Zigzag indicator คืออะไร
“Zigzag Indicator” คือ Indicator ประเภทหนึ่ง ในเครื่องมือของการวิเคราะห์ทางเทคนิคในการซื้อขายหุ้น ฟิวเจอร์ส สกุลเงินดิจิทัลต่างๆ และสินทรัพย์อื่นๆ ซึ่งถูกสร้างขึ้น เพื่อช่วยในการจำแนกและทำความเข้าใจในรูปแบบของราคา ที่มีการเปลี่ยนแปลงมาก เรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือที่ไว้ที่เอาไว้ช่วยดูทิศทางการเคลื่อนไหวของราคา ซึ่งสามารถกรอง จำพวกการเคลื่อนไหวที่ไม่มีนัยสำคัญออกไป ให้เทรดเดอร์ดูภาพรวมได้ดีขึ้น
Zigzag Indicator จะวาดเส้นแทนการเปลี่ยนแปลงของราคา ด้วยการสร้าง “หัว” และ “คาง” ที่คำนวณจากการเปลี่ยนแปลงของราคาที่กำหนด เมื่อราคาเปลี่ยนแปลงเกินระดับที่กำหนด จึงจะวาดเส้นใหม่ ดังนั้น เส้น Zigzag จะไม่เปลี่ยนแปลงจนกว่าราคาจะเปลี่ยนแปลงมากพอสำหรับการสร้าง “หัว” หรือ “คาง” ใหม่
ความมากหรือน้อยของการเปลี่ยนแปลงราคาที่ต้องการ เพื่อวาดเส้นใหม่นั้น จะขึ้นอยู่กับการตั้งค่าของผู้ใช้งาน แต่การตั้งค่าที่สูงอาจจะลดลงรายละเอียดที่มากเกินไป และการตั้งค่าที่ต่ำอาจจะสร้างสัญญาณที่ผิดพลาดเกินไป
ดังนั้น ภาพรวมแล้ว Zigzag Indicator สามารถช่วยในการระบุแนวโน้มและการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม รวมถึงการระบุระดับราคาสนับสนุนและราคาต้านทาน แต่ความล่าช้าในการวาดเส้นและการเปลี่ยนแปลงเส้นสามารถทำให้ผู้ใช้งานพลาดได้
คำนิยาม
ตัวบ่งชี้ Zig Zag ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค คือ เครื่องมือที่มีการสร้างเส้น “zigzag” บนกราฟราคาเพื่อช่วยประสานแนวโน้มของราคาและทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของราคาในภาพรวมที่ชัดเจนขึ้น
ตัวบ่งชี้นี้ทำงานโดยสร้าง “ส่วนสูง” และ “ส่วนต่ำ” บนกราฟในช่วงราคาที่เปลี่ยนแปลงอย่างเฉพาะเจาะจง ที่กำหนดโดยผู้ใช้งาน (บางครั้งจะถูกวัดด้วยเปอร์เซ็นต์ที่ราคาเปลี่ยนแปลง) เมื่อราคาเปลี่ยนแปลงมากเกินกว่าระดับที่กำหนด ตัวบ่งชี้จะสร้างจุดใหม่
Zig Zag Indicator มักถูกใช้เพื่อช่วยให้เห็นแนวโน้มราคาในภาพรวม ช่วยลดสัญญาณรบกวนจากการเคลื่อนไหวราคาในแต่ละวัน และช่วยทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงราคาที่สำคัญ จะก็สามารถช่วยในการระบุระดับราคาที่เป็นการสนับสนุนหรือต้านทาน แต่เนื่องจากตัวบ่งชี้นี้ สร้างเส้น zigzag ที่ “เลื่อนลอย” ตามการเปลี่ยนแปลงราคา ตัวบ่งชี้นี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงถ้าราคามีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญได้
คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับ Zigzag indicator
- แนวโน้ม (Trend): คือ การเคลื่อนไหวของราคาในระยะยาวหรือระยะสั้น ซึ่งสามารถเป็นแนวโน้มขาขึ้น (uptrend) หรือแนวโน้มขาลง (downtrend)
- ระดับสนับสนุน (Support Levels): ระดับราคาที่ราคาหุ้นมักจะหยุดลงและแสดงสัญญาณว่าจะเริ่มขาขึ้น
- ระดับต้านทาน (Resistance Levels): ระดับราคาที่ราคาหุ้นมักจะหยุดการขาขึ้นและแสดงสัญญาณว่าจะเริ่มขาลง
- รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns): การเรียงแถวและรูปทรงของแท่งเทียนที่นักวิเคราะห์ทางเทคนิคใช้เพื่อสร้างสมมติฐานเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต
- ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค (Technical Indicators): เครื่องมือทางสถิติที่นักวิเคราะห์ทางเทคนิคใช้เพื่อประเมินแนวโน้ม รูปแบบ และวอลาติลิตี้ของราคาหุ้น
- การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis): วิธีการวิเคราะห์ราคาหลักทรัพย์และตลาดทั่วไป โดยใช้รูปแบบการซื้อขายที่ผ่านมา ราคา และปริมาณ.
- การเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้น / ลดลง (Upward / Downward Movements): ระบุการเปลี่ยนแปลงในราคาในแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง
- การเปลี่ยนแปลงราคาที่เฉพาะเจาะจง (Specific Price Changes): การตั้งค่าที่ใช้กำหนดตัวบ่งชี้ ZigZag โดยใช้ระดับการเปลี่ยนแปลงราคาเพื่อระบุจุดสูงสุดและต่ำสุด
- การซื้อขายแบบเบื้องต้นและแบบปฏิบัติ (Basic and Applied Trading): การทำความเข้าใจแนวโน้มและรูปแบบของตลาดทั้งหมด เพื่อค้นหาจุดเริ่มต้นที่ดีในการซื้อหรือขาย
- สัญญาณซื้อและขาย (Buy and Sell Signals): ในบริบทของ ZigZag, แต่ละจุดสูงสุดและต่ำสุดที่เปลี่ยนแปลงอาจถือเป็นสัญญาณซื้อหรือขาย
- การปรับแต่งตัวบ่งชี้ (Indicator Adjustment): การเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าของตัวบ่งชี้ ZigZag เพื่อสอดคล้องกับกลยุทธ์การซื้อขายของแต่ละคน
- การตรวจสอบแบบควบคู่ (Confluence Checking): การใช้ ZigZag ควบคู่กับตัวบ่งชี้อื่นๆ เพื่อสร้างการตรวจสอบแบบควบคู่
- การทดลอง (Backtesting): การทดสอบกลยุทธ์การซื้อขายที่ใช้ ZigZag โดยใช้ข้อมูลราคาในอดีต
วิธีการใช้ Zigzag indicator
ปกติค่า Zigzag จะตั้งไว้ที่ 10 นั่น หมายถึง Zigzag จะไม่คำนึงถึงทิศทางการของเคลื่อนไหวของราคาที่เปลี่ยนแปลงต่ำกว่า 10% จะดูเฉพาะช่วงที่ราคาเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงมากกว่า 10% ถึงจะแสดงถึงผล โดยทำให้เทรดเดอร์สามารถดูภาพรวมของทิศทางของราคาในภาพรวมได้ชัดเจนมากขึ้น
สิ่งที่ต้องดู
- ระบุแนวโน้ม: ถ้าเส้น Zigzag ขยับขึ้นไปเรื่อยๆ, แนวโน้มราคาทั่วไปอาจถูกดูว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้น. ถ้าเส้น Zigzag ขยับลงมาเรื่อยๆ, แนวโน้มราคาทั่วไปอาจถูกดูว่าเป็นแนวโน้มขาลง
- ระบุระดับสนับสนุนและต้านทาน: ระดับสูงสุดและระดับต่ำสุดของเส้น Zigzag สามารถถูกใช้เป็นระดับสนับสนุนและต้านทาน. ถ้าราคาไปตามแนวโน้มและถึงระดับสนับสนุนหรือต้านทานที่กำหนดโดยเส้น Zigzag นักลงทุนอาจจะมองหาสัญญาณอื่นๆ เพื่อยืนยันว่าราคาจะเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม
- วิเคราะห์รูปแบบราคา: นักลงทุนอาจใช้ Zigzag Indicator เพื่อระบุรูปแบบราคาที่เป็นที่รู้จัก เช่น เป็นรูปแบบของแนวโน้มหรือรูปแบบของการกลับกันแนวโน้ม
ขั้นตอนการใช้
HL = ซีรีย์ราคาสูง-ต่ำ หรือ ซีรีย์ราคาปิด
% การเปลี่ยนแปลง = การเคลื่อนไหวของราคาขั้นต่ำ (เป็นเปอร์เซ็นต์)
Retrace = นี่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงในการย้อนกลับของการเคลื่อนไหวก่อนหน้า เปลี่ยนการย้อนกลับของการเคลื่อนไหวก่อนหน้า หรืออาจเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบสัมบูรณ์จากจุดสูงสุดไปยังจุดต่ำสุด
LastExtreme = ราคานี้อ้างอิงราคาสุดขั้ว หากราคาเท่ากันในหลายช่วงเวลา (โดยปกติจะเป็นการสังเกตราคาครั้งแรกหรือราคาสุดท้าย)
- เริ่มต้นด้วยการเลือกจุดเริ่มต้น (สวิงสูงหรือสวิงต่ำ)
- จากนั้น เลือก % การเคลื่อนไหวของราคา
- จากนั้นคุณจะต้องระบุการสวิงครั้งต่อไป (การสวิงสูงหรือสวิงต่ำ) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแตกต่างจากจุดเริ่มต้น
- จากนั้นลากเส้นแนวโน้มจากจุดเริ่มต้นไปยังจุดใหม่
- อีกครั้ง ระบุวงสวิงถัดไปว่าสูงหรือสวิงยาว ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแตกต่างจากจุดที่สร้างในขั้นตอนที่ 3
- วาดเส้นแนวโน้มใหม่ที่เชื่อมต่อจุดเหล่านี้
- ทำซ้ำขั้นตอนเหล่านี้สำหรับวงสวิงสูงหรือต่ำถัดไป
การคำนวณ
ตัวบ่งชี้ Zig Zag สามารถคำนวณได้ด้วยสูตรต่อไปนี้
ZigZag (HL, % change = X , retrace = FALSE, LastExtreme = TRUE) If % change > = X, plot ZigZag |
- กำหนดค่า % การเปลี่ยนแปลงราคา
- ดูช่วง Swing High และ Swing Low (ถ้าเป็นกราฟแท่งเทียนจะดูระดับ High และ Low ถ้าเป็นกราฟเส้น จะดูระดับ Close)
- หากช่วง Swing High/Swing Low มี % การเปลี่ยนแปลงมากกว่าที่กำหนดไว้ช่วงแรก จะทำการลากเส้น Zigzag
- หากช่วง Swing High/Swing Low มี % การเปลี่ยนแปลงน้อยกว่าที่กำหนดนั้น จะไม่สนใจ
ตัวบ่งชี้ ZigZag เป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้ในการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาในสินค้าทางการเงิน มันช่วยระบุแนวโน้มของราคาและการกลับตัวของราคาภายในแนวโน้มดังกล่าว ZigZag ทำงานโดยการวาดเส้นที่เชื่อมกันระหว่างจุดสูงสุด (peaks) และจุดต่ำสุด (troughs) ของราคา ซึ่งจุดเหล่านี้เป็นที่รู้จักในภาษาฟอเร็กซ์ว่า “สวิง ไฮส์” Swing High และ “สวิง โลส์” Swing Low สามารถตั้งค่าจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดเหล่านี้ตามความต้องการ
ZigZag มีการตั้งค่าหลักสามประการ: Depth, Deviation และ Backstep
- Depth: ควบคุมจำนวนแท่งที่ต้องผ่านไปก่อนที่จะสามารถวาดเส้น ZigZag ใหม่ได้ ค่านี้จะบังคับให้ ZigZag รอจำนวนบาร์ที่ตั้งไว้ก่อนที่จะทำการอัพเดทเส้น
- Deviation: ควบคุมเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงราคาที่จำเป็นในการวาดเส้น ZigZag ใหม่ ถ้าราคาเปลี่ยนแปลงมากกว่าเปอร์เซ็นต์ที่ตั้งไว้ ตัวบ่งชี้จะวาดเส้น ZigZag ใหม่
- Backstep: ควบคุมจำนวนบาร์ต่ำสุดที่ต้องระบุเป็นสวิง ไฮส์ หรือสวิง โลส์
การตั้งค่า indicator zigzag ใน MT4
การตั้งค่าตัวบ่งชี้ ZigZag ใน MetaTrader 4 (MT4) มีขั้นตอน ดังนี้
- เปิดโปรแกรม MetaTrader 4
- เลือกชาร์ต คู่เงิน ที่จะใช้ตัวบ่งชี้ ZigZag
- จากเมนูส่วนบน คลิก “Insert”
- แล้วไปที่ “Indicators” -> “Custom” -> “ZigZag”
- จากนั้นหน้าต่างการตั้งค่าจะปรากฏขึ้น
สามารถปรับค่าตัวบ่งชี้ ZigZag ได้ โดยมีเงื่อนไขต่างๆดังนี้
- Depth: จำนวนแท่งสูงสุดที่ระบบจะดูย้อนกลับ เพื่อค้นหาสุดฮายหรือล่าสุด ค่าที่มากกว่าจะทำให้ตัวบ่งชี้ทำงานละเอียดมากขึ้น ค่าที่ต่ำกว่าจะทำให้เกิดสัญญาณเปลี่ยนเทรนด์มากขึ้น
- Deviation: อัตราเปอร์เซ็นต์ที่ราคาต้องเปลี่ยนแปลงอย่างน้อยเพื่อสร้างสุดฮาย/ล่าสุดใหม่
- Backstep: จำนวนแท่งต่ำสุดระหว่างสุดฮาย/ล่าสุด
- เมื่อปรับค่าตามที่ต้องการแล้ว คลิก “OK”
- ZigZag จะปรากฏบนชาร์ต เป็นลักษณะเส้นหยัก
การตั้งค่า indicator zigzag ใน Trading view
การตั้งค่าตัวบ่งชี้ ZigZag ใน TradingView มีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
- เปิดโปรแกรม TradingView และเลือกชาร์ตสินค้าที่คุณต้องการที่จะใช้ตัวบ่งชี้ ZigZag
- คลิกที่ไอคอน ‘fx' ที่อยู่ทางด้านบนของหน้าจอเพื่อเปิดหน้าต่าง “Indicators & Strategies”
- พิมพ์คำว่า “ZigZag” ในช่องค้นหาแล้วเลือก “ZigZag” ที่อยู่ในหมวด “Built-ins”
- เมื่อเลือก “ZigZag” หน้าต่างการตั้งค่าจะปรากฏขึ้น
สามารถปรับค่าตัวบ่งชี้ ZigZag ได้ โดยมีเงื่อนไขต่างๆ ดังนี้
- Depth: จำนวนแท่งสูงสุดที่ระบบจะดูย้อนกลับเพื่อค้นหาสุดฮายหรือล่าสุด ค่าที่มากกว่าจะทำให้ตัวบ่งชี้ทำงานละเอียดมากขึ้น ค่าที่ต่ำกว่าจะทำให้เกิดสัญญาณเปลี่ยนเทรนด์มากขึ้น
- Backstep: จำนวนแท่งต่ำสุดระหว่างสุดฮาย/ล่าสุด
- เมื่อปรับค่าตามที่ต้องการแล้ว คลิก “OK” แล้ว ZigZag จะปรากฏบนชาร์ต
ข้อดี ข้อเสีย indicator zigzag
ข้อดี indicator zigzag
- ช่วยระบุแนวโน้มราคา: ZigZag ทำงานได้ดีในการเพิ่มการเข้าใจความเคลื่อนไหวของราคาและแนวโน้มทั่วไปของตลาด ซึ่งสามารถช่วยนักลงทุนระบุช่วงขาขึ้นหรือขาลง
- จุดตามสัญญาณการกลับตัว: โดยที่ตัวบ่งชี้ ZigZag จะเชื่อมต่อสุดฮายและล่าสุด ดังนั้นจุดที่เส้น ZigZag ทำการกลับเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มที่เป็นไปได้
- การระบุระดับการสนับสนุนและการต้านทาน: สามารถใช้จุดสูงสุดและต่ำสุดที่ ZigZag ระบุเพื่อสร้างระดับการสนับสนุนและการต้านทาน
- ระบุรูปแบบการซื้อขาย: ตัวบ่งชี้ ZigZag สามารถช่วยในการสร้างและระบุรูปแบบทางเทคนิคที่สำคัญ เช่น Double Top, Double Bottom, Head and Shoulders และอื่น ๆ อีกมากมาย
- ฟิลเตอร์สัญญาณซ้อนทับ: โดยการตั้งค่าแบบเฉพาะเจาะจง ZigZag สามารถใช้เพื่อลดลงสัญญาณซ้อนทับหรือ “สัญญาณสุ่ม” ที่อาจสร้างความสับสนในการวิเคราะห์
ข้อเสีย indicator zigzag
- การเปลี่ยนแปลงแบบ retrospective: หนึ่งในข้อจำกัดของ ZigZag คือ มีการดำเนินการแบบ retrospective หรือย้อนหลัง คือ มันจะคำนวณและเปลี่ยนแปลงเส้นตามการเคลื่อนไหวของราคาในอดีต ข้อมูลนี้ไม่ได้สะท้อนถึงการเคลื่อนไหวในอนาคต ซึ่งจำกัดความสามารถในการทำนาย
- ไม่ให้สัญญาณซื้อขายแน่นอน: ZigZag เป็นเครื่องมือที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มและระบุระดับสนับสนุนและความต้านทาน ไม่ได้ให้สัญญาณซื้อหรือขายโดยตรง
- ไม่สามารถทำงานได้ดีในตลาดที่ไม่มีแนวโน้ม: ZigZag ทำงานได้ดีที่สุดในตลาดที่มีแนวโน้มเป็นชัด ในขณะที่ตลาดที่มีการซื้อขายแนวราบ อาจทำให้ ZigZag ให้ผลลัพธ์ที่ไม่แน่นอน
ตัวบ่งชี้ ZigZag เป็นหนึ่งในเครื่องมือทางเทคนิคที่สร้างขึ้นมาจากงานวิจัยของคณะทำงานทางเทคนิคในตลาดหลักทรัพย์และการเงิน ตัวบ่งชี้นี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นโดยบุคคลที่เฉพาะเจาะจง แต่เป็นผลสำเร็จรูปของการพัฒนาและปรับปรุงของหลายๆ คนในวงการนี้ อีกทั้งยังได้รับการนำมาใช้มากในซอฟต์แวร์การซื้อขายและเป็นส่วนหนึ่งของหลายๆ แพลตฟอร์มการซื้อขาย เช่น MetaTrader, TradingView และอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีผู้ทำธุรกรรมอย่างไม่เป็นทางการในวงการที่อาจจะมีการปรับแต่งตัวบ่งชี้ ZigZag ตามที่ต้องการ
FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง