Crab Bullish/Bearish คืออะไร?
Crab Pattern เป็นรูปแบบกราฟทางเทคนิคที่เป็นส่วนหนึ่งของ Harmonic Patterns ซึ่งถูกค้นพบโดย Scott Carney โดยมีลักษณะเฉพาะดังนี้:
- ประกอบด้วยห้าจุดสำคัญ: X, A, B, C, และ D
- ใช้อัตราส่วน Fibonacci ในการกำหนดจุดกลับตัวที่สำคัญ
- สามารถพบได้ทั้งในรูปแบบ Bullish (ขาขึ้น) และ Bearish (ขาลง)
- เป็นรูปแบบที่มีการขยายตัวมากที่สุดในบรรดา Harmonic Patterns ทั้งหมด
Crab Bullish
- เกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาลง
- จุด D เป็นจุดที่คาดว่าราคาจะกลับตัวขึ้น
Crab Bearish
- เกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาขึ้น
- จุด D เป็นจุดที่คาดว่าราคาจะกลับตัวลง
ลักษณะสำคัญของ Crab Bullish/Bearish
- อัตราส่วน Fibonacci ที่สำคัญ:
- AB = 0.382 – 0.618 ของ XA
- BC = 0.382 – 0.886 ของ AB
- CD = 2.618 – 3.618 ของ AB
- AD = 1.618 ของ XA
- รูปแบบการเคลื่อนไหว:
- XA: การเคลื่อนไหวเริ่มต้น
- AB: การปรับฐานของ XA
- BC: การปรับฐานของ AB
- CD: การเคลื่อนไหวสุดท้ายก่อนการกลับตัว (มีการขยายตัวมาก)
- จุดกลับตัว D:
- เป็นจุดที่คาดว่าราคาจะกลับตัว
- มักจะอยู่ที่ระดับ 1.618 ของ XA
วิธีใช้ Crab Bullish/Bearish ในการวิเคราะห์
- การระบุรูปแบบ:
- สังเกตการเคลื่อนไหวของราคาที่มีลักษณะคล้าย Crab โดยเฉพาะการขยายตัวมากในช่วง CD
- ใช้เครื่องมือ Fibonacci Retracement และ Extension เพื่อวัดอัตราส่วนระหว่างจุดต่างๆ
- การยืนยันอัตราส่วน Fibonacci:
- ตรวจสอบว่าอัตราส่วนระหว่างจุดต่างๆ สอดคล้องกับอัตราส่วน Fibonacci ที่กำหนด
- การคาดการณ์จุด D:
- ใช้อัตราส่วน 1.618 ของ XA เพื่อคาดการณ์จุด D
- สังเกตการเกิดรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวที่จุด D
- การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย:
- สังเกตปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นเมื่อราคาเข้าใกล้จุด D
- การใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่น:
- ใช้ร่วมกับตัวบ่งชี้แนวโน้มหรือ oscillators เพื่อยืนยันสัญญาณ
- พิจารณาแนวรับแนวต้านสำคัญประกอบการวิเคราะห์
ข้อควรระวังในการใช้ Crab Bullish/Bearish
- ความซับซ้อนของรูปแบบ: Crab เป็นรูปแบบที่ซับซ้อนและอาจยากในการระบุ
- ความแม่นยำของอัตราส่วน: อัตราส่วนอาจไม่ตรงกับที่กำหนดไว้อย่างสมบูรณ์เสมอไป
- การกลับตัวที่รุนแรง: เนื่องจากการขยายตัวมากในช่วง CD การกลับตัวอาจเกิดขึ้นอย่างรุนแรง
- ความเหมาะสมกับกรอบเวลา: รูปแบบนี้อาจให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันในกรอบเวลาที่ต่างกัน
- ปัจจัยภายนอก: ข่าวสารหรือเหตุการณ์สำคัญอาจส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคา
การประยุกต์ใช้ในกลยุทธ์การเทรด
- การเข้าซื้อ/ขาย:
- Crab Bullish: เข้าซื้อเมื่อราคาแสดงสัญญาณกลับตัวที่จุด D
- Crab Bearish: เข้าขายเมื่อราคาแสดงสัญญาณกลับตัวที่จุด D
- การตั้ง Stop Loss:
- อาจตั้ง stop loss ไว้ใต้/เหนือจุด X เล็กน้อย
- การตั้งเป้าหมายกำไร:
- เป้าหมายแรก: ระดับ 0.382 Fibonacci Retracement ของ AD
- เป้าหมายที่สอง: ระดับ 0.618 Fibonacci Retracement ของ AD
- เป้าหมายที่สาม: จุด C หรือ B
- การจัดการความเสี่ยง:
- ใช้อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่เหมาะสม (เช่น 1:2 หรือ 1:3)
- ระมัดระวังเป็นพิเศษเนื่องจากการขยายตัวที่มากในช่วง CD
- การเทรดระยะสั้นถึงกลาง:
- Crab Pattern มักใช้ในการวิเคราะห์และเทรดในระยะสั้นถึงกลาง
ความแตกต่างระหว่าง Crab และ Harmonic Patterns อื่นๆ
- การขยายตัว: Crab มีการขยายตัวมากที่สุดในช่วง CD เมื่อเทียบกับ Gartley, Butterfly, และ Bat
- จุด D:
- Crab: จุด D อยู่ที่ระดับ 1.618 ของ XA
- Bat: จุด D อยู่ที่ระดับ 0.886 ของ XA
- Gartley: จุด D อยู่ที่ระดับ 0.786 ของ XA
- Butterfly: จุด D อยู่ที่ระดับ 1.27 ของ XA
- โอกาสในการทำกำไร: Crab มักจะให้โอกาสในการทำกำไรที่มากกว่า แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นด้วย
สรุป
Crab Bullish และ Bearish เป็นรูปแบบกราฟทางเทคนิคที่ซับซ้อนและมีการขยายตัวมาก แต่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์จุดกลับตัวของราคา โดยใช้อัตราส่วน Fibonacci เป็นเครื่องมือหลัก อย่างไรก็ตาม ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ การจัดการความเสี่ยงที่รัดกุม และการพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของตลาด เพื่อให้การวิเคราะห์และการตัดสินใจลงทุนมีความแม่นยำมากขึ้น
อ้างอิง
- Carney, S. M. (2010). Harmonic Trading, Volume One: Profiting from the Natural Order of the Financial Markets. FT Press.
- Pesavento, L., & Jouflas, L. (2007). Trade What You See: How To Profit from Pattern Recognition. John Wiley & Sons.
- Fischer, R. (2003). Fibonacci Applications and Strategies for Traders. Wiley Trading.
FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง