นั้นมีจุดอ่อนและยังไม่สามารถเติบโตอย่างยั่งยืน เนื่องจากมูลค่าของ Bitcoin ไม่ได้สะท้อนคุณประโยชน์ออกมาจากอะไรเลย ราคาผันผวนรุนแรงแบบคาดเดาไม่ได้ เขาจึงสร้าง Ethereum ขึ้นเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องของ Bitcoin

ไม่นานนักโปรแกรมเมอร์และนักธุรกิจจำนวนหนึ่งทั่วโลกได้ค้นหา Buterin ด้วยความหวังว่าจะช่วยให้มันเป็นจริงได้

ขณะทำงานเป็นนักเขียนให้ Bitcoin Magazine เขาก็เป็นผู้ช่วยนักวิจัย Ian Goldberg และเรียนมหาวิทยาลัยปี 1 ไปพร้อม อีกทั้งยังเริ่มสร้าง Ethereum ไปด้วย เรียกได้ว่าเป็นเด็กหนุ่มอายุ 19 ปีที่ใช้เวลาไปกับการทำงานหลายอย่างได้โดยบริหารจัดการเวลาได้ดีเป็นอย่างมาก

ภายในไม่กี่เดือน ก็ได้ได้ตั้งกลุ่มคน 8 คนที่จะกลายเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ก่อตั้ง Ethereum ได้ใช้พื้นที่ห้องพัก Airbnb สามชั้นในสวิตเซอร์แลนด์ เขียนโค้ดและแสวงหาเงินทุนในการสร้าง Ethereum ขึ้นมา

ปี 2018

ในเดือนพฤษภาคม 2018 เกิดกระแสคาดการณ์ว่า Google กำลังพยายามจ้าง Vitalik Buterin ในโครงการ cryptocurrency ลับ Vitalik ถามบน Twitter ว่าเขาควร “ทิ้ง Ethereum และทำงานให้กับ Google” หรือไม่ โพสต์ดังกล่าวยังได้แนบสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นการเสนองานจาก Google ด้วย

4 ปี 2018

ต่อมาคุณวิทาลิกได้ให้สัมภาษณ์ว่า เจ้าหน้าที่ Google ติดต่อไปหาด้วยการเสนอการฝึกงาน “ผมหวังว่าเราทุกคนจะรู้ว่านี่เป็นเรื่องตลก เจ้าหน้าที่ HR ส่งอีเมล์แบบสุ่มจาก Google ส่น่าจะเป็นเพราะอัลกอริทึมบางตัววิเคราะห์ GitHub ของผม และเห็นว่าผมได้คะแนนสูงในโอลิมปิกระดับนานาชาติ” Vitalik กล่าวว่า “เห็นได้ชัดว่าผมเหมาะที่จะเป็นพนังงานฝึกงาน ที่จะจ้างงานด้วยเงินเดือนพนักงานฝึกงาน”

Vitalik Buterin กับการสร้าง Ethereum

Vitalik Buterin เป็นผู้ริเริ่มไอเดียในการสร้าง Ethereum แต่เพียงผู้เดียว หลังจากที่เขามีแนวคิดดังนั้น เขาจึงเริ่มที่จะหาแนวร่วมในการทำให้แนวคิดของเขาเป็นจริงขึ้นมา

5 Vitalik Buterin กับการสร้าง Ethereum

การก่อตั้ง Ethereum

Ethereum เริ่มพัฒนาขึ้นเมื่อปลายปี 2013 ใน whitepaper โดย Vitalik Buterin ซึ่งเขาเป็นทั้งโปรแกรมเมอร์และผู้ร่วมก่อตั้ง Bitcoin Magazine โดยเขาได้อธิบายวิธีสร้างแอปพลิเคชันแบบ Decentralization

หน้าแรกของ Ethereum white paper

6 การก่อตั้ง Ethereum

เขาโต้แย้งกับนักพัฒนาหลักของ bitcoin ว่าเทคโนโลยี Bitcoin และ blockchain สามารถใช้ประโยชน์อื่น ๆ ที่นอกเหนือจากการเป็นเงิน เช่น เป็นหุ้นและทรัพย์สินเพื่อบล็อกเชน

  • Blockchain ต้องมีภาษาที่ใช้ในการพัฒนาที่ดีกว่านี้ ที่จะนำไปสู่ปรากฏการณ์ดังกล่าว โดยในปี 2013 Buterin ได้ทำงานร่วมกับ CEO ของ eToro Yoni Assia ในโครงการ Colored Coins และออก white paper เกี่ยวกับการใช้งาน blockchain technology ด้านอื่น ๆ
  • อย่างไรก็ตาม เขาล้มเหลวในการพัฒนาโครงการ แต่เขาก็ได้เสนอโปรเจคภาษาสำหรับคริปโตที่ดีกว่าเดิม ซึ่งเรียกว่า a Turing-complete programming language ซึ่งในที่สุดจะกลายเป็น Ethereum
  • Ethereum ได้รับการประกาศในการประชุม Bitcoin อเมริกาเหนือในไมอามีในเดือนมกราคม 2014 ในระหว่างการประชุม Gavin Wood, Charles Hoskinson และ Anthony Di Iorio (ผู้ให้ทุนสนับสนุนโครงการ) ได้เช่าบ้านในไมอามี่กับ Buterin
  • ซึ่งพวกเขาสามารถพัฒนาความรู้สึกเต็มที่มากขึ้นว่า Ethereum จะเป็นอย่างไร Di Iorio เชิญเพื่อน Joseph Lubin ผู้เชิญนักข่าว Morgen Peck มาเป็นพยาน
  • หกเดือนต่อมา ผู้ก่อตั้งได้พบกันอีกครั้งในเมืองซุก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยที่ Buterin บอกกับผู้ร่วมอุดมการณ์คนอื่น ๆ ว่า จะเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ทำให้ Hoskinson ออกจากโครงการในขณะนั้นและต่อมาเขาก็เปิดบริษัท IOHK ซึ่งเป็นบริษัทที่ดูแลเหรียญ Cardano

7 หกเดือนต่อมา ผู้ก่อตั้งได้พบกันอีกครั้งในเมืองซุก

Ethereum มีรายชื่อผู้ก่อตั้งจำนวนมาก โดย Anthony Di Iorio เขียนว่า: “Ethereum ก่อตั้งโดย Vitalik Buterin, Myself, Charles Hoskinson, Mihai Alisie & Amir Chetrit (5 คนแรก)

ในเดือนธันวาคม 2013 Joseph Lubin, Gavin Wood และ Jeffrey Wilcke ถูกเพิ่มเข้ามาในช่วงต้นปี 2014 ในฐานะผู้ก่อตั้ง”

Buterin เลือกชื่อ Ethereum หลังจากเรียกดูรายการองค์ประกอบจากนิยายวิทยาศาสตร์บน Wikipedia เขากล่าวว่า

ผมรู้ทันทีว่าผมชอบมันมากกว่าชื่ออื่น ๆ ที่ฉันเคยเห็น ผมคิดว่ามันฟังดูดีและมีคำว่า ‘อีเธอร์ ‘ซึ่งหมายถึงสื่อที่มองไม่เห็นตามสมมุติฐาน ที่แทรกซึมอยู่ไปทั่วจักรวาลและยอมให้แสงเดินทางผ่านได้”

vitalik Buterin

กลุ่มผู้ก่อตั้ง

แนวคิดในการสร้าง Ethereum ของคุณวิทาลิก เขาต้องการให้แพลตฟอร์มเปิดการกระจายอำนาจสำหรับทุกคนเพื่อสร้างอะไรก็ได้ แต่เมื่อผู้ร่วมก่อตั้งคนอื่นๆ เริ่มมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างธุรกิจ หนึ่งในหลายๆ แนวคิดคือการใช้ข้อมูลลูกค้าเพื่อขายโฆษณาที่ตรงเป้าหมาย นอกจากนั้น กลุ่มยังทะเลาะกันเรื่องอำนาจและตำแหน่งที่วิทาลิกไม่ได้สนใจเลย

วิสัยทัศน์ของ Vitalik สำหรับ Ethereum นั้นถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง รอยร้าวที่ใหญ่ที่สุดคือกลุ่มผู้ก่อตั้งส่วนใหญ่สนใจเกี่ยวกับการทำเงินอย่างแน่นอน แต่สำหรับวิทาลิก นั่นไม่ใช่เป้าหมายทั้งหมดของเขา

Vitalik กล่าวว่า “มีหลายครั้งในช่วงเริ่มต้นที่ผมกำลังเจรจาลดเปอร์เซ็นต์ของการกระจาย Ether ไปที่ผมและผู้ก่อตั้งระดับบนสุดคนอื่นๆ จะได้รับ เพื่อที่จะมีความเท่าเทียมมากขึ้น นั่นทำให้พวกเขาอารมณ์เสีย”

Vitalik เล่าว่า “คนในทีมส่วนใหญ่มักใช้ความกลัวว่าจะมีปัญหากับหน่วยงานที่กำกับดูแล โดยกล่าวว่าเราควรเป็นนิติบุคคลที่แสวงหาผลกำไร เพราะมันง่ายกว่าในเชิงกฎหมายมากกว่าการทำองค์กรไม่แสวงหากำไร”

กลุ่มขอให้ Vitalik ตัดสินใจเกี่ยวกับการพัฒนา Ethereum ในขณะที่ความตึงเครียดยังคงดำเนินต่อไป ในเดือนมิถุนายน 2014 เขาขอให้ Charles Hoskinson และ Amir Chetrit ออกจากกลุ่ม เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง 2 คนที่ต้องการเปลี่ยน Ethereum ให้เป็นธุรกิจ ซึ่งตรงกันข้ามกับวิสัยทัศน์ของ Vitalik

หลังจากนั้น Vitalik ก็เริ่มสร้าง Ethereum Foundation (EF) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่จัดตั้งขึ้นเพื่อปกป้องโครงสร้างพื้นฐานของ Ethereum ตลอดจนให้ทุนสนับสนุนโครงการวิจัยและพัฒนา

ที่มาของ Ethereum

Ether คือ สสารมืด ที่อยู่ในอวกาศ สมมติฐานจากนิยายวิทยาศาสตร์ ซึ่งคุณวิทาลิกนำมาตั้งชื่อให้กับสกุลเงินดิจิตอลแรกที่เขาสร้างขึ้น

8 ที่มาของ Ethereum

  • ในวัย 19 ปี (ปี 2013) เริ่มร่าง Whire Paper ของ Ethereum หลังจากไปพบกับนักพัฒนา หรือ Developer ในประเทศต่าง ๆ ระหว่างท่องเที่ยวรอบโลก
  • ในวัย 20 ปี (ปี 2014) เริ่มก่อตั้ง Ethereum Foundation ที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เปิดระดมทุนสร้าง Ethereum แบบเปิดสาธารณะ
  • ระดมทุนด้วยการเปิดขาย ETH แลกกับ BTC ซึ่งประกาศระดมทุนในการประชุม North American Bitcoin Conference รัฐไมอามี่ ประเทศสหรัฐอเมริกา
  • การระดมทุนในงานประชุมดังกล่าว คุณวิทาลิก ได้ขึ้นไปแนะนำ Ethereum รวมทั้งกล่าวสุนทรพจน์ นาน 25 นาที ได้เงินระดมทุนมากถึง 18 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ
  • การอธิบายโครงการ Ethereum และกล่าวสุนทรพจน์ในวัย 20 ปีของคุณวิทาลิก สร้างความชื่นชมให้แก่ผู้เข้าร่วมงานประชุมจำนวนมาก ได้รับเสียงปรบมือกึกก้องยาวนานจากผู้ที่สนับสนุนแนวคิดของเขา
  • ในวัย 21 ปี (ปี 2015) เปิดตัว Ethereum อย่างเป็นทางการ จำนวน 72 ล้าน ETH
  • ในวัย 23 ปี (ปี 2017) เปิดตัว Ethereum 2.0 พัฒนามาจากแพลตฟอร์มหลักที่สนับสนุนให้เกิดการใช้งานได้กว้างขวางหลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม

“ผมรู้สึกขอบคุณจริงๆ ที่มีโอกาสได้ทำงานในอุตสาหกรรมที่น่าสนใจและเป็นสหวิทยาการ ผมมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนกับนักเข้ารหัส นักคณิตศาสตร์ และนักเศรษฐศาสตร์ที่โดดเด่น เพื่อช่วยสร้างซอฟต์แวร์และเครื่องมือที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนนับหมื่นทั่วโลกและเพื่อแก้ไขปัญหาขั้นสูงในด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ เศรษฐศาสตร์ และปรัชญาทุกสัปดาห์” หนึ่งในข้อความสุนทรพจน์ที่ไมอามี่

การพัฒนา Ethereum อย่างเป็นทางการ

การพัฒนาอย่างเป็นทางการของ Ethereum เริ่มขึ้นในต้นปี 2014 ผ่านบริษัทสวิส Ethereum Switzerland GmbH (EthSuisse) โดยมีการวางสัญญาอัจฉริยะที่ปฏิบัติการได้ในบล็อคเชนก่อนจึงจะสามารถดำเนินการซอฟต์แวร์ได้

9 การพัฒนา Ethereum อย่างเป็นทางการ

แนวคิด Blockchain และการขุดเหรียญ ETH

  • งานนี้พัฒนาโดย Gavin Wood ซึ่งเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีใน Ethereum Yellow Paper ที่ระบุ Ethereum Virtual Machine
  • ต่อมาได้มีการก่อตั้งมูลนิธิไม่แสวงหาผลกำไรของสวิส มูลนิธิ Ethereum (Stiftung Ethereum) ขึ้น
  • การพัฒนาได้รับทุนจากการประกาศระดมทุนออนไลน์ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม 2014 ซึ่งผู้เข้าร่วมซื้อโทเค็นมูลค่า Ethereum (Ether) จะต้องทำการซื้อด้วยสกุลเงินดิจิทัลอื่นคือ Bitcoin
  • ในขณะที่Ethereum ได้รับการยกย่องในช่วงแรกในการพัฒนานวัตกรรมทางเทคนิคของ Ethereum ก็ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัย (Security) และความสามารถในการปรับขนาด (Scaling)

การปล่อยสู่สาธารณะและเหตุการณ์ DAO

ต้นแบบ Code ของ Ethereum ได้รับการพัฒนาเพียงระยะเวลา 18 เดือน ในช่วงปี 2014 และ 2015 โดย Ethereum Foundation ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ  proof-of-concept series ที่เรียกว่า “Olympic” เป็นต้นแบบก่อนที่จะเผยแพร่สู่สาธารณะ เครือข่ายจะให้  bug bounty กับผู้ใช้ 25,000 Ether สำหรับการทดสอบ stress-testing ของ Ethereum blockchain

10 การปล่อยสู่สาธารณะและเหตุการณ์ DAO

ในเดือนกรกฎาคม 2015 “Frontier” คือช่วงของการเปิดตัวแพลตฟอร์ม Ethereum อย่างเป็นทางการ และ Ethereum ได้สร้าง “genesis block” ขึ้น”

นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรก Ethereum ได้ทำการอัปเกรดโปรโตคอลตามที่ได้วาง Roadmap ไว้ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่ส่งผลต่อการโครงสร้างพื้นฐานของแพลตฟอร์ม การอัพเกรดโปรโตคอลทำได้โดยการใช้ hard fork

ในปี 2016 องค์กรอิสระแบบ Decentralization ที่เรียกว่า The DAO ซึ่งเป็นกลุ่ม Smart Contract ที่พัฒนาบนแพลตฟอร์มของ ETH สร้างรายได้ 150 ล้านดอลลาร์จากการขายให้กับคนภายนอก เพื่อเป็นทุนให้กับโครงการ DAO ถูกโจมตีในเดือนมิถุนายน 2016 เมื่อโทเค็น DAO มูลค่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐถูกขโมยโดยแฮ็กเกอร์ที่ไม่เปิดเผยตัวตน

11 ในปี 2016 องค์กรอิสระแบบ

การ Hardfork คือการแยก Chain ออกไป

เหตุการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดการถกเถียงในชุมชน crypto ว่า Ethereum ควรดำเนินการ “hard fork” ที่เป็นที่ถกเถียงกันหรือไม่เพื่อทำการปรับมูลค่าของบล็อคใหม่ที่หายไปจากการถูกจารกรรมหรือไม่

เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เครือข่ายของ Ethereum ถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่มคือ :

  • Ethereum ที่มีการโจรกรรมกลับด้าน (Ethereum with the theft reversed) ในปัจจุบัน
  • Ethereum Classic ที่ไม่ทำการแก้ไข Code

Hardfork ทำให้เกิดการสร้างการแข่งขันระหว่างสองเครือข่าย หลังจากการ hard fork แล้ว Ethereum ก็ทำการ fork สองครั้งในไตรมาสที่สี่ของปี 2016 เพื่อป้องกันการโจมตีอื่น ๆ

Vitalik Buterin อธิบาย Ethereum

เขาได้ทำวิดิโออธิบายเกี่ยวกับ Ethereum แบบสรุปย่อ ภายในระยะเวลาไม่ถึง 3 นาทีไว้อย่างครอบคลุม

แรงจูงใจในชีวิต

แรงจูงใจหลัก ๆ ที่ผลักดันเขาในการสร้าง Ethereum เนื่องมาจากคุณวิทาลิก เคยติดเกมส์ World of Warcraft อย่างหนัก ถึง 4 ปี ตั้งแต่อายุ 13-16 ปี (ช่วงปี 2007-2010) ลองนึกถึงคนที่ทุ่มเททำอะไรสุดความสามารถ การเล่นเกมส์ของเขาก็ทุ่มเทมากเช่นกัน จนกระทั่งวันนึง ตัวละครของเขาถูกเนิร์ฟ จาก World of Warcraft เหมือนโลกที่เขาพากเพียรสร้างมันพังทลาย

คุณวิทาลิกเปิดเผยในประวัติของตัวเองว่าในวันนั้นเขาถึงกับนอนร้องไห้อย่างหนักจนหลับไป เขาจึงตระหนักได้ถึงความน่ากลัวของระบบ Centralize ไม่นานหลังจากนั้นเขาจึงตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อมาพัฒนาระบบ Decentralize ขึ้น

ความพิเศษของ Ethereum

ความพิเศษของ Ethereum ที่แตกต่างจาก Bitcoin คือ แพลตฟอร์มของ Ethereum เนื่องจากเขานำ Smart Contract มาประยุกต์กับการสร้าง Blockchain จึงทำให้โปรแกรมเมอร์สามารถสร้างแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ บน Ethereum ได้ แอปพลิเคชั่นนี้ชื่อว่า ERC-20

Coin และ Token มากมายในตลาด Crytocurrency ที่สร้างบน ERC-20 รวมถึง NFT ก็ถูกสร้างบนแอพพลิเคชั่นของ Ethereum เช่นกัน เมื่อมีผู้ใช้งานจำนวนมาก ทำให้ Ethereum มีชุมชนผู้ใช้งานที่เข้มแข็ง มูลค่าที่ได้มาจากการใช้งานจริง

Ethereum 2.0

การพัฒนา Open Source ซึ่งมีการ Upgrade ครั้งใหญ่เป็น Ethereum ที่รู้จักกันในชื่อ Ethereum 2.0 หรือ Eth2 วัตถุประสงค์หลักคือเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำธุรกรรมสำหรับเครือข่าย จากอัตราเดิมที่ประมาณ 15 รายการต่อวินาที ให้ได้สูงสุดถึงหมื่นธุรกรรมต่อวินาที

โดยแบ่งปริมาณงานออกเป็นบล็อคเชนจำนวนมากที่ทำงานแบบคู่ขนาน (เรียกว่า “การแบ่งส่วน”) จากนั้นเปลี่ยนกลไกจาก Proof-of-work เป็น proof-of-stake ซึ่งจะทำให้ผู้โจมตี Ethereum 2.0 ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากกว่าจำนวน ETH ที่จะได้รับจากการโจมตี

บล็อกเชน Proof of Stake ของ Ethereum ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความอยู่รอดของ Ethereum ในระยะยาว Ethereum 2.0 (หรือที่รู้จักในชื่อ Serenity) ได้รับการออกแบบให้เปิดตัว 3 ขั้นตอน ดังนี้

  • “Phase 0” (หรือ “Beacon Chain”) เปิดตัวเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2020 และสร้าง Beacon Chain ซึ่งเป็นบล็อกเชนแบบ proof-of-stake (PoS) ที่จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการประสานงานและศูนย์กลางฉันทามติของ Ethereum 2.0
  • “ระยะที่ 1” (หรือ “การผสาน”) จะรวม Beacon Chain เข้ากับเครือข่าย Ethereum ปัจจุบัน โดยเปลี่ยนกลไกจาก Proof-of-work เป็น proof-of-stake ณ วันที่ 26 มกราคม 2022
  • “Phase 2” (หรือ “Shard chains”) จะใช้การดำเนินการสถานะใน shard chains โดยที่ Ethereum 1.0 chain ปัจจุบันคาดว่าจะกลายเป็นหนึ่งในชาร์ดของ Ethereum 2.0 Shard chain กระจายโหนดของเครือข่ายไปยัง 64 chain ใหม่ ณ วันที่ 22 มกราคม 2022

Ethereum ประเภทบัญชี

บัญชีบน Ethereum มี 2 ประเภท ได้แก่

  • บัญชีผู้ใช้ (user accounts) หรือที่เรียกว่าบัญชีภายนอก
  • สัญญา (contracts)

ทั้งสองประเภท หากมีจำนวน ETH ในบัญชีสามารถส่ง ETH ไปยังบัญชีใดก็ได้ อาจเรียกใช้งานสาธารณะใดๆ ของสัญญาหรือสร้างสัญญาใหม่ และระบุไว้ในบล็อกเชนตามที่อยู่บัญชี

บัญชีผู้ใช้ (user accounts)

บัญชีผู้ใช้เป็นบัญชีประเภทเดียวที่สามารถสร้างธุรกรรมได้ เพื่อให้ธุรกรรมถูกต้อง จะต้องลงนามโดยใช้คีย์ส่วนตัวของบัญชีที่ส่ง ซึ่งเป็นสตริงเลขฐานสิบหก 64 อักขระจากที่อยู่ของบัญชี อัลกอริทึมสำคัญที่ใช้สร้างลายเซ็นคือ ECDSA อัลกอริธึมนี้ช่วยให้ได้รับที่อยู่ของผู้ลงนามจากลายเซ็นโดยไม่ทราบคีย์ส่วนตัว

สัญญา (contracts)

สัญญาเป็นบัญชีประเภทเดียวที่มีรหัสที่เกี่ยวข้อง (ชุดของฟังก์ชันและการประกาศตัวแปร) และการจัดเก็บสัญญา (ค่าของตัวแปร ณ เวลาใดก็ตาม) ฟังก์ชันสัญญาอาจรับการตีกลับและอาจมีค่าส่งคืน นอกเหนือจากคำสั่งควบคุมการส่งต่อ เนื้อหาของฟังก์ชันอาจรวมถึงคำแนะนำในการส่ง ETH อ่านและเขียนไปยังที่เก็บข้อมูลของสัญญา สร้างการจัดเก็บชั่วคราว (หน่วยความจำ) ที่หายไปเมื่อสิ้นสุดฟังก์ชัน ดำเนินการคำนวณและแฮช เรียก ฟังก์ชันของสัญญาเอง เรียกฟังก์ชันสาธารณะของสัญญาอื่น สร้างสัญญาใหม่ และสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมปัจจุบัน

Ethereum addresses

0xb794f5ea0ba39494ce839613fffba74279579268

ตัวอย่าง Ethereum addresses

ที่อยู่ Ethereum ประกอบด้วยคำนำหน้า “0x” (ตัวระบุทั่วไปสำหรับเลขฐานสิบหก) ที่เชื่อมกับ 20 ไบต์ทางขวาของ hash Keccak-256 ของ Public Key ECDSA (สิ่งที่เรียกว่า secp256k1) ในเลขฐานสิบหก ตัวเลขสองหลักแสดงถึงไบต์ ดังนั้นที่อยู่จึงมีเลขฐานสิบหก จำนวน 40 หลัก เช่น 0xb794f5ea0ba39494ce839613fffba74279579268 ที่อยู่สัญญาอยู่ในรูปแบบเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ที่อยู่ถูกกำหนดโดยผู้ส่งและการทำธุรกรรม

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 Ethereum Address ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6,895,205 จำนวนที่อยู่ทั้งหมดที่ถือครอง Ethereum อยู่ที่ 70.4 ล้าน ซึ่งคุณวิทาลิก กล่าวว่า สิ่งนี้อาจทำให้โครงการ Ethereum กลายเป็นคอมพิวเตอร์ของโลก

Ethereum Virtual Machine

Ethereum Virtual Machine (EVM) คือ สภาพแวดล้อมสำหรับการทำธุรกรรมใน Ethereum ประกอบด้วย Stake หน่วยความจำ ยอดคงเหลือ Gas ตัวนับโปรแกรม และที่เก็บข้อมูลถาวรสำหรับบัญชีทั้งหมด (รวมถึงรหัสสัญญา)

เมื่อธุรกรรมเรียกใช้ฟังก์ชันของสัญญา การเรียกใช้นี้จะถูกเพิ่มไปยัง Stake และ EVM จะแปล bytecode ของสัญญาเป็นการดำเนินการ Stake โดยรายการ Stake อาจถูกเก็บไว้ในหน่วยความจำหรือแหล่งเก็บข้อมูล และอาจเพิ่มข้อมูลจากหน่วยความจำ/แหล่งเก็บข้อมูลไปยัง Stake

EVM ถูกแยกออกจากไฟล์และกระบวนการอื่น ๆ บนคอมพิวเตอร์ของโหนดเพื่อให้มั่นใจในความถูกต้องก่อนการทำธุรกรรมและธุรกรรมที่กำหนดทุกโหนดจะสร้างสถานะหลังการทำธุรกรรมเดียวกัน ดังนั้นจึงทำให้เกิดการยืนยันความถูกต้องของเครือข่าย

คำจำกัดความอย่างเป็นทางการของ EVM ระบุไว้ใน Ethereum Yellow Paper โดย EVM ได้รับการติดตั้งใน C ++, C #, Go, Haskell, Java, JavaScript, Python, Ruby, Rust, Elixir, Erlang และ WebAssembly

Ethereum ในการเงินโลก

แพลตฟอร์ม Ethereum เข้ามามีบทบาทสำคัญในโลกของการเงินยุคใหม่ ประเทศมหาอำนาจโลกต่างก็จับจ้องและต้องการพัฒนาสกุลเงินดิจิตอลของตนเอง เพื่อก้าวตามให้ทันการเปลี่ยนแปลงของการกระจายอำนาจทางการเงิน

12 Ethereum ในการเงินโลก

Ethereum กับประเทศจีน

คุณวิทาลิก สามารถเรียนรู้ภาษาจีนภายในระยะเวลาไม่กี่เดือนจากแอพลิเคชั่นบน Smart Phone จากนั้นเริ่มลงทุนในประเทศจีนโดยการเป็นหุ้นส่วนของบริษัท Fenbushi Venture Capital ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงมากที่สุดที่ลงทุนในบริษัทที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain แห่งแรกของจีน

ในขณะที่ cryptocurrencies และ blockchain กำลังเป็นที่ถกเถียงของผู้มีอำนาจในจีน ระบบ Ethereum ได้รับการยอมรับจากหลายองค์กรในประเทศจีน รวมถึงมหาวิทยาลัยปักกิ่งที่สร้างห้องปฏิบัติการ Ethereum เพื่อทำงานเกี่ยวกับการปรับปรุงโปรโตคอล ทดสอบมาตรฐานโทเค็น ERC-20 ของ Ethereum เพื่อแปลงเงินสกุลหยวนเป็นคริปโตของประเทศจีน

บริษัทสตาร์ทอัพและบริษัทใหญ่ ๆ หลายแห่ง รวมถึงบริษัทที่เป็นสมาชิกผู้ก่อตั้ง Enterprise Ethereum Alliance ที่เน้นใช้ทรัพยากรในการตรวจสอบและดำเนินการด้านต่างๆ ของระบบนิเวศ Ethereum

ปี 2016 คุณวิทาลิก ในวัย 22 ปี ทำหน้าที่เป็นหนึ่งในที่ปรึกษาด้านกฎระเบียบพิเศษของจีน Internet Commission of the Securities Association of China ด้าน Blockchain ก่อนที่คริปโตจะถูกแบนในประเทศจีนปี 2021

Ethereum กับประเทศรัสเซีย

ปี 2017 คุณวิทาลิก ในวัย 23 ปี ได้ถูกเชิญไปบรรยายการใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการประชุม St. Petersburg International Economic Forum (SPIEF) และสนทนากับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน โดยการประชุมดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่รัฐบาลจากสหรัฐฯ, แคนาดา, อังกฤษ, ยุโรป, สวิตเซอร์แลนด์, รัสเซีย, สิงค์โปร, จีน และไต้หวัน ร่วมรับฟัง

ในการประชุมปี 2017 นี้ Vitalik Buterin ได้กล่าวว่า “ผมอยากจะขอแสดงเจตจำนงในการปฏิเสธคำขอในการช่วยสนับสนุนเผด็จการ การฆ่าฟันกัน หรือการบีบบังคับประชาชน”

ประธานธนาคารกลางแห่งประเทศรัซเซีย ให้ความสนใจแพลตฟอร์ม Ethereum เป็นอย่างมากเนื่องจากเธอเคยกล่าวว่า ทุกประเทศกำลังจะสร้างสกุลเงินดิจิตอลของตนเองขึ้น และ Etheream คือ อนาคต นอกจากนี้ ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศรัซเซียอย่าง Sberbank รวมถึงบริษัท Yota องค์กรด้านการสื่อสาร ร่วมกับ Vneshtorgbank ธนาคารที่สนับสนุนการวิจัย Ethereum Blockchain ที่มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ

Ethereum เปรียบเทียบกับ Bitcoin

กรณีการใช้งานพื้นฐานของ Bitcoin คือ การเป็นสกุลเงินดิจิตอลที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น Ethereum สามารถใช้เป็นสกุลเงินดิจิตอลเหมือนกัน แต่เครือข่าย Ethereum ยังสามารถสร้างและเรียกใช้แอปพลิเคชั่นแบบ Decentralize และ Smart Contract ได้

Block จะถูกตรวจสอบทุกๆ 12 วินาทีบน Ethereum โดยประมาณ เมื่อเทียบกับ Bitcoin ที่ Block จะถูกตรวจสอบทุกๆ 10 นาทีโดยประมาณ นอกจากนี้ Bitcoin มีอุปทานคงที่ที่ 21,000,000 เหรียญในขณะที่ Ether ไม่มีอุปทานสูงสุด ทั้ง Ethereum และ Bitcoin นั้นถูกขุดผ่าน Proof of Work และสามารถซื้อขายได้จากการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิตอล

Ethereum ก้าวไปไกลกว่าแค่สกุลเงิน แพลตฟอร์มที่มีศักยภาพเฉพาะตัว วัตถุประสงค์เป็นแบบปลายเปิด พลิกแพลงการใช้งานออกไปได้แบบไร้ขีดจำกัด สร้างระบบนิเวศน์ผู้ใช้งาน ETH ได้อย่างสมบูรณ์แบบมากกว่า Bitcoin ที่ใช้เพียงเพื่อวัตถุประสงค์ปลายปิด คือ เป็นสกุลเงินดิจิตอลอย่างเดียวเท่านั้น

การทำงานกับ Glen Weyl

Buterin ได้ติดต่อกับนักเศรษฐศาสตร์ Glen Weyl หลังจากที่ได้ทวีตเกี่ยวกับข้อเสนอของ Weyl สำหรับภาษีความร่ำรวยแบบใหม่

จากนั้นทั้งสองได้เขียนแถลงการณ์เกี่ยวกับ Decentralization ซึ่งเน้นไปที่ Cryptocurrencies และงานของ Weyl ในการแก้ปัญหา Liberation Through Radical Decentralization ด้วยการร่วมมือกับ Zoe Hitzig นักศึกษาระดับปริญญาเอกที่ Harvard พวกเขาได้ตีพิมพ์บทความในปี 2019 เรื่อง A Flexible Design for Funding Public Goods

เนื้อหาของบทความพูดถึง A Flexible Design for Funding Public Goods โดยใช้การลงคะแนนเสียงแบบกำลังสอง หรือ  quadratic voting

Open Source Software

นอกจาก Ethereum แล้ว คุณวิทาลิกยังมีส่วนในการสร้าง Open-source software ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนสร้างเหรียญคริปโตได้บนแพลตฟอร์ม Ethereum นอกจากนั้นยังสามารถขายผลงาน NFT บนแพลตฟอร์ม Ethereum ได้อีกด้วย นับว่าเป็นบุคคลเปลี่ยนโลกตามที่นิตยสาร Time ได้ยกย่องว่าเป็น 1 ใน 100 ของผู้มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก

  • แอปพลิเคชั่นออนไลน์บนเครือข่ายของ Ethereum มากกว่า 3,000 dApps
  • โปรโตคอล Decentralized Finance หรือ Defi มากกว่า 530 Protocal

คุณวิทาลิก ได้รับสัญชาติประเทศมอนเตเนโก อาศัยอยู่ที่ประเทศสิงค์โปร์ เข้าร่วมโครงการ open source มากมาย เช่น

  • DarkWallet
  • Bitcoin Python
  • Kriptokit
  • multisig.info
  • Egora

Application บน Ethereum

ชุดคำสั่งของ EVM คือ Turing-complete ส่วนที่มีการใช้งานและได้รับความนิยมของ Ethereum มีมากมายหลากหลายสาขา เช่น

  • การสร้างโทเค็นที่ fungible (ERC20)
  • การสร้าง non-fungible (ERC721) ที่มีคุณสมบัติหลากหลาย
  • การระดมทุนแบบ crowdfunding (เช่น การเสนอเหรียญเริ่มต้น)
  • การเงินแบบกระจายศูนย์ (decentralized finance)
  • การแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ (decentralized exchanges)
  • องค์กรอิสระที่กระจายอำนาจ (decentralized autonomous organizations :DAO)
  • เกมส์
  • การพยากรณ์ดวง
  • การพนัน

ผลกระทบต่อโลก

Ethereum ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เช่นเดียวกับ cryptocurrencies อื่น ๆ เนื่องมาจากผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

  • Ethereum ทุกปีใช้พลังงานไฟฟ้า 112 Terawatt ชั่วโมง (TWH)
  • คาร์บอนไดออกไซด์ 53 เมกะตันต่อปี
  • ธุรกรรม Ethereum เดียวใช้ 262 kWh ซึ่งเทียบได้กับการใช้ไฟฟ้าของครัวเรือนในสหรัฐฯ ช่วงสัปดาห์ทำงาน
  • Ethereum ได้สัญญาว่าจะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมลง 99% ด้วย Ethereum 2.0 โดยเปลี่ยนจาก Proof of Work เป็น Proof of Stake ซึ่งจะกำจัดการทำเหมืองขุดที่สิ้นเปลืองพลังงาน

Vitalik Buterin มูลค่าทรัพย์สิน

ในวัย 27 ปี คุณวิทาลิก ได้กลายเป็นมหาเศรษฐีพันล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐเป็นครั้งแรก นิตยสาร Forebes จัดอันดับคุณวิทาลิกในวัย 28 ปีเป็น 1 ในมหาเศรษฐีคริปโตที่อายุน้อยกว่า 30 ปีของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 1,400 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ปี 2022

ล่าสุดในเดือนพฤษภาคม ปี 2022 คุณวิทาลิกได้โพสต์ Twitter ใจความว่า “I'm not a billionaire anymore.” แปลว่า ผมไม่ใช่เศรษฐีพันล้านอีกต่อไปแล้ว เนื่องมาจากราคาสกุลเงินดิจิตอลที่ปรับมูลค่าลดลง

การกุศล

คุณวิทาลิก เป็นมหาเศรษฐีผู้ใจบุญคนนึงในโลก เขาแบ่งเงินของตัวเองให้กับการกุศลอยู่เสมอ เช่น

ปี 2017

  • ปี 2017 อายุ 23 ปี บริจาค ETH มูลค่า 763,970 ดอลลาร์สหรัฐ ให้กับ Machine Intelligence Research Institute

ปี 2018

  • ปี 2018 อายุ 24 ปี บริจาค ETH มูลค่า 2.4 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ให้กับ SENS Research Foundation เพื่อการวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพเพื่อการฟื้นฟูและการยืดอายุมนุษย์

ปี 2020

  • ปี 2020 อายุ 26 ปี บริจาค 50,000 ดอลลาร์ให้กับมูลนิธิวิจัย SENS ร่วมกับ Sam Bankman-Fried และ Haseeb Qureshi รวมเป็นเงิน 150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับมูลนิธิวิจัย SENS เพื่อต่อสู้กับโรคชราและโรคที่เกี่ยวกับความชรา

ปี 2021

  • ปี 2021 อายุ 27 ปี บริจาค 1.14 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ มูลค่า 50,693,552,078,053 เหรียญ SHIBA ให้กับกองทุนบรรเทาทุกข์ Covid ของอินเดียในปี 2564 การบริจาคครั้งนี้คิดเป็น 5% ของเหรียญที่หมุนเวียนและทำให้ราคาตก 50% ในขณะนั้น
  • ปี 2021 อายุ 27 ปี บริจาค 336 ล้านดอลลาร์มูลค่า 430 ล้านล้าน Dogelon Mars (ELON) ให้กับมูลนิธิเมธูเซลาห์ ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การยืดอายุขัยของมนุษย์

เป้าหมายของ Vitalik

มกราคม ปี 2022 คุณวิทาลิก ได้กล่าวถึงเป้าหมายต่อไปในการทำแพลตฟอร์ม Etheream 3.0 ว่าจะทำให้ Etherem เป็นแพลตฟอ์มที่จะครอง Metaverse ในอีก 10 ปีข้างหน้า เนื่องจากแพลตฟอร์ม Ethereum เป็นองค์ประกอบพื้นฐานของ Metaverse

คุณวิทาลิกมีแนวคิดว่าเครือข่าย Ethereum Name Service สามารถยืนยันตัวตนผู้ใช้งานข้ามแพลตฟอร์มได้ ซึ่งมี Zero-Knowledge Succinct Non-Interactive Argument of Knowledge หรือ zk-SNARKS เป็นหลักฐานยืนยันตัวตน และมีการเข้ารหัสที่อนุญาตให้บุคคลตั้งค่าข้อมูลที่ไม่ต้องการเปิดเผย

สรุปง่าย ๆ ก็คือ ยืนยันตัวตนกับแพลตฟอร์ม Ethereum บนระบบ Blockchain แล้วก็ไม่ต้องยืนยันตัวตนกับระบบอื่นอีกตลอดไป สามารถใช้ร่วมกับแอพธนาคาร หรือการยืนยันตัวตนอื่น ๆ ได้เลย อีกทั้งยังเตรียมตัวย้าย Etheream เข้าสู่กลไก Proof of Stake เพื่อลดค่า Gas ในการทำธุรกรรมลงอีกด้วย

คุณวิทาลิกเชื่อมั่นว่า zk-SNARKS จะเป็นเทคโนโลยีรักษาความเป็นส่วนตัวที่ถูกใช้งานอย่างกว้างขวางที่สุดภายใน 3 ทศวรรษข้างหน้า ซึ่งจะเป็นการปฎิวัติวงการรักษาข้อมูลส่วนตัวของบุคคลที่เก็บข้อมูลไว้บน Blockchain กระจายอำนาจการถือครองข้อมูลส่วนตัวของบุคคลได้อย่างสมบูรณ์แบบ

มุมมองผู้อื่นต่อเป้าหมายของ Vitalik

ในขณะที่นักลงทุนระยะยาวปาดเหงื่อให้กับแนวคิดนี้ เพราะจะขายข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่นไม่ได้อีกแล้ว ทางบริษัทและนักลงทุนรายใหญ่ของตลาดต่างมองว่าการใช้กฎระเบียบดังกล่าวในการยืนยันตัวตนเป็นพื้นฐานของความมั่นคง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการยอมรับอย่างกว้างขวาง มีความปลอดภัยสูงสำหรับบุคคลทั่วไป และ Ethereum ที่มี Defi ที่หลากหลาย สามารถกลายเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้อย่างกว้างขวาง

มุมมองของ Vitalik เกี่ยวกับ crypto และ Ethereum

จากการสัมภาษณ์ล่าสุดจากนิยสาร TIME “ชายผู้อยู่เบื้องหลัง Ethereum กังวลเกี่ยวกับอนาคตของ Crypto” Vitalik แสดงความกังวลของเขาเกี่ยวกับการรับรู้ของสาธารณชนเกี่ยวกับ crypto ค่อยๆ ถูกครอบงำโดย “นักลงทุนที่กระตือรือร้นมากเกินไป ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่พุ่งสูงขึ้น และการแสดงความมั่งคั่งที่ไร้ยางอาย ”

13 มุมมองของ Vitalik

“อันตรายคือคุณมีลิง 3 ล้านดอลลาร์เหล่านี้ และมันกลายเป็นการพนันประเภทอื่น” เขากล่าว โดยอ้างถึงคอลเลกชั่น NFT ยอดนิยมอย่าง Bored Ape Yacht Club ซึ่งราคาเริ่มต้นได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 100ETH เมื่อเร็ว ๆ นี้ คอลเลกชัน NFT นี้ได้กลายเป็น “สัญลักษณ์สถานะยุคดิจิทัลสำหรับเศรษฐี” ของดาราและเซเล็บหลายคน เช่น Paris Hilton, Justin Bieber, Snoop Dogg และ Madonna “

“มีคนจำนวนมากที่ซื้อเรือยอทช์และ Lambos อย่างแน่นอน” Vitalik กล่าว เมื่อ Vitalik ก่อตั้ง Ethereum วิสัยทัศน์ของเขาสำหรับโครงการนี้คือการสร้างบล็อคเชนแบบโอเพนซอร์ซที่ช่วยให้โปรแกรมเมอร์สามารถสร้างแอปพลิเคชั่นประเภทใดก็ได้ในขณะที่เป็นการถ่วงน้ำหนักให้กับรัฐบาลเผด็จการ

เขากังวลว่าวิสัยทัศน์ของเขาสำหรับ Ethereum นั้นมีความเสี่ยงเนื่องจากความโลภที่มากเกินไปของผู้คน “ถ้าเราไม่ใช้เสียงของเรา สิ่งเดียวที่สร้างขึ้นมาคือสิ่งที่สร้างกำไรได้ทันที” เขากล่าว “และสิ่งเหล่านั้นมักจะห่างไกลจากสิ่งที่ดีที่สุดในโลกจริงๆ”

“สถานการณ์หนึ่งในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ได้เตือนผู้คนจำนวนมากในชุมชน crypto ว่าในที่สุดเป้าหมายของ crypto ไม่ใช่การเล่นเกมที่มีรูปลิงมูลค่าหลายล้านเหรียญ แต่มันคือการทำสิ่งต่าง ๆ ให้สำเร็จ ผลกระทบที่มีความหมายในโลกแห่งความเป็นจริง” Vitalik เขียนในอีเมลถึง TIME เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2022 หลังจากที่ยูเครนสามารถระดมทุนบรรเทาทุกข์ใน cryptocurrencies ได้ในช่วงกลางของการโจมตีของรัสเซีย