Ascending Triangle คืออะไร?
Ascending Triangle เป็นรูปแบบกราฟทางเทคนิคที่มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมที่มีฐานด้านบนเป็นเส้นตรงในแนวนอน โดยมีลักษณะเฉพาะดังนี้:
- ประกอบด้วยเส้นแนวต้านด้านบนที่เป็นแนวนอน และเส้นแนวโน้มด้านล่างที่ลาดขึ้น
- มักถูกมองว่าเป็นรูปแบบที่บ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้น (Bullish Pattern)
- สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในแนวโน้มขาขึ้นที่มีอยู่แล้ว หรือเป็นสัญญาณการกลับตัวหลังจากแนวโน้มขาลง
- บ่งชี้ถึงการสะสมกำลังซื้อก่อนที่ราคาจะทะลุขึ้นไป
ลักษณะสำคัญของ Ascending Triangle
- รูปแบบราคา:
- มีแนวต้านด้านบนที่เป็นเส้นตรงในแนวนอน
- มีแนวรับด้านล่างที่ลาดขึ้นเรื่อยๆ
- ราคามีการเคลื่อนไหวในกรอบที่แคบลงเรื่อยๆ
- ระยะเวลาการเกิดรูปแบบ:
- มักใช้เวลาในการก่อตัวประมาณ 1-3 เดือน
- รูปแบบที่ใช้เวลานานกว่านี้อาจมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
- ปริมาณการซื้อขาย:
- มักจะลดลงเรื่อยๆ ในขณะที่รูปแบบก่อตัว
- ควรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อราคาทะลุออกจากรูปแบบทางด้านบน
- ทิศทาง:
- มักจะทะลุออกทางด้านบน แต่ก็มีโอกาสที่จะทะลุลงได้เช่นกัน (แม้จะพบได้น้อยกว่า)
วิธีใช้ Ascending Triangle ในการวิเคราะห์
- การระบุรูปแบบ:
- สังเกตการเคลื่อนไหวของราคาที่มีแนวต้านด้านบนเป็นเส้นตรง และแนวรับด้านล่างที่ลาดขึ้น
- ลากเส้นแนวต้านด้านบนให้สัมผัสกับจุดสูงสุดของราคา และเส้นแนวโน้มด้านล่างให้สัมผัสกับจุดต่ำสุด
- การยืนยันการทะลุ:
- รอให้ราคาทะลุออกจากแนวต้านด้านบน
- การทะลุควรเกิดขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
- การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย:
- ปริมาณควรลดลงในขณะที่รูปแบบก่อตัว
- ควรเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อราคาทะลุออกจากรูปแบบทางด้านบน
- การคำนวณเป้าหมายราคา:
- วัดความสูงของฐานสามเหลี่ยม (จากจุดต่ำสุดของฐานถึงแนวต้านด้านบน)
- นำระยะดังกล่าวไปวัดต่อจากจุดที่ราคาทะลุออกจากรูปแบบ เพื่อประมาณเป้าหมายราคา
- การใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่น:
- ใช้ร่วมกับตัวบ่งชี้แนวโน้มหรือ oscillators เพื่อยืนยันสัญญาณ
- พิจารณาแนวรับแนวต้านสำคัญประกอบการวิเคราะห์
ข้อควรระวังในการใช้ Ascending Triangle
- การระบุรูปแบบที่ไม่ชัดเจน: บางครั้งอาจสับสนกับรูปแบบอื่น เช่น Symmetrical Triangle หรือ Rectangle
- การทะลุหลอก: ราคาอาจทะลุออกจากรูปแบบแล้วกลับเข้าไปใหม่ ควรรอการยืนยันและใช้ stop loss เสมอ
- การทะลุลง: แม้ Ascending Triangle มักจะทะลุขึ้น แต่ก็มีโอกาสที่จะทะลุลงได้ ควรระมัดระวังและมีแผนรองรับ
- ปัจจัยพื้นฐาน: ควรพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของหลักทรัพย์หรือตลาดประกอบด้วย
- ความผันผวนของตลาด: ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง อาจเกิดสัญญาณหลอกได้ง่าย
การประยุกต์ใช้ในกลยุทธ์การเทรด
- การเข้าซื้อ:
- เข้าซื้อเมื่อราคาทะลุแนวต้านด้านบนขึ้นไปพร้อมปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น
- อาจเข้าซื้อล่วงหน้าเมื่อราคาทดสอบแนวโน้มด้านล่าง (มีความเสี่ยงสูงกว่า)
- การตั้ง Stop Loss:
- อาจตั้ง stop loss ไว้ใต้แนวโน้มด้านล่างของสามเหลี่ยม
- การตั้งเป้าหมายกำไร:
- ใช้การคำนวณเป้าหมายราคาตามที่กล่าวไว้ข้างต้น
- อาจใช้แนวต้านสำคัญถัดไปเป็นเป้าหมาย
- การทำกำไรบางส่วน:
- อาจทยอยปิดสถานะเมื่อราคาเคลื่อนที่ไปถึงเป้าหมายที่คำนวณไว้
- การเทรดระยะกลาง:
- Ascending Triangle มักใช้ในการวิเคราะห์และเทรดในระยะกลาง
ข้อแตกต่างระหว่าง Ascending Triangle และรูปแบบอื่น
- Symmetrical Triangle: ทั้งเส้นบนและล่างเอียงเข้าหากัน ไม่มีเส้นแนวนอน
- Descending Triangle: มีเส้นแนวนอนด้านล่าง และเส้นด้านบนลาดลง (ตรงข้ามกับ Ascending Triangle)
- Rectangle: มีทั้งเส้นบนและล่างเป็นแนวนอน ไม่มีเส้นลาดขึ้น
สรุป
Ascending Triangle เป็นรูปแบบกราฟทางเทคนิคที่มีประโยชน์ในการวิเคราะห์แนวโน้มขาขึ้นและคาดการณ์การทะลุของราคา อย่างไรก็ตาม ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ การจัดการความเสี่ยง และการพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของตลาด เพื่อให้การวิเคราะห์และการตัดสินใจลงทุนมีความแม่นยำมากขึ้น
อ้างอิง
- Murphy, J. J. (1999). Technical Analysis of the Financial Markets. New York Institute of Finance.
- Bulkowski, T. N. (2005). Encyclopedia of Chart Patterns (2nd ed.). John Wiley & Sons.
- StockCharts.com. (n.d.). Ascending Triangle. Retrieved August 10, 2024, from https://school.stockcharts.com/doku.php?id=chart_analysis:chart_patterns:ascending_triangle_continuation
FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง