Cypher Bullish/Bearish คืออะไร?
Cypher Pattern เป็นรูปแบบกราฟทางเทคนิคที่เป็นส่วนหนึ่งของ Harmonic Patterns ซึ่งถูกค้นพบโดย Darren Oglesbee โดยมีลักษณะเฉพาะดังนี้:
- ประกอบด้วยห้าจุดสำคัญ: X, A, B, C, และ D
- ใช้อัตราส่วน Fibonacci ในการกำหนดจุดกลับตัวที่สำคัญ
- สามารถพบได้ทั้งในรูปแบบ Bullish (ขาขึ้น) และ Bearish (ขาลง)
- มีความแตกต่างจาก Harmonic Patterns อื่นๆ ในเรื่องของอัตราส่วนที่ใช้
Cypher Bullish
- เกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาลง
- จุด D เป็นจุดที่คาดว่าราคาจะกลับตัวขึ้น
Cypher Bearish
- เกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาขึ้น
- จุด D เป็นจุดที่คาดว่าราคาจะกลับตัวลง
ลักษณะสำคัญของ Cypher Bullish/Bearish
- อัตราส่วน Fibonacci ที่สำคัญ:
- XA: การเคลื่อนไหวเริ่มต้น
- AB: 0.382 – 0.618 ของ XA
- BC: 1.13 – 1.414 ของ AB
- CD: 0.786 ของ XC
- AD: 0.786 ของ XA
- รูปแบบการเคลื่อนไหว:
- XA: การเคลื่อนไหวเริ่มต้น
- AB: การปรับฐานของ XA
- BC: การเคลื่อนไหวที่ยาวกว่า AB
- CD: การเคลื่อนไหวสุดท้ายก่อนการกลับตัว
- จุดกลับตัว D:
- เป็นจุดที่คาดว่าราคาจะกลับตัว
- มักจะอยู่ที่ระดับ 0.786 ของ XC
วิธีใช้ Cypher Bullish/Bearish ในการวิเคราะห์
- การระบุรูปแบบ:
- สังเกตการเคลื่อนไหวของราคาที่มีลักษณะคล้าย Cypher
- ใช้เครื่องมือ Fibonacci Retracement และ Extension เพื่อวัดอัตราส่วนระหว่างจุดต่างๆ
- การยืนยันอัตราส่วน Fibonacci:
- ตรวจสอบว่าอัตราส่วนระหว่างจุดต่างๆ สอดคล้องกับอัตราส่วน Fibonacci ที่กำหนด
- การคาดการณ์จุด D:
- ใช้อัตราส่วน 0.786 ของ XC เพื่อคาดการณ์จุด D
- สังเกตการเกิดรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวที่จุด D
- การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย:
- สังเกตปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นเมื่อราคาเข้าใกล้จุด D
- การใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่น:
- ใช้ร่วมกับตัวบ่งชี้แนวโน้มหรือ oscillators เพื่อยืนยันสัญญาณ
- พิจารณาแนวรับแนวต้านสำคัญประกอบการวิเคราะห์
ข้อควรระวังในการใช้ Cypher Bullish/Bearish
- ความซับซ้อนของรูปแบบ: Cypher เป็นรูปแบบที่ซับซ้อนและอาจยากในการระบุ
- ความแม่นยำของอัตราส่วน: อัตราส่วนอาจไม่ตรงกับที่กำหนดไว้อย่างสมบูรณ์เสมอไป
- การกลับตัวที่ไม่เกิดขึ้น: ราคาอาจไม่กลับตัวที่จุด D ตามที่คาดการณ์
- ความเหมาะสมกับกรอบเวลา: รูปแบบนี้อาจให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันในกรอบเวลาที่ต่างกัน
- ปัจจัยภายนอก: ข่าวสารหรือเหตุการณ์สำคัญอาจส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคา
การประยุกต์ใช้ในกลยุทธ์การเทรด
- การเข้าซื้อ/ขาย:
- Cypher Bullish: เข้าซื้อเมื่อราคาแสดงสัญญาณกลับตัวที่จุด D
- Cypher Bearish: เข้าขายเมื่อราคาแสดงสัญญาณกลับตัวที่จุด D
- การตั้ง Stop Loss:
- อาจตั้ง stop loss ไว้ใต้/เหนือจุด X เล็กน้อย
- การตั้งเป้าหมายกำไร:
- เป้าหมายแรก: จุด C
- เป้าหมายที่สอง: จุด A
- เป้าหมายที่สาม: จุด X
- การจัดการความเสี่ยง:
- ใช้อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่เหมาะสม (เช่น 1:2 หรือ 1:3)
- การเทรดระยะสั้นถึงกลาง:
- Cypher Pattern มักใช้ในการวิเคราะห์และเทรดในระยะสั้นถึงกลาง
ความแตกต่างระหว่าง Cypher และ Harmonic Patterns อื่นๆ
- อัตราส่วนที่ใช้: Cypher ใช้อัตราส่วน 0.786 สำหรับ CD และ AD ซึ่งแตกต่างจาก Patterns อื่นๆ
- ความยาวของ BC: ใน Cypher, BC มักจะยาวกว่า AB (1.13 – 1.414 เท่า) ซึ่งแตกต่างจาก Patterns อื่นๆ
- จุดกลับตัว: จุด D ของ Cypher มักจะอยู่ที่ระดับ 0.786 ของ XC ซึ่งแตกต่างจาก Patterns อื่นๆ
- ความแม่นยำ: Cypher มักจะให้สัญญาณที่แม่นยำกว่าเมื่อเทียบกับ Patterns อื่นๆ บางรูปแบบ
สรุป
Cypher Bullish และ Bearish เป็นรูปแบบกราฟทางเทคนิคที่มีความซับซ้อนแต่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์จุดกลับตัวของราคา โดยใช้อัตราส่วน Fibonacci ที่เฉพาะเจาะจงเป็นเครื่องมือหลัก อย่างไรก็ตาม ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ การจัดการความเสี่ยงที่รัดกุม และการพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของตลาด เพื่อให้การวิเคราะห์และการตัดสินใจลงทุนมีความแม่นยำมากขึ้น
อ้างอิง
- Carney, S. M. (2010). Harmonic Trading, Volume One: Profiting from the Natural Order of the Financial Markets. FT Press.
- Pesavento, L., & Jouflas, L. (2007). Trade What You See: How To Profit from Pattern Recognition. John Wiley & Sons.
- Fischer, R. (2003). Fibonacci Applications and Strategies for Traders. Wiley Trading.
FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง