TradingView เป็นแพลตฟอร์มการดูกราฟที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก มีผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคนทั่วโลก แต่คำถามที่หลายคนสงสัยคือ TradingView ซื้อขายได้ไหม? บทความนี้จะอธิบายทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการซื้อขายบน TradingView อย่างละเอียด
สารบัญ
- TradingView ซื้อขายได้หรือไม่?
- โบรกเกอร์ที่รองรับการเชื่อมต่อกับ TradingView
- วิธีเชื่อมต่อโบรกเกอร์กับ TradingView
- วิธีซื้อขายบน TradingView
- ข้อดีของการซื้อขายผ่าน TradingView
- ข้อจำกัดของการซื้อขายผ่าน TradingView
- แพ็คเกจ TradingView และการซื้อขาย
- คำถามที่พบบ่อย
- สรุป
TradingView ซื้อขายได้หรือไม่?
คำตอบคือ “ได้” – TradingView สามารถใช้เพื่อส่งคำสั่งซื้อขายได้โดยตรง แต่มีเงื่อนไขสำคัญที่ต้องทราบ:
- ต้องเชื่อมต่อกับโบรกเกอร์ที่รองรับ – TradingView ไม่ใช่โบรกเกอร์โดยตรง แต่เป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์ที่เชื่อมต่อกับโบรกเกอร์พันธมิตรได้
- โบรกเกอร์ทั้งหมดไม่ได้รองรับ – มีเพียงโบรกเกอร์บางรายที่มีการเชื่อมต่อกับ TradingView
- รองรับหลายตลาด – สามารถซื้อขายได้ทั้งหุ้น, ฟอเร็กซ์, คริปโตเคอเรนซี, สัญญาซื้อขายล่วงหน้า และอื่นๆ ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ที่เชื่อมต่อ
ด้วยแพลตฟอร์ม TradingView คุณสามารถวิเคราะห์ตลาดและส่งคำสั่งซื้อขายได้จากหน้าจอเดียว ไม่ต้องสลับไปมาระหว่างแพลตฟอร์มวิเคราะห์และแพลตฟอร์มเทรด ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดอย่างมาก
โบรกเกอร์ที่รองรับการเชื่อมต่อกับ TradingView
ปัจจุบัน (อัปเดต 2025) TradingView รองรับการเชื่อมต่อกับโบรกเกอร์ชั้นนำหลายราย ได้แก่:
โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD
- Eightcap – โบรกเกอร์ที่ให้บริการซื้อขาย Forex, CFD, สินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโตเคอเรนซี
- FXCM – โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD ชั้นนำ
- Forex.com – ให้บริการซื้อขาย Forex และ CFD
- Oanda – โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD ระดับโลก
- Currency.com – แพลตฟอร์มซื้อขาย CFD และคริปโตเคอเรนซี
- Pepperstone – โบรกเกอร์ซื้อขาย Forex และ CFD
โบรกเกอร์หุ้นและฟิวเจอร์
- Interactive Brokers – โบรกเกอร์ระดับโลกที่ให้บริการหุ้น, ETF, ฟิวเจอร์ส, และอื่นๆ
- TradeStation – แพลตฟอร์มซื้อขายที่ครอบคลุมหุ้น, ETF, ฟิวเจอร์ส และอื่นๆ
- AMP Futures – โบรกเกอร์ที่เชี่ยวชาญด้านการซื้อขายฟิวเจอร์ส
- Saxo Bank – โบรกเกอร์สำหรับหุ้น, ฟอเร็กซ์, และอื่นๆ
โบรกเกอร์คริปโตเคอเรนซี
- Gemini – แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอเรนซี
- FTX – แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอเรนซี
โบรกเกอร์ไทย
- InnovestX – โบรกเกอร์ที่ให้บริการซื้อขายหุ้นไทย พร้อมข้อมูลราคาแบบเรียลไทม์
รายชื่อโบรกเกอร์ที่รองรับอาจมีการเปลี่ยนแปลง ควรตรวจสอบรายชื่อล่าสุดที่ หน้าโบรกเกอร์ของ TradingView
วิธีเชื่อมต่อโบรกเกอร์กับ TradingView
การเชื่อมต่อบัญชีโบรกเกอร์กับ TradingView ทำได้ไม่ยาก โดยมีขั้นตอนดังนี้:
- เตรียมบัญชีโบรกเกอร์ที่รองรับ TradingView
- ต้องมีบัญชีกับโบรกเกอร์ที่รองรับการเชื่อมต่อกับ TradingView
- บางโบรกเกอร์ต้องเปิดบัญชีเฉพาะสำหรับ TradingView หรือต้องขอเปิดบัญชีเพิ่ม
- เข้าสู่ TradingView และเชื่อมต่อโบรกเกอร์
- เข้าสู่ระบบบัญชี TradingView
- คลิกที่ “Charts” ในเมนู “Products”
- เปิดกราฟของเครื่องมือทางการเงินที่ต้องการเทรด
- คลิกที่แท็บ “Trading Panel” ที่ด้านล่างของหน้าจอ
- เลือกโบรกเกอร์ที่ต้องการเชื่อมต่อจากรายชื่อ
- กรอกข้อมูลล็อกอินของบัญชีโบรกเกอร์
- ยืนยันและลงนามในข้อตกลง (ถ้ามี)
- เลือกโหมดการซื้อขาย
- สามารถเลือกระหว่าง “Live Trading” (เทรดด้วยเงินจริง) หรือ “Paper Trading” (จำลองการเทรด)
- การซื้อขายจำลองช่วยให้คุณฝึกซ้อมการเทรดโดยไม่ต้องเสี่ยงกับเงินจริง
ตัวอย่างการเชื่อมต่อบัญชี Eightcap กับ TradingView
Eightcap เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ยอดนิยมที่รองรับการเชื่อมต่อกับ TradingView มีขั้นตอนดังนี้:
- เตรียมบัญชี Eightcap สำหรับ TradingView
- เปิดบัญชีใหม่: เลือก TradingView เป็นแพลตฟอร์มในระหว่างขั้นตอนการสมัคร หรือ
- ร้องขอบัญชีเพิ่ม: หากมีบัญชีกับ Eightcap อยู่แล้ว สามารถร้องขอบัญชีเพิ่มที่รองรับ TradingView ได้
- หรือใช้บัญชี MT5 Standard ที่มีอยู่: สามารถใช้ username และ password เดิมในการเชื่อมต่อกับ TradingView ได้
- เชื่อมต่อบัญชี Eightcap กับ TradingView
- เข้าสู่ระบบ TradingView
- เปิดกราฟและคลิกที่ “Trading Panel”
- ค้นหาและคลิกที่ไอคอน “Eightcap”
- กรอกข้อมูลล็อกอิน: อีเมลและรหัสผ่านที่ได้รับจาก Eightcap (case-sensitive)
- คลิก “Connect” หรือ “เชื่อมต่อ”
- เริ่มต้นซื้อขาย
- เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จ คุณจะเห็นข้อมูลบัญชี Eightcap บน Trading Panel
- คุณสามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้โดยตรงจากกราฟ TradingView
วิธีซื้อขายบน TradingView
เมื่อเชื่อมต่อบัญชีโบรกเกอร์กับ TradingView แล้ว คุณสามารถเริ่มซื้อขายได้ทันที ดังนี้:
1. การใช้ Trading Panel
Trading Panel เป็นเครื่องมือหลักในการส่งคำสั่งซื้อขายบน TradingView:
- เปิด Trading Panel: คลิกที่แท็บ “Trading Panel” ด้านล่างของกราฟ
- เลือกโบรกเกอร์: หากเชื่อมต่อกับหลายโบรกเกอร์ ให้เลือกโบรกเกอร์ที่ต้องการใช้
- เลือกเครื่องมือทางการเงิน: เลือกสัญลักษณ์ (Symbol) ที่ต้องการซื้อขาย
- เลือกประเภทคำสั่ง: Market, Limit, Stop, Stop-Limit ฯลฯ
- กำหนดปริมาณ: ระบุจำนวนหรือขนาดของคำสั่งซื้อขาย
- ตั้งค่า Stop Loss/Take Profit: (ตัวเลือก) กำหนดระดับ Stop Loss และ Take Profit
- ส่งคำสั่ง: คลิกปุ่ม “Buy” หรือ “Sell” เพื่อส่งคำสั่ง
2. การซื้อขายโดยตรงจากกราฟ
TradingView อนุญาตให้ส่งคำสั่งซื้อขายโดยตรงจากกราฟได้ด้วยวิธีต่อไปนี้:
- คลิกขวาที่กราฟ: เลือก “Trading” > “Buy” หรือ “Sell”
- ใช้เส้นการซื้อขาย (Trading Line): วาดเส้นที่ระดับราคาที่ต้องการเปิดคำสั่ง
- ใช้ Hot Keys: ใช้ปุ่มลัดสำหรับส่งคำสั่งซื้อขายได้อย่างรวดเร็ว
3. ประเภทคำสั่งซื้อขายที่รองรับ
TradingView รองรับคำสั่งซื้อขายหลายประเภท ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ที่คุณเชื่อมต่อ โดยทั่วไปจะมีคำสั่งต่อไปนี้:
- Market Order: คำสั่งซื้อหรือขายทันทีที่ราคาตลาดปัจจุบัน
- Limit Order: คำสั่งซื้อหรือขายที่ราคาที่กำหนด หรือดีกว่า
- Stop Order: คำสั่งซื้อหรือขายเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนด
- Stop Limit Order: คำสั่งที่รวมคุณสมบัติของคำสั่ง Stop และ Limit
- OCO (One-Cancels-Other): คำสั่งคู่ที่เมื่อหนึ่งในนั้นถูกทริกเกอร์ อีกคำสั่งหนึ่งจะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ
4. การตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit
การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในการเทรด TradingView ให้ตัวเลือกที่ยืดหยุ่นในการตั้งค่า SL/TP:
- ตั้งค่าเมื่อส่งคำสั่ง: กำหนด SL/TP พร้อมกับการส่งคำสั่งเริ่มต้น
- ตั้งค่าบนกราฟ: คลิกและลากเส้น SL/TP บนกราฟ
- ปรับแก้สำหรับคำสั่งที่มีอยู่: แก้ไขคำสั่ง SL/TP ของตำแหน่งที่เปิดอยู่
- ใช้การคำนวณตามเปอร์เซ็นต์หรือจุด: กำหนด SL/TP เป็นจำนวนจุด (pips) หรือเปอร์เซ็นต์จากราคาเปิด
ข้อดีของการซื้อขายผ่าน TradingView
การซื้อขายผ่าน TradingView มีข้อดีหลายประการที่ทำให้นักเทรดทั่วโลกเลือกใช้:
1. วิเคราะห์และเทรดในที่เดียว
- ไม่ต้องสลับระหว่างแพลตฟอร์มวิเคราะห์และแพลตฟอร์มเทรด
- ส่งคำสั่งซื้อขายได้ทันทีที่เห็นโอกาสทางการตลาด
2. เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ทรงพลัง
- อินดิเคเตอร์มากกว่า 100 ตัวในตัว
- อินดิเคเตอร์จากชุมชนอีกกว่า 100,000 ตัว
- เครื่องมือวาดและการวิเคราะห์ที่หลากหลาย
3. ซื้อขายบนทุกอุปกรณ์
- รองรับการใช้งานบนเว็บไซต์, แอปพลิเคชันมือถือ, และเดสก์ท็อปแอป
- ซิงค์ข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างไร้รอยต่อ
4. ระบบการแจ้งเตือนที่ยืดหยุ่น
- ตั้งค่าการแจ้งเตือนตามราคา, อินดิเคเตอร์, หรือเงื่อนไขที่กำหนดเอง
- รับการแจ้งเตือนผ่านอีเมล, การแจ้งเตือนบนมือถือ, SMS, หรือแชทเสียง
5. ชุมชนนักเทรดขนาดใหญ่
- แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและไอเดียการเทรดกับนักเทรดทั่วโลก
- เรียนรู้จากกลยุทธ์และการวิเคราะห์ของผู้อื่น
6. ฟีเจอร์ขั้นสูงสำหรับนักเทรดมืออาชีพ
- Pine Script สำหรับสร้างอินดิเคเตอร์และกลยุทธ์การเทรดแบบกำหนดเอง
- การทดสอบย้อนหลัง (Backtesting) เพื่อทดสอบกลยุทธ์การเทรด
- Screener สำหรับค้นหาโอกาสการเทรด
ข้อจำกัดของการซื้อขายผ่าน TradingView
แม้ว่าการซื้อขายผ่าน TradingView จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการที่ควรทราบ:
1. ต้องเชื่อมต่อกับโบรกเกอร์ที่รองรับเท่านั้น
- มีโบรกเกอร์จำนวนจำกัดที่รองรับการเชื่อมต่อกับ TradingView
- โบรกเกอร์บางรายที่คุณอาจใช้อยู่อาจไม่รองรับการเชื่อมต่อ
2. ไม่สามารถฝากหรือถอนเงินผ่าน TradingView
- ต้องใช้แพลตฟอร์มของโบรกเกอร์สำหรับการฝากและถอนเงิน
- ไม่สามารถจัดการธุรกรรมทางการเงินบน TradingView โดยตรง
3. ข้อจำกัดในประวัติการซื้อขาย
- TradingView อาจแสดงประวัติการซื้อขายเฉพาะในช่วงเวลาที่จำกัด
- สำหรับประวัติการซื้อขายที่ละเอียดมากขึ้น ต้องใช้พอร์ทัลของโบรกเกอร์
4. ความพร้อมใช้งานของเครื่องมือทางการเงิน
- ไม่ใช่ทุกเครื่องมือทางการเงินที่มีให้บริการบน TradingView จะสามารถซื้อขายได้
- ขึ้นอยู่กับรายการเครื่องมือทางการเงินที่โบรกเกอร์ของคุณรองรับ
5. ฟีเจอร์การซื้อขายขั้นสูงบางอย่างอาจไม่รองรับ
- การซื้อขายอัตโนมัติเต็มรูปแบบอาจไม่รองรับ
- คำสั่งซื้อขายบางประเภทอาจไม่มีให้ใช้งาน ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์
6. ข้อจำกัดบนแอปพลิเคชันมือถือ
- แอปพลิเคชันมือถือ TradingView อาจมีข้อจำกัดในการเชื่อมต่อกับโบรกเกอร์บางราย
- ฟีเจอร์การซื้อขายบางอย่างอาจใช้ได้เฉพาะบนเวอร์ชันเว็บไซต์หรือเดสก์ท็อป
แพ็คเกจ TradingView และการซื้อขาย
TradingView มีหลายแพ็คเกจให้เลือกใช้ ซึ่งอาจส่งผลต่อประสบการณ์การซื้อขายของคุณ:
1. แพ็คเกจฟรี (Basic)
- สามารถเชื่อมต่อกับโบรกเกอร์และส่งคำสั่งซื้อขายได้
- จำกัดจำนวนอินดิเคเตอร์ต่อชาร์ต (แค่ 1 อินดิเคเตอร์)
- จำกัดจำนวนการแจ้งเตือน (แค่ 1 การแจ้งเตือน)
- มีโฆษณา
2. แพ็คเกจ Essential
- เพิ่มจำนวนอินดิเคเตอร์ (5 ต่อชาร์ต)
- เพิ่มจำนวนการแจ้งเตือน (20 การแจ้งเตือน)
- ไม่มีโฆษณา
- ราคาเริ่มต้นที่ $12.95 ต่อเดือน หรือ $155.40 ต่อปี
3. แพ็คเกจ Plus
- เพิ่มจำนวนอินดิเคเตอร์ (10 ต่อชาร์ต)
- เพิ่มจำนวนการแจ้งเตือน (100 การแจ้งเตือน)
- รองรับการใช้งานหลายอุปกรณ์พร้อมกัน
- ราคาเริ่มต้นที่ $24.95 ต่อเดือน หรือ $299.40 ต่อปี
4. แพ็คเกจ Premium
- เพิ่มจำนวนอินดิเคเตอร์ (25 ต่อชาร์ต)
- เพิ่มจำนวนการแจ้งเตือน (400 การแจ้งเตือน)
- ฟีเจอร์ขั้นสูงทั้งหมด
- ราคาเริ่มต้นที่ $49.95 ต่อเดือน หรือ $599.40 ต่อปี
สำหรับการซื้อขายจริงจัง แนะนำให้ใช้แพ็คเกจ Plus หรือ Premium เนื่องจากมีจำนวนอินดิเคเตอร์และการแจ้งเตือนที่มากพอสำหรับกลยุทธ์การเทรดที่ซับซ้อน
คำถามที่พบบ่อย
TradingView เป็นโบรกเกอร์หรือไม่?
ไม่ใช่ – TradingView ไม่ใช่โบรกเกอร์ แต่เป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์ทางเทคนิคที่สามารถเชื่อมต่อกับโบรกเกอร์พันธมิตรได้
มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในการซื้อขายผ่าน TradingView หรือไม่?
ไม่มี – TradingView ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์ม คุณจะเสียค่าธรรมเนียมตามที่โบรกเกอร์ของคุณกำหนดเท่านั้น
TradingView มีแพ็คเกจราคาอย่างไรบ้าง?
TradingView มี 4 แพ็คเกจ: Basic (ฟรี), Essential (เริ่มต้น $14.95/เดือน), Plus (เริ่มต้น $29.95/เดือน) และ Premium (เริ่มต้น $59.95/เดือน) โดยแต่ละแพ็คเกจมีฟีเจอร์และข้อจำกัดที่แตกต่างกัน
วิธีเปลี่ยนภาษาเป็นภาษาไทยทำอย่างไร?
บนเว็บไซต์: คลิกที่รูปโปรไฟล์ → Language → เลือกภาษาไทย หรือบนแอป: เข้า Settings → Language → เลือกไทย
สามารถเชื่อมต่อกับโบรกเกอร์ไหนได้บ้าง?
TradingView เชื่อมต่อกับโบรกเกอร์ชั้นนำกว่า 80 แห่ง เช่น Eightcap, IG, IC Markets, Pepperstone, XTB, Oanda, Capital.com และอื่นๆ อีกมากมาย
ทำไมไม่สามารถฝากถอนเงินผ่าน TradingView ได้?
TradingView เป็นเพียงแพลตฟอร์มวิเคราะห์และส่งคำสั่งซื้อขาย การฝากถอนเงินต้องทำผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของโบรกเกอร์โดยตรงเท่านั้น
จำกัดอินดิเคเตอร์กี่ตัวในแพ็คเกจฟรี?
แพ็คเกจฟรี (Basic) จำกัดการใช้อินดิเคเตอร์เพียง 3 ตัวต่อชาร์ต และมีการแจ้งเตือนได้เพียง 1 แจ้งเตือนเท่านั้น
Pine Script คืออะไร?
Pine Script เป็นภาษาโปรแกรมมิ่งเฉพาะของ TradingView ที่ใช้สำหรับสร้างอินดิเคเตอร์และกลยุทธ์การเทรดแบบกำหนดเองได้ตามต้องการ
วิธีแก้ปัญหาเชื่อมต่อโบรกเกอร์ไม่ได้ทำอย่างไร?
ตรวจสอบว่าใช้ข้อมูลล็อกอินถูกต้อง ล้างแคชและคุกกี้ของเบราว์เซอร์ ลองใช้เบราว์เซอร์อื่น หรือติดต่อฝ่ายสนับสนุนของโบรกเกอร์เพื่อขอรีเซ็ตรหัสผ่าน
TradingView สามารถใช้งานบนอุปกรณ์ใดได้บ้าง?
TradingView ใช้งานได้บนเว็บเบราว์เซอร์ (Chrome, Firefox, Safari, Edge), แอปพลิเคชัน Desktop (Windows, macOS, Linux) และแอปมือถือ (iOS, Android)
วิธีทำ Back Test กลยุทธ์การเทรดบน TradingView ทำอย่างไร?
สร้างกลยุทธ์ด้วย Pine Script → เพิ่มลงบนชาร์ต → เปิด Strategy Tester → ตั้งค่าพารามิเตอร์ (เงินทุนเริ่มต้น, ค่าคอมมิชชั่น) → คลิก Run เพื่อทดสอบ → วิเคราะห์ผลลัพธ์และปรับแต่งตามต้องการ
สรุป
TradingView เป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์กราฟทางเทคนิคที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก มีผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคนทั่วโลก โดยสามารถใช้ซื้อขายได้โดยตรงผ่านการเชื่อมต่อกับโบรกเกอร์พันธมิตรกว่า 80 แห่ง เช่น Eightcap, FXCM, Oanda, Interactive Brokers และ Pepperstone เป็นต้น การเชื่อมต่อทำได้ง่ายผ่าน Trading Panel โดยกรอกข้อมูลล็อกอินของบัญชีโบรกเกอร์ ผู้ใช้สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้หลายรูปแบบ ทั้ง Market Order, Limit Order, Stop Order รวมถึงตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit ได้ จุดเด่นของ TradingView คือการวิเคราะห์และเทรดในที่เดียว มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ทรงพลัง รองรับการใช้งานบนทุกอุปกรณ์ และมีระบบแจ้งเตือนที่ยืดหยุ่น
อย่างไรก็ตาม การซื้อขายผ่าน TradingView มีข้อจำกัดบางประการ เช่น ต้องเชื่อมต่อกับโบรกเกอร์ที่รองรับเท่านั้น ไม่สามารถฝากหรือถอนเงินผ่าน TradingView ได้โดยตรง ข้อจำกัดในการแสดงประวัติการซื้อขาย ความพร้อมใช้งานของเครื่องมือทางการเงินขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ และฟีเจอร์การซื้อขายขั้นสูงบางอย่างอาจไม่รองรับ โดย TradingView มีให้เลือกทั้งแบบฟรีและแบบเสียค่าใช้จ่าย แพ็คเกจฟรี (Basic) มีข้อจำกัดด้านจำนวนอินดิเคเตอร์และการแจ้งเตือน ในขณะที่แพ็คเกจแบบชำระเงิน (Essential, Plus, Premium) มีฟีเจอร์เพิ่มเติมที่เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง