Infinox ดีไหม
ในยุคที่ตลาดฟอเร็กซ์กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว การเลือกโบรกเกอร์ที่ดีและน่าเชื่อถือก็ถือเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อย หนึ่งในโบรกเกอร์ที่ได้รับความสนใจอย่างมากคือ Infinox ซึ่งดำเนินธุรกิจมาแล้วมากกว่า 10 ปี มีจุดแข็งในเรื่องของการกำกับดูแลที่ดี และการบริการที่ครอบคลุม แต่ Infinox จะดีจริงอย่างที่ว่ากันหรือไม่ วันนี้เราจะมาหาคำตอบไปพร้อมๆ กันครับ
Infinox คือโบรกเกอร์ระดับโลกที่ได้รับการยอมรับ
- Infinox ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2009 และดำเนินงานในหลายประเทศทั่วโลก
- มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงลอนดอน และมีสาขาในภูมิภาคต่างๆ
- ได้รับการยอมรับในฐานะโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ชั้นนำที่มีประสบการณ์และมาตรฐานสูง
- มีฐานลูกค้าจำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน
Infinox อยู่ภายใต้การกำกับดูแลจากหลายหน่วยงานชั้นนำ
- Infinox Capital Limited จดทะเบียนกับ FCA (Financial Conduct Authority) ของสหราชอาณาจักร ภายใต้หมายเลข 501057
- INFINOX Limited จดทะเบียนกับ FSC (Financial Services Commission) ของประเทศมอริเชียส หมายเลข GB20025832
- INFINOX Capital จดทะเบียนกับ SCB (Securities Commission of The Bahamas) หมายเลข SIA-F188
- INFINOX Capital Ltd SA จดทะเบียนกับ FSCA (Financial Services Conduct Authority) แห่งแอฟริกาใต้ หมายเลข 50506
- การอยู่ภายใต้การกำกับดูแลหลายชั้นช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าถึงความปลอดภัยในการลงทุน
เงินของลูกค้าได้รับการดูแลและป้องกันเป็นอย่างดี
- Infinox จัดเก็บเงินของลูกค้าแยกออกจากบัญชีของบริษัทอย่างชัดเจน
- เงินของลูกค้าจะได้รับความปลอดภัยสูงสุด ไม่ปะปนกับกิจการอื่นๆ ของบริษัท
- กลไกนี้จะช่วยรับประกันว่า หากบริษัทเกิดปัญหา เงินของลูกค้าก็จะปลอดภัย
- เป็นมาตรฐานสากลที่สำคัญในการคุ้มครองลูกค้าจากการฉ้อโกงหรือล้มละลาย
ประเภทบัญชีและเงื่อนไขการเทรดของ Infinox
- Infinox มีบัญชีให้เลือก 2 ประเภท คือ STP และ ECN
- บัญชี STP มีค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 1.2 จุด ไม่มีค่าคอมมิชชัน เงินฝากขั้นต่ำ $50
- บัญชี ECN มีสเปรดต่ำสุดที่ 0.0 จุด แต่มีค่าคอมมิชชันเริ่มต้น $7 ต่อการเทรด เงินฝากขั้นต่ำ $50 เช่นกัน
- ทั้งสองบัญชีรองรับเลเวอเรจสูงสุดถึง 1:1000 ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ชื่นชอบความเสี่ยงสูง
Infinox มีสินทรัพย์ให้เทรดหลากหลาย ครอบคลุมทุกการลงทุน
- ฟอเร็กซ์ – คู่สกุลเงินหลัก รอง และ Exotic กว่า 45 คู่
- ตราสารทุน (CFD) – ดัชนีหุ้นและหุ้นรายตัวกว่า 750 รายการ
- สินค้าโภคภัณฑ์ – ทั้งโลหะมีค่าอย่างทองคำ เงิน ไปจนถึงน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ
- พันธบัตรและฟิวเจอร์ส – ทั้งจากสหรัฐ ยุโรป และสหราชอาณาจักร
- คริปโตเคอร์เรนซี (CFD) – เทรดคู่คริปโตยอดนิยมได้มากกว่า 40 คู่
- มีตัวเลือกการลงทุนที่เหมาะสมกับนักลงทุนทุกประเภท
แพลตฟอร์มการเทรดที่ทันสมัย ใช้งานง่าย และมีประสิทธิภาพ
- IX Social – ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดที่ช่วยให้คัดลอกการเทรดของเทรดเดอร์มืออาชีพได้
- IX SYNC – แพลตฟอร์มสำหรับผู้ให้บริการสัญญาณเทรด (Signal Provider)
- MT4 – แพลตฟอร์มชั้นนำที่ได้รับความนิยมสูงสุดในวงการเทรด Forex
- MT5 – รุ่นอัปเกรดของ MT4 ที่รองรับการเทรดสินทรัพย์ที่หลากหลายมากขึ้น
- ใช้งานได้ทั้งผ่านเว็บเบราว์เซอร์ แอปมือถือ และซอฟต์แวร์บนเดสก์ท็อป
รองรับการฝากถอนเงินหลายช่องทาง และไม่มีค่าธรรมเนียม
- Infinox ให้บริการฝากถอนผ่านหลายวิธี เช่น โอนผ่านธนาคาร บัตรเครดิต e-Wallet และ QR Code
- รองรับการฝากถอนด้วยสกุลเงินหลักต่างๆ รวมถึงผ่านธนาคารในไทย
- ไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการถอนเงิน หากมีจำนวนมากกว่า $50
- แต่หากถอนน้อยกว่า $50 จะมีค่าธรรมเนียมเพียง $15 เท่านั้น
- วงเงินฝากขั้นต่ำเริ่มต้นเพียง $50 เหมาะสำหรับนักลงทุนที่เพิ่งเริ่มต้น
บริการลูกค้าชั้นเลิศด้วยทีมงานมืออาชีพ พร้อมดูแลตลอด 24 ชม.
- Infinox ให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้าเป็นอันดับแรก ด้วยทีมงานซัพพอร์ตที่ผ่านการอบรมมาเป็นอย่างดี
- มีทีมงานเจ้าหน้าที่ให้บริการเป็นภาษาไทย คอยช่วยเหลือตลอดเวลาทำการ
- สามารถติดต่อได้หลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์ อีเมล หรือไลฟ์แชท
- พร้อมให้ความช่วยเหลือตั้งแต่กระบวนการเปิดบัญชี ไปจนถึงแก้ไขปัญหาทางเทคนิคต่างๆ
- มีคู่มือและสื่อการเรียนรู้ฟรีมากมาย เพื่อพัฒนาทักษะการเทรดอย่างมืออาชีพ
Infinox ได้รับคะแนนรีวิวในระดับที่ดีมากจากผู้ใช้จริง
- จากผลสำรวจบน Trustpilot Infinox ได้รับคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 4.8/5 จาก 802 รีวิว
- ผู้ใช้ส่วนใหญ่ชื่นชมในเรื่องของแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย การทำธุรกรรมที่รวดเร็ว และบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม
- นอกจากนี้ยังมีคะแนนบน WikiFX ซึ่งเป็นเว็บไซต์จัดอันดับโบรกเกอร์ชั้นนำ โดย Infinox ทำคะแนนได้ในระดับที่ดีเช่นกัน
- อย่างไรก็ตาม ยังมีรีวิวเชิงลบบางส่วน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของความล่าช้าในการถอนเงิน หรือปัญหาที่เกิดจากความเข้าใจผิดของลูกค้าเอง
ข้อดีและข้อเสียของการใช้บริการ Infinox
ข้อดี
- เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องจากหลายหน่วยงานกำกับดูแล
- มีประสบการณ์และชื่อเสียงในตลาดฟอเร็กซ์มายาวนาน
- สเปรดต่ำ เงื่อนไขการเทรดยืดหยุ่น และค่าธรรมเนียมไม่สูงจนเกินไป
- แพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย ทันสมัย และใช้งานง่าย
- ให้บริการฝากถอนหลายช่องทาง รองรับสกุลเงินและธนาคารในไทย
- มีทีมซัพพอร์ตเป็นภาษาไทย พร้อมให้ความช่วยเหลือทุกเรื่อง
ข้อเสีย
- รองรับเฉพาะการเทรด Forex และ CFD เท่านั้น ไม่มีสินทรัพย์ประเภทอื่น
- การกำกับดูแลยังไม่ครอบคลุมสำนักงานทุกแห่งทั่วโลก
- มีข้อจำกัดเรื่องจำนวนเงินถอนขั้นต่ำ $50 หากต่ำกว่านี้จะเสียค่าธรรมเนียม
- ไม่มีตัวเลือกการเทรดแบบ ECN/STP แบบไม่มีสเปรด (Zero Spread)
- ยังมีรีวิวเชิงลบบางส่วนในเรื่องของความล่าช้าในการถอนเงิน
- ไม่เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการเทรดสินทรัพย์อื่นนอกจาก Forex/CFD
สรุป: Infinox เป็นโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือและเหมาะกับนักลงทุนไทยหรือไม่
จากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมา Infinox ถือเป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในระดับสากล ด้วยจุดเด่นในเรื่องของการกำกับดูแลที่ดี แพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย เงื่อนไขการเทรดที่ยืดหยุ่น และการบริการที่เป็นมิตร โดยเฉพาะการมีทีมงานดูแลลูกค้าชาวไทยโดยเฉพาะ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งข้อได้เปรียบสำหรับนักลงทุนไทยที่สนใจจะเทรด Forex และ CFD อย่างไรก็ตาม Infinox อาจยังไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน โดยเฉพาะนักลงทุนที่ต้องการเทรดสินทรัพย์ประเภทอื่น หรือกำลังมองหาโบรกเกอร์แบบ ECN/STP แบบไม่มีสเปรด ดังนั้น ก่อนตัดสินใจสมัคร ควรศึกษาและเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียให้ถี่ถ้วน ทั้งในแง่ของเงื่อนไขการเทรด ความน่าเชื่อถือ และความเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงและเป้าหมายของคุณเอง เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับประสบการณ์การลงทุนที่ดีและคุ้มค่าที่สุดครับ
FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง