TD Ameritrade ดีไหม
TD Ameritrade เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ชั้นนำของสหรัฐอเมริกาที่ให้บริการมายาวนานกว่า 40 ปี ตั้งแต่ปี 1975 แต่ในปี 2024 นี้ TD Ameritrade กำลังเข้าสู่ช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เนื่องจากถูกควบรวมกิจการโดยคู่แข่งอย่าง Charles Schwab ตั้งแต่ปี 2019 และล่าสุดได้เริ่มกระบวนการย้ายบัญชีลูกค้าไปยัง Schwab แล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ นับเป็นการปิดตำนานของ TD Ameritrade อย่างเป็นทางการ
ข้อมูลทั่วไปของ TD Ameritrade
- ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1975 ภายใต้ชื่อ Ameritrade
- สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา และมีสำนักงานอยู่ทั่วประเทศ
- เว็บไซต์หลักคือ www.tdameritrade.com รองรับภาษาอังกฤษ จีน และญี่ปุ่น
- อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ FINRA และ SIPC ในสหรัฐฯ
- เงินฝากขั้นต่ำเริ่มต้นที่ $2,000 รับเฉพาะสกุลเงิน USD
- รูปแบบการดำเนินการแบบ DMA (Direct Market Access)
- มีแอพเทรดบนมือถือทั้ง iOS และ Android
- ประเภทบัญชีมีทั้งแบบมาตรฐานและแยกตามโปรแกรม แต่ไม่มีโปรแกรมพันธมิตร
ขั้นตอนการเปิดบัญชีสำหรับคนไทย
แม้ TD Ameritrade จะรับลูกค้านานาชาติ แต่มีข้อจำกัดสำหรับคนไทยค่อนข้างมาก จากประสบการณ์ของสมาชิก Pantip หลายคนแนะนำว่า
- สามารถเปิดบัญชีผ่านสาขาของ TD Ameritrade ในสิงคโปร์ได้ แต่ต้องติดต่อโดยตรงกับทางสาขา
- ต้องมีเลขประกันสังคมของสหรัฐฯ (Social Security Number) เพื่อใช้ในการเปิดบัญชีและเรื่องภาษี
- หากไม่มี SSN อาจต้องหันไปใช้โบรกเกอร์อื่นที่รองรับคนไทยได้ง่ายกว่า เช่น Merrill Lynch หรือ E-Trade
สินทรัพย์ที่ให้ซื้อขาย
TD Ameritrade ให้บริการซื้อขายหลากหลายสินทรัพย์ประเภท ทั้งหุ้น, ETF, ฟอเร็กซ์, กองทุน, พันธบัตร, ออปชัน, ฟิวเจอร์ส และ CFDs โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ฟอเร็กซ์: รองรับ 69 คู่สกุลเงิน ให้เลเวอเรจสูงสุด 1:50
- CFDs: รองรับการเทรดสินทรัพย์มากกว่า 10,000 ชนิด ทั้งสินค้าโภคภัณฑ์, โลหะมีค่า, พลังงาน และดัชนี
- ตลาดหลักทรัพย์: เชื่อมต่อกับตลาดหุ้นสหรัฐชั้นนำ เช่น NASDAQ, NYSE, CME, NYMEX, CBOT
แพลตฟอร์มการเทรด
TD Ameritrade มีแพลตฟอร์มการเทรดให้เลือก 2 ประเภท คือ
- Web Trader ใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์
- Thinkorswim แพลตฟอร์มขั้นสูงสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพ ซึ่งเป็นจุดเด่นของ TD Ameritrade มาโดยตลอด โดย Schwab ได้ให้คำมั่นว่าจะรักษา Thinkorswim ไว้และจะย้ายมาอยู่ใน Schwab ในปี 2023 ซึ่งหลายคนต่างจับตามองว่าจะเป็นจริงหรือไม่ หรือจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
ค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชัน
จุดแข็งของ TD Ameritrade คือการคิดค่าธรรมเนียมในอัตราที่ค่อนข้างต่ำ โดยเฉพาะการเทรดหุ้นและ ETFs ที่ไม่มีค่าคอมมิชชัน อย่างไรก็ตามยังมีค่าธรรมเนียมในการเทรดสินทรัพย์บางประเภท เช่น
- กองทุนรวมที่ไม่ฟรี มีค่าคอมมิชชัน $49.95 ต่อการเทรด
- ฟิวเจอร์สดัชนีสหรัฐ คิด $2.25 ต่อสัญญา บวกค่าธรรมเนียมตลาดหรือกำกับดูแล
- ฟอเร็กซ์รวมค่าธรรมเนียมอยู่ในสเปรด เช่น EUR/USD สเปรด 1.4 pips
- พันธบัตรรัฐบาล ไม่มีค่าคอมมิชชัน แต่พันธบัตรอื่นๆ จะถูกตลาดตามผลตอบแทนสุทธิ
การฝากถอนเงิน
การฝากถอนเงินกับ TD Ameritrade สามารถทำได้ง่ายและไม่มีค่าธรรมเนียม แต่มีข้อจำกัดอยู่บ้าง คือ
- รองรับเฉพาะสกุลเงิน USD เท่านั้น
- การโอนเงินผ่านธนาคารมีค่าธรรมเนียมค่อนข้างสูง แต่การฝากเงินไม่มีค่าธรรมเนียม
- จำนวนเงินฝากขั้นต่ำคือ $2,000 ซึ่งค่อนข้างสูงหากเทียบกับโบรกเกอร์รายอื่น
รีวิวจากลูกค้าในไทย
จากกระทู้ใน Pantip หลายคนให้ความเห็นว่า TD Ameritrade ไม่ค่อยเป็นมิตรกับนักลงทุนไทยมากนัก ทั้งในแง่ของการเปิดบัญชีที่มีเงื่อนไขเยอะ และการสื่อสารที่ไม่รองรับภาษาไทย แต่ก็มีบางคนแนะนำว่าหากอยากเทรดหุ้นอเมริกา ให้ลองเปิดผ่านสาขาใน สิงคโปร์ดู หรือหันไปใช้โบรกอื่นเช่น E-Trade ที่เปิดได้ง่ายกว่าสำหรับคนไทย และคำถามที่หลายคนสงสัยคือเรื่องภาษี ว่าต้องเสียอย่างไร ซึ่งก็แล้วแต่เงื่อนไขของแต่ละคน
สรุป
TD Ameritrade ถือเป็นตำนานโบรกเกอร์ออนไลน์ที่กำลังจะจบลงในปี 2024 นี้ หลังถูกซื้อกิจการโดย Charles Schwab แม้จะมีจุดเด่นเรื่องค่าคอมมิชชันต่ำ แพลตฟอร์มการเทรดอย่าง Thinkorswim และการซื้อขายหุ้นฟรี แต่ก็มีเงื่อนไขและข้อจำกัดพอสมควรสำหรับนักลงทุนไทยที่ต้องศึกษาให้ดี โดยในช่วงที่เหลือนี้ ต้องคอยติดตามความเคลื่อนไหวของ TD Ameritrade อย่างใกล้ชิดว่ากระบวนการย้ายไป Schwab จะเป็นอย่างไร จะกระทบอะไรกับลูกค้าบ้าง และสำหรับใครที่สนใจจะเปิดพอร์ตเพื่อเทรดหุ้นอเมริกา ณ ตอนนี้ คงต้องมองหาโบรกเกอร์อื่นที่ยังเปิดให้บริการอยู่แทน เพราะไม่นานเกินรอ TD Ameritrade ก็จะเป็นอดีตไปแล้ว
FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง