วิธีเทรดบน TradingView ฉบับสมบูรณ์ อัปเดตล่าสุด 2025

IUX Markets Bonus
TradingView
TradingView

TradingView เป็นแพลตฟอร์มการดูกราฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก โดยมีเทรดเดอร์ใช้งานมากกว่า 50 ล้านคนทั่วโลก ปัจจุบัน TradingView ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือในการวิเคราะห์กราฟเท่านั้น แต่ยังให้บริการเทรดโดยตรงผ่านโบรกเกอร์ที่รองรับการเชื่อมต่อ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดเป็นอย่างมาก

บทความนี้จะแนะนำวิธีการเทรดบน TradingView อย่างละเอียด เพื่อให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มนี้ได้อย่างเต็มที่

Contents

สารบัญ

  1. ทำไมต้องเทรดบน TradingView?
  2. การเริ่มต้นใช้งาน TradingView
  3. โบรกเกอร์ที่รองรับการเชื่อมต่อกับ TradingView
  4. วิธีเชื่อมต่อโบรกเกอร์กับ TradingView
  5. การใช้ Trading Panel เพื่อส่งคำสั่งซื้อขาย
  6. การตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit
  7. การจัดการคำสั่งซื้อขายและพอร์ตโฟลิโอ
  8. การใช้ Alert เพื่อช่วยในการเทรด
  9. วิธีแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อ
  10. เทคนิคการใช้ TradingView ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
  11. คำถามที่พบบ่อย

ทำไมต้องเทรดบน TradingView?

การเทรดบน TradingView มีข้อดีหลายประการที่ทำให้นักเทรดทั่วโลกเลือกใช้บริการนี้

  • วิเคราะห์และเทรดในที่เดียว: ไม่ต้องสลับระหว่างแพลตฟอร์มวิเคราะห์และแพลตฟอร์มเทรด
  • เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ทรงพลัง: เข้าถึงอินดิเคเตอร์มากกว่า 100 ตัวในตัว และอีกมากกว่า 100,000 ตัวที่สร้างโดยชุมชน
  • ชุมชนนักเทรดขนาดใหญ่: แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเรียนรู้จากเทรดเดอร์ทั่วโลก
  • การแจ้งเตือนที่ยืดหยุ่น: ตั้งค่าการแจ้งเตือนขั้นสูงและเทรดได้ทันทีเมื่อได้รับสัญญาณ
  • เทรดได้ทุกที่: เข้าถึงกราฟและบัญชีเทรดของคุณได้จากทุกอุปกรณ์
  • รองรับสินทรัพย์หลากหลาย: เทรดได้ทั้งหุ้น, คริปโต, ฟอเร็กซ์, สินค้าโภคภัณฑ์, ดัชนี และอื่นๆ

การเริ่มต้นใช้งาน TradingView

1. การสร้างบัญชี TradingView

เริ่มต้นด้วยการสร้างบัญชี TradingView ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ ตามขั้นตอนต่อไปนี้:

  1. เข้าไปที่เว็บไซต์ TradingView.com
  2. คลิกที่ปุ่ม “ลงทะเบียน” ที่มุมขวาบนของหน้าจอ
  3. เลือกวิธีการลงทะเบียน (อีเมล, Google, Apple หรือ Facebook)
  4. กรอกข้อมูลที่จำเป็นและยืนยันการลงทะเบียน

2. ประเภทบัญชีและแพ็คเกจ

TradingView มีหลายแพ็คเกจให้เลือกใช้ ทั้งแบบฟรีและแบบชำระเงิน:

  • บัญชีฟรี: สามารถดูกราฟและใช้อินดิเคเตอร์พื้นฐานได้ มีข้อจำกัดเรื่องจำนวนอินดิเคเตอร์และกราฟที่สามารถเปิดพร้อมกัน
  • Essential: เพิ่มจำนวนอินดิเคเตอร์และชาร์ตที่สามารถใช้งานพร้อมกัน ลดโฆษณา
  • Plus: รองรับการใช้งานหลายอุปกรณ์พร้อมกัน เพิ่มจำนวนแผนภูมิและระยะเวลาการเก็บข้อมูล
  • Premium: แพ็คเกจสูงสุดที่มีคุณสมบัติทั้งหมด รวมถึงการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกและการแจ้งเตือนไม่จำกัด

สำหรับการเทรดบน TradingView คุณสามารถใช้ได้ทั้งในแพ็คเกจฟรีและแพ็คเกจแบบชำระเงิน โดยไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจาก TradingView สำหรับการเทรดผ่านโบรกเกอร์

ประเภทบัญชี TradingView
ประเภทบัญชี TradingView

โบรกเกอร์ที่รองรับการเชื่อมต่อกับ TradingView

 Exness Promotion

TradingView รองรับการเชื่อมต่อกับโบรกเกอร์ชั้นนำหลายราย ซึ่งรวมถึง:

  • Eightcap: โบรกเกอร์ที่ให้บริการซื้อขาย Forex, สัญญา CFD, สินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโตเคอเรนซี
  • Interactive Brokers: โบรกเกอร์ระดับโลกที่ให้บริการหุ้น, ETF, ฟิวเจอร์ส, ฟอเร็กซ์ และอื่นๆ
  • TradeStation: แพลตฟอร์มซื้อขายที่ครอบคลุมหุ้น, ETF, ฟิวเจอร์ส และอื่นๆ
  • FXCM: โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD ชั้นนำ
  • AMP Futures: โบรกเกอร์ที่เชี่ยวชาญด้านการซื้อขายฟิวเจอร์ส
  • Gemini: แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอเรนซี
  • Forex.com: โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD
  • Oanda: โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD ระดับโลก
  • และอื่นๆ อีกมากมาย

ตรวจสอบรายชื่อโบรกเกอร์ที่รองรับล่าสุดได้ที่ หน้าโบรกเกอร์ของ TradingView

วิธีเชื่อมต่อโบรกเกอร์กับ TradingView

การเชื่อมต่อโบรกเกอร์กับ TradingView เป็นขั้นตอนสำคัญก่อนเริ่มเทรด ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้:

ขั้นตอนทั่วไปในการเชื่อมต่อโบรกเกอร์

  1. ตรวจสอบความรองรับ: ตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ของคุณรองรับการเชื่อมต่อกับ TradingView
  2. เปิดบัญชีกับโบรกเกอร์: หากยังไม่มีบัญชีกับโบรกเกอร์ที่รองรับ ให้เปิดบัญชีก่อน
  3. เข้าสู่ระบบ TradingView: เข้าสู่ระบบบัญชี TradingView ของคุณ
  4. เปิดกราฟ: คลิกที่ “Charts” ภายใต้เมนู “Products” ที่ด้านบนของหน้า
  5. เปิด Trading Panel: คลิกที่แท็บ “Trading Panel” ที่ด้านล่างของหน้าจอ
  6. เลือกโบรกเกอร์: เลือกโบรกเกอร์ของคุณจากรายชื่อที่แสดง
  7. กรอกข้อมูลล็อกอิน: ป้อนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของบัญชีโบรกเกอร์ของคุณ
  8. ยอมรับข้อตกลง: ลงนามในข้อตกลงโดยพิมพ์ชื่อของคุณและคลิก “ฉันเห็นด้วย”
  9. เริ่มเทรด: เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จ คุณสามารถเริ่มเทรดได้ทันที

ตัวอย่างวิธีเชื่อมต่อบัญชี Eightcap กับ TradingView

เนื่องจาก Eightcap เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ยอดนิยมที่รองรับการเชื่อมต่อกับ TradingView ต่อไปนี้คือวิธีการเชื่อมต่อโดยละเอียด:

เตรียมพร้อมก่อนเชื่อมต่อ

ก่อนที่จะเชื่อมต่อบัญชี Eightcap กับ TradingView คุณต้องมีบัญชี Eightcap ที่เปิดให้ใช้งานกับ TradingView ซึ่งสามารถทำได้ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้:

  • เปิดบัญชีใหม่: เลือก TradingView เป็นแพลตฟอร์มในระหว่างขั้นตอนการสมัคร
  • ร้องขอบัญชีเพิ่ม: หากคุณมีบัญชีกับ Eightcap อยู่แล้ว คุณสามารถร้องขอบัญชีเพิ่มที่รองรับ TradingView ได้ดังนี้:
    1. เข้าสู่ระบบที่ Eightcap Client Portal
    2. คลิกที่ “แดชบอร์ด” >> คลิก “+ ขอบัญชีเพิ่ม”
    3. เลือกแพลตฟอร์มเป็น TradingView สกุลเงิน และเลเวอเรจ
    4. คลิก “คำขอ”
  • ใช้บัญชี MT5 Standard: หากคุณมีบัญชี MT5 Standard อยู่แล้ว คุณสามารถใช้ username และ password เดิมในการเชื่อมต่อกับ TradingView ได้เลย

ขั้นตอนการเชื่อมต่อ

  1. ไปที่ TradingView.com
  2. เข้าสู่ระบบโดยใช้ข้อมูลบัญชี TradingView ของคุณ (ไม่ใช่บัญชี Eightcap)
  3. คลิกที่ “Charts” ภายใต้เมนู “Products” ที่ด้านบนของหน้า
  4. เมื่อหน้ากราฟโหลดเสร็จ ให้มองหาแถบ “Trading Panel” ด้านล่างของหน้าจอ
  5. คลิกที่แถบนี้เพื่อเปิดพาเนลการซื้อขาย
  6. ค้นหาและคลิกที่ไอคอน “Eightcap” ในรายชื่อโบรกเกอร์
  7. ในหน้าต่างที่ปรากฏ ให้กรอกข้อมูลล็อกอินของบัญชี Eightcap TradingView ของคุณ:
    • ชื่อผู้ใช้: อีเมลที่คุณได้รับจาก Eightcap (case-sensitive)
    • รหัสผ่าน: รหัสผ่านที่คุณได้รับทางอีเมล (case-sensitive)
  8. คลิก “Connect” หรือ “เชื่อมต่อ”
  9. หากเชื่อมต่อสำเร็จ คุณจะเห็นข้อมูลบัญชี Eightcap ของคุณบนแพลตฟอร์ม TradingView

การใช้ Trading Panel เพื่อส่งคำสั่งซื้อขาย

TradingView หน้าจอหลัก
TradingView หน้าจอหลัก

เมื่อเชื่อมต่อโบรกเกอร์กับ TradingView สำเร็จแล้ว คุณสามารถใช้ Trading Panel เพื่อส่งคำสั่งซื้อขายได้โดยตรงจากกราฟ

วิธีเปิด Trading Panel

  1. เปิดกราฟของเครื่องมือทางการเงินที่คุณต้องการเทรด
  2. คลิกที่ไอคอน “Trading Panel” ที่ด้านล่างของหน้าจอ หรือกดปุ่ม Alt+T (Windows) หรือ Option+T (Mac)
  3. หากคุณได้เชื่อมต่อกับโบรกเกอร์แล้ว คุณจะเห็นข้อมูลบัญชีและปุ่มสำหรับส่งคำสั่งซื้อขาย

ประเภทคำสั่งซื้อขาย

TradingView รองรับคำสั่งซื้อขายหลายประเภท ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามโบรกเกอร์ที่คุณใช้ โดยทั่วไปจะมีคำสั่งต่อไปนี้:

  • Market Order: คำสั่งซื้อหรือขายทันทีที่ราคาตลาดปัจจุบัน
  • Limit Order: คำสั่งซื้อหรือขายที่ราคาที่กำหนด หรือดีกว่า
  • Stop Order: คำสั่งซื้อหรือขายเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนด
  • Stop Limit Order: คำสั่งที่รวมคุณสมบัติของคำสั่ง Stop และ Limit
  • OCO (One-Cancels-Other): คำสั่งคู่ที่เมื่อหนึ่งในนั้นถูกทริกเกอร์ อีกคำสั่งหนึ่งจะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ

วิธีส่งคำสั่งซื้อขาย

  1. เลือกสัญลักษณ์ (Symbol) ที่คุณต้องการเทรด
  2. ในแผง Trading Panel ให้เลือกประเภทคำสั่งที่คุณต้องการ (Market, Limit, Stop, หรือ Stop-Limit)
  3. เลือกทิศทาง (Buy หรือ Sell)
  4. ป้อนปริมาณ (Quantity) ที่คุณต้องการซื้อหรือขาย
  5. สำหรับคำสั่ง Limit และ Stop ให้ป้อนราคาที่คุณต้องการ
  6. (ตัวเลือก) ตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit
  7. ตรวจสอบรายละเอียดคำสั่งและคลิก “Submit” หรือ “Send Order”

การเทรดโดยตรงจากกราฟ

TradingView ยังให้คุณสามารถเทรดโดยตรงจากกราฟได้ด้วยวิธีต่อไปนี้:

  1. คลิกขวาที่กราฟและเลือก “Trading” > “Buy” หรือ “Sell”
  2. คลิกที่ราคาที่ต้องการบนกราฟและลากเพื่อกำหนดราคา Stop Loss หรือ Take Profit
  3. ใช้เครื่องมือ “Trading Line” เพื่อวาดเส้นที่ระดับราคาที่คุณต้องการเปิดคำสั่ง

การตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit

การตั้งค่า Stop Loss (SL) และ Take Profit (TP) เป็นส่วนสำคัญของการจัดการความเสี่ยงในการเทรด TradingView ให้ตัวเลือกหลายวิธีในการตั้งค่าเหล่านี้

การตั้งค่า SL/TP เมื่อส่งคำสั่งซื้อขาย

  1. ในขณะที่สร้างคำสั่งซื้อขายใหม่ ให้เลือกช่อง “Stop Loss” และ/หรือ “Take Profit”
  2. ป้อนราคาที่คุณต้องการตั้ง Stop Loss และ Take Profit
  3. หรือคุณสามารถป้อนเป็นจำนวนจุด (pips) หรือเปอร์เซ็นต์จากราคาเปิด

การตั้งค่า SL/TP บนกราฟ

  1. หลังจากเปิดคำสั่งซื้อขายแล้ว คุณจะเห็นเส้นที่แสดงตำแหน่งของคำสั่งบนกราฟ
  2. คลิกและลากเส้น Stop Loss (สีแดง) หรือ Take Profit (สีเขียว) ไปยังระดับราคาที่คุณต้องการ
  3. ระบบจะอัปเดตคำสั่ง SL/TP โดยอัตโนมัติ

การปรับแก้ SL/TP สำหรับคำสั่งที่มีอยู่

  1. คลิกที่คำสั่งที่มีอยู่ในรายการคำสั่งหรือตำแหน่ง
  2. คลิกที่ปุ่ม “Edit”
  3. ปรับราคา Stop Loss และ/หรือ Take Profit
  4. คลิก “Submit” เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง

การจัดการคำสั่งซื้อขายและพอร์ตโฟลิโอ

TradingView มีเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสามารถจัดการคำสั่งซื้อขายและพอร์ตโฟลิโอได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การดูคำสั่งและตำแหน่งที่เปิดอยู่

  1. ในแผง Trading Panel คุณจะเห็นแท็บต่างๆ ที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีของคุณ
  2. แท็บ “Positions” แสดงตำแหน่งที่เปิดอยู่ทั้งหมด
  3. แท็บ “Orders” แสดงคำสั่งที่รอดำเนินการ
  4. แท็บ “History” แสดงประวัติการซื้อขายที่ผ่านมา
  5. แท็บ “Account” แสดงข้อมูลบัญชีโดยรวม เช่น เงินฝาก, กำไร/ขาดทุน และมาร์จิ้นที่ใช้

การแก้ไขหรือยกเลิกคำสั่ง

  1. ในแท็บ “Orders” ให้ค้นหาคำสั่งที่คุณต้องการแก้ไขหรือยกเลิก
  2. คลิกที่ปุ่ม “Edit” เพื่อแก้ไขรายละเอียดคำสั่ง หรือ “Cancel” เพื่อยกเลิกคำสั่ง
  3. สำหรับการแก้ไข ให้ปรับรายละเอียดตามต้องการและคลิก “Submit”

การปิดตำแหน่ง

  1. ในแท็บ “Positions” ให้ค้นหาตำแหน่งที่คุณต้องการปิด
  2. คลิกที่ปุ่ม “Close” เพื่อปิดตำแหน่งทั้งหมด หรือคลิกที่ปุ่ม “Edit” เพื่อปิดเพียงบางส่วน
  3. ยืนยันการปิดตำแหน่งและคลิก “Submit”

การติดตามประสิทธิภาพการเทรด

  1. ในแท็บ “Account” คุณสามารถดูประสิทธิภาพโดยรวมของบัญชีของคุณ
  2. ดูข้อมูลเช่น กำไร/ขาดทุนรวม, มาร์จิ้นที่ใช้, และเงินฝากสุทธิ
  3. บางโบรกเกอร์อาจมีกราฟแสดงประสิทธิภาพและสถิติเพิ่มเติม

การใช้ Alert เพื่อช่วยในการเทรด

Alert หรือการแจ้งเตือนเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังใน TradingView ที่ช่วยให้คุณไม่พลาดโอกาสการเทรดที่สำคัญ

ประเภทของ Alert

TradingView มีการแจ้งเตือนหลายประเภท:

  • Price Alert: แจ้งเตือนเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนด
  • Condition Alert: แจ้งเตือนเมื่อเงื่อนไขที่กำหนดเป็นจริง (เช่น อินดิเคเตอร์ตัดกัน)
  • Drawing Alert: แจ้งเตือนเมื่อราคาตัดเส้นเทรนด์หรือเส้นอื่นๆ ที่คุณวาด
  • Script Alert: แจ้งเตือนที่กำหนดโดยสคริปต์ Pine หรืออินดิเคเตอร์กำหนดเอง

วิธีตั้งค่าการแจ้งเตือน

  1. คลิกที่ไอคอนกระดิ่งที่ด้านบนของหน้าจอ หรือกดปุ่ม Alt+A (Windows) หรือ Option+A (Mac)
  2. คลิก “Create Alert”
  3. เลือกประเภทการแจ้งเตือนและตั้งค่าเงื่อนไข
  4. กำหนดวิธีการแจ้งเตือน (แจ้งเตือนในเว็บไซต์, อีเมล, การแจ้งเตือนทางมือถือ, SMS, แชทเสียง)
  5. ตั้งค่าความถี่ในการแจ้งเตือน (ครั้งเดียว, ครั้งเดียวต่อบาร์, ครั้งเดียวต่อวัน, หรือทุกครั้ง)
  6. กำหนดเวลาหมดอายุของการแจ้งเตือน
  7. คลิก “Create” เพื่อบันทึกการแจ้งเตือน

การใช้การแจ้งเตือนเพื่อเทรดอัตโนมัติ

TradingView ยังอนุญาตให้คุณเชื่อมโยงการแจ้งเตือนกับการดำเนินการเทรด ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเทรดกึ่งอัตโนมัติได้:

  1. เมื่อสร้างการแจ้งเตือนใหม่ ให้เลื่อนลงไปที่ส่วน “Actions”
  2. เลือก “Submit Order”
  3. กำหนดรายละเอียดของคำสั่ง เช่น ประเภทคำสั่ง, ปริมาณ, SL/TP
  4. เมื่อการแจ้งเตือนถูกทริกเกอร์ ระบบจะส่งคำสั่งโดยอัตโนมัติ

การจัดการการแจ้งเตือน

  1. คลิกที่ไอคอนกระดิ่งเพื่อดูรายการการแจ้งเตือนทั้งหมดของคุณ
  2. คุณสามารถแก้ไข, ปิดใช้งาน, หรือลบการแจ้งเตือนได้ตามต้องการ
  3. การแจ้งเตือนที่ถูกทริกเกอร์จะแสดงในประวัติการแจ้งเตือน

วิธีแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อ

แก้ไขปัญหาเชื่อมต่อ TradingView สำเร็จแล้วแต่ไม่สามารถเทรดได้
แก้ไขปัญหาเชื่อมต่อ TradingView สำเร็จแล้วแต่ไม่สามารถเทรดได้

เมื่อใช้งาน TradingView เพื่อเทรด คุณอาจพบปัญหาการเชื่อมต่อบางอย่าง นี่คือปัญหาที่พบบ่อยและวิธีแก้ไข:

1. ไม่สามารถล็อกอินเข้าบัญชีโบรกเกอร์ได้

สาเหตุที่เป็นไปได้:

  • ข้อมูลล็อกอินไม่ถูกต้อง
  • บัญชีไม่ได้รับการตั้งค่าสำหรับการใช้งานกับ TradingView
  • ระบบล็อกอินล่ม

วิธีแก้ไข:

  • ตรวจสอบข้อมูลล็อกอินให้ถูกต้อง (โดยเฉพาะตัวพิมพ์ใหญ่-เล็ก)
  • ตรวจสอบว่าบัญชีของคุณรองรับการเชื่อมต่อกับ TradingView
  • ล้างแคชและคุกกี้ของเบราว์เซอร์
  • ลองใช้เบราว์เซอร์อื่น
  • ติดต่อฝ่ายสนับสนุนของโบรกเกอร์

2. ไม่พบโบรกเกอร์ในรายชื่อ

สาเหตุที่เป็นไปได้:

  • โบรกเกอร์ไม่รองรับการเชื่อมต่อกับ TradingView
  • ข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์
  • ประเภทบัญชี TradingView ของคุณไม่รองรับโบรกเกอร์นั้น

วิธีแก้ไข:

  • ตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ของคุณรองรับการเชื่อมต่อกับ TradingView
  • ตรวจสอบข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์
  • พิจารณาอัปเกรดบัญชี TradingView
  • ลองใช้เวอร์ชันเว็บไซต์แทนแอปพลิเคชันมือถือ

3. เชื่อมต่อสำเร็จแล้วแต่ไม่สามารถเทรดได้

สาเหตุที่เป็นไปได้:

  • ไม่มีเงินในบัญชี
  • สถานะบัญชีไม่ปกติ
  • สินค้าที่ต้องการเทรดไม่มีให้บริการ

วิธีแก้ไข:

  • ฝากเงินเข้าบัญชีโบรกเกอร์ของคุณ
  • ตรวจสอบสถานะบัญชีกับโบรกเกอร์
  • ตรวจสอบว่าสินค้าที่ต้องการเทรดมีให้บริการผ่าน TradingView หรือไม่

4. การเชื่อมต่อหลุดบ่อยครั้ง

สาเหตุที่เป็นไปได้:

  • การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไม่เสถียร
  • ทรัพยากรระบบไม่เพียงพอ
  • เซสชันหมดอายุ

วิธีแก้ไข:

  • ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
  • ปิดโปรแกรมที่ไม่จำเป็น
  • ใช้เดสก์ท็อปแอปพลิเคชันแทนเบราว์เซอร์
  • ล้างแคชและคุกกี้
  • ลงชื่อเข้าใช้อีกครั้ง

5. คำสั่ง Stop Loss หรือ Take Profit ไม่ทำงาน

สาเหตุที่เป็นไปได้:

  • การตั้งค่าไม่ถูกต้อง
  • ข้อจำกัดของโบรกเกอร์
  • สภาพตลาดที่มีความผันผวนสูง

วิธีแก้ไข:

  • ตรวจสอบว่าคุณได้ตั้งค่า SL/TP ถูกต้อง
  • ตรวจสอบนโยบายของโบรกเกอร์เกี่ยวกับการดำเนินการคำสั่ง SL/TP
  • พิจารณาใช้คำสั่งประเภทอื่น เช่น Stop Limit แทน Stop Market ในสภาพตลาดที่มีความผันผวนสูง

เทคนิคการใช้ TradingView ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

TradingView การวิเคราะห์พื้นฐาน
TradingView การวิเคราะห์พื้นฐาน

1. ใช้ประโยชน์จาก Multi-Chart Layout

TradingView อนุญาตให้คุณดูหลายกราฟพร้อมกัน ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการวิเคราะห์หลายสินทรัพย์หรือหลายกรอบเวลา:

  1. คลิกที่ไอคอนรูปแบบการแสดงผลในแถบเครื่องมือด้านบน
  2. เลือกรูปแบบ Multi-Chart ที่คุณต้องการ (2×1, 2×2, 3×2, เป็นต้น)
  3. กำหนดสัญลักษณ์และกรอบเวลาที่แตกต่างกันในแต่ละช่อง
  4. บันทึกเป็นเลย์เอาต์ส่วนตัวเพื่อใช้ในอนาคต

2. ใช้ Pine Script เพื่อสร้างเครื่องมือของคุณเอง

Pine Script เป็นภาษาโปรแกรมมิ่งของ TradingView ที่ช่วยให้คุณสามารถสร้างอินดิเคเตอร์และกลยุทธ์การเทรดของคุณเอง:

  1. คลิกที่ไอคอน “Pine Editor” ที่ด้านล่างของหน้าจอ
  2. เขียนหรือวางโค้ด Pine Script ของคุณ
  3. คลิก “Add to Chart” เพื่อทดสอบสคริปต์ของคุณ
  4. คลิก “Save” เมื่อคุณพอใจกับผลลัพธ์

3. ใช้บริการทดสอบย้อนหลัง (Backtesting)

TradingView มีเครื่องมือทดสอบย้อนหลังที่ช่วยให้คุณทดสอบกลยุทธ์การเทรดของคุณกับข้อมูลในอดีต:

  1. สร้างหรือเลือกกลยุทธ์ใน Pine Script
  2. เพิ่มลงในกราฟ
  3. คลิกที่แท็บ “Strategy Tester” ที่ด้านล่างของหน้าจอ
  4. วิเคราะห์ผลลัพธ์ของกลยุทธ์ของคุณบนข้อมูลในอดีต

4. เข้าร่วมชุมชน TradingView

TradingView มีชุมชนนักเทรดขนาดใหญ่ที่แบ่งปันความคิด, กลยุทธ์, และเครื่องมือ:

  1. เข้าไปที่แท็บ “Ideas” เพื่อดูการวิเคราะห์จากเทรดเดอร์คนอื่น
  2. ติดตามนักวิเคราะห์ที่มีความคิดและกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับสไตล์การเทรดของคุณ
  3. แบ่งปันกลยุทธ์และการวิเคราะห์ของคุณเองเพื่อรับฟังความคิดเห็น

5. ใช้การบันทึกการเทรด (Trading Journal)

การบันทึกการเทรดเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาเป็นเทรดเดอร์ที่ดีขึ้น:

  1. ใช้ “Notes” ใน TradingView เพื่อบันทึกเหตุผลในการเข้าและออกจากการเทรด
  2. บันทึกภาพหน้าจอของการเทรดของคุณพร้อมกับการวิเคราะห์
  3. ทบทวนบันทึกของคุณเป็นประจำเพื่อปรับปรุงกลยุทธ์ของคุณ

คำถามที่พบบ่อย

1. ฉันจำเป็นต้องมีบัญชี TradingView แบบชำระเงินเพื่อเทรดหรือไม่?

ตอบ: ไม่จำเป็น คุณสามารถเชื่อมต่อบัญชีโบรกเกอร์กับบัญชี TradingView แบบฟรีได้ อย่างไรก็ตาม บัญชีแบบชำระเงินจะให้คุณเข้าถึงฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น อินดิเคเตอร์ขั้นสูง การแจ้งเตือนไม่จำกัด และอื่นๆ

2. มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในการเทรดผ่าน TradingView หรือไม่?

ตอบ: TradingView ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับการเทรดผ่านแพลตฟอร์ม คุณจะเสียค่าธรรมเนียมตามที่โบรกเกอร์ของคุณกำหนดเท่านั้น

3. ฉันสามารถเชื่อมต่อหลายโบรกเกอร์กับบัญชี TradingView เดียวได้หรือไม่?

ตอบ: ได้ คุณสามารถเชื่อมต่อบัญชีหลายโบรกเกอร์กับบัญชี TradingView เดียวได้ ทำให้คุณสามารถเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมสำหรับการเทรดแต่ละครั้ง

4. ฉันสามารถฝากและถอนเงินผ่าน TradingView ได้หรือไม่?

ตอบ: ไม่ได้ คุณไม่สามารถฝากหรือถอนเงินผ่าน TradingView โดยตรงได้ คุณต้องใช้พอร์ทัลของโบรกเกอร์สำหรับการฝากและถอนเงิน

5. แอปพลิเคชันมือถือ TradingView รองรับการเทรดหรือไม่?

ตอบ: แอปพลิเคชันมือถือ TradingView รองรับการเทรดผ่านโบรกเกอร์บางราย อย่างไรก็ตาม อาจมีข้อจำกัดบางประการเมื่อเทียบกับเวอร์ชันเว็บไซต์หรือเดสก์ท็อป แนะนำให้ตรวจสอบกับโบรกเกอร์ของคุณว่ารองรับการเทรดผ่านแอปพลิเคชันมือถือ TradingView หรือไม่

6. TradingView รองรับการเทรดคริปโตเคอเรนซีหรือไม่?

ตอบ: ใช่ TradingView รองรับการเทรดคริปโตเคอเรนซีผ่านโบรกเกอร์และเอ็กซ์เชนจ์ที่เชื่อมต่อได้ เช่น Gemini, Coinbase และอื่นๆ

7. ฉันสามารถใช้การเทรดอัตโนมัติใน TradingView ได้หรือไม่?

ตอบ: TradingView ไม่รองรับการเทรดอัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบ แต่คุณสามารถใช้การแจ้งเตือนที่เชื่อมโยงกับคำสั่งซื้อขายเพื่อเทรดกึ่งอัตโนมัติได้

8. ฉันสามารถดูประวัติการเทรดทั้งหมดบน TradingView ได้หรือไม่?

ตอบ: TradingView อาจแสดงประวัติการเทรดเฉพาะในช่วงเวลาที่จำกัด สำหรับประวัติการเทรดที่ละเอียดมากขึ้น ให้ใช้พอร์ทัลของโบรกเกอร์

9. TradingView ปลอดภัยสำหรับการเทรดหรือไม่?

ตอบ: TradingView ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด รวมถึงการเข้ารหัส SSL และการป้องกันการโจมตีอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยของเงินทุนขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ที่คุณใช้

10. ฉันสามารถทดลองเทรดบน TradingView ก่อนใช้เงินจริงได้หรือไม่?

ตอบ: ได้ โบรกเกอร์หลายรายที่เชื่อมต่อกับ TradingView มีบัญชีทดลอง (Demo Account) ให้คุณฝึกซ้อมการเทรดโดยไม่ต้องเสี่ยงกับเงินจริง

สรุป

การเทรดบน TradingView เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการวิเคราะห์และเทรดในแพลตฟอร์มเดียว ด้วยเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ทรงพลัง ชุมชนนักเทรดขนาดใหญ่ และการเชื่อมต่อกับโบรกเกอร์ชั้นนำหลายราย TradingView มอบประสบการณ์การเทรดที่ครบวงจรและมีประสิทธิภาพ

เริ่มต้นด้วยการสร้างบัญชี TradingView เชื่อมต่อกับโบรกเกอร์ที่รองรับ และใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อพัฒนากลยุทธ์การเทรดของคุณ ไม่ว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์มือใหม่หรือมีประสบการณ์ TradingView มีเครื่องมือและทรัพยากรที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการเทรดได้

อย่าลืมใช้การจัดการความเสี่ยงที่ดี ทดสอบกลยุทธ์ของคุณอย่างสม่ำเสมอ และเรียนรู้จากชุมชน TradingView เพื่อพัฒนาทักษะการเทรดของคุณอย่างต่อเนื่อง

ด้วยความรู้และเทคนิคที่แบ่งปันในบทความนี้ คุณพร้อมที่จะเริ่มต้นเทรดบน TradingView และใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มนี้อย่างเต็มที่

 Exness Promotion