Infinox เป็นโบรกเกอร์ Forex และ CFD ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในประเทศไทย แต่ก่อนที่จะตัดสินใจเปิดบัญชีกับ Infinox คุณควรพิจารณาข้อดีและข้อเสียในแต่ละด้านอย่างรอบคอบ บทความนี้จะวิเคราะห์ Infinox อย่างละเอียดเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าโบรกเกอร์นี้เหมาะกับคุณหรือไม่
ภาพรวมของ Infinox
Infinox ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันให้บริการในกว่า 15 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย โบรกเกอร์นี้ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานชั้นนำหลายแห่ง และมีพนักงานกว่า 450 คนทั่วโลก
ข้อดีของ Infinox
1. ความน่าเชื่อถือและการกำกับดูแล
Infinox ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานชั้นนำหลายแห่ง ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยให้กับนักลงทุน:
- Financial Conduct Authority (FCA) ของสหราชอาณาจักร (หมายเลขใบอนุญาต: 501057)
- Financial Services Commission (FSC) ของมอริเชียส (หมายเลขใบอนุญาต: GB20025832)
- Securities Commission of the Bahamas (SCB) ของบาฮามาส (หมายเลขใบอนุญาต: SIA-F188)
นอกจากนี้ Infinox ยังมีการแยกบัญชีเงินของลูกค้าออกจากบัญชีของบริษัท เพื่อความปลอดภัยของเงินทุนของลูกค้า
2. แพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย
Infinox นำเสนอแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของนักเทรดทุกระดับ:
- MetaTrader 4 (MT4)
- MetaTrader 5 (MT5)
- IX SYNC – แพลตฟอร์มที่พัฒนาโดย Infinox เอง
แพลตฟอร์มเหล่านี้รองรับการใช้งานทั้งบนคอมพิวเตอร์และมือถือ ทำให้นักเทรดสามารถเข้าถึงตลาดได้ทุกที่ทุกเวลา
3. เครื่องมือการเทรดที่หลากหลาย
Infinox มีเครื่องมือช่วยในการเทรดมากมาย ซึ่งช่วยให้นักเทรดสามารถวิเคราะห์ตลาดและตัดสินใจเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ:
- เครื่องมือแสดงอารมณ์ตลาด
- เครื่องมือสแกนตลาด
- เครื่องมือคำนวณ Pip
- Currency heat map
- และอื่นๆ อีกกว่า 60 รายการ
4. Social Trading
Infinox มีฟีเจอร์ Social Trading ที่เรียกว่า IX Social ซึ่งช่วยให้นักเทรดสามารถคัดลอกกลยุทธ์การเทรดของนักเทรดที่ประสบความสำเร็จได้ นี่เป็นฟีเจอร์ที่เหมาะสำหรับนักเทรดมือใหม่หรือผู้ที่ไม่มีเวลามากพอในการวิเคราะห์ตลาด
5. การฝากถอนเงินที่สะดวก
Infinox รองรับการฝากถอนเงินผ่านหลายช่องทาง รวมถึงธนาคารไทยและ QR Code ทำให้สะดวกสำหรับนักเทรดชาวไทย นอกจากนี้ยังไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากถอนเงิน (ยกเว้นกรณีถอนเงินต่ำกว่า 50 USD)
6. การบริการลูกค้า
Infinox มีทีมบริการลูกค้าที่พร้อมให้บริการในหลายภาษา รวมถึงภาษาไทย โดยสามารถติดต่อได้ผ่านหลายช่องทาง เช่น โทรศัพท์ อีเมล และแชทสด
ข้อเสียของ Infinox
1. ค่า Spread ที่ค่อนข้างสูง
เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ ในตลาด Infinox มีค่า Spread ที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในบัญชี Standard STP ซึ่งอาจไม่เหมาะกับนักเทรดที่ต้องการต้นทุนการเทรดที่ต่ำ
2. ค่า Swap ที่สูง
Infinox มีค่า Swap ที่ค่อนข้างสูงสำหรับบางคู่สกุลเงินและสินทรัพย์ ซึ่งอาจเป็นปัญหาสำหรับนักเทรดที่ชอบถือครองตำแหน่งเป็นเวลานาน
3. ข้อจำกัดในการถอนเงิน
แม้ Infinox จะไม่มีค่าธรรมเนียมในการถอนเงิน แต่หากถอนเงินต่ำกว่า 50 USD จะมีค่าธรรมเนียม 15 USD ซึ่งค่อนข้างสูงสำหรับการถอนเงินจำนวนน้อย
4. จำนวนสินทรัพย์ที่จำกัด
เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์บางราย Infinox อาจมีจำนวนสินทรัพย์ให้เทรดที่น้อยกว่า ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดสำหรับนักเทรดที่ต้องการความหลากหลายในการลงทุน
5. ความผันผวนของ Spread
มีรายงานจากผู้ใช้งานบางรายว่า Spread ของ Infinox มีความผันผวนสูงในบางช่วงเวลา โดยเฉพาะในช่วงที่มีข่าวสำคัญหรือความผันผวนในตลาดสูง
สรุป
Infinox เป็นโบรกเกอร์ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ในด้านบวก Infinox มีความน่าเชื่อถือสูงเนื่องจากได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำ มีแพลตฟอร์มและเครื่องมือการเทรดที่หลากหลาย และมีบริการลูกค้าที่ดี
อย่างไรก็ตาม ค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างสูงและข้อจำกัดบางประการอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้นักเทรดบางรายลังเลที่จะใช้บริการ นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เหล่านี้อย่างรอบคอบและเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ ก่อนตัดสินใจเปิดบัญชี
สุดท้ายนี้ การทดลองใช้บัญชีทดลองของ Infinox อาจเป็นวิธีที่ดีในการทดสอบคุณภาพการบริการและประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มก่อนที่จะตัดสินใจใช้เงินจริงในการเทรด
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและรายละเอียดล่าสุด สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ทางการของ Infinox: https://www.infinox.com/fsc/th/
FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง