กราฟแท่งเทียน คืออะไร
กราฟแท่งเทียน (Candlestick chart) เป็นวิธีหนึ่งในการแสดงข้อมูลการซื้อขายหุ้น หรือสินทรัพย์ทางการเงินอื่น ๆ ที่มีการเคลื่อนไหวในช่วงเวลาที่กำหนด กราฟแท่งเทียนใช้รูปแบบของแท่งเทียนที่มีลักษณะเป็นตารางเรียงกันในแนวตั้ง โดยแต่ละแท่งจะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับราคาเปิดตลาด (Open), ราคาปิดตลาด (Close), ราคาสูงสุดในช่วงเวลา (High), และราคาต่ำสุดในช่วงเวลา (Low) ของหุ้นหรือสินทรัพย์ที่กำลังวิ่งราคาในช่วงนั้น ๆ
กราฟแท่งเทียนประกอบด้วยส่วนของตัวแท่ง (body) และส่วนของเส้นระดับราคาสูงสุดและต่ำสุด (wicks) โดยส่วนของตัวแท่งจะมีความหนาหรือบางขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่างราคาเปิดตลาดและราคาปิดตลาด ถ้าราคาปิดตลาดสูงกว่าราคาเปิดตลาด จะมีส่วนตัวแท่งแสดงขึ้นด้านบน ในทางกลับกัน ถ้าราคาปิดตลาดต่ำกว่าราคาเปิดตลาด จะมีส่วนตัวแท่งแสดงลงด้านล่าง หากแท่งต้นมีสีเขียว แสดงถึงราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด ในขณะที่แท่งต้นสีแดงแสดงถึงราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด การวิเคราะห์รูปแบบและการเคลื่อนไหวของแท่งเทียนช่วยให้นักลงทุนสามารถตรวจสอบแนวโน้มราคา และดำเนินการตัดสินใจซื้อขายในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ลักษณะของกราฟแท่งเทียน
แผนภูมิแท่งเทียน (Candlestick Chart) มีลักษณะแท่งเทียนที่แสดงข้อมูลราคาของคู่สกุลเงินในรูปแบบต่าง ๆ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์และสังเกตแนวโน้มของราคาในตลาด โดยการแสดงข้อมูลราคาของสินทรัพย์ในรูปแบบของแท่งเทียนที่สามารถแสดงความเปลี่ยนแปลงของราคาในระยะเวลาที่กำหนดได้อย่างชัดเจน ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้
แท่งเทียนขาขึ้น (Bullish Candlestick)
แท่งเทียนขาขึ้นเป็นแท่งเทียนที่แสดงถึงแนวโน้มขาขึ้นของราคาในตลาด ลักษณะของแท่งเทียนขาขึ้นมีลักษณะ ใส้เทียนล่าง (Lower Shadow) ที่สั้นกว่าหรือเท่ากับใส้เทียนบน (Upper Shadow) และราคาปิดที่สูงกว่าราคาเปิด สัญลักษณ์ของแท่งเทียนขาขึ้นเป็นบอกทางให้รู้ว่าผู้ควบคุมตลาดเป็นผู้ซื้อและควบคุมตลาดไปในทิศทางขาขึ้น
แท่งเทียนขาลง (Bearish Candlestick)
แท่งเทียนขาลงเป็นแท่งเทียนที่แสดงถึงแนวโน้มขาลงของราคาในตลาด ลักษณะของแท่งเทียนขาลงมีลักษณะใส้เทียนบน (Upper Shadow)ที่สั้นกว่าหรือเท่ากับใส้เทียนล่าง(Lower Shadow) และราคาปิดที่ต่ำกว่าราคาเปิด สัญลักษณ์ของแท่งเทียนขาลงเป็นบอกทางให้รู้ว่าผู้ควบคุมตลาดเป็นผู้ขายและควบคุมตลาดไปในทิศทางขาลง
แท่งเทียนอุปสรรค (Doji Candlestick)
แท่งเทียนอุปสรรคเป็นแท่งเทียนที่แสดงถึงแนวโน้มของราคาในตลาดและอาจแสดงถึงการขาดความแน่ใจหรือความไม่ชัดเจนในการตัดสินใจของผู้ควบคุมตลาด ลักษณะของแท่งเทียนอุปสรรคคือราคาปิดและราคาเปิดอยู่ใกล้เคียงกันหรือเท่ากัน และมีก้านบน (ใส้เทียน) และก้านล่าง (ใส้เทียน) ที่เท่ากันหรือต่างกันเล็กน้อย
กราฟแท่งเทียน 80 รูปแบบ คืออะไร
รูปแบบของกราฟแท่งเทียนช่วยให้สามารถวิเคราะห์แนวโน้มราคา ระดับการค้าระหว่างซื้อและขาย และรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาได้ กราฟแท่งเทียนนั้นมีหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละรูปแบบเป็นตัวแสดงสัญญาณหรือแบบรูปที่เกิดขึ้นบนกราฟแท่งเทียน เพื่อชี้แจงแนวโน้มราคาหรือสัญญาณการซื้อขายที่เป็นประโยชน์ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยกราฟแท่งเทียน 80 รูปแบบหมายถึงชุดของรูปแบบที่ใช้ในการวิเคราะห์และการแสดงแนวโน้มของตลาดด้วยกราฟแท่งเทียน รูปแบบเหล่านี้สามารถใช้ในการตรวจสอบแนวโน้มของตลาด การเปลี่ยนแปลงของตลาด และสัญญาณการซื้อหรือขายในตลาดทางการเงินแต่ละกราฟแท่งเทียนมีหลายประเภทที่แสดงถึงสถานะและแนวโน้มของตลาด โดยสามารถแยก 4 ประเภทของกราฟแท่งเทียนได้ดังนี้
- Bullish Reversal (การเปลี่ยนแปลงแนวโน้มเป็นเชิงบวก): 29 รูปแบบ
- Bearish Reversal (การเปลี่ยนแปลงแนวโน้มเป็นเชิงลบ): 30 รูปแบบ
- Bullish Continuation (การต่อเนื่องของแนวโน้มเชิงบวก): 12 รูปแบบ
- Bearish Continuation (การต่อเนื่องของแนวโน้มเชิงลบ): 9 รูปแบบ
Bullish Reversal (การเปลี่ยนแปลงแนวโน้มเป็นเชิงบวก)
เป็นรูปแบบหนึ่งของกราฟแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงจากแนวโน้มตลาดที่ลดลงหรือเครื่องมือระบบในการซื้อขายเป็นแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น โดยรูปแบบ Bullish Reversal มักเกิดขึ้นหลังจากการแนวโน้มตลาดที่ตกต่ำแล้ว และใช้สัญญาณบอกเตือนว่าการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอาจเกิดขึ้นในอนาคต รูปแบบเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณว่าตลาดอาจกำลังพลิกกลับและเริ่มเคลื่อนไหวในทิศทางของผู้ซื้อ และนี่คือรายชื่อและอธิบายลักษณะและแนวโน้มของรูปแบบ Bullish Reversal ทั้ง 29 รูปแบบ ดังนี้
- Hammers (Umberlla Lines): รูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเป็นแท่งเทียนคว่ำ (downward candle) และมีเงายาวที่ด้านล่าง (lower shadow) ซึ่งสร้างมาจากการแพ้และทำกลับตัวของราคาจากแนวต้าน (support) เพียงพอ
- Bullish Belt Hold: รูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเป็นแท่งเทียนขึ้น (upward candle) โดยราคาเปิด (open) อยู่ที่ต่ำสุดของวัน และราคาปิด (close) อยู่ที่สูงสุดของวัน แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงจากตลาดที่ตกต่ำไปเป็นตลาดที่เกิดความเชื่อมั่นมากขึ้น
- Bullish Engulfing: รูปแบบแท่งเทียนที่แท่งเทียนเปิดต่ำกว่าแท่งเทียนก่อนหน้า (previous candle) และราคาปิดสูงกว่าแท่งเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการกลับตัวของตลาดจากแนวลดลง (downtrend) เป็นแนวขึ้น (uptrend)
- Bullish Piercing Pattern: รูปแบบแท่งเทียนที่แท่งเทียนเปิดต่ำกว่าและราคาปิดสูงกว่าระดับค่าเฉลี่ยของแท่งเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงจากตลาดที่ตกต่ำไปเป็นตลาดที่มีความเชื่อมั่นมากขึ้น
- Bullish Kicker Signal: รูปแบบแท่งเทียนที่แท่งเทียนเปิดที่ราคาที่สูงกว่าแท่งเทียนก่อนหน้าและราคาปิดที่สูงกว่าระดับค่าเฉลี่ยของแท่งเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการกระตุ้นของตลาดในทิศทางของการขึ้นของราคา
- Bullish Doji Stars: รูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเป็นแท่งเทียนคว่ำ (downward candle) ที่ราคาเปิดและราคาปิดอยู่ใกล้เคียงกัน โดยมีเงายาวที่ด้านล่าง ซึ่งแสดงถึงความไม่แน่นอนในตลาด แต่เมื่อแท่งเทียนต่อมาเป็นแท่งเทียนขึ้น (upward candle) และมีราคาเปิดที่สูงกว่าราคาปิดของแท่งเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงในทิศทางของตลาด
- Inverted Hammer: รูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเป็นแท่งเทียนขึ้น (upward candle) และมีเงายาวที่ด้านบน ซึ่งแสดงถึงการแพ้และทำกลับตัวของราคาจากแนวความเชื่อมั่น (resistance) เพียงพอ
- Harami (cross)—Bullish: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีขนาดเล็กกว่าและอยู่ภายในเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการกลับตัวของตลาดจากแนวลดลงเป็นแนวขึ้น
- Bullish Meeting Lines (Counterattack): รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีราคาเปิดและราคาปิดใกล้เคียงกัน แสดงถึงการมีผู้ค้าจำนวนมากที่ยังคงในตลาดแม้ว่าราคาอาจเคลื่อนที่แนวตั้งอยู่
- Homing Pigeon: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีราคาเปิดที่ต่ำกว่าและราคาปิดใกล้เคียงกัน แสดงถึงการกลับตัวของตลาดจากแนวลดลงเป็นแนวขึ้น
- Matching Low: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีราคาเปิดและราคาปิดต่ำเท่ากัน แสดงถึงความแข็งแรงของตลาดที่ต่ำแต่ไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน
- Tweezer Bottom: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีเงายาวที่ด้านล่าง และแท่งเทียนต่อมาอยู่ในรูปแบบแท่งเทียนขึ้น แสดงถึงการกลับตัวของตลาดจากแนวลดลงเป็นแนวขึ้น
- Bullish Tri Star: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมาอยู่ในรูปแบบแท่งเทียนขึ้น และราคาเปิดและราคาปิดของแท่งเทียนทั้งสองด้านอยู่ใกล้เคียงกัน แสดงถึงการกลับตัวของตลาดจากแนวลดลงเป็นแนวขึ้น
- Three Outside Up: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมาอยู่ในรูปแบบแท่งเทียนขึ้น และมีราคาเปิดที่ต่ำกว่าราคาปิดของแท่งเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงในทิศทางของตลาด
- Morning Star: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมาอยู่ในรูปแบบแท่งเทียนขึ้น และมีแท่งเทียนกลางที่มีราคาปิดต่ำกว่าและอยู่ภายในของเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการกลับตัวของตลาดจากแนวลดลงเป็นแนวขึ้น
- Abandoned Baby Bottom: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีเงายาวที่ด้านล่าง และแท่งเทียนกลางที่มีราคาปิดต่ำกว่าและอยู่ภายในของเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการกลับตัวของตลาดจากแนวลดลงเป็นแนวขึ้น
- Unique Three River Bottom: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมาอยู่ในรูปแบบแท่งเทียนขึ้น และมีแท่งเทียนกลางที่มีราคาปิดต่ำกว่าและอยู่ภายในของเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการกลับตัวของตลาดจากแนวลดลงเป็นแนวขึ้น
- Three Inside Up: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีแท่งเทียนกลางที่มีราคาปิดต่ำกว่าและอยู่ภายในของเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการกลับตัวของตลาดจากแนวลดลงเป็นแนวขึ้น
- Three Stars In The South: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีแท่งเทียนกลางที่มีราคาปิดต่ำกว่าและอยู่ภายในของเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการกลับตัวของตลาดจากแนวลดลงเป็นแนวขึ้น
- Three White Soldiers: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีแท่งเทียนกลางที่มีราคาปิดสูงกว่าและอยู่ภายในของเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงในทิศทางของตลาด
- Stick Sandwich: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีแท่งเทียนกลางที่มีราคาปิดต่ำกว่าและอยู่ภายในของเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการกลับตัวของตลาดจากแนวลดลงเป็นแนวขึ้น
- Bullish Squeeze Alert: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีราคาเปิดและราคาปิดอยู่ใกล้กันและมีเงายาวที่ด้านบน แสดงถึงความไม่แน่นอนในตลาด แต่เมื่อแท่งเทียนต่อมาเป็นแท่งเทียนขึ้น แสดงถึงการกระตุ้นของตลาดในทิศทางของการขึ้นของราคา
- Bullish Breakaway: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมาเป็นแท่งเทียนขึ้น และราคาเปิดและราคาปิดของแท่งเทียนต่อมาอยู่ในช่วงของแท่งเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงในทิศทางของตลาด
- Concealing Baby Swallow: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมาเป็นแท่งเทียนขึ้น และราคาเปิดและราคาปิดของแท่งเทียนต่อมาอยู่ในช่วงของแท่งเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงในทิศทางของตลาด
- Bullish Ladder Bottom: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมาเป็นแท่งเทียนขึ้น และมีเงายาวที่ด้านล่าง แสดงถึงการแพ้และทำกลับตัวของราคาจากแนวต้านเพียงพอ
- Fry Pan: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมาเป็นแท่งเทียนขึ้น และมีเงายาวที่ด้านล่าง แสดงถึงการแพ้และทำกลับตัวของราคาจากแนวต้านเพียงพอ
- Tower Bottom: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมาเป็นแท่งเทียนขึ้น และมีเงายาวที่ด้านล่าง แสดงถึงการแพ้และทำกลับตัวของราคาจากแนวต้านเพียงพอ
- Three River Bottom: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมาเป็นแท่งเทียนขึ้น และมีเงายาวที่ด้านล่าง แสดงถึงการแพ้และทำกลับตัวของราคาจากแนวต้านเพียงพอ
- Inverted Three Buddha: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมาเป็นแท่งเทียนขึ้น และมีเงายาวที่ด้านล่าง แสดงถึงการแพ้และทำกลับตัวของราคาจากแนวต้านเพียงพอ
ที่มา https://gornnutagorn.com/
Bearish Reversal (การเปลี่ยนแปลงแนวโน้มเป็นเชิงลบ)
Bearish Reversal หมายถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มของตลาดจากการขึ้นเป็นการตกลง ในกรณีนี้ แนวโน้มที่เป็นเชิงบวกหรือการเพิ่มขึ้นของราคาหันเป็นการลดลงหรือการตกลงของราคาในระยะยาว คำว่า “reversal” หมายถึงการเปลี่ยนแปลงทางเทคนิคที่ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มทั้งในกราฟแท่งเทียนและตลาดโดยรวมซึ่ง Bearish Reversal สามารถตรงกับหลายรูปแบบของกราฟแท่งเทียนที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มเป็นเชิงลบ และนี่คือรายชื่อและอธิบายลักษณะและแนวโน้มของรูปแบบ Bearish Reversal ทั้ง 30 รูปแบบ ดังนี้
- Hanging Man (Umberlla Lines): รูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเป็นแท่งเทียนขึ้น (upward candle) และมีเงายาวที่ด้านล่าง ซึ่งอาจแสดงถึงการแพ้และทำกลับตัวของราคาจากแนวความเชื่อมั่น (resistance) เพียงพอ
- Bearish Belt Hold: รูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเป็นแท่งเทียนลง (downward candle) โดยราคาเปิด (open) อยู่ที่สูงสุดของวัน และราคาปิด (close) อยู่ที่ต่ำสุดของวัน แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงจากตลาดที่เคลื่อนไหวขึ้นไปเป็นตลาดที่เกิดความเชื่อมั่นลดลง
- Bearish Engulfing: รูปแบบแท่งเทียนที่แท่งเทียนเปิดสูงกว่าและราคาปิดต่ำกว่าแท่งเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการกลับตัวของตลาดจากแนวขึ้น (uptrend) เป็นแนวลดลง (downtrend)
- Dark Cloud Cover (Bearish Piercing Pattern): รูปแบบแท่งเทียนที่แท่งเทียนเปิดสูงกว่าและราคาปิดต่ำกว่าระดับค่าเฉลี่ยของแท่งเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงจากตลาดที่เคลื่อนไหวขึ้นไปเป็นตลาดที่เกิดความเชื่อมั่นลดลง
- Bearish Kicker Signal: รูปแบบแท่งเทียนที่แท่งเทียนเปิดที่ราคาที่ต่ำกว่าแท่งเทียนก่อนหน้าและราคาปิดที่ต่ำกว่าระดับค่าเฉลี่ยของแท่งเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการกระตุ้นของตลาดในทิศทางของการลดลงของราคา
- Bearish Doji Stars: รูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเป็นแท่งเทียนขึ้น (upward candle) ที่ราคาเปิดและราคาปิดอยู่ใกล้เคียงกัน โดยมีเงายาวที่ด้านบน ซึ่งแสดงถึงความไม่แน่นอนในตลาด แต่เมื่อแท่งเทียนต่อมาเป็นแท่งเทียนลง (downward candle) และมีราคาเปิดที่ต่ำกว่าราคาปิดของแท่งเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงในทิศทางของตลาด
- Shooting Star: รูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเป็นแท่งเทียนขึ้น (upward candle) และมีเงายาวที่ด้านบน ซึ่งแสดงถึงการแพ้และทำกลับตัวของราคาจากแนวความเชื่อมั่น (resistance) เพียงพอ
- Harami (cross)—Bearish: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีขนาดเล็กกว่าและอยู่ภายในเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการกลับตัวของตลาดจากแนวลดลงเป็นแนวขึ้น
- Bearish Meeting Lines (Counterattack): รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีราคาเปิดและราคาปิดใกล้เคียงกัน แสดงถึงการมีผู้ค้าจำนวนมากที่ยังคงในตลาดแม้ว่าราคาอาจเคลื่อนที่แนวตั้งอยู่
- Descending Hawk: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีราคาเปิดและราคาปิดต่ำกว่าแท่งเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการกลับตัวของตลาดจากแนวขึ้น (uptrend) เป็นแนวลดลง (downtrend)
- Tweezer Top: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีเงายาวที่ด้านบน และแท่งเทียนต่อมาอยู่ในรูปแบบแท่งเทียนลง แสดงถึงการแพ้และทำกลับตัวของราคาจากแนวความเชื่อมั่น (resistance) เพียงพอ
- Bearish Tri Star: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมาอยู่ในรูปแบบแท่งเทียนลง และมีราคาเปิดและราคาปิดของแท่งเทียนทั้งสองด้านอยู่ใกล้เคียงกัน แสดงถึงการกลับตัวของตลาดจากแนวขึ้น (uptrend) เป็นแนวลดลง (downtrend)
- Three Outside Down: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีแท่งเทียนกลางที่มีราคาปิดสูงกว่าและอยู่ภายในของเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการกลับตัวของตลาดจากแนวขึ้น (uptrend) เป็นแนวลดลง (downtrend)
- Evening Star: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมาอยู่ในรูปแบบแท่งเทียนลง และมีแท่งเทียนกลางที่มีราคาปิดสูงกว่าและอยู่ภายในของเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการกลับตัวของตลาดจากแนวขึ้น (uptrend) เป็นแนวลดลง (downtrend)
- Abandoned Baby Top: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมาอยู่ในรูปแบบแท่งเทียนลง และมีเงายาวที่ด้านบน แสดงถึงการแพ้และทำกลับตัวของราคาจากแนวความเชื่อมั่น (resistance) เพียงพอ
- Three Black Crows: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีแท่งเทียนกลางที่มีราคาปิดต่ำกว่าและอยู่ภายในของเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการกลับตัวของตลาดจากแนวขึ้น (uptrend) เป็นแนวลดลง (downtrend)
- Three Identical Crows: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีแท่งเทียนกลางที่มีราคาปิดต่ำกว่าและอยู่ภายในของเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการกลับตัวของตลาดจากแนวขึ้น (uptrend) เป็นแนวลดลง (downtrend)
- Two Crows: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีแท่งเทียนกลางที่มีราคาปิดต่ำกว่าและอยู่ภายในของเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการกลับตัวของตลาดจากแนวขึ้น (uptrend) เป็นแนวลดลง (downtrend)
- Upside Gap Two Crows: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีแท่งเทียนกลางที่มีราคาปิดต่ำกว่าและอยู่ภายในของเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการกลับตัวของตลาดจากแนวขึ้น (uptrend) เป็นแนวลดลง (downtrend)
- Bearish Unique Three Mountain Top: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีแท่งเทียนกลางที่มีราคาปิดสูงกว่าและอยู่ภายในของเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการกลับตัวของตลาดจากแนวขึ้น (uptrend) เป็นแนวลดลง (downtrend)
- Three Inside Down: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีแท่งเทียนกลางที่มีราคาปิดต่ำกว่าและอยู่ภายในของเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการกลับตัวของตลาดจากแนวขึ้น (uptrend) เป็นแนวลดลง (downtrend)
- Advance Block: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีแท่งเทียนกลางที่มีราคาปิดสูงกว่าและอยู่ภายในของเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการกลับตัวของตลาดจากแนวขึ้น (uptrend) เป็นแนวลดลง (downtrend)
- Deliberation (Stalled Pattern): รูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเป็นแท่งเทียนขึ้น (upward candle) ที่ราคาเปิดและราคาปิดอยู่ใกล้เคียงกัน ซึ่งแสดงถึงความไม่แน่นอนในตลาด แต่เมื่อแท่งเทียนต่อมาเป็นแท่งเทียนลง (downward candle) และมีราคาปิดที่ต่ำกว่าราคาเปิดของแท่งเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงในทิศทางของตลาด
- Bearish Squeeze Alert: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีราคาเปิดและราคาปิดอยู่ใกล้กันและมีเงายาวที่ด้านบน แสดงถึงความไม่แน่นอนในตลาด แต่เมื่อแท่งเทียนต่อมาเป็นแท่งเทียนลง (downward candle) แสดงถึงการกระตุ้นของตลาดในทิศทางของการลดลงของราคา
- Bearish Breakaway: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมาเป็นแท่งเทียนลง และมีราคาเปิดและราคาปิดของแท่งเทียนต่อมาอยู่ในช่วงของแท่งเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงในทิศทางของตลาด
- Bearish Ladder Top: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมาเป็นแท่งเทียนลง และมีเงายาวที่ด้านบน แสดงถึงการแพ้และทำกลับตัวของราคาจากแนวความเชื่อมั่น (resistance) เพียงพอ
- Dumpling Top: รูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเป็นแท่งเทียนขึ้น (upward candle) ที่ราคาเปิดและราคาปิดอยู่ใกล้เคียงกัน ซึ่งแสดงถึงความไม่แน่นอนในตลาด แต่เมื่อแท่งเทียนต่อมาเป็นแท่งเทียนลง (downward candle) และมีราคาปิดที่ต่ำกว่าราคาเปิดของแท่งเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงในทิศทางของตลาด
- Tower Top: รูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเป็นแท่งเทียนขึ้น (upward candle) และมีเงายาวที่ด้านบน ซึ่งแสดงถึงการแพ้และทำกลับตัวของราคาจากแนวความเชื่อมั่น (resistance) เพียงพอ
- Three Mountain Top: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมาอยู่ในรูปแบบแท่งเทียนขึ้น และมีราคาปิดที่สูงกว่าและอยู่ภายในของเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการแพ้และทำกลับตัวของราคาจากแนวความเชื่อมั่น (resistance) เพียงพอ
- Three Buddha Top: รูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเป็นแท่งเทียนขึ้น (upward candle) ที่มีราคาเปิดและราคาปิดใกล้เคียงกัน แสดงถึงความไม่แน่นอนในตลาด แต่เมื่อแท่งเทียนต่อมาเป็นแท่งเทียนลง (downward candle) แสดงถึงการแพ้และทำกลับตัวของราคาจากแนวความเชื่อมั่น (resistance) เพียงพอ
ที่มา https://gornnutagorn.com/
Bullish Continuation (การต่อเนื่องของแนวโน้มเชิงบวก)
Bullish Continuation (การต่อเนื่องของแนวโน้มเชิงบวก) หมายถึง รูปแบบของกราฟแท่งเทียนที่แสดงถึงการยืนยันแนวโน้มราคาที่กำลังเพิ่มขึ้นหรือเชิงบวกในขณะนั้น และทำนายถึงความเป็นไปได้ว่าแนวโน้มดังกล่าวจะมีการต่อเนื่องต่อไป. ในความหมายนี้, “bullish” หมายถึงแนวโน้มขึ้นหรือเชิงบวก, และ “continuation” หมายถึงแนวโน้มดังกล่าวจะดำเนินต่อไปการทราบรูปแบบของกราฟแท่งเทียนแบบ Bullish Continuation สามารถช่วยให้นักลงทุนทำความเข้าใจถึงกระแสของตลาดและแนวโน้มของราคาในอนาคตและนี่คือรายชื่อและอธิบายลักษณะและแนวโน้มของรูปแบบ Bullish Continuation ทั้ง 12 รูปแบบ ดังนี้
- Bullish On Neck Line: รูปแบบกราฟที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีแท่งเทียนกลางที่มีราคาปิดต่ำกว่าและอยู่ใกล้เคียงกับแท่งเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการรักษาแนวความเชื่อมั่น (support) และราคาเกิดการเพิ่มขึ้น
- Bullish In Neck Line: รูปแบบกราฟที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีแท่งเทียนกลางที่มีราคาปิดต่ำกว่าและอยู่ใกล้เคียงกับแท่งเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการรักษาแนวความเชื่อมั่น (support) และราคาเกิดการเพิ่มขึ้น
- Bullish Thrusting: รูปแบบกราฟที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีแท่งเทียนกลางที่มีราคาปิดต่ำกว่าและอยู่ใกล้เคียงกับแท่งเทียนก่อนหน้า แต่มีเงายาวที่ด้านล่างที่เคลื่อนที่ในทิศทางของตลาด แสดงถึงการแพ้และทำกลับตัวของราคาจากแนวความเชื่อมั่น (support) แต่ยังมีแนวโน้มขึ้น
- Bullish Separating Lines: รูปแบบกราฟที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมาเป็นแท่งเทียนขึ้น (upward candle) และมีราคาเปิดและราคาปิดที่ไม่ใกล้เคียงกัน แสดงถึงการเกิดการเพิ่มขึ้นของราคาโดยทันที
- Upside Tasuki Gap (Upward Gapping Tasuki): รูปแบบกราฟที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมาเป็นแท่งเทียนขึ้น (upward candle) และมีราคาเปิดต่ำกว่าราคาปิดของแท่งเทียนก่อนหน้า แต่มีราคาปิดที่ไม่ใกล้เคียงกับราคาเปิดของแท่งเทียนก่อนหน้า
- Bullish Side-By-Side White Lines: รูปแบบกราฟที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมาเป็นแท่งเทียนขึ้น (upward candle) และมีราคาเปิดและราคาปิดที่ใกล้เคียงกัน แสดงถึงการรักษาแนวความเชื่อมั่น (support) และราคาเกิดการเพิ่มขึ้น
- Bullish Side-By-Side Black Lines: รูปแบบกราฟที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมาเป็นแท่งเทียนขึ้น (upward candle) และมีราคาเปิดและราคาปิดที่ใกล้เคียงกัน แสดงถึงการรักษาแนวความเชื่อมั่น (support) และราคาเกิดการเพิ่มขึ้น
- Upside Gap Three Method: รูปแบบกราฟที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมาเป็นแท่งเทียนขึ้น (upward candle) และมีช่องว่างระหว่างแท่งเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการเกิดการเพิ่มขึ้นของราคาที่เกิดตามหลังช่องว่าง
- High-Price Gapping Play: รูปแบบกราฟที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีราคาเปิดสูงกว่าและราคาปิดต่ำกว่าแท่งเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการเกิดการเพิ่มขึ้นของราคาที่มีการกระตุ้นจากราคาสูง
- Rising Three Method: รูปแบบกราฟที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีแท่งเทียนกลางที่มีราคาปิดต่ำกว่าและอยู่ใกล้เคียงกับแท่งเทียนก่อนหน้า และมีแท่งเทียนขึ้นที่มีราคาเปิดสูงกว่าและราคาปิดสูงกว่าแท่งเทียนกลาง
- Mat Hold: รูปแบบกราฟที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมาเป็นแท่งเทียนขึ้น (upward candle) และมีราคาเปิดที่สูงกว่าและราคาปิดที่ใกล้เคียงกับแท่งเทียนก่อนหน้า และแท่งเทียนต่อมามีราคาเปิดที่ต่ำกว่าและราคาปิดที่ใกล้เคียงกับแท่งเทียนกลาง
- Three-Line Strike: รูปแบบกราฟที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมาเป็นแท่งเทียนลง (downward candle) และแท่งเทียนต่อมามีแท่งเทียนขึ้นที่มีราคาปิดต่ำกว่าและอยู่ใกล้เคียงกับแท่งเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการเพิ่มขึ้นของราคาที่มีการกระตุ้นจากราคาต่ำ
Bearish Continuation (การต่อเนื่องของแนวโน้มเชิงลบ)
Bearish Continuation (การต่อเนื่องของแนวโน้มเชิงลบ) หมายถึง รูปแบบของกราฟแท่งเทียนที่แสดงถึงการยืนยันแนวโน้มราคาที่กำลังลดลงหรือเชิงลบในขณะนั้น และทำนายถึงความเป็นไปได้ว่าแนวโน้มดังกล่าวจะมีการต่อเนื่องต่อไป. ในความหมายนี้, “bearish” หมายถึงแนวโน้มลงหรือเชิงลบ, และ “continuation” หมายถึงแนวโน้มดังกล่าวจะดำเนินต่อไป ในช่วงเวลาที่เกิดแนวโน้มเชิงลบต่อเนื่องกัน อาจมีการลงทุนหรือการซื้อขายในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับแนวโน้มขาดลง โดยผู้ซื้อมีความคาดหวังว่าราคาจะเริ่มขึ้นตามทิศทางใหม่ ซึ่งอาจเป็นการดำเนินการทางเทคนิคหรือการซื้อเพื่อหวังผลกำไรในอนาคต และนี่คือรายชื่อและอธิบายลักษณะและแนวโน้มของรูปแบบ Bearish Continuation ทั้ง 9 รูปแบบ ดังนี้
- Bearish On Neck Line: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีราคาปิดอยู่บนเส้นความต่ำสุด (neckline) ของรูปแบบราคาตรงกับแท่งเทียนก่อนหน้า แสดงถึงความแข็งแรงของแนวความต้านทานที่สูงขึ้น
- Bearish In Neck Line: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีราคาปิดอยู่ในช่วงราคาของแท่งเทียนก่อนหน้าและอยู่ใกล้กับเส้นความต่ำสุด (neckline) แสดงถึงความแข็งแรงของแนวความต้านทานที่สูงขึ้น
- Bearish Thrusting: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมาเป็นแท่งเทียนขึ้น (upward candle) และมีเงายาวที่ด้านล่าง แต่ราคาปิดอยู่ใกล้เคียงกับราคาเปิดของแท่งเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการพยากรณ์การเดินราคาที่ไม่สมบูรณ์
- Bearish Separating Lines: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมาเป็นแท่งเทียนลง (downward candle) และมีเงายาวที่ด้านบน แสดงถึงการพยากรณ์การเดินราคาที่แข็งแรงและเคลื่อนที่ลดลงต่อเนื่อง
- Downside Tasuki Gap: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมาเป็นแท่งเทียนขึ้น (upward candle) แต่มีราคาเปิดของแท่งเทียนต่อมาต่ำกว่าราคาปิดของแท่งเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการกระแทกของตลาดก่อนที่จะเคลื่อนต่อไปในทิศทางตรงข้าม
- Bearish Side-By-Side Black Lines: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีราคาปิดและราคาเปิดใกล้เคียงกัน โดยทั้งแท่งเทียนเป็นแท่งเทียนลง (downward candles) แสดงถึงการเคลื่อนไหวข้างเคียงที่น้อยลงในตลาด
- Bearish Side-By-Side White Lines: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีราคาปิดและราคาเปิดใกล้เคียงกัน โดยทั้งแท่งเทียนเป็นแท่งเทียนขึ้น (upward candles) แสดงถึงการเคลื่อนไหวข้างเคียงที่น้อยลงในตลาด
- Low-Price Gapping Play: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมามีราคาเปิดต่ำกว่าราคาปิดของแท่งเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการก้าวกระโดดในการเคลื่อนไหวของราคาที่ต่ำกว่าเทียนก่อนหน้า
- Falling Three Method: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนต่อมาเป็นแท่งเทียนขึ้น (upward candle) และมีแท่งเทียนต่อมาเป็นแท่งเทียนลง (downward candle) ที่อยู่ภายในช่วงราคาของแท่งเทียนก่อนหน้า แสดงถึงการพักตัวและรักษาแนวโน้มตลาดลดลง
รูปแบบแท่งเทียน Bullish Continuation และ Bearish Continuation
ที่มา https://gornnutagorn.com/
FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง