Divergence คืออะไร
Divergence คือ การวิเคราะห์การกลับตัวของราคาหลักทรัพย์ หุ้น Forex หรือ คริปโต การวิเคราะห์ Divergence ได้รับการยอมรับว่าเป็นการวิเคราะห์ที่แม่นยำที่สุดระบบนึง โดยเฉพาะการเทรดกองทุน Forex ซึ่งต้องใช้ความแม่นยำสูง ไดเวอเจนท์ เป็นการวิเคราะห์ที่ตอบโจทย์การเทรดระยะสั้น หรือ สวิงเทรด หรือแม้แต่ Scalping เพราะว่านักเทรดส่วนใหญ่จะถือออเดอร์ไม่เกิน 1 วัน ในการเทรดรายวัน
Divergence เป็นความขัดแย้งกันของสัญญาณเทรดกับราคา สัญญาณเทรดที่ว่าอาจจะมาจากตัว indicator ตัวใดก็ได้ และรูปแบบของ Divergence มีหลายรูปแบบ มีหลายประเภท นอกจากนี้ยังมีการใช้งานที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าวิธีการเทรดของเทรดเดอร์แต่ละคนจะเป็นอย่างไร ตัวอย่างของเครื่องมือที่ใช้ในการเทรดไดเวอเจนท์มากที่สุด คือ RSI และ MACD เพราะทั้งสองประเภทเป็นการให้สัญญาณ Buy หรือ Sell
divergence คืออะไร
ในภาพตัวอย่าง กรอบสีฟ้าจะเห็นว่าราคาลดลงมามาก จากการเคลื่อนไหวของบิคคอย พอราคาลดลง rsi ก็ลดลงตาม เมื่อเวลาผ่านไปสักพักหนึ่ง RSI ก็ขึ้นในกรอบสีเหลือง แต่ราคาไม่ขึ้นในกรอบสีเหลืองไปที่จุดเดิม นั่นหมายถึง ความขัดแย้งกันของสัญญาณระหว่าง ราคาและ indicator ผลที่ตามมา คือ ราคาไม่สามารถขึ้นไปได้ ต้องหลุดจากการเคลื่อนไหวลงมาเหมือนเดิม
divergence signal
ในภาพตัวอย่างจะเห็นว่า หลังจากเหตุการณ์ในกรอบ 4 เหลี่ยมแล้วราคาลดลงหนักมาก นั่นเพราะว่า ความขัดแย้งกันของสัญญาณ การเทรดลักษณะนี้ หรือ การเทรด Divergence จึงได้รับความนิยมในหมู่กองทุนมาก โดยเฉพาะการเทรด Forex ซึ่งมีลักษณะของการเทรดที่ระยะสั้นและสามารถใช้สัญญาณ divergence ได้ดี
ในบทความนี้จึงเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับ divergence ว่า Divergence มีกี่ประเภทและที่นิยมและแม่นยำมีอะไรบ้าง โดยอ้างอิงจากประเภทของ Divergence ที่มีการใช้งานมากที่สุดในตลาด Forex คริปโตและหุ้น
ประเภทของ Divergence
จากที่ divergence ไม่ได้มีประเภทเดียวรูปแบบเดียว เราเลยมาทำความรู้จักกับคำศัพท์ที่เจอบ่อย ๆ เกี่ยวกับ divergence ที่เราต้องเจอและทำความรู้จักกับมันไว้ให้คุ้นตาก่อน โดย divergence ที่เราเจอนั้นมีอะไรบ้าง มาทำความเข้าใจกันให้ถูกต้องก่อนที่จะนำไปวิเคราะห์อย่างถูกวิธี
Regular Divergence คือ
Regular Divergence คือ สัญญาณที่เป็นไปได้ว่ากราฟจะกลับตัว ซึ่งสัญญาณค่อนข้างตรงไปตรงมา รูปแบบนี้พบบ่อยในตลาด มี Regular Divergence อยู่ 2 ประเภท ได้แก่ Bullish Divergence กับ Bearish Divergence โดยรูปแบบที่เราพบบ่อยมีดังนี้
bullish regular divergence
Bullish Divergence
- Bullish Divergence จะเห็นสัญญาณขัดแย้งของราคา
- ราคาจะลดลงต่ำกว่าจุด Low เดิม
- ขณะที่ indicator จะไม่ลงตามและเกิด higher low
- นี่คือสัญญาณขัดกันเรียกว่า Bullish Divergence
- คือต่อไปราคาจะขึ้น
bearish regular divergence
Bearish Divergence
- Bearish Divergence คือสัญญาณความขัดแย้งที่เมื่อราคาเกิดสูงสุดใหม่ แต่ indicator ไม่ได้เกิดจุดสูงสุดใหม่
- ความขัดแย้งนี้นำไปสู่การลดลงของราคารุนแรง
- ในภาพจะเห็ฯชัดเจนว่าหลังจากนั้นราคาลดลงอย่างรุนแรง
- สัญญาณขัดแย้งกันของ indicator นี้เรียกว่า Bearish Divergence
นั่นก็คือสัญญาณของ Regular Divergence ซึ่งต่อไปเราจะพูดถึงสัญญาณอีกรูปแบบหนึ่ง คือ Hiddgen Divergence
Hidden Divergence คือ อะไร
หลังจากที่เราทำความรู้จักกับ Regular Divergence มาแล้ว เรามาดู Hidden Divergence กันบ้าง ซึ่งแตกต่างจาก Regular Divergence
Hidden Divergence คือสัญญาณขัดแย้งกันกับราคาโดยที่ตัวที่เราต้องยึดถือหลักคือ ราคา เมื่อเกิดการขัดแย้งกัน แทนที่จะให้ความสำคัญกับ indicator เหมือนกับ regular divergence แต่เราจะให้ความสำคัญกับราคาแทน เมื่อราคาเกิด hidden divergence แล้ว จะต้องยึดทิศทางของราคาเพื่อกำหนดการเคลื่อนไหวต่อไปของราคา โดยมี 2 ประเภท คือ bearish hidden divergence กับ bullish hidden divergence
bullish hidden divergence
hidden bullish divergence
- ข้อสังเกตุหลัก ๆ คือ การเกิด Divergence ใน RSI จะเป็นขาลง
- แต่ราคาเคลื่อนไหวเป็นขาขึ้น
- การเคลื่อนไหวของราคาไม่สอดคล้องกับ RSI
- หลังจากนั้นราคาพุ่งอย่างรุนแรง นั่นคือ hidden bullish Divergence
hidden bearish divergence
hidden bearish divergence
- hidden bearish divergence เกิดขึ้นส่วนทางกับ hidden bullish divergence
- ราคามีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ
- แต่ indicator มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
- เมื่อเทรนด์เกิดขึ้นจะเป็นไปตามทิศทางของราคา
นั่นคือรูปแบบของรูปแบบ Divergence ทั้งหมดที่มี โดยมากไม่ได้ยาก แต่ปัญหาคือ การแยกระหว่าง regular กับ hidden divergence นั้นเป็นปัญหาเพราะว่ามันมีรูปแบบตรงข้ามกัน อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมว่า สัญญาณ divergence เราสามารถใช้เพื่อยืนยันสัญญาณเทรนด์ โดยทิศทางการเทรดควรจะเป็นทิศทางเดียวกับเทรนหลักเข้าว่า
Indicator บอก Divergence มีอะไรบ้าง
ต่อไป นี่คือ กลุ่มของ indicator ที่สามารถใช้บอกสัญญาณ divergence ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด ซึ่งก็คือ RSI Divergence และ MACD divergence ซึ่ง RSI เป็นสัญญาณที่เราคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว และถูกใช้ในการบอก Divergence มากที่สุด
rsi divergence คือ
RSI Divergence คือ สัญญาณการเกิดการขัดแย้งของราคา จะถูกใช้เพื่อทำการวิเคราะห์รูปแบบ Divergence ทั้ง 2 รูปแบบ คือ regular Divergence และ Hidden divergence ซึ่งเราได้ยกตัวอย่างมากมากแล้ว ในนี้เราจึงทำการยกตัวอย่าง สัญญาณ RSI Divergence ใน Chart ของ MT4 บ้างเพื่อให้เห็นความแตกต่างของหลายเครื่องมือ
regular bearish divergence MT4
นี่คือรูปแบบของ Divergence ใน MT4 ค่า RSI มาตรฐาน 14 จะเห็นความชัดเจนของความขัดแย้งของการเคลื่อนไหวราคาเป็นอันมาก นั่นเพราะว่า ในตลาด Forex การใช้งาน Divergence ค่อนข้างที่จะส่งอิทธิพลมากกว่าตลาดคริปโต สาเหตุก็เพราะว่า ตลาดคริปโตผันผวนน้อยกว่าใน Time Frame เล็ก ทำให้ใช้ได้ผลมากกว่า
macd divergence คือ
MACD divergence คือสัญญาณการเกิด Divergence โดยใช้เครื่องมือประเภท Oscillator อีกประเภทหนึ่ง คือ MACD โดยเฉพาะ MACD histogram จะใช้ได้ดีเป็นพิเศษ ก็เพราะว่า จะมีลักษณะเป็นรูปคลื่นค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้ว โดยใน MACD เหมาะสำหรับ Time Frame ที่เคลื่อนไหวค่อนข้างคงที่อย่าง Time Frame 4H ซึ่งจะชัดเจนกว่า Time Frame อื่น ค่ามาตรฐานที่ใช้ตั้งคือ 12,26,9 สำหรับการตั้งค่า macd
MACD Bearish Divergence
สำหรับ MACD หลายคนอาจจะมองว่ามันชัดกว่า RSI มากและนี่ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ MACD เป็นหนึ่งในเครื่องมือในการบอก Divergence เพราะมันค่อนข้างชัดเจน และมีสัณญาณที่แม่นยำพอสมควร ส่วนใครจะถนัดอะไรก็สามารถใช้ได้ไม่แตกต่างกัน กราฟข้างบนเป็นกราฟช่วงเวลาเดียวกัน และจุดเดียวกัน ซึ่งจะทำให้เปรียบเท่ียบได้ว่า ควรจะเลือกใช้เครื่องมือไหนในการวิเคราะห์ divergence ดี
FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง