Crab Bullish/Bearish คืออะไร วิธีใช้วิเคราะห์

IUX Markets Bonus

Crab Bullish/Bearish คืออะไร?

 

Crab Pattern เป็นรูปแบบกราฟทางเทคนิคที่เป็นส่วนหนึ่งของ Harmonic Patterns ซึ่งถูกค้นพบโดย Scott Carney โดยมีลักษณะเฉพาะดังนี้:

73 Crab bullish bearish pattern
73 Crab bullish bearish pattern
  1. ประกอบด้วยห้าจุดสำคัญ: X, A, B, C, และ D
  2. ใช้อัตราส่วน Fibonacci ในการกำหนดจุดกลับตัวที่สำคัญ
  3. สามารถพบได้ทั้งในรูปแบบ Bullish (ขาขึ้น) และ Bearish (ขาลง)
  4. เป็นรูปแบบที่มีการขยายตัวมากที่สุดในบรรดา Harmonic Patterns ทั้งหมด

Crab Bullish

  1. เกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาลง
  2. จุด D เป็นจุดที่คาดว่าราคาจะกลับตัวขึ้น

Crab Bearish

  1. เกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาขึ้น
  2. จุด D เป็นจุดที่คาดว่าราคาจะกลับตัวลง

ลักษณะสำคัญของ Crab Bullish/Bearish

  1. อัตราส่วน Fibonacci ที่สำคัญ:
    • AB = 0.382 – 0.618 ของ XA
    • BC = 0.382 – 0.886 ของ AB
    • CD = 2.618 – 3.618 ของ AB
    • AD = 1.618 ของ XA
  2. รูปแบบการเคลื่อนไหว:
    • XA: การเคลื่อนไหวเริ่มต้น
    • AB: การปรับฐานของ XA
    • BC: การปรับฐานของ AB
    • CD: การเคลื่อนไหวสุดท้ายก่อนการกลับตัว (มีการขยายตัวมาก)
  3. จุดกลับตัว D:
    • เป็นจุดที่คาดว่าราคาจะกลับตัว
    • มักจะอยู่ที่ระดับ 1.618 ของ XA

วิธีใช้ Crab Bullish/Bearish ในการวิเคราะห์

  1. การระบุรูปแบบ:
    • สังเกตการเคลื่อนไหวของราคาที่มีลักษณะคล้าย Crab โดยเฉพาะการขยายตัวมากในช่วง CD
    • ใช้เครื่องมือ Fibonacci Retracement และ Extension เพื่อวัดอัตราส่วนระหว่างจุดต่างๆ
  2. การยืนยันอัตราส่วน Fibonacci:
    • ตรวจสอบว่าอัตราส่วนระหว่างจุดต่างๆ สอดคล้องกับอัตราส่วน Fibonacci ที่กำหนด
  3. การคาดการณ์จุด D:
    • ใช้อัตราส่วน 1.618 ของ XA เพื่อคาดการณ์จุด D
    • สังเกตการเกิดรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวที่จุด D
  4. การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย:
    • สังเกตปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นเมื่อราคาเข้าใกล้จุด D
  5. การใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่น:
    • ใช้ร่วมกับตัวบ่งชี้แนวโน้มหรือ oscillators เพื่อยืนยันสัญญาณ
    • พิจารณาแนวรับแนวต้านสำคัญประกอบการวิเคราะห์

ข้อควรระวังในการใช้ Crab Bullish/Bearish

  1. ความซับซ้อนของรูปแบบ: Crab เป็นรูปแบบที่ซับซ้อนและอาจยากในการระบุ
  2. ความแม่นยำของอัตราส่วน: อัตราส่วนอาจไม่ตรงกับที่กำหนดไว้อย่างสมบูรณ์เสมอไป
  3. การกลับตัวที่รุนแรง: เนื่องจากการขยายตัวมากในช่วง CD การกลับตัวอาจเกิดขึ้นอย่างรุนแรง
  4. ความเหมาะสมกับกรอบเวลา: รูปแบบนี้อาจให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันในกรอบเวลาที่ต่างกัน
  5. ปัจจัยภายนอก: ข่าวสารหรือเหตุการณ์สำคัญอาจส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคา

การประยุกต์ใช้ในกลยุทธ์การเทรด

  1. การเข้าซื้อ/ขาย:
    • Crab Bullish: เข้าซื้อเมื่อราคาแสดงสัญญาณกลับตัวที่จุด D
    • Crab Bearish: เข้าขายเมื่อราคาแสดงสัญญาณกลับตัวที่จุด D
  2. การตั้ง Stop Loss:
    • อาจตั้ง stop loss ไว้ใต้/เหนือจุด X เล็กน้อย
  3. การตั้งเป้าหมายกำไร:
    • เป้าหมายแรก: ระดับ 0.382 Fibonacci Retracement ของ AD
    • เป้าหมายที่สอง: ระดับ 0.618 Fibonacci Retracement ของ AD
    • เป้าหมายที่สาม: จุด C หรือ B
  4. การจัดการความเสี่ยง:
    • ใช้อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่เหมาะสม (เช่น 1:2 หรือ 1:3)
    • ระมัดระวังเป็นพิเศษเนื่องจากการขยายตัวที่มากในช่วง CD
  5. การเทรดระยะสั้นถึงกลาง:
    • Crab Pattern มักใช้ในการวิเคราะห์และเทรดในระยะสั้นถึงกลาง

ความแตกต่างระหว่าง Crab และ Harmonic Patterns อื่นๆ

  1. การขยายตัว: Crab มีการขยายตัวมากที่สุดในช่วง CD เมื่อเทียบกับ Gartley, Butterfly, และ Bat
  2. จุด D:
    • Crab: จุด D อยู่ที่ระดับ 1.618 ของ XA
    • Bat: จุด D อยู่ที่ระดับ 0.886 ของ XA
    • Gartley: จุด D อยู่ที่ระดับ 0.786 ของ XA
    • Butterfly: จุด D อยู่ที่ระดับ 1.27 ของ XA
  3. โอกาสในการทำกำไร: Crab มักจะให้โอกาสในการทำกำไรที่มากกว่า แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นด้วย

สรุป

Crab Bullish และ Bearish เป็นรูปแบบกราฟทางเทคนิคที่ซับซ้อนและมีการขยายตัวมาก แต่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์จุดกลับตัวของราคา โดยใช้อัตราส่วน Fibonacci เป็นเครื่องมือหลัก อย่างไรก็ตาม ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ การจัดการความเสี่ยงที่รัดกุม และการพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของตลาด เพื่อให้การวิเคราะห์และการตัดสินใจลงทุนมีความแม่นยำมากขึ้น

อ้างอิง

  1. Carney, S. M. (2010). Harmonic Trading, Volume One: Profiting from the Natural Order of the Financial Markets. FT Press.
  2. Pesavento, L., & Jouflas, L. (2007). Trade What You See: How To Profit from Pattern Recognition. John Wiley & Sons.
  3. Fischer, R. (2003). Fibonacci Applications and Strategies for Traders. Wiley Trading.
FOREXDUCK Logo

FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง

HFM Promotion