กราฟแท่งเทียน จุดซื้อขาย มีวิธีดูอย่างไร

IUX Markets Bonus

กราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) เป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่นักเทรดใช้ในการตัดสินใจซื้อขายในตลาดการเงิน ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น ฟอเร็กซ์ หรือคริปโตเคอร์เรนซี กราฟแท่งเทียนให้ข้อมูลที่มีคุณค่าเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาและอารมณ์ของตลาด ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกถึงวิธีการอ่านและวิเคราะห์กราฟแท่งเทียน เพื่อระบุจุดซื้อขายที่มีศักยภาพ

Contents

องค์ประกอบของแท่งเทียน

ก่อนที่เราจะเริ่มวิเคราะห์รูปแบบต่างๆ มาทำความเข้าใจองค์ประกอบพื้นฐานของแท่งเทียนกันก่อน:

รูปแบบกราฟแท่งเทียน
รูปแบบกราฟแท่งเทียน
  1. ตัวเทียน (Real Body): ส่วนหลักของแท่งเทียน แสดงความแตกต่างระหว่างราคาเปิดและราคาปิด
    • สีเขียว/ขาว: ราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด (ขาขึ้น)
    • สีแดง/ดำ: ราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด (ขาลง)
  2. ไส้เทียน (Shadow/Wick): เส้นบางๆ ที่ยื่นออกมาจากตัวเทียน
    • ไส้บน: แสดงราคาสูงสุดของช่วงเวลานั้น
    • ไส้ล่าง: แสดงราคาต่ำสุดของช่วงเวลานั้น

รูปแบบแท่งเทียนพื้นฐาน

การเข้าใจรูปแบบแท่งเทียนพื้นฐานเป็นก้าวแรกในการระบุจุดซื้อขายที่มีศักยภาพ ต่อไปนี้คือรูปแบบที่พบบ่อยและวิธีตีความ:

1. Doji (โดจิ)

Doji เกิดขึ้นเมื่อราคาเปิดและราคาปิดเท่ากันหรือใกล้เคียงกันมาก ทำให้ตัวเทียนมีขนาดเล็กมากหรือแทบไม่มีเลย

  • ความหมาย: แสดงถึงความไม่แน่นอนในตลาด ผู้ซื้อและผู้ขายมีกำลังพอๆ กัน
  • การใช้งาน: มักใช้เป็นสัญญาณเตือนว่าแนวโน้มปัจจุบันอาจกำลังจะเปลี่ยน โดยเฉพาะเมื่อเกิดหลังจากแนวโน้มที่ชัดเจน

2. Hammer และ Hanging Man

รูปแบบนี้มีตัวเทียนเล็กและไส้ล่างยาว (อย่างน้อย 2 เท่าของตัวเทียน)

รูปแบบแท่งเทียน Hammer และ Hanging Man
รูปแบบแท่งเทียน Hammer และ Hanging Man
  • Hammer: เกิดที่จุดต่ำสุดของแนวโน้มขาลง
    • ความหมาย: อาจเป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังจะกลับตัวขึ้น
    • การใช้งาน: พิจารณาเปิดสถานะซื้อเมื่อเห็นการยืนยันในแท่งถัดไป
  • Hanging Man: เกิดที่จุดสูงสุดของแนวโน้มขาขึ้น
    • ความหมาย: อาจเป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังจะกลับตัวลง
    • การใช้งาน: พิจารณาเปิดสถานะขายเมื่อเห็นการยืนยันในแท่งถัดไป

3. Engulfing Pattern

เกิดจากแท่งเทียนสองแท่งที่มีสีตรงข้ามกัน โดยแท่งที่สองมีขนาดใหญ่กว่าและ “กลืน” แท่งแรกทั้งหมด

  • Bullish Engulfing: แท่งเขียว/ขาวกลืนแท่งแดง/ดำ
    • ความหมาย: สัญญาณกลับตัวขาขึ้น
    • การใช้งาน: พิจารณาเปิดสถานะซื้อ
  • Bearish Engulfing: แท่งแดง/ดำกลืนแท่งเขียว/ขาว
    • ความหมาย: สัญญาณกลับตัวขาลง
    • การใช้งาน: พิจารณาเปิดสถานะขาย

4. Morning Star และ Evening Star

HFM Market Promotion

รูปแบบสามแท่งที่บ่งชี้การเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม

Evening Star และ Morning Star
Evening Star และ Morning Star
  • Morning Star:
    • แท่งแรก: แท่งยาวสีแดง/ดำ
    • แท่งกลาง: แท่งเล็ก (สีใดก็ได้) ที่แยกออกจากแท่งแรก
    • แท่งสุดท้าย: แท่งยาวสีเขียว/ขาวที่ปิดสูงกว่ากึ่งกลางของแท่งแรก
    • ความหมาย: สัญญาณกลับตัวขาขึ้น
    • การใช้งาน: พิจารณาเปิดสถานะซื้อ
  • Evening Star:
    • แท่งแรก: แท่งยาวสีเขียว/ขาว
    • แท่งกลาง: แท่งเล็ก (สีใดก็ได้) ที่แยกออกจากแท่งแรก
    • แท่งสุดท้าย: แท่งยาวสีแดง/ดำที่ปิดต่ำกว่ากึ่งกลางของแท่งแรก
    • ความหมาย: สัญญาณกลับตัวขาลง
    • การใช้งาน: พิจารณาเปิดสถานะขาย

การวิเคราะห์แนวโน้มด้วยกราฟแท่งเทียน

นอกจากการดูรูปแบบเฉพาะแล้ว การวิเคราะห์แนวโน้มโดยรวมก็มีความสำคัญในการระบุจุดซื้อขาย:

1. แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend)

  • ลักษณะ: มีการสร้างจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
  • การซื้อขาย: มองหาโอกาสซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาที่แนวรับ

2. แนวโน้มขาลง (Downtrend)

  • ลักษณะ: มีการสร้างจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่ต่ำลงเรื่อยๆ
  • การซื้อขาย: มองหาโอกาสขายเมื่อราคาดีดตัวขึ้นมาที่แนวต้าน

3. แนวโน้มแนวราบ (Sideways)

  • ลักษณะ: ราคาเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ไม่มีทิศทางชัดเจน
  • การซื้อขาย: อาจใช้กลยุทธ์ซื้อที่แนวรับและขายที่แนวต้านของกรอบ

เทคนิคการระบุจุดซื้อขายด้วยกราฟแท่งเทียน

Tweezer Bottom กับ RSI
Tweezer Bottom กับ RSI
  1. การยืนยันรูปแบบ:
    • ไม่ควรเข้าซื้อขายทันทีที่เห็นรูปแบบแท่งเทียน
    • รอดูการยืนยันจากแท่งถัดไปหรือปัจจัยอื่นๆ ประกอบ
  2. การใช้ร่วมกับแนวรับแนวต้าน:
    • รูปแบบกลับตัวที่เกิดใกล้แนวรับหรือแนวต้านสำคัญมีน้ำหนักมากขึ้น
    • เช่น Hammer ที่เกิดบนแนวรับเป็นสัญญาณซื้อที่แข็งแกร่ง
  3. การพิจารณาปริมาณการซื้อขาย:
    • รูปแบบที่เกิดพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่สูงผิดปกติมักมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
    • เช่น Bullish Engulfing ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงบ่งชี้ถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่ง
  4. การใช้ร่วมกับตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอื่นๆ:
    • เช่น ใช้ร่วมกับ RSI (Relative Strength Index) หรือ MACD (Moving Average Convergence Divergence)
    • ตัวอย่าง: Bullish Engulfing ที่เกิดขณะที่ RSI แสดงภาวะขายมากเกินไป (Oversold) เป็นสัญญาณซื้อที่แข็งแกร่ง
  5. การพิจารณากรอบเวลา:
    • รูปแบบที่เกิดในกรอบเวลาที่ยาวกว่า (เช่น รายวัน รายสัปดาห์) มักมีความน่าเชื่อถือมากกว่า
    • แต่การใช้หลายกรอบเวลาประกอบกันจะให้มุมมองที่ครอบคลุมมากขึ้น
  6. การตั้ง Stop Loss และ Take Profit:
    • ใช้จุดต่ำสุดหรือสูงสุดของรูปแบบแท่งเทียนในการกำหนด Stop Loss
    • ใช้แนวต้านหรือแนวรับถัดไปในการกำหนด Take Profit
  7. การพิจารณาบริบทของตลาด:
    • รูปแบบเดียวกันอาจมีความหมายต่างกันในบริบทที่ต่างกัน
    • เช่น Doji ในแนวโน้มขาขึ้นอาจเป็นเพียงการพักตัว แต่ Doji ในแนวโน้มขาลงอาจเป็นสัญญาณกลับตัว

รูปแบบแท่งเทียนขั้นสูง

นอกจากรูปแบบพื้นฐานแล้ว ยังมีรูปแบบขั้นสูงที่นักเทรดมืออาชีพใช้ในการวิเคราะห์:

1. Three White Soldiers

  • ลักษณะ: แท่งเทียนสีเขียว/ขาว 3 แท่งติดต่อกัน แต่ละแท่งเปิดภายในตัวเทียนของแท่งก่อนหน้าและปิดสูงกว่า
  • ความหมาย: สัญญาณแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง
  • การใช้งาน: พิจารณาเปิดสถานะซื้อ โดยเฉพาะเมื่อเกิดหลังจากการปรับฐานหรือในช่วงแนวโน้มขาขึ้น

2. Three Black Crows

  • ลักษณะ: แท่งเทียนสีแดง/ดำ 3 แท่งติดต่อกัน แต่ละแท่งเปิดภายในตัวเทียนของแท่งก่อนหน้าและปิดต่ำกว่า
  • ความหมาย: สัญญาณแนวโน้มขาลงที่แข็งแกร่ง
  • การใช้งาน: พิจารณาเปิดสถานะขาย โดยเฉพาะเมื่อเกิดหลังจากการรีบาวด์หรือในช่วงแนวโน้มขาลง

3. Harami Pattern

  • ลักษณะ: แท่งเทียนขนาดเล็กที่อยู่ภายในตัวเทียนของแท่งก่อนหน้าที่มีขนาดใหญ่กว่า
  • Bullish Harami: แท่งแรกสีแดง/ดำ ตามด้วยแท่งเล็กสีเขียว/ขาว
  • Bearish Harami: แท่งแรกสีเขียว/ขาว ตามด้วยแท่งเล็กสีแดง/ดำ
  • ความหมาย: อาจเป็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม แต่ต้องการการยืนยัน
  • การใช้งาน: ใช้เป็นสัญญาณเตือนให้ระมัดระวังการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม

4. Shooting Star

  • ลักษณะ: แท่งเทียนที่มีไส้บนยาว (อย่างน้อย 2 เท่าของตัวเทียน) และตัวเทียนเล็กอยู่ที่ส่วนล่าง
  • ความหมาย: สัญญาณกลับตัวขาลงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาขึ้น
  • การใช้งาน: พิจารณาเปิดสถานะขายหรือปิดสถานะซื้อ เมื่อเห็นการยืนยันในแท่งถัดไป

5. Tweezer Top และ Tweezer Bottom

Tweezer top และ Tweezers Bottom
Tweezer top และ Tweezers Bottom
  • ลักษณะ:
    • Tweezer Top: สองแท่งเทียนที่มีจุดสูงสุดเท่ากันหรือใกล้เคียงกันมาก เกิดที่จุดสูงสุดของแนวโน้มขาขึ้น
    • Tweezer Bottom: สองแท่งเทียนที่มีจุดต่ำสุดเท่ากันหรือใกล้เคียงกันมาก เกิดที่จุดต่ำสุดของแนวโน้มขาลง
  • ความหมาย: อาจเป็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม
  • การใช้งาน: ใช้เป็นสัญญาณเตือนให้ระมัดระวังการกลับตัวของแนวโน้ม

การประยุกต์ใช้กราฟแท่งเทียนในการเทรด

การใช้กราฟแท่งเทียนในการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพไม่ได้จำกัดอยู่แค่การจดจำรูปแบบต่างๆ แต่ยังรวมถึงการประยุกต์ใช้อย่างชาญฉลาด ต่อไปนี้คือเทคนิคและแนวทางที่จะช่วยให้คุณใช้กราฟแท่งเทียนในการระบุจุดซื้อขายได้ดียิ่งขึ้น:

1. การใช้ร่วมกับการวิเคราะห์แนวโน้ม

  • ใช้กราฟแท่งเทียนในการยืนยันการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มหลัก
  • ตัวอย่าง: หากเห็น Bullish Engulfing ที่แนวรับสำคัญในแนวโน้มขาขึ้นระยะยาว อาจเป็นโอกาสซื้อที่ดี

2. การใช้หลายกรอบเวลา

  • วิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียนในหลายกรอบเวลาเพื่อได้มุมมองที่ครอบคลุม
  • ตัวอย่าง: Hammer ที่เกิดในกราฟรายวันและตรงกับ Bullish Engulfing ในกราฟรายสัปดาห์อาจให้สัญญาณซื้อที่แข็งแกร่ง

3. การใช้ร่วมกับปริมาณการซื้อขาย

  • รูปแบบที่เกิดพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่สูงผิดปกติมักมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
  • ตัวอย่าง: Evening Star ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงในแท่งสุดท้ายอาจเป็นสัญญาณขายที่น่าเชื่อถือ

4. การใช้ร่วมกับตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอื่นๆ

  • ใช้ตัวบ่งชี้เช่น RSI, MACD, หรือ Stochastic เพื่อยืนยันสัญญาณจากแท่งเทียน
  • ตัวอย่าง: Bullish Engulfing ที่เกิดขณะที่ RSI แสดงภาวะขายมากเกินไป (Oversold) เป็นสัญญาณซื้อที่แข็งแกร่ง

5. การจัดการความเสี่ยง

  • ใช้จุดต่ำสุดหรือสูงสุดของรูปแบบแท่งเทียนในการกำหนด Stop Loss
  • ตัวอย่าง: สำหรับ Hammer ให้ตั้ง Stop Loss ไว้ใต้จุดต่ำสุดของไส้ล่าง

6. การตั้งเป้าหมายกำไร

  • ใช้แนวต้านหรือแนวรับถัดไปในการกำหนด Take Profit
  • ใช้อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk-Reward Ratio) ที่เหมาะสม เช่น 1:2 หรือ 1:3

7. การพิจารณาบริบทของตลาด

  • คำนึงถึงปัจจัยพื้นฐานและเหตุการณ์สำคัญที่อาจส่งผลต่อตลาด
  • ตัวอย่าง: รูปแบบกลับตัวที่เกิดก่อนการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญอาจไม่น่าเชื่อถือเท่ากับปกติ

ข้อควรระวังในการใช้กราฟแท่งเทียน

แม้ว่ากราฟแท่งเทียนจะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ แต่ก็มีข้อจำกัดที่นักเทรดควรตระหนัก:

ข้อควรระวังในการใช้กราฟแท่งเทียน
ข้อควรระวังในการใช้กราฟแท่งเทียน
  1. ไม่มีรูปแบบใดที่แม่นยำ 100%: แม้จะเห็นรูปแบบที่สมบูรณ์แบบ ก็ไม่ได้หมายความว่าการเคลื่อนไหวของราคาจะเป็นไปตามที่คาดการณ์เสมอไป
  2. ความสำคัญของการยืนยัน: ควรรอการยืนยันจากแท่งถัดไปหรือปัจจัยอื่นๆ ก่อนตัดสินใจเข้าเทรด
  3. ผลกระทบของ Gap: ช่องว่างระหว่างราคาเปิดและปิดของวันก่อนหน้าอาจส่งผลต่อการตีความรูปแบบแท่งเทียน
  4. ความแตกต่างระหว่างตลาด: รูปแบบแท่งเทียนอาจมีความน่าเชื่อถือต่างกันในตลาดที่ต่างกัน (เช่น หุ้น vs ฟอเร็กซ์)
  5. ความเสี่ยงของการ Overtrading: การเห็นรูปแบบแท่งเทียนทุกครั้งไม่ได้หมายความว่าควรเข้าเทรดทุกครั้ง
  6. ความสำคัญของการจัดการความเสี่ยง: ไม่ว่ารูปแบบจะดูน่าเชื่อถือเพียงใด การใช้ Stop Loss และการจัดการขนาดการเทรดยังคงมีความสำคัญ

สรุป

กราฟแท่งเทียนเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการวิเคราะห์ตลาดและระบุจุดซื้อขายที่มีศักยภาพ การเข้าใจรูปแบบต่างๆ และวิธีการตีความสามารถช่วยให้นักเทรดตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องใช้กราฟแท่งเทียนร่วมกับเครื่องมือและเทคนิคการวิเคราะห์อื่นๆ รวมถึงการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม

การฝึกฝนและประสบการณ์เป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาทักษะการอ่านกราฟแท่งเทียน นักเทรดควรทดลองใช้ความรู้นี้ในบัญชีทดลอง (Demo Account) ก่อนที่จะนำไปใช้กับเงินจริง และควรพัฒนากลยุทธ์การเทรดของตนเองที่ผสมผสานการวิเคราะห์กราฟแท่งเทียนกับปัจจัยอื่นๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในตลาดการเงิน

ท้ายที่สุด การเทรดที่ประสบความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับการใช้เครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่งเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการผสมผสานระหว่างการวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน และการจัดการจิตวิทยาการเทรดที่ดี

FOREXDUCK Logo

FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง

HFM Promotion