Divergence ในการเทรด: เทคนิคการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ทรงพลังสำหรับนักลงทุน
การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักเทรดในการคาดการณ์ทิศทางของตลาด หนึ่งในเทคนิคที่มีประสิทธิภาพและได้รับความนิยมคือ Divergence หรือการแยกตัว บทความนี้จะอธิบายถึงความหมาย ประเภท และวิธีการใช้ Divergence ในการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ
1. Divergence คืออะไร?
Divergence หรือการแยกตัว เป็นสัญญาณที่เกิดขึ้นเมื่อราคาของสินทรัพย์และตัวบ่งชี้ทางเทคนิค (Technical Indicator) เคลื่อนไหวไปในทิศทางที่แตกต่างกัน สัญญาณนี้มักบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มที่กำลังจะเกิดขึ้น ทำให้นักเทรดสามารถคาดการณ์จุดกลับตัวของตลาดได้
1.1 ความสำคัญของ Divergence
Divergence เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการ:
- คาดการณ์จุดกลับตัวของตลาด
- ยืนยันแนวโน้มที่กำลังจะเกิดขึ้น
- ระบุจุดเข้าและออกจากตลาดที่มีประสิทธิภาพ
2. ประเภทของ Divergence
จากภาพ Divergence Cheat Sheet เราสามารถแบ่ง Divergence ออกเป็นสองประเภทหลัก คือ Bullish Divergence และ Bearish Divergence โดยแต่ละประเภทยังสามารถแบ่งย่อยได้อีก
2.1 Bullish Divergence
Bullish Divergence เกิดขึ้นเมื่อราคามีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้น โดยแบ่งเป็น:
2.1.1 Strong Bullish Divergence
- ราคา: Lower Low
- Indicator: Higher Low
Strong Bullish Divergence เป็นสัญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดในการบ่งชี้การกลับตัวขาขึ้น เกิดขึ้นเมื่อราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ (Lower Low) แต่ Indicator กลับทำจุดต่ำสุดที่สูงกว่าครั้งก่อน (Higher Low) สัญญาณนี้บ่งบอกว่าแรงขายกำลังอ่อนแรงลง และอาจมีการกลับตัวขาขึ้นในเร็วๆ นี้
2.1.2 Weak Bullish Divergence
- ราคา: Lower Low
- Indicator: Equal Low
Weak Bullish Divergence เป็นสัญญาณที่อ่อนกว่า Strong Bullish Divergence แต่ยังคงเป็นสัญญาณบวก เกิดขึ้นเมื่อราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ (Lower Low) แต่ Indicator ทำจุดต่ำสุดเท่ากับครั้งก่อน (Equal Low) สัญญาณนี้อาจบ่งชี้ว่าแรงขายกำลังชะลอตัวลง แต่ยังไม่เห็นสัญญาณการกลับตัวที่ชัดเจน
2.1.3 Medium Bullish Divergence
- ราคา: Equal Low
- Indicator: Higher Low
Medium Bullish Divergence เป็นสัญญาณที่อยู่ระหว่าง Strong และ Weak Bullish Divergence เกิดขึ้นเมื่อราคาทำจุดต่ำสุดเท่ากับครั้งก่อน (Equal Low) แต่ Indicator ทำจุดต่ำสุดที่สูงกว่าครั้งก่อน (Higher Low) สัญญาณนี้อาจบ่งชี้ว่าแรงขายกำลังอ่อนแรงลง และราคาอาจกำลังจะเริ่มปรับตัวขึ้น
2.1.4 Hidden Bullish Divergence
- ราคา: Higher Low
- Indicator: Lower Low
Hidden Bullish Divergence เป็นสัญญาณที่มักถูกมองข้าม แต่มีประสิทธิภาพในการยืนยันแนวโน้มขาขึ้นที่มีอยู่ เกิดขึ้นเมื่อราคาทำจุดต่ำสุดที่สูงกว่าครั้งก่อน (Higher Low) แต่ Indicator กลับทำจุดต่ำสุดที่ต่ำกว่าครั้งก่อน (Lower Low) สัญญาณนี้มักบ่งชี้ว่าแนวโน้มขาขึ้นยังคงแข็งแกร่งและอาจมีการปรับตัวขึ้นต่อไป
2.2 Bearish Divergence
Bearish Divergence เกิดขึ้นเมื่อราคามีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลง โดยแบ่งเป็น:
2.2.1 Strong Bearish Divergence
- ราคา: Higher High
- Indicator: Lower High
Strong Bearish Divergence เป็นสัญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดในการบ่งชี้การกลับตัวขาลง เกิดขึ้นเมื่อราคาทำจุดสูงสุดใหม่ (Higher High) แต่ Indicator กลับทำจุดสูงสุดที่ต่ำกว่าครั้งก่อน (Lower High) สัญญาณนี้บ่งบอกว่าแรงซื้อกำลังอ่อนแรงลง และอาจมีการกลับตัวขาลงในเร็วๆ นี้
2.2.2 Weak Bearish Divergence
- ราคา: Higher High
- Indicator: Equal High
Weak Bearish Divergence เป็นสัญญาณที่อ่อนกว่า Strong Bearish Divergence แต่ยังคงเป็นสัญญาณลบ เกิดขึ้นเมื่อราคาทำจุดสูงสุดใหม่ (Higher High) แต่ Indicator ทำจุดสูงสุดเท่ากับครั้งก่อน (Equal High) สัญญาณนี้อาจบ่งชี้ว่าแรงซื้อกำลังชะลอตัวลง แต่ยังไม่เห็นสัญญาณการกลับตัวที่ชัดเจน
2.2.3 Medium Bearish Divergence
- ราคา: Equal High
- Indicator: Lower High
Medium Bearish Divergence เป็นสัญญาณที่อยู่ระหว่าง Strong และ Weak Bearish Divergence เกิดขึ้นเมื่อราคาทำจุดสูงสุดเท่ากับครั้งก่อน (Equal High) แต่ Indicator ทำจุดสูงสุดที่ต่ำกว่าครั้งก่อน (Lower High) สัญญาณนี้อาจบ่งชี้ว่าแรงซื้อกำลังอ่อนแรงลง และราคาอาจกำลังจะเริ่มปรับตัวลง
2.2.4 Hidden Bearish Divergence
- ราคา: Lower High
- Indicator: Higher High
Hidden Bearish Divergence เป็นสัญญาณที่มักถูกมองข้าม แต่มีประสิทธิภาพในการยืนยันแนวโน้มขาลงที่มีอยู่ เกิดขึ้นเมื่อราคาทำจุดสูงสุดที่ต่ำกว่าครั้งก่อน (Lower High) แต่ Indicator กลับทำจุดสูงสุดที่สูงกว่าครั้งก่อน (Higher High) สัญญาณนี้มักบ่งชี้ว่าแนวโน้มขาลงยังคงแข็งแกร่งและอาจมีการปรับตัวลงต่อไป
3. วิธีการใช้ Divergence ในการเทรด
การใช้ Divergence ในการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องอาศัยความเข้าใจและการฝึกฝน ต่อไปนี้คือขั้นตอนพื้นฐานในการใช้ Divergence:
3.1 การระบุ Divergence
- ดูการเคลื่อนไหวของราคา
- เปรียบเทียบกับการเคลื่อนไหวของ Indicator
- ระบุประเภทของ Divergence ที่เกิดขึ้น
3.2 การยืนยันสัญญาณ
ควรใช้ Divergence ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณ เช่น:
- แนวรับแนวต้าน
- รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns)
- Moving Averages
3.3 การกำหนดจุดเข้าและออกจากตลาด
- จุดเข้า: เมื่อเกิด Divergence และมีการยืนยันจากเครื่องมืออื่น
- จุดออก: กำหนด Take Profit และ Stop Loss ตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
4. ข้อควรระวังในการใช้ Divergence
แม้ว่า Divergence จะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็มีข้อควรระวังในการใช้งาน:
4.1 การเกิดสัญญาณหลอก
Divergence อาจเกิดสัญญาณหลอกได้ โดยเฉพาะในตลาดที่มีความผันผวนสูง ควรใช้ร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยอื่นๆ ประกอบ
4.2 การเลือก Timeframe ที่เหมาะสม
Divergence อาจให้สัญญาณที่แตกต่างกันในแต่ละ Timeframe ควรเลือก Timeframe ที่สอดคล้องกับกลยุทธ์การเทรดของคุณ
4.3 การจัดการความเสี่ยง
ไม่ควรใช้ Divergence เป็นเครื่องมือเดียวในการตัดสินใจเทรด ควรมีการจัดการความเสี่ยงที่ดี เช่น การกำหนด Stop Loss ที่เหมาะสม
Divergence Cheat Sheet forex and crypto download free
FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง