HFM ดีไหม? รีวิวข้อดีข้อเสีย 2025 Pantip จากประสบการณ์จริง

📑 สารบัญ

• สรุปสั้นๆ เกี่ยวกับ HFM
• HFM คืออะไร?
• HFM เชื่อถือได้ไหม? โกงหรือไม่?
• ความน่าเชื่อถือและใบอนุญาต
• ข้อดีของโบรกเกอร์ HFM
• ข้อเสียของโบรกเกอร์ HFM
• ประเภทบัญชีของ HFM
• ค่าธรรมเนียม สเปรด และสว็อป
• แพลตฟอร์มการเทรด
• โบนัสและโปรโมชั่น
• การฝาก-ถอนเงิน
• ประสบการณ์จริงจากผู้ใช้งาน Pantip
• HFM vs คู่แข่งอื่นๆ
• คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
• สรุป: HFM ดีไหม? ควรใช้หรือไม่?

สรุปสั้นๆ เกี่ยวกับ HFM

คุณสมบัติ	รายละเอียด
ความน่าเชื่อถือ	สูง (มีใบอนุญาต FCA อังกฤษ)
ค่า Spread EURUSD	เริ่มต้นที่ 1.7 pips (ค่อนข้างสูง)
ค่า Swap	ไม่มีในบางสินทรัพย์
เลเวอเรจสูงสุด	1:2000
ฝากขั้นต่ำ	200 บาท
ถอนขั้นต่ำ	5 USD (ประมาณ 180 บาท)
สินทรัพย์ที่เทรดได้	Forex, Crypto, หุ้น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, ETF, พันธบัตร
แพลตฟอร์ม	MT4, MT5, แอป HFM
รองรับภาษาไทย	✅
ให้บริการในไทย	✅
ปีที่ก่อตั้ง	2010 (เดิมชื่อ HotForex)

HFM คืออะไร?

HFM (หรือชื่อเดิม HotForex) เป็นโบรกเกอร์ Forex และ CFD ระดับโลกที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ไซปรัส โบรกเกอร์นี้ให้บริการเทรดสินทรัพย์หลากหลายประเภท ทั้ง Forex, คริปโตเคอร์เรนซี, หุ้น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, ETF และพันธบัตร

ปัจจุบัน HFM เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่เทรดเดอร์ชาวไทย และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีจุดเด่นที่ความน่าเชื่อถือสูงจากการได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลชั้นนำอย่าง FCA ของอังกฤษ

HFM เชื่อถือได้ไหม? โกงหรือไม่?

จากประสบการณ์ผู้ใช้งานหลายรายบน Pantip และแหล่งข้อมูลออนไลน์อื่นๆ พบว่า HFM มีความน่าเชื่อถือในระดับสูง ไม่มีประวัติการโกงลูกค้าอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม มีผู้ใช้บางรายบน Pantip รายงานปัญหาเรื่อง Margin ที่กระโดดขึ้นแบบกะทันหันขณะเทรด ซึ่งทำให้เกิดคำถามเรื่องความโปร่งใสในบางกรณี

อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก HFM อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานที่เข้มงวดอย่าง FCA จากประเทศอังกฤษ จึงมีกรอบการดำเนินงานที่ต้องโปร่งใสและปกป้องผลประโยชน์ของลูกค้า

ความน่าเชื่อถือและใบอนุญาต

HFM ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานทางการเงินชั้นนำหลายแห่ง ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับโบรกเกอร์นี้:

1. Financial Conduct Authority (FCA) จากสหราชอาณาจักร – เลขที่ใบอนุญาต 801701
   • ถือเป็นใบอนุญาตระดับ 1 (น่าเชื่อถือสูงมาก)
   • จดทะเบียนในชื่อ HF Markets (UK) Limited
2. Cyprus Securities & Exchange Commission (CySEC) จากไซปรัส – เลขที่ใบอนุญาต 183/12
   • ถือเป็นใบอนุญาตระดับ 2 (น่าเชื่อถือปานกลาง)
   • จดทะเบียนในชื่อ HF Markets (Europe) Ltd
3. Dubai Financial Services Authority (DFSA) จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ – เลขที่ใบอนุญาต F004885
   • ถือเป็นใบอนุญาตระดับ 2 (น่าเชื่อถือปานกลาง)
4. Financial Sector Conduct Authority (FSCA) จากแอฟริกาใต้ – เลขที่ใบอนุญาต 46632
   • ถือเป็นใบอนุญาตระดับ 2 (น่าเชื่อถือปานกลาง)
5. ใบอนุญาตอื่นๆ จากประเทศเซเชลส์ และเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์
   • ถือเป็นใบอนุญาตระดับ 3 (น่าเชื่อถือระดับพื้นฐาน)

การมีใบอนุญาตจาก FCA ของอังกฤษถือเป็นจุดแข็งสำคัญ เนื่องจากเป็นหน่วยงานกำกับดูแลที่มีความเข้มงวดและมีมาตรฐานสูง ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่าเงินของพวกเขาจะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย และโบรกเกอร์ต้องดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส

ข้อดีของโบรกเกอร์ HFM

จากการรวบรวมข้อมูลและความคิดเห็นของผู้ใช้งานบน Pantip พบว่า HFM มีข้อดีหลายประการ:

1. ความน่าเชื่อถือสูง – ได้รับการกำกับดูแลโดย FCA อังกฤษและหน่วยงานชั้นนำอื่นๆ
2. ไม่มีค่า Swap ในหลายคู่เงิน – เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ชอบถือครองตำแหน่งระยะยาว โดยเฉพาะคู่เงินหลักและทองคำ ซึ่งไม่มีค่า Swap
3. เลเวอเรจสูง – ให้เลเวอเรจสูงสุดถึง 1:2000 ซึ่งมากกว่าโบรกเกอร์หลายราย
4. รองรับภาษาไทย – มีเว็บไซต์และซัพพอร์ตภาษาไทย ทำให้สะดวกสำหรับคนไทย
5. ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝากและถอนเงิน – ช่วยลดต้นทุนการเทรด
6. ฝากถอนเร็ว – ระบบฝากถอนรวดเร็ว โดยฝากเงินเข้าทันทีและถอนเงินส่วนใหญ่ใช้เวลาไม่เกิน 2 วันทำการ
7. รองรับระบบธนาคารไทย – สามารถฝากถอนผ่านธนาคารในประเทศไทยได้โดยตรง
8. มีบัญชีทดลอง (Demo Account) – ให้ผู้ใช้ทดลองเทรดก่อนใช้เงินจริง
9. มีสินทรัพย์ให้เทรดหลากหลาย – เทรดได้ทั้ง Forex, คริปโต, หุ้น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์
10. โบนัสและโปรโมชั่นจำนวนมาก – มีโบนัสเงินฝากและโปรโมชั่นที่น่าสนใจ

ข้อเสียของโบรกเกอร์ HFM

แม้ HFM จะมีจุดเด่นหลายประการ แต่ก็มีข้อเสียที่ควรพิจารณา

1. ค่า Spread สูง – สเปรดเริ่มต้นสำหรับ EURUSD อยู่ที่ประมาณ 1.7 pips ซึ่งถือว่าสูงเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ เช่น Exness หรือ XM
2. ปัญหาเรื่อง Margin – มีผู้ใช้บางรายบน Pantip รายงานปัญหา Margin กระโดดขึ้นกะทันหัน ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการเทรด
3. ระบบซัพพอร์ตในเวลาฉุกเฉิน – บางครั้งอาจตอบช้าในช่วงที่ตลาดผันผวนสูง
4. เงื่อนไขโบนัสที่ซับซ้อน – โบนัสหลายรายการมีข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ยุ่งยาก ต้องทำความเข้าใจให้ดี
5. การถอนเงินล่าช้าในบางกรณี – มีรายงานจากผู้ใช้บางรายว่าการถอนเงินอาจใช้เวลานานกว่าที่แจ้งไว้

ประเภทบัญชีของ HFM

HFM เสนอบัญชีเทรดหลายประเภทเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของนักลงทุน

1. บัญชี CENT

• เหมาะสำหรับผู้มีทุนน้อยหรือมือใหม่
• ใช้หน่วยเงิน Cent ในการเทรด (เช่น ฝาก $20 = 2,000 USC)
• ไม่มียอดฝากขั้นต่ำ
• สเปรดเริ่มต้นที่ 1.2 pips
• ไม่มีค่าคอมมิชชัน
• เลเวอเรจสูงสุด 1:2000

2. บัญชี PREMIUM

• บัญชีมาตรฐานสำหรับนักลงทุนทั่วไป
• ไม่มียอดฝากขั้นต่ำ
• สเปรดเริ่มต้นที่ 1.2 pips
• ไม่มีค่าคอมมิชชัน
• เลเวอเรจสูงสุด 1:2000
• รองรับทุกแพลตฟอร์ม: MT4, MT5, แอป HFM

3. บัญชี PRO

• เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพ
• ยอดฝากขั้นต่ำ 3,300 บาท
• สเปรดเริ่มต้นที่ 0.5 pips (ต่ำกว่า PREMIUM)
• ไม่มีค่าคอมมิชชัน
• เลเวอเรจสูงสุด 1:2000

4. บัญชี ZERO

• สเปรดต่ำที่สุด (เริ่มที่ 0 pips)
• มีค่าคอมมิชชัน ($6 ต่อ Lot สำหรับ Forex, $14 ต่อ Lot สำหรับทองคำ)
• ไม่มียอดฝากขั้นต่ำ
• เลเวอเรจสูงสุด 1:2000

5. บัญชี TOP-UP BONUS

• ได้รับโบนัสทุกครั้งที่ฝากเงิน
• โบนัส 100% สำหรับการฝากครั้งแรก
• โบนัส 50% สำหรับการฝากครั้งถัดไป
• สเปรดเริ่มต้นที่ 1.4 pips
• เลเวอเรจสูงสุด 1:1000

ค่าธรรมเนียม สเปรด และสว็อป

ค่า Spread

• EURUSD: เฉลี่ย 1.7 pips (ค่อนข้างสูง)
• USDJPY: เฉลี่ย 2.4 pips
• GBPUSD: เฉลี่ย 2.0 pips
• ทองคำ (XAUUSD): เฉลี่ย $3.4 ต่อออนซ์
• Bitcoin (BTCUSD): ประมาณ 0.06% ของราคา Bitcoin

ค่า Swap

HFM ไม่มีค่า Swap ในสินทรัพย์หลายรายการ ซึ่งเป็นจุดเด่นสำคัญ ได้แก่:

• คู่เงินหลัก: EURUSD, GBPUSD, USDJPY, AUDUSD, USDCAD, USDCHF
• ทองคำ: XAUUSD
• น้ำมัน: USOIL, UKOIL

ค่าคอมมิชชัน

• บัญชี ZERO: $6 ต่อ Lot สำหรับ Forex, $14 ต่อ Lot สำหรับทองคำ
• บัญชีอื่นๆ: ไม่มีค่าคอมมิชชัน (รายได้ของโบรกเกอร์มาจากค่า Spread)

ค่าธรรมเนียมฝาก-ถอน

• ฝากเงิน: ไม่มีค่าธรรมเนียม
• ถอนเงิน: ไม่มีค่าธรรมเนียม (แต่อาจมีค่าธรรมเนียมจากธนาคารหรือช่องทางการชำระเงิน)

แพลตฟอร์มการเทรด

HFM มีแพลตฟอร์มการเทรดให้เลือกใช้หลายรูปแบบ:

1. MetaTrader 4 (MT4)

• แพลตฟอร์มยอดนิยมที่ใช้กันทั่วโลก
• อินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่
• รองรับ EA (Expert Advisors) สำหรับการเทรดอัตโนมัติ
• มีให้ใช้งานทั้งบน Windows, Mac, iOS และ Android

2. MetaTrader 5 (MT5)

• รุ่นที่พัฒนาต่อจาก MT4 มีฟีเจอร์มากกว่า
• มี Timeframes มากถึง 21 รูปแบบ (เทียบกับ 9 ใน MT4)
• มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคมากกว่า
• ประมวลผลเร็วกว่าด้วยระบบ 64 บิต

3. แอป HFM

• แอปพลิเคชันเฉพาะของ HFM
• ล็อกอินครั้งเดียวสามารถสลับไปเทรดได้ทุกบัญชี MT5
• ฝากถอนเงินผ่านแอปได้โดยตรง
• มีเครื่องมือวิเคราะห์กราฟและข่าวตลาดในตัว
• ดาวน์โหลดได้ทั้งบน iOS และ Android

โบนัสและโปรโมชั่น

HFM มีโบนัสและโปรโมชั่นที่น่าสนใจหลายรายการ:

1. โบนัสเงินฝาก 100% – สำหรับการฝากครั้งแรก สูงสุด 3,600 บาท
2. โบนัสเงินฝาก 20% – สำหรับการฝากครั้งถัดไป ไม่จำกัดจำนวนครั้ง รวมสูงสุด 180,000 บาท
3. ผลตอบแทนจากมาร์จินคงเหลือ – สูงสุด 3% ต่อปี
4. Loyalty Program – สะสมแต้ม HFM Bars เพื่อแลกรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ
5. การแข่งขันเทรด – TRADERS AWARDS (บัญชีจริง) และ DEMO CONTEST (บัญชีทดลอง) มีเงินรางวัลรวมมากกว่า $5,500 ทุกเดือน

อย่างไรก็ตาม ควรอ่านเงื่อนไขโปรโมชั่นให้ละเอียด เนื่องจากบางโปรโมชั่นอาจมีข้อกำหนดในการเทรดก่อนถอนโบนัส

การฝาก-ถอนเงิน

วิธีการฝากเงิน

HFM มีช่องทางฝากเงินหลากหลาย:

• QR Code (รองรับทุกธนาคารในไทย)
• โอนเงินผ่านธนาคาร (Wire Transfer)
• บัตรเครดิต/เดบิต (VISA)
• FasaPay, Neteller, Skrill
• คริปโตเคอร์เรนซี (Bitcoin, Ethereum, USDT เป็นต้น)

วิธีการถอนเงิน

• ธนาคารในประเทศไทย (รองรับทุกธนาคาร)
• Wire Transfer
• FasaPay, Neteller, Skrill
• WebMoney
• Bitpay (คริปโตเคอร์เรนซี)

ระยะเวลาการฝาก-ถอน

• ฝากเงิน: เงินเข้าบัญชีทันทีหลังชำระเงิน
• ถอนเงิน: โดยปกติใช้เวลา 1-2 วันทำการ ในบางกรณีอาจเร็วถึง 5-15 นาทีหลังยื่นคำขอ

ยอดขั้นต่ำในการฝาก-ถอน

• ฝากขั้นต่ำ: 200 บาท
• ถอนขั้นต่ำ: 5 USD (ประมาณ 180 บาท)

ประสบการณ์จริงจากผู้ใช้งาน Pantip

การรวบรวมความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริงบน Pantip พบทั้งข้อดีและข้อควรระวัง:

ความคิดเห็นเชิงบวก

1. การฝาก-ถอนรวดเร็ว – หลายคนชื่นชมความสะดวกรวดเร็วในการฝากถอนเงิน
2. ความน่าเชื่อถือ – ใบอนุญาต FCA ทำให้ผู้ใช้รู้สึกปลอดภัย
3. ไม่มีค่า Swap – เทรดเดอร์ที่ชอบถือครองตำแหน่งระยะยาวชื่นชอบคุณสมบัตินี้

“ถูกกำกับดูแลโดยหน่วยงาน FCA (ก.ล.ต ของประเทศอังกฤษ) ถือว่าน่าเชื่อถือสูงเลย” – สมาชิกหมายเลข 8265034, Pantip

ความคิดเห็นเชิงลบ

1. ค่า Spread สูง – หลายคนเห็นว่าค่า Spread ของ HFM สูงกว่าคู่แข่ง
2. ปัญหา Margin – มีผู้ใช้รายงานปัญหา Margin กระโดดขึ้นแบบไม่คาดคิด

“หลอกลวง เวลาคุณเทรด ระวังนะคะ ว่า Margin ขณะ spread กระโดดขึ้นแบบไม่รู้ตัว เจอมาหลายรอบแล้วค่ะ” – สมาชิกหมายเลข 8674073, Pantip

การตอบสนองจาก HFM

HFM มีทีมซัพพอร์ตที่ตอบสนองต่อข้อกังวลของลูกค้าบน Pantip:

“ขอขอบคุณสำหรับความสนใจในบริการของเรา เราผลักดันการให้บริการที่ดีมากขึ้น หากคุณต้องการสอบถามเพิ่มเติม หรือต้องการความช่วยเหลือ โปรดติดต่อเราได้ตลอดเวลา” – ทีมงาน HFM, Pantip

HFM vs คู่แข่งอื่นๆ

เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งหลักในตลาดไทย:

HFM vs XM

• ค่า Spread: XM มีค่า Spread ต่ำกว่า (XM ประมาณ 1.1 pips vs HFM 1.7 pips สำหรับ EURUSD)
• ค่า Swap: HFM เหนือกว่าเพราะไม่มีค่า Swap ในหลายคู่เงิน
• โบนัส: ทั้งสองมีโบนัสที่ดี แต่ XM มีโบนัสที่เข้าใจง่ายกว่า
• ความน่าเชื่อถือ: ทั้งสองมีใบอนุญาต FCA แต่ XM มีประวัติยาวนานกว่า
• การฝาก-ถอน: ทั้งคู่รวดเร็วพอๆ กัน

HFM vs Exness

• ค่า Spread: Exness มีค่า Spread ต่ำกว่ามาก (Exness เริ่มต้นที่ 0.3 pips)
• เลเวอเรจ: HFM ให้เลเวอเรจสูงกว่า (1:2000 vs 1:1000 ของ Exness)
• ค่า Swap: HFM ไม่มีค่า Swap ในหลายคู่เงิน ขณะที่ Exness มีค่า Swap แทบทุกคู่
• การฝาก-ถอน: Exness มีระบบอัตโนมัติที่รวดเร็วกว่า (ถอนได้ทันที)
• ความน่าเชื่อถือ: ทั้งสองน่าเชื่อถือ แต่ Exness ได้รับความนิยมในไทยมากกว่า

HFM vs IUX

• ค่า Spread: ทั้งคู่มีค่า Spread ใกล้เคียงกัน
• ใบอนุญาต: HFM มีใบอนุญาตที่น่าเชื่อถือมากกว่า (FCA)
• ค่า Swap: HFM ไม่มีค่า Swap ในหลายคู่เงิน ในขณะที่ IUX มีค่า Swap ทุกคู่
• โบนัส: HFM มีโบนัสและโปรโมชั่นที่ดีกว่า

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. HFM ดีไหม? น่าเชื่อถือหรือไม่?

HFM มีความน่าเชื่อถือสูง โดยได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำอย่าง FCA ของอังกฤษ ก่อตั้งมานานกว่า 10 ปี และไม่มีประวัติการโกงลูกค้าอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังเรื่องค่า Spread ที่ค่อนข้างสูงและปัญหา Margin ที่บางคนเคยประสบ

2. HFM มีค่า Swap หรือไม่?

HFM ไม่มีค่า Swap ในหลายคู่เงินหลัก รวมถึงทองคำและน้ำมัน ซึ่งเป็นจุดเด่นสำหรับผู้ที่ชอบถือครองตำแหน่งระยะยาว แต่สินทรัพย์อื่นๆ ยังคงมีค่า Swap ตามปกติ

3. HFM ถอนเงินยากไหม?

โดยปกติการถอนเงินจาก HFM ไม่ยาก และใช้เวลาประมาณ 1-2 วันทำการ อย่างไรก็ตาม มีผู้ใช้บางรายรายงานว่าบางครั้งอาจมีความล่าช้า โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดผันผวนหรือมีปริมาณการถอนเงินสูง

4. HFM เหมาะกับมือใหม่หรือไม่?

HFM มีบัญชี CENT ที่เหมาะสำหรับมือใหม่เพราะใช้เงินลงทุนน้อย และมีบัญชีทดลอง (Demo) ให้ฝึกฝนก่อนเทรดจริง แต่ค่า Spread ที่ค่อนข้างสูงอาจทำให้ต้นทุนการเทรดสูงกว่าโบรกเกอร์อื่น

5. การฝากเงินขั้นต่ำของ HFM คือเท่าไหร่?

ฝากเงินขั้นต่ำอยู่ที่ 200 บาท สำหรับบัญชีส่วนใหญ่ ยกเว้นบัญชี PRO ที่ต้องฝากขั้นต่ำ 3,300 บาท

6. HFM มีบัญชีประเภทใดบ้าง?

HFM มีบัญชี 5 ประเภท: CENT (สำหรับทุนน้อย), PREMIUM (มาตรฐาน), PRO (สเปรดต่ำกว่า), ZERO (สเปรดต่ำสุดแต่มีค่าคอมมิชชัน) และ TOP-UP BONUS (ได้โบนัสทุกครั้งที่ฝาก)

7. จะติดต่อ Support ของ HFM ได้อย่างไร?

สามารถติดต่อ HFM ได้ทาง:

• โทรศัพท์: 025060095 (เบอร์ไทย)
• อีเมล: supportth@hfm.com
• แชทสด: ผ่านเว็บไซต์ของ HFM
• สำนักงานใหญ่: Spyrou Kyprianou 50, Irida 3 Tower 7th Floor, Larnaca 6057, Cyprus

8. HFM เปลี่ยนชื่อจาก HotForex ตั้งแต่เมื่อไหร่?

HFM เปลี่ยนชื่อจาก HotForex ในช่วงปี 2022 เพื่อสะท้อนถึงการขยายบริการที่มากกว่าการเทรด Forex เพียงอย่างเดียว

9. ผู้ใช้บน Pantip พูดถึง HFM อย่างไรบ้าง?

ความคิดเห็นบน Pantip มีทั้งด้านบวกและลบ ด้านบวกมักกล่าวถึงความน่าเชื่อถือ การไม่มีค่า Swap และระบบฝากถอนที่สะดวก ด้านลบมักพูดถึงค่า Spread ที่สูงและปัญหาเรื่อง Margin ที่กระโดดขึ้นในบางกรณี

10. HFM รองรับการเทรดผ่านมือถือหรือไม่?

HFM รองรับการเทรดผ่านมือถือทั้งระบบ iOS และ Android ผ่านแอป HFM โดยเฉพาะ รวมถึงแอป MT4 และ MT5

สรุป: HFM ดีไหม? ควรใช้หรือไม่?

HFM เป็นโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือสูง ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำอย่าง FCA ของอังกฤษ มีจุดเด่นสำคัญคือไม่มีค่า Swap ในหลายคู่เงินหลัก ให้เลเวอเรจสูงถึง 1:2000 และมีแพลตฟอร์มที่หลากหลาย

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนใจควรคำนึงถึงค่า Spread ที่ค่อนข้างสูงซึ่งอาจเพิ่มต้นทุนการเทรด และควรระวังปัญหาเรื่อง Margin ที่มีผู้ใช้บางรายรายงาน

เหมาะสำหรับใคร?

• นักลงทุนระยะยาว ที่ต้องการถือครองตำแหน่งโดยไม่เสียค่า Swap
• ผู้ที่ต้องการความน่าเชื่อถือสูง จากการกำกับดูแลโดย FCA
• ผู้ที่ต้องการเลเวอเรจสูง เพื่อเพิ่มกำลังซื้อ
• ผู้ที่สนใจโบนัสและโปรโมชั่น เนื่องจาก HFM มีโปรโมชั่นเยอะ

ไม่เหมาะสำหรับใคร?

• เทรดเดอร์ Scalping หรือผู้ที่เทรดถี่ เนื่องจากค่า Spread สูงอาจทำให้กำไรลดลง
• ผู้ที่มีเงินทุนน้อยและต้องการต้นทุนต่ำที่สุด ควรพิจารณาโบรกเกอร์ที่มีค่า Spread ต่ำกว่า เช่น Exness
• ผู้ที่ต้องการถอนเงินทันที อาจพิจารณาโบรกเกอร์ที่มีระบบถอนเงินอัตโนมัติ

โดยสรุป HFM เป็นโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือและมีจุดเด่นหลายประการ แต่ทุกคนควรพิจารณาข้อดีข้อเสียให้สอดคล้องกับรูปแบบการเทรดของตนเอง และอาจทดลองใช้บัญชี Demo ก่อนตัดสินใจใช้เงินจริง

---

คำเตือนความเสี่ยง: การเทรด Forex และ CFD มีความเสี่ยงสูง อาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ ควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้านและเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

---

อัพเดทล่าสุด: เมษายน 2025